Ghost House มันอยู่ในศาล : Review เมื่อนักท่องเที่ยวฝรั่ง ต้องมาเจอกับผีไทย!!!!!


Ghost House มันอยู่ในศาล วีดีโอรีวิว ความรู้สึกหลังออกจากโรงแบบทันที!!!!! คลิ้กชม : https://youtu.be/aZhJEP8BRnk (ฝากซับด้วยน้า)
.............................................
Ghost House มันอยู่ในศาล
เรื่องราวของจูลี่ และจิม คู่รักอเมริกันหวานชื่อมาเที่ยวไทย ขอแต่งงานกันที่นี่ แต่ยัยจูลี่ดันหลงใหลในบ้านจิ๋ว ศาลเจ้าที่ จนตัดสินใจไปเที่ยว สุสานศาล ที่ๆคนเอาศาลเก่าๆมาทิ้ง ความหายนะก็เริ่มจากตรงนั้นแหละ เพราะดันมีผีที่ชื่อ "วาตาเบ" ตามไล่ล่าอีนังจูลี่อย่างบ้าระห่ำ หวังจะเอาชีวิตภายใน 3-4 วันเนี่ยแหละ พวกเขาต้องทำยังไงดี ให้พ้นจากคำสาป วาตาเบ นี้

ตอนแรก คืองงมาก นึกว่าหนังเกรดบี เพราะจู่ๆหนังเรื่องนี้ ก็ผุดมาจากไหนก็ไม่รู้ ฉายที่อเมริกาก็ยัง ไม่มีที่ไปที่มา แต่โปรโมทกันจัง กับคำว่า "ฮอลลีวู้ด เอาผีไทยไปสร้าง เป็นฝรั่งเจอผี" คือไม่อยากเรียกว่า Hollywood เท่าไหร่ มันดูอินดี้มากกว่า
อะ แต่ที่เราคิดว่าหนังน่าจะเกรดบี เพราะว่า หนังแนว Horror ที่มาสร้างในไทย ทั้งหนังผี หนังฆาตกรรม มักมีแต่หนังเกรดบีทั้งนั้น ไม่มีเรื่องไหนเป็นชิ้นเป็นอันที่นับว่าดีนัก เราเลยทรีทเรื่องนี้ว่า คงเป็นหนังเกรดบีแบบ ฝรั่งเจอผีในเมืองไทยทั่วไป
แต่พอเราดู ความคิดเราก็ค่อนข้างเปลี่ยนนะ เพราะโปรดัคชั่นค่อนข้างดี สำหรับหนังทุน independent มีการตั้งใจสร้างฉาก ดีไซน์ การถ่ายภาพที่ถ่ายสวยมากๆ ดูเป็นหนังมีความตั้งใจทำ ตั้งใจครีเอทให้เป็นหนังผีดีๆอยู่ (เราเลยไม่ขอเรียกว่าเกรดบี แต่เป็นหนังสยองขวัญอินดี้ละกัน)
เมืองไทยในเรื่องก็รู้สึกว่าเป็นเมืองไทยทื่ประหลาดมาก ดูลับแล Exotic สุดๆ มีดินแดนลึกลับที่ยังไม่ถูกค้นพบอะไรเทือกนั้น แบบบางส่วนมันไม่มีจริงในไทย เป็นจินตนาการจากผู้สร้าง หรือความเชื่อแปลกๆ จนคนไทยอย่างเราดู แล้วรู้สึกว่า "คนไทยอย่างเราคิดงี้จริงหรือวะ" ซึ่งมันจะตลกๆหน่อย แต่ถ้าตัดไป ไม่ติดอะไรมาก ก็ปล่อยใจไป ดูหนังเพลินๆ คิดเสียว่าตัวเองเป็นฝรั่งคนนึงที่มาดูหนังเรื่องนี้ คงคิดว่า เมืองไทยนี้ มัน Wow น่าดู
ซึ่งพอนางเอกเจอคำสาป ในครึ่งแรกของหนัง หนังก็เดินเรื่องตามสูตรแบบหนังสยองขวัญจำพวก The Ring ทันที เช่นเจอคำสาป และต้องหาทางแก้ คือครึ่งแรก ยอมรับเลยว่าไม่ใหม่เลย เหมือนดูผีแบบ The Ring การตามล้างคำสาป หาประวัติผี ในแบบความเป็นไทย (ในมุมมองผู้สร้าง 555+)  แล้วก็มีผีโผล่เรื่อยๆ มาเป็นระยะๆ  แบบเชี่ย! เป็นสูตรที่เราเดาทางได้ ถ้าเป็นแบบนี้จนจบ คือบอกเลย ว่าไม่ชอบ ถึงจะทำดี ถ่ายดี แต่บทแบบนี้ซ้ำซากโว้ย

จนกระทั่งหนังเข้าครึ่งหลัง ที่จู่ๆตัวละครเริ่มเป็นบ้าหนัก และหนังก็ย้ายจากแนวหนังสยองขวัญ เป็นหนัง Weird เล่นใหญ่เล่นโตทันที ซึ่งตรงนี้แหละ ที่เราคาดไม่ถึง อยู่ๆก็เพี้ยน มีตัวละครแปลกๆ โลเคชั่นแปลกๆ การผจญภัย แบบเชี่ย เริ่มหลุดจากขนบหนังสยองขวัญ แก้คำสาปทั่วไป ไปเป็นอะไรที่บ้าบอกว่า ซึ่งตรงเนี้ยแหละ ที่ชอบมากๆ คือการพาตัวหนังเอง ไปสู่พื้นที่ใหม่ๆ ดูว่ามันจะไปไกลได้แค่ไหน (ถึงอาจจะไม่ไปไกลทะลุเพดานแบบ I saw the devil หรือ The Wailing ของเกาหลี แต่มันก็ดีกว่าแค่ เจอคำสาป หาทางแก้ แบบ The Ring) แต่มันอาจจะอยู่ในระดับเดียวกับ Drag me to hell หรือ Mama อะไรเทือกนี้ (ในแบบทุนไม่สูงเท่า)  ที่จุดนึงผีมันกลายเป็น Monster ไล่ล่าทำร้าย มีความเว่อร์วัง ไม่ใช่ผีแบบ "ผ๊ไทยในแบบหนังไทย" (ซึ่งหลายคนต้องเกิดความสงสัยแน่ๆ ว่าผีในเรื่อง มันผีไทยตรงไหนวะ นี่มันผีแบบผีฝรั่งชัดๆ) แต่มันก็น่าสนใจ ที่ได้เห็น ผกก. ต่างชาติ ที่มาตีความผีไทย ในรูปแบบที่ต่างๆออกไป
พอดูจบ สรุป จากครึ่งแรกที่เราคิดว่า another so-so horror flick ดันกลายว่าเราชอบหนังเรื่องนี้เฉยเลย เพราะครึ้งหลังที่มันเพี้ยนๆดี ไม่ต้องแคร์ความเป็นหนังผีไทยแล้ว เป็นปีศาจไปแมงเลย สนุกดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่