ลูกที่เราทำแท้งไป ดวงจิตของเขา จะมีโอกาสได้เกิดกับเราอีกครั้งไหม

มีคนทัก ว่าลูกเราเป็นเด็กผู้ชาย บารมีสูงกว่าเราอีก เขาเป็นเด็กมีบุญบารมี มาจากข้างบน
มาพร้อมแสงสว่าง ต้องสวดมนต์ทุกคืนถ้าท้องเด็กคนนี้ เพื่อให้เขาแข็งแรงปลอดภัย
และเขามีวาสนากับเราจึงมาเกิดกับเรา (โดยปกติเขาก็บอกกันว่า พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง ฯลฯ
ล้วนเคยมีบุญ กรรม วาสนา ต่อกัน หรือแม้แต่เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมา)
แต่ลูกมาเกิดในวันที่เราไม่พร้อม เพราะเรียนยังไม่จบ .. เป็นลูกสาวคนเดียว
เป็นหน้าเป็นตาของพ่อกับแม่ เหตุผลเดียวคือพ่อกับแม่รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้
ความหวังสุดท้ายที่พ่อแม่ขอคือเรียนจบปริญญา และท่านก็จะหมดห่วง ท่านถือว่า
ท่านส่งลูกถึงฝั่ง หมดภาระหน้าที่แล้ว .. เราจึงไม่อยากทำลายความหวังของท่าน
ไม่อยากสร้างความอับอาย ไม่อยากให้ลูกเกิดมาท่ามกลางปัญหาและความทุกข์
โดยเฉพาะพ่อเรา ที่จะค่อนข้างเข้มงวดเรื่องนี้มาก และที่สำคัญในบรรดาญาติๆ
ไม่เคยมีใครทำเรื่องเสียหายเช่นนี้ พ่อเราเป็นพี่คนโต มีน้องๆหลายคน
พ่อเราจะแคร์มาก เพราะเขาอยากให้ลูกเขาเป็นที่เชิดหน้าชูตาได้..
เราจึงตัดสินใจซื้อยามาเพื่อจะขับลูกออก (อายุครรภ์ประมาณ1เดือน) แต่ตอนนี้
นั่งคิดวนไปวนมา ยังทำไม่ลงสักที ทั้งแพ้ท้อง เวียนหัวคลื่นไส้ เครียด ร้องไห้
เรานั่งคุยกับลูก อยากให้ลูกรอ อยากให้ดวงจิตเดิมรอมาเกิดกับเราอีกครั้ง
นึกถึงแต่คุณพระรัตนตรัย เทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพบูชา ขอให้บุญที่เราสร้าง
ส่งผลให้วาสนาของเรากับลูกได้มาประจบพบกันเป็นแม่ลูกอีก
พอเรามีลูก จิตสำนึกที่อยากทำกรรมดีเกิดขึ้นมากมาย ไม่ใช่ว่าอยากจะทำทดแทน
เพื่อลบล้างในสิ่งที่กำล้งจะทำ แต่คิดว่า การสร้างบุญ สร้างกรรมดี
ทั้งกาย วาจา ใจ นั้นเป็นสิ่งที่เราพึงกระทำ เพราะไม่รู้เลยว่า
วันนี้ พรุ่งนี้ วันต่อไป จะเกิดอะไรขึ้น... ชีวิตเรา จะรอทำดีเมื่อไร.. เมื่อไม่มีโอกาสแล้ว อย่างนั้นหรอ
อย่างน้อยทำบุญไว้มากๆ ลูกที่ดีของเรา เขาอาจจะกลับมาเกิดกับเราอีกครั้ง
เราไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เราจะทำไม่บาปหรือไม่ผิด บาปมากและผิดมากในหลักศีลธรรมเรารู้แก่ใจ
และละอายต่อบาปจริงๆ แต่เรากำลังจะถึงฝั่งแล้ว แพลนที่วางไว้ทุกอย่าง
ทั้งเรียนจบปลายปีหน้า แต่งงาน และ ไปทำงานที่ออสเตรเลียกับแฟน
เราอยากให้ลูก เกิดมาพร้อมกับความพร้อมทั้งกายและใจ
เราอยากดูแลลูกของเรา โดยที่พร้อมจะทำหน้าที่แม่อย่างเต็มร้อย
เราเป็นคนคิดมาก กลัวจะรับไม่ได้กลับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
กลัวเข้มแข็งไม่พอ ที่จะดูแลลูก เพราะตัวเองยังดูแลตัวเองไม่รอด
อารมณ์ ความคิด ยังมีความเป็นเด็กในหลายๆเรื่อง(รู้นิสัยตัวเองและแฟนก็พูดเสมอ)
เรารู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะดูแลลูกได้ อย่างน้อยถ้าเรียนจบแล้วเราจะไม่คิดหนักเท่านี้เลย

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ จะด่าทอ จะต่อว่า อย่างไรก็ได้
เราเคารพทุกความคิดเห็นนะคะ ทั้งแง่บวกและลบ
เราเตรียมใจไว้แล้วว่าตั้งกระทู้เรื่องราวของตัวเองนี้จะต้องมีความเห็นทุกรูปแบบ
เราได้พูดความจริงจากทุกความรู้สึกในใจหมดแล้ว และคำถามที่เราอยากรู้คำตอบ
ก็คือคำถามตามหัวข้อเลยค่ะ ใครมีคำตอบแนวไหน ยังไง ตามความเชื่อหรือ
พื้นฐานความรู้อย่างไร มาแบ่งปันกันนะคะ...

สุดท้ายนี้ อยากจะบอกให้รู้ ว่าเจตนาที่แต่ละคนจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์นั้นต่างกัน
ความรู้สึกนึกคิดจิตใจลึกๆเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก...
จะสำนึกไหม เสียใจไหม จำเป็นบทเรียนไหม นำไปปรับปรุงตัวอย่างไร นั่นอีกเรื่อง
ตัวเราปกติเป็นคนไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญ คิดถึงบาปบุญคุณโทษเสมอ
และเชื่อเรื่องเวรกรรม 100%  ไม่ใช่ว่าเราทำโดยละเลยทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว
และสิ่งที่เราจะทำนี้เป็นบาปเหลือเกิน ซึ่งเรายอมรับผิดและรับกรรมทุกอย่าง
แต่จะไม่ลดละในการทำดีคิดดี ฝึกจิตให้เป็นจิตที่ฝักใฝ่ธรรมมะอยู่เสมอ
จะให้เรื่องนี้เป็นบทเรียน รู้ว่าถ้าทำผิดพลาดแล้ว ต้องมีสติรอบคอบไม่ทำซ้ำอีก

ขออโหสิกรรม ท่านใดที่มาอ่านแล้วเกิดความโกรธ เกลียดชัง ไม่เข้าใจในสิ่งที่ จขกท เป็นหรือกำลังจะทำ
ขออย่าได้มีจิตใจพยาบาท โกรธ เกลียด สาปแช่ง กันเลย... ขอให้เรื่องของเรา
เป็นบทเรียนเตือนสติ คนที่กำลังใช้ชีวิตอย่างประมาท จะได้ไม่ต้องพบเจอปัญหาแบบเรา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ขอบคุณทุกคนนะคะ ขอบคุณคำแนะนำที่ดีๆ
คำพูดที่ให้กำลังใจกัน ขอบคุณจากใจค่ะ
ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บลูกไว้
ไปเรียนทั้งท้องนี่แหละค่ะ หาใส่เสื้อคลุมบังเอา
แต่เรื่องบอกพ่อแม่ ขอทำใจก่อน
อาจจะบอกตอนท้องโตแล้วก็ได้
แต่สักวันท่านจะรู้ รู้ก่อนคลอดแน่นอนค่ะ
เราอาจจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่ดีที่สุด
เพราะยังยื้อๆรอเวลาไม่บอกพ่อแม่
แต่เราจะยอมรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้ได้
เราซื้อยามาแล้ว กินไม่ลงจริงๆค่ะ ... ตอนนี้ตัดสินใจตามนี้
เราใกล้เปิดเทอมแล้ว ก็จะไปเรียนจนจบเทอมนี้ค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจและคำพูดดีๆที่ช่วยสร้างพลังบวกให้กับเรา
ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรมตลอดไปนะคะ
ความคิดเห็นที่ 13
อย่าทำเลยครับ
ถ้าทำแล้ว ชีวิตคุณจะมีแต่ความเศร้าหมองจากการทำลายชีวิตไปตลอดชีวิต ซึ่งความเศร้าชนิดนี้ มันหนักอึ้ง มันทรมาน
มันไม่มีวันจางหาย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม คุณจะรู้สึกเศร้าเสียใจในอกตลอด ถึงจะหาข้ออ้างอะไรๆมาก็ไม่สามารถกลบมันได้
สิ่งที่คุณกำลังพยายามหาข้ออ้างว่าถ้าทำแท้งไป ท้องหน้าเขาก็กลับมาเกิด มันอ้างได้ไม่ได้ความอะไรหรอกครับ
เพราะลึกๆแล้ว คุณก็ยังรู้ว่ามันไม่ใช่ เด็กที่ทำแท้งไปแล้ว ก็คือตายไปแล้ว ไม่ได้เกิดมา
แต่ถ้าคุณสู้ คลอดให้เขาออกมา คุณก็อาจจะมีทุกข์เช่นกัน แต่มันจะไม่ใช่ทุกข์แห่งการพรากชีวิต
มันจะเป็นทุกข์แห่งการยากลำบากจากเหตุการณ์รอบๆข้างที่จะถาโถมเข้ามา แต่เชื่อเถอะว่า พอคุณมองหน้าลูกของคุณ
ความทุกข์มันจะมลายหายไปหมดสิ้น แค่รอยยิ้ม แค่มือเล็กๆ แค่เสียงร้องกวนติงตอนตี3 ความทุกข์อะไรๆ ก็เข้ามาเถอะ
คุณจะสู้ได้ทุกอย่างเพื่อลูก

ตอนนี้ อย่าเอาข้ออ้างอะไรก็ตามมาเพื่อทำลายชีวิต เพราะคุณทำลายชีวิตลูกก็เพื่อชีวิตคุณเท่านั้น
อย่าเอาข้ออ้างอยากให้ลูกเกิดมาแล้วพร้อมทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ถ้าลูกในท้องคุณพูดได้
เขาคงอยากพูดว่า ขอให้เขาเกิดมาแล้วมีคุณ แค่นั้นก็พอ
อย่าหาข้ออ้างเลิศหรู อยากเรียนต่อ อยากนู่น อยากนี่ สร้างให้เขาเกิดมาแล้ว ก็ต้องให้เขาออกมามีชีวิต

อย่าทำครับ แม่อาจต้องการหลายๆอย่างให้ลูก แต่ลูกต้องการแค่แม่เท่านั้นก็พอ
ความคิดเห็นที่ 25
ปัญหาจริงๆคือ จขกท.กำลังเกิดภาวะอาการทางจิตที่หลงเพ้อหลงเพี้ยนแล้ว !  ขอให้รีบออกห่างศาสนา,ความเชื่อ,และสิ่งยึดเหนี่ยวยึดถือเดิมๆโดยเร็ว

ใครก็ตามที่เกิดอุปาทานยึดเหนี่ยวยึดถือใดๆอย่างหมกมุ่นคร่ำเคร่ง ก็ย่อมมีภาวะทางจิตที่หลงเชื่อมั่นศรัทธา,หลงกลัวเกรง,หลงปีติเคลิบเคลิ้ม,ตื่นตระหนก,หลอนเป็นตุเป็นตะ,หลงงมงายเพ้อเพี้ยน ฯลฯ กันแบบนี้ล่ะครับ  แต่ถ้ารู้จักละวางทิฏฐิตัวตนหรือวิธีคิดเดิมๆก็จะหยุดอาการของอุปาทานและภาวะทางจิตเดิมๆได้ทันที

แล้วตั้งมั่นจิตใจกันใหม่อย่างถูกต้อง(มีสัมมาสมาธิ) พยายามเปลี่ยนแปลงตัวตนกันใหม่(มีสัมมาวายามะ) ดำเนินวิธีคิดใหม่อย่างถูกต้อง(มีสัมมาสังกัปปะ) และที่เป็นหัวใจของมรรคาทั้งหมดคือการเปลี่ยนทิฏฐิหรือตัวตนจิตใจกันใหม่อย่างถูกต้อง(มีสัมมาทิฏฐิ)   ในที่สุดเราจะเป็นคนใหม่ที่ผ่องใสไร้ทุกข์ไร้กิเลสสมุทัยในใจเดิมๆ แล้วจะสามารถแก้ปัญหาภายนอกต่างๆอย่างเหมาะสมได้เอง

ในเรื่องของการมุ่งทำแท้งและการมุ่งไม่ทำแท้ง  นั้นล้วนเป็นทั้งการก่อบุญใหม่ก่อบาปใหม่และการรับผลบุญเก่าผลบาปเก่า โดยย่อมมีชีวิตต่างๆที่รับทุกข์,ก่อให้เกิดทุกข์,เปลื้องทุกข์,ช่วยให้เปลื้องทุกข์ กันตามประสาโลก
-  หากตัดสินใจทำแท้งไปแล้ว ก็ขอให้ตั้งหน้าดำเนินชีวิตกันใหม่อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น โดยละเว้นบาปใหม่ใดๆ และสร้างกุศลใหม่เพื่อช่วยให้ตัวเองและชีวิตอื่นๆพ้นทุกข์พ้นบาปเท่าที่ช่วยได้ ตลอดจนน้อมรับผลบาปผลบุญเก่าใดๆด้วยความอุเบกขาผ่องใสเสมอ
-  หากตัดสินใจเพื่อไปทำแท้ง ก็ขอให้ปล่อยวางต่อการทำแท้งเฉกเช่นการปล่อยวางต่อชีวิตสัตว์ต่างๆที่ถูกฆ่าเพื่อเปลื้องทุกข์แก่ผู้คนในแต่ละวัน  แล้วตั้งหน้าดำเนินชีวิตกันใหม่อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น โดยละเว้นบาปใหม่ใดๆ และสร้างกุศลใหม่เพื่อช่วยให้ตัวเองและชีวิตอื่นๆพ้นทุกข์พ้นบาปเท่าที่ช่วยได้ ตลอดจนน้อมรับผลบาปผลบุญเก่าใดๆด้วยความอุเบกขาผ่องใสเสมอ
-  หากตัดสินใจไม่ทำแท้ง ก็ขอให้ตั้งหน้าดำเนินชีวิตกันใหม่อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น โดยละเว้นบาปใหม่ใดๆ และสร้างกุศลใหม่เพื่อช่วยให้ตัวเอง,ลูก,และชีวิตอื่นๆพ้นทุกข์พ้นบาปเท่าที่ช่วยได้ ตลอดจนน้อมรับผลบาปผลบุญเก่าใดๆด้วยความอุเบกขาผ่องใสเสมอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่