ย้อนไปสัก 4-5 ปีที่แล้ว ถ้าจะหานักเตะสักคนในยุคนั้นที่จะพอไปวัดกับ สองแข้งต่างดาว อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี่ เห็นแต่ก็มี ดาวยิงโคลัมเบียคนนี้แหละครับ
ผู้ได้รับฉายา ''เอล ติเกร'' หรือที่แปลไทยว่า ''ไอ้เสือร้าย'' นี่แหละครับคือโครตกองหน้า ณ ตอนนั้นเลยทีเดียว
ราดาเมล ฟัลเกาเริ่มเล่นฟุตบอลเยาวชนกับทีม Lanceros Boyaca ในโคลอมเบีย ก่อนจะย้ายมาเล่นกับทีม ริเวอร์เพลต ในปี 2001
4 ปีต่อมาเขาก็ได้ขึ้นชุดใหญ่มาในปี 2005 ด้วยวัยเพียง 19 ปี โดยตลอด 4 ปีในทีมชุดใหญ่ ฟัลเกา ยิงให้กับ ริเวอร์เพลต ไปทั้งสิ้น 34 ประตู จากการลงสนาม 90 นัด โดยมีหลายทีมจ้องตาเป็นมัน โดยเฉพาะทีมในยุโรป
จนในที่สุด ฟัลเกา ก็ย้ายมาร่วมทีม เอฟซี ปอร์โต้ ทีมจากลีกโปรตุเกสในปี 2009 ฟัลเกาสามารถทำผลงานได้ดีในทันที โดยจับคู่กับ ฮัคล์ กองหน้าร่างยักษ์ชาวบราซิล ถล่มประตูมากมาย เสมือนเครื่องจักรถล่มประตู พาทีมได้แชมป์ลีก 2 สมัยติด ได้รางวัลลูกบอลทองคำโปรตุเกสฤดูกาล 2010 - 2011 เท่านั้นยังไม่พอในเวทียุโรป ฟัลเกา สามารถคว้าดาวซัลโวได้ในศึกยูโรป้าลีก และสามารถพาทีม เอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีกในฤดูกาล 2010 -2011 ได้อีกด้วย และทำให้ ฟัลเกา เป็นนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในเวลานั้น สุดท้ายเป็นทีมตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด คว้าตัวไปแทน ดิเอโก้ ฟอร์ลัน และ อเกวโร กุน ในราคา 40 ล้านยูโร!!! (ณ เวลานั้นถือเป็นราคาที่แพงมาก)
------------------------------------------------------------------------------
การมาที่ ''แอตเลติโก้ มาดริด'' ทำให้ ''ราดาเมล ฟัลเกา'' สถาปานาตัวเองเป็นโครตดาวยิงแห่งยุค!!!
ฤดูกาลแรกในทีมตราหมี ฟัลเกา ก็สามารถโชว์ฟอร์มถล่มประตูได้ทันที และสามารถพาทีมได้แชมป์ ยูโรป้า ลีก และ เจ้าตัวเป็นดาวซัลโวอีกด้วย ถือว่าเป็นการพาทีมคว้าแชมป์รายการนี้ 2 ปีติด และคว้าดาวซัลโว ในการนี้ 2 ปีติด!!! อะไรมันจะขนาดนี้
และฤดูกาลต่อมาในฤดูกาล 2011 -2012 ฟัลเกาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟา ซุเปอร์คัพ โดยชนะทีมจากอังกฤษ ''เชลซี'' โดยในเกมนี้เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เร่งงานในรับเชลซีซะเสียผู้เสียคนกันเลยทีเดียว
ณ เวลานั้น โครตดาวยิงฉายา ''เอล ติเกร'' ได้ถูกนำไปเทียบเคียงสองดาวเตะต่างดาวอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี่ จนมีหลายๆทีมต้องการตัว ฟัลเกา ไปร่วมทีม แต่สุดท้ายเป็นโมนาโก ทีมจากฝรั่งเศส ที่จ่ายไป 60 ล้านยูโร
ฟัลเกา ยังคงทำผลงานได้ดีในนามสโมสรโมนาโก และยิงได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเขาได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณเข่า ทำให้เขาต้องพักยาวในครึ่งฤดูกาลหลัง และพลาดไปเตะฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล
----------------------------------------------------------------------------
ช่วงมรสุมของ ''ฟัลเกา'' ในลีกอังกฤษ
เมื่อหายเจ็บกลับมา สโมสรโมนาโกประสบปัญหาการเงินในทีม โดยเจ้าทีมของถูกภรรยาฟ้องหย่า ทำให้เสียเงินจำนวนมากในครั้งนั้น ทำให้สโมสรจำเป็นต้องปล่อยตัว ฟัลเกาออกจากทีม ตอนแรกจะปล่อยขาย แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บหนักที่ผ่านมาทำให้ไม่มีสโมสรไหนกล้าเสี่ยงซื้อขาด สุดท้ายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี พร้อมออฟชั่นซื้อขาดที่ 44 ล้านปอด์ ค่าหน่อยอีก 265,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ค่ายืมตัวอีก 12 ล้านปอนด์) ถือเป็นราคาที่บ้าเลือดมากในฤดูกาลนั้น
แต่แทนที่จะเป็นการสั่นสะเทือนเวที พรีเมียร์ลีก กลับกลายเป็นฤดูกาลอันน่าผิดหวังของ ฟัลเกา เมื่อเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ไม่ดี ยิงไปเพียง 4 ลูก ในฤดูกาล 2014-2015 ทำให้ปีศาจแดงปฎิเสธออฟชั่นซื้อขาด และเป็นเชลซีที่มาดึงไปร่วมทีมต่อในสัญญายืมตัว 1 ปี แล้วค่าเหนื่อยลดลงมาครึ่งหนึ่งจากฤดูกาลก่อน โดยหวังว่าจะสามารถปลุกสัญชาตญาณเสือร้ายของฟัลเกา ให้กลับมาอีกครั้ง
แต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นเช่นนั้น ฟัลเกาต้องพบกลับฤดูกาลที่น่าผิดหวัง ฟัลเกา ยิงไปเพียง 1 ลูก ในฤดูกาล 2015-2016 เป็นผลงานที่น่าผิดหวังที่สุดของในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเจ้าตัว ตอกย้ำความล้มเหลวในลีกอังกฤษ สิ้นสภาพโครตเสือร้ายไปโดยปริยาย
------------------------------------------------------------------------------
''ฟ้าหลังฝนย่อมสว่างเสมอ''
เมื่อพบกลับความล้มเหลว 2 ปีในลีกอังกฤษ ฟัลเกา ก็กลับมาอยู่โมนาโกในยุคสร้างทีม หลายคนลืมความยิงใหญ่ของเสือร้ายไปหมดแล้ว แต่ไม่ใช่กับโมนาโก ฟัลเกากลับมาสวมวิญญานเสือร้ายอีกครั้ง(แม้ไม่ดุเท่าแต่ก่อน) สุดท้ายจบฤดูกาล 2016-2017 โมนาโกคว้าแชมป์ลีกเอิงได้เหนือเปแอสเช ยักษ์ใหญ่ของลีก โดย ฟัลเกา สวมบทบาทกัปตันทีมพาทีม สร้างดาวรุ่งมากมายมาประดับวงการฟุตบอลสมัยใหม่ ทั้ง เอ็มปัมเป้ เลอมา และอีกมากมาย พาทีมเข้ารอบยูฟา แชมเปี้ยนลีกถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ปลุกโมนาโกให้กลับมาเป็นทีมใหญ่ได้อีกครั้ง!!!
ปัจจุบัน ''ราดาเมล ฟัลเกา'' ถือเป็นกองหน้าตัวหลักแห่งสโมสร โมนาโก และผลงานในทีมชาติโคลัมเบียก็ไม่ธรรมดา ปัจจุบันเจ้าตัวขึ้นแท่นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติโคลอมเบีย!!!
ถือเป็นการคืนชีพของดาวยิงเสือร้ายอย่างแท้จริง
---------------------------------------------------------------------------
ความเห็นส่วนตัวต่อ ''ราดาเมล ฟัลเกา''
''ราดาเมล ฟัลเกา'' สำหรับผม ถือเป็นกองหน้าที่อันตรายเสมอ เป็นกองหน้าที่เก่งมีสัญชาตญาณในการทำประตูสูง จมูกไว โดยเฉพาะช่วงที่อยู่กับ แอตเลติโก้ มาดริด ช่วงนั้นอย่างคม ครบเครื่องเลย เสียดายช่วงที่เขามาอยู่แมนยูเป็นช่วงพึ่งหายเจ็บและก็ยังมีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่ ทำให้ ฟัลเกา ในช่วงนั้นฟอร์มตก ความดุดัน ความมั่นใจ หายไปหมด(ส่วนตัวเป็นแฟนปีศาจแดง) แต่ปัจจุบันยังคงแอบตามผลงานอยู่บ้าง ยอมรับความน่ากลัวยังไม่เท่าเมื่อช่วงพีค แต่ดีใจที่กลับมายิงประตูได้อีกครั้ง และเป็น ''หนึ่งในนักเตะในดวงใจของกระผม'' เลยเช่นกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและพูดคุยนะครับ
สุดท้ายขออนุญาตฝากเพจไว้หน่อยนะครับ
https://www.facebook.com/Chekie-1067083510064457/?notif_t=page_fan¬if_id=1502887178420322
คุยภาษาฟุตบอล ''ราดาเมล ฟัลเกา''
ย้อนไปสัก 4-5 ปีที่แล้ว ถ้าจะหานักเตะสักคนในยุคนั้นที่จะพอไปวัดกับ สองแข้งต่างดาว อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี่ เห็นแต่ก็มี ดาวยิงโคลัมเบียคนนี้แหละครับ
ผู้ได้รับฉายา ''เอล ติเกร'' หรือที่แปลไทยว่า ''ไอ้เสือร้าย'' นี่แหละครับคือโครตกองหน้า ณ ตอนนั้นเลยทีเดียว
ราดาเมล ฟัลเกาเริ่มเล่นฟุตบอลเยาวชนกับทีม Lanceros Boyaca ในโคลอมเบีย ก่อนจะย้ายมาเล่นกับทีม ริเวอร์เพลต ในปี 2001
4 ปีต่อมาเขาก็ได้ขึ้นชุดใหญ่มาในปี 2005 ด้วยวัยเพียง 19 ปี โดยตลอด 4 ปีในทีมชุดใหญ่ ฟัลเกา ยิงให้กับ ริเวอร์เพลต ไปทั้งสิ้น 34 ประตู จากการลงสนาม 90 นัด โดยมีหลายทีมจ้องตาเป็นมัน โดยเฉพาะทีมในยุโรป
จนในที่สุด ฟัลเกา ก็ย้ายมาร่วมทีม เอฟซี ปอร์โต้ ทีมจากลีกโปรตุเกสในปี 2009 ฟัลเกาสามารถทำผลงานได้ดีในทันที โดยจับคู่กับ ฮัคล์ กองหน้าร่างยักษ์ชาวบราซิล ถล่มประตูมากมาย เสมือนเครื่องจักรถล่มประตู พาทีมได้แชมป์ลีก 2 สมัยติด ได้รางวัลลูกบอลทองคำโปรตุเกสฤดูกาล 2010 - 2011 เท่านั้นยังไม่พอในเวทียุโรป ฟัลเกา สามารถคว้าดาวซัลโวได้ในศึกยูโรป้าลีก และสามารถพาทีม เอฟซี ปอร์โต้ คว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีกในฤดูกาล 2010 -2011 ได้อีกด้วย และทำให้ ฟัลเกา เป็นนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในเวลานั้น สุดท้ายเป็นทีมตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด คว้าตัวไปแทน ดิเอโก้ ฟอร์ลัน และ อเกวโร กุน ในราคา 40 ล้านยูโร!!! (ณ เวลานั้นถือเป็นราคาที่แพงมาก)
------------------------------------------------------------------------------
การมาที่ ''แอตเลติโก้ มาดริด'' ทำให้ ''ราดาเมล ฟัลเกา'' สถาปานาตัวเองเป็นโครตดาวยิงแห่งยุค!!!
ฤดูกาลแรกในทีมตราหมี ฟัลเกา ก็สามารถโชว์ฟอร์มถล่มประตูได้ทันที และสามารถพาทีมได้แชมป์ ยูโรป้า ลีก และ เจ้าตัวเป็นดาวซัลโวอีกด้วย ถือว่าเป็นการพาทีมคว้าแชมป์รายการนี้ 2 ปีติด และคว้าดาวซัลโว ในการนี้ 2 ปีติด!!! อะไรมันจะขนาดนี้
และฤดูกาลต่อมาในฤดูกาล 2011 -2012 ฟัลเกาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟา ซุเปอร์คัพ โดยชนะทีมจากอังกฤษ ''เชลซี'' โดยในเกมนี้เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เร่งงานในรับเชลซีซะเสียผู้เสียคนกันเลยทีเดียว
ณ เวลานั้น โครตดาวยิงฉายา ''เอล ติเกร'' ได้ถูกนำไปเทียบเคียงสองดาวเตะต่างดาวอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี่ จนมีหลายๆทีมต้องการตัว ฟัลเกา ไปร่วมทีม แต่สุดท้ายเป็นโมนาโก ทีมจากฝรั่งเศส ที่จ่ายไป 60 ล้านยูโร
ฟัลเกา ยังคงทำผลงานได้ดีในนามสโมสรโมนาโก และยิงได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเขาได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณเข่า ทำให้เขาต้องพักยาวในครึ่งฤดูกาลหลัง และพลาดไปเตะฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล
----------------------------------------------------------------------------
ช่วงมรสุมของ ''ฟัลเกา'' ในลีกอังกฤษ
เมื่อหายเจ็บกลับมา สโมสรโมนาโกประสบปัญหาการเงินในทีม โดยเจ้าทีมของถูกภรรยาฟ้องหย่า ทำให้เสียเงินจำนวนมากในครั้งนั้น ทำให้สโมสรจำเป็นต้องปล่อยตัว ฟัลเกาออกจากทีม ตอนแรกจะปล่อยขาย แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บหนักที่ผ่านมาทำให้ไม่มีสโมสรไหนกล้าเสี่ยงซื้อขาด สุดท้ายเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี พร้อมออฟชั่นซื้อขาดที่ 44 ล้านปอด์ ค่าหน่อยอีก 265,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ค่ายืมตัวอีก 12 ล้านปอนด์) ถือเป็นราคาที่บ้าเลือดมากในฤดูกาลนั้น
แต่แทนที่จะเป็นการสั่นสะเทือนเวที พรีเมียร์ลีก กลับกลายเป็นฤดูกาลอันน่าผิดหวังของ ฟัลเกา เมื่อเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ไม่ดี ยิงไปเพียง 4 ลูก ในฤดูกาล 2014-2015 ทำให้ปีศาจแดงปฎิเสธออฟชั่นซื้อขาด และเป็นเชลซีที่มาดึงไปร่วมทีมต่อในสัญญายืมตัว 1 ปี แล้วค่าเหนื่อยลดลงมาครึ่งหนึ่งจากฤดูกาลก่อน โดยหวังว่าจะสามารถปลุกสัญชาตญาณเสือร้ายของฟัลเกา ให้กลับมาอีกครั้ง
แต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นเช่นนั้น ฟัลเกาต้องพบกลับฤดูกาลที่น่าผิดหวัง ฟัลเกา ยิงไปเพียง 1 ลูก ในฤดูกาล 2015-2016 เป็นผลงานที่น่าผิดหวังที่สุดของในการเล่นฟุตบอลอาชีพของเจ้าตัว ตอกย้ำความล้มเหลวในลีกอังกฤษ สิ้นสภาพโครตเสือร้ายไปโดยปริยาย
------------------------------------------------------------------------------
''ฟ้าหลังฝนย่อมสว่างเสมอ''
เมื่อพบกลับความล้มเหลว 2 ปีในลีกอังกฤษ ฟัลเกา ก็กลับมาอยู่โมนาโกในยุคสร้างทีม หลายคนลืมความยิงใหญ่ของเสือร้ายไปหมดแล้ว แต่ไม่ใช่กับโมนาโก ฟัลเกากลับมาสวมวิญญานเสือร้ายอีกครั้ง(แม้ไม่ดุเท่าแต่ก่อน) สุดท้ายจบฤดูกาล 2016-2017 โมนาโกคว้าแชมป์ลีกเอิงได้เหนือเปแอสเช ยักษ์ใหญ่ของลีก โดย ฟัลเกา สวมบทบาทกัปตันทีมพาทีม สร้างดาวรุ่งมากมายมาประดับวงการฟุตบอลสมัยใหม่ ทั้ง เอ็มปัมเป้ เลอมา และอีกมากมาย พาทีมเข้ารอบยูฟา แชมเปี้ยนลีกถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ปลุกโมนาโกให้กลับมาเป็นทีมใหญ่ได้อีกครั้ง!!!
ปัจจุบัน ''ราดาเมล ฟัลเกา'' ถือเป็นกองหน้าตัวหลักแห่งสโมสร โมนาโก และผลงานในทีมชาติโคลัมเบียก็ไม่ธรรมดา ปัจจุบันเจ้าตัวขึ้นแท่นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติโคลอมเบีย!!!
ถือเป็นการคืนชีพของดาวยิงเสือร้ายอย่างแท้จริง
---------------------------------------------------------------------------
ความเห็นส่วนตัวต่อ ''ราดาเมล ฟัลเกา''
''ราดาเมล ฟัลเกา'' สำหรับผม ถือเป็นกองหน้าที่อันตรายเสมอ เป็นกองหน้าที่เก่งมีสัญชาตญาณในการทำประตูสูง จมูกไว โดยเฉพาะช่วงที่อยู่กับ แอตเลติโก้ มาดริด ช่วงนั้นอย่างคม ครบเครื่องเลย เสียดายช่วงที่เขามาอยู่แมนยูเป็นช่วงพึ่งหายเจ็บและก็ยังมีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่ ทำให้ ฟัลเกา ในช่วงนั้นฟอร์มตก ความดุดัน ความมั่นใจ หายไปหมด(ส่วนตัวเป็นแฟนปีศาจแดง) แต่ปัจจุบันยังคงแอบตามผลงานอยู่บ้าง ยอมรับความน่ากลัวยังไม่เท่าเมื่อช่วงพีค แต่ดีใจที่กลับมายิงประตูได้อีกครั้ง และเป็น ''หนึ่งในนักเตะในดวงใจของกระผม'' เลยเช่นกัน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและพูดคุยนะครับ
สุดท้ายขออนุญาตฝากเพจไว้หน่อยนะครับ
https://www.facebook.com/Chekie-1067083510064457/?notif_t=page_fan¬if_id=1502887178420322