สาวออฟฟิศทั้งหลายคะ คุณเคยประสบกับปัญหาเหล่านี้หรือไม่....
ในทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน ต้องตื่นแต่ตี 5 เพื่อแต่งหน้าเสร็จ และเดินทางให้เข้างานให้ทัน
ทำให้เวลานอนน้อยลง ซ้ำร้ายขอบตายิ่งดำเป็นหมีแพนด้า
พอไม่แต่งหน้า เพื่อน ๆ และหนุ่ม ๆ ก็ตกตะลึงกับความหน้าสดของเรา
ใครโชคดีขับรถไปทำงาน มีเวลาแต่งหน้าตอนรถติด ก็จะต้องประสบปัญหา
อายไลเนอร์เลอะบ้าง ทาลิปสติกเลยขอบปากบ้าง เขียนคิ้วได้ไม่เท่ากันบ้าง
วันนี้แบมบี้ ขอเสนออีก 1 ทางเลือกในการแต่งหน้า
แหม่ะ!!! ร่ายมาซะยาว อย่ากะจะขายของ ก็แค่อยากจะบอกกับสาวๆ ว่า เรามาใช้เวลาแต่งหน้าให้น้อยลง
แต่ยังคงความเป๊ะเหมือนเดิม กันดีกว่า ลองเอาประยุกต์ให้เข้ากับลุคของแต่ละคนกันนะคะ
เคล็ดลับง่ายๆ ที่อยากจะบอกก็คือ ตัดสิ่งที่เสียเวลานานๆ ออกซะ ไม่ก็ลดการใช้เวลากับขั้นตอนนั้นๆ
หลงเหลือไว้เพียงความจำป็นคร่า....
มาเริ่มที่เคล็ดลับของแบมบี้ นั่นก็คือ
1. ตัดการลงรองพื้น คอนซิลเลอร์ ทิ้งซะ ซึ่งสาวๆ ท่านไหน มีร่องรอยอารยธรรมเยอะ อันนี้ก็อาจจะตัดทิ้งซะทีเดียวไม่ได้ แต่อาจต้องหาตัวช่วยดีๆในการปกปิดได้เร็ว และเนียน แต่ด้วยที่ต้องขอบคุณคุณแม่ที่มีผิวพรรณดี เลยส่งผลให้ผิวหน้าแบมบี้ไม่ค่อยมีสิว ถึงเป็นสิวแผลก็หายง่าย และผิวละเอียดเป็นทุนเดิมในระดับหนึ่ง
2. ไปสักคิ้วถาวร แต่สำหรับใครที่รักการเปลี่ยนลุค คิ้วคือสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้หน้าเปลี่ยนได้เลย อย่างสายฝอ หรือสายเกา คิ้วก็จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นคนที่รักการเปลี่ยนลุค ไม่แนะนำให้สักนะคะ
3. ลดขั้นตอนการแต่งตาลง ปกติเป็นคนที่แต่งตานานมาก ก็ตัดที่ไม่จำเป็นทิ้ง หลงเหลือเฉพาะที่จำเป็นจ้า
งั้นมาดูหนังหน้าสด และหนังหน้าเตรียมพร้อมไปออฟฟิศกันค่ะ
ก่อนอื่นก็มาดูอุปกรณ์ที่ใช้แต่งหน้าในครั้งนี้กันค่ะ จริงๆ ใครมีอะไรก็หยิบมาประยุกต์ใช้กันนะคะ
อันไหนน่าสนใจ อยากจะไปตำตามก็ได้เลย ไม่ว่ากันคร่า
ก่อนที่เราจะทำการใดๆ หลังล้างหน้า เราควรทาครีมบำรุงและครีมกันแดดด้วยทุกครั้งสม่ำเสมอ
อย่าถามว่าทายังไง ไม่ค่อยถูกตามหลักหลอกค่ะ เอาเท่าที่เราสะดวก 5555+
เรามาเริ่มขั้นตอนการแต่งหน้าในเวลาอันรวดเร็วกันดีกว่า!!!
หลังจากที่เราลงครีมบำรุงและครีมกันแดดแล้ว อันนี้ถ้าใครจะใช้ครีมกันแดดที่เหมือนเบส หรือ BB, CC ที่มีกันแดดก็ได้เลยนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่า ขอตัดขั้นตอนการลงรองพื้น คอนซิลเลอร์ทิ้ง บัยจ้า... นาทีนี้เจ้ขอด่วน
เราก็จะมาที่การลงแป้งเลยค่ะ เพราะฉะนั้นแป้งก็อาจจะมีผสมรองพื้นสำหรับคนไม่แพ้นะคะ
และวันนี้ตัวเลือกที่เอามาใช้คือแป้งของ Cosluxe รุ่น TAP BLUR&BRIGHT เป็นแป้ง Translucent มีผสมรองพื้น
และตัวนี้มีแถมแปรง cute cute มาด้วย สีม่วงสวยสดใส ม้วกๆ
เหตุผลที่เลือกตัวนี้มา เพราะเห็นช่วงนี้ บิวตี้บล็อกเก้อหลายคนเอามารีวิว และลองใช้ตอนไปสำเพ็ง คือวันนั้นออกจากบ้านตั้งแต่ 9 โมง กลับบ้านตี 1 จ้า... หน้าไม่มัน ไม่ดร็อป คือวุ่นมาก ไม่ได้เติมระหว่างวันด้วย
เพื่อนที่เดินสำเพ็งด้วยกันยังถามว่าวันนี้ ใช้ของอะไรมา คือเพื่อนบอกว่ามันหน้าเมือกแล้ว กวางทำไมหน้ายังเป๊ะ
ก็เลยค่อนข้างมั่นใจว่า ตัวนี้คุมมันชัวร์ และปกปิดได้เท่าที่เราต้องการเลย แบบว่ามันจะรูขุมขนเบลอๆ หน่อย
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว รีวิวสักิดสักหน่อยกันดีกว่า... เด็กเห่อของเล่น ที่ราคาแค่ 399 บาท
เผื่อเพื่อนๆ คนไหนสนใจจะไปตำ ได้ดูไว้เป็นอีกกระทู้ช่วยการตัดสินใจนะคะ
ก่อนอื่นก็จะมาลองลงแป้งด้วยพัฟ กับแปรงกันนะคะ ว่าเป็นยังไงบ้าง
จะเห็นได้ว่าถ้าทาแป้ง Cosluxe TAP ด้วยพัฟเบาๆ ก็จะปกปิดกว่าหน่อย ถ้าลงด้วยแปรงก็จะได้ลุคใสๆ หน่อย
เอาเป็นว่า วันนี้ไม่ได้ลงรองพื้นก็ขอลงด้วยพัฟทั้งหน้าเลยแล้วกันนะคะ
ส่วนใครถ้าชอบลงรองพื้นก็ปัดแป้งด้วยแปรง เพื่อเช็ตรองพื้นก็ได้ค่ะ
หลังจากลงแปรงทั่วหน้าเรามาต่อที่ขั้นตอนอื่นๆ แบบเร็วๆ กันเถอะ เดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันภายใน 10 นาที
1. เขียนคิ้วแบบไม่กันคิ้ว เอ้ย!! แบบนี้ก็ได้หรอ สาวๆ จ๋า เวลากลับมาพัก อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม กันคิ้ว ด้วยนา อย่าทำแบบเค้านะคะ ตรงนี้เนื่องจากจะใช้อีกด้านของที่เขียนคิ้วปัดให้สีฟุ้งๆแล้ว ก็จะมีสีจากคิ้วที่ติดที่แปรงปัด เราก็เอามาไฮไลดั้งต่อโล้ดดด
2. ทาที่ทาตาสีขาวใต้โหนกคิ้วและหัวตา ตามด้วยทาตาแบบปาดๆ ด้วยสีที่ชอบให้ทั่วเปลือกตา
3. ทาตาบริเวณหางตาด้วยสีเข้ม ครั้งนี้สีน้ำตาลนะคะ
4. ลงสีกลางตาด้วยสีทอง ลุคสีนี้ยังไงก็รอด ทาไม่เป็นยังรอดจ้า
5. ทาอายอินเนอร์ ก็คือทาขอบตาด้านในนั้นแหละค่ะ ด้วยสีดำให้ตาดูคมขึ้น
6. กรีดอายไลเนอร์แบบชิดๆ ขนตา จะหนา จะบางก็ตามสไตล์
7. ปิดท้ายด้วยการดัดขนตา และปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและขนตาล่างนะคะ
จบ 7 ขั้นตอนนี้ รวมทั้งตอนลงแป้ง ถ้าใครมีความช่ำชองเชี่ยวชาญ ก็จะใช้เวลาราวๆ 5 - 6 นาที ชำนาญพอประมาณอาจจะ 7 – 8 นาที ใครเพิ่งเริ่มหัดแต่งแนะนำว่าค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปนะคะ เพราะอาจจะเละเทะตอนกรีดอายไลเนอร์ได้ เป็นไปได้ก็ตัดขั้นตอนกรีดอายไลเนอร์ทิ้งก็ได้คร่า
8. ปัดแก้มด้วยสีที่ชอบ เลือกสีที่ใช่
9. เฉดดิ้งที่กราม คอ ข้างจมูก และกรอบรอบหน้า
10. ไฮไลที่ดั้งโดนทาระหว่างคิ้ว และปลายจมูก และอย่าลืมไฮไลที่หน้าผาดและคางด้วยนะจ้ะ จะแถมโหนกแก้มอีกนิดหน่อยพอเป็นพิธีก็ได้
11. สุดท้ายปิดด้วยการทาปาก ถือเป็นอันเสร็จพิธี กดหยุดนาฬิกาจับเวลาแต่งหน้าได้เลย
เมื่อเวลา 10 นาทีผ่านไป เราก็เตรียมพร้อมเอาหน้าตาออกไปลุยสายตาประชาชนกันแล้ว....
วันนี้ก็ฝากกันไว้เท่านี้คร่า... เพื่อนๆ คนไหนแต่งหน้าได้เวลาเท่าไหร่กันบ้าง เอามาอวดกันด้วนะคะ
สาวยุคใหม่ สวยได้ในเวลานิสสสเดียววว
รีวิวครั้งนี้ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ลากันไปก่อนจ้า บ๊ายบายยย
[CR] แต่งหน้าภายใน 10 นาที ก่อนออกไปทำงาน และรีวิวของเล่นใหม่ แป้ง Cosluxe TAP BLUR&BRIGHT
ในทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน ต้องตื่นแต่ตี 5 เพื่อแต่งหน้าเสร็จ และเดินทางให้เข้างานให้ทัน
ทำให้เวลานอนน้อยลง ซ้ำร้ายขอบตายิ่งดำเป็นหมีแพนด้า
พอไม่แต่งหน้า เพื่อน ๆ และหนุ่ม ๆ ก็ตกตะลึงกับความหน้าสดของเรา
ใครโชคดีขับรถไปทำงาน มีเวลาแต่งหน้าตอนรถติด ก็จะต้องประสบปัญหา
อายไลเนอร์เลอะบ้าง ทาลิปสติกเลยขอบปากบ้าง เขียนคิ้วได้ไม่เท่ากันบ้าง
วันนี้แบมบี้ ขอเสนออีก 1 ทางเลือกในการแต่งหน้า
แหม่ะ!!! ร่ายมาซะยาว อย่ากะจะขายของ ก็แค่อยากจะบอกกับสาวๆ ว่า เรามาใช้เวลาแต่งหน้าให้น้อยลง
แต่ยังคงความเป๊ะเหมือนเดิม กันดีกว่า ลองเอาประยุกต์ให้เข้ากับลุคของแต่ละคนกันนะคะ
เคล็ดลับง่ายๆ ที่อยากจะบอกก็คือ ตัดสิ่งที่เสียเวลานานๆ ออกซะ ไม่ก็ลดการใช้เวลากับขั้นตอนนั้นๆ
หลงเหลือไว้เพียงความจำป็นคร่า....
มาเริ่มที่เคล็ดลับของแบมบี้ นั่นก็คือ
1. ตัดการลงรองพื้น คอนซิลเลอร์ ทิ้งซะ ซึ่งสาวๆ ท่านไหน มีร่องรอยอารยธรรมเยอะ อันนี้ก็อาจจะตัดทิ้งซะทีเดียวไม่ได้ แต่อาจต้องหาตัวช่วยดีๆในการปกปิดได้เร็ว และเนียน แต่ด้วยที่ต้องขอบคุณคุณแม่ที่มีผิวพรรณดี เลยส่งผลให้ผิวหน้าแบมบี้ไม่ค่อยมีสิว ถึงเป็นสิวแผลก็หายง่าย และผิวละเอียดเป็นทุนเดิมในระดับหนึ่ง
2. ไปสักคิ้วถาวร แต่สำหรับใครที่รักการเปลี่ยนลุค คิ้วคือสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้หน้าเปลี่ยนได้เลย อย่างสายฝอ หรือสายเกา คิ้วก็จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นคนที่รักการเปลี่ยนลุค ไม่แนะนำให้สักนะคะ
3. ลดขั้นตอนการแต่งตาลง ปกติเป็นคนที่แต่งตานานมาก ก็ตัดที่ไม่จำเป็นทิ้ง หลงเหลือเฉพาะที่จำเป็นจ้า
งั้นมาดูหนังหน้าสด และหนังหน้าเตรียมพร้อมไปออฟฟิศกันค่ะ
ก่อนอื่นก็มาดูอุปกรณ์ที่ใช้แต่งหน้าในครั้งนี้กันค่ะ จริงๆ ใครมีอะไรก็หยิบมาประยุกต์ใช้กันนะคะ
อันไหนน่าสนใจ อยากจะไปตำตามก็ได้เลย ไม่ว่ากันคร่า
ก่อนที่เราจะทำการใดๆ หลังล้างหน้า เราควรทาครีมบำรุงและครีมกันแดดด้วยทุกครั้งสม่ำเสมอ
อย่าถามว่าทายังไง ไม่ค่อยถูกตามหลักหลอกค่ะ เอาเท่าที่เราสะดวก 5555+
เรามาเริ่มขั้นตอนการแต่งหน้าในเวลาอันรวดเร็วกันดีกว่า!!!
หลังจากที่เราลงครีมบำรุงและครีมกันแดดแล้ว อันนี้ถ้าใครจะใช้ครีมกันแดดที่เหมือนเบส หรือ BB, CC ที่มีกันแดดก็ได้เลยนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่า ขอตัดขั้นตอนการลงรองพื้น คอนซิลเลอร์ทิ้ง บัยจ้า... นาทีนี้เจ้ขอด่วน
เราก็จะมาที่การลงแป้งเลยค่ะ เพราะฉะนั้นแป้งก็อาจจะมีผสมรองพื้นสำหรับคนไม่แพ้นะคะ
และวันนี้ตัวเลือกที่เอามาใช้คือแป้งของ Cosluxe รุ่น TAP BLUR&BRIGHT เป็นแป้ง Translucent มีผสมรองพื้น
และตัวนี้มีแถมแปรง cute cute มาด้วย สีม่วงสวยสดใส ม้วกๆ
เหตุผลที่เลือกตัวนี้มา เพราะเห็นช่วงนี้ บิวตี้บล็อกเก้อหลายคนเอามารีวิว และลองใช้ตอนไปสำเพ็ง คือวันนั้นออกจากบ้านตั้งแต่ 9 โมง กลับบ้านตี 1 จ้า... หน้าไม่มัน ไม่ดร็อป คือวุ่นมาก ไม่ได้เติมระหว่างวันด้วย
เพื่อนที่เดินสำเพ็งด้วยกันยังถามว่าวันนี้ ใช้ของอะไรมา คือเพื่อนบอกว่ามันหน้าเมือกแล้ว กวางทำไมหน้ายังเป๊ะ
ก็เลยค่อนข้างมั่นใจว่า ตัวนี้คุมมันชัวร์ และปกปิดได้เท่าที่เราต้องการเลย แบบว่ามันจะรูขุมขนเบลอๆ หน่อย
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว รีวิวสักิดสักหน่อยกันดีกว่า... เด็กเห่อของเล่น ที่ราคาแค่ 399 บาท
เผื่อเพื่อนๆ คนไหนสนใจจะไปตำ ได้ดูไว้เป็นอีกกระทู้ช่วยการตัดสินใจนะคะ
ก่อนอื่นก็จะมาลองลงแป้งด้วยพัฟ กับแปรงกันนะคะ ว่าเป็นยังไงบ้าง
จะเห็นได้ว่าถ้าทาแป้ง Cosluxe TAP ด้วยพัฟเบาๆ ก็จะปกปิดกว่าหน่อย ถ้าลงด้วยแปรงก็จะได้ลุคใสๆ หน่อย
เอาเป็นว่า วันนี้ไม่ได้ลงรองพื้นก็ขอลงด้วยพัฟทั้งหน้าเลยแล้วกันนะคะ
ส่วนใครถ้าชอบลงรองพื้นก็ปัดแป้งด้วยแปรง เพื่อเช็ตรองพื้นก็ได้ค่ะ
หลังจากลงแปรงทั่วหน้าเรามาต่อที่ขั้นตอนอื่นๆ แบบเร็วๆ กันเถอะ เดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันภายใน 10 นาที
1. เขียนคิ้วแบบไม่กันคิ้ว เอ้ย!! แบบนี้ก็ได้หรอ สาวๆ จ๋า เวลากลับมาพัก อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม กันคิ้ว ด้วยนา อย่าทำแบบเค้านะคะ ตรงนี้เนื่องจากจะใช้อีกด้านของที่เขียนคิ้วปัดให้สีฟุ้งๆแล้ว ก็จะมีสีจากคิ้วที่ติดที่แปรงปัด เราก็เอามาไฮไลดั้งต่อโล้ดดด
2. ทาที่ทาตาสีขาวใต้โหนกคิ้วและหัวตา ตามด้วยทาตาแบบปาดๆ ด้วยสีที่ชอบให้ทั่วเปลือกตา
3. ทาตาบริเวณหางตาด้วยสีเข้ม ครั้งนี้สีน้ำตาลนะคะ
4. ลงสีกลางตาด้วยสีทอง ลุคสีนี้ยังไงก็รอด ทาไม่เป็นยังรอดจ้า
5. ทาอายอินเนอร์ ก็คือทาขอบตาด้านในนั้นแหละค่ะ ด้วยสีดำให้ตาดูคมขึ้น
6. กรีดอายไลเนอร์แบบชิดๆ ขนตา จะหนา จะบางก็ตามสไตล์
7. ปิดท้ายด้วยการดัดขนตา และปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและขนตาล่างนะคะ
จบ 7 ขั้นตอนนี้ รวมทั้งตอนลงแป้ง ถ้าใครมีความช่ำชองเชี่ยวชาญ ก็จะใช้เวลาราวๆ 5 - 6 นาที ชำนาญพอประมาณอาจจะ 7 – 8 นาที ใครเพิ่งเริ่มหัดแต่งแนะนำว่าค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปนะคะ เพราะอาจจะเละเทะตอนกรีดอายไลเนอร์ได้ เป็นไปได้ก็ตัดขั้นตอนกรีดอายไลเนอร์ทิ้งก็ได้คร่า
8. ปัดแก้มด้วยสีที่ชอบ เลือกสีที่ใช่
9. เฉดดิ้งที่กราม คอ ข้างจมูก และกรอบรอบหน้า
10. ไฮไลที่ดั้งโดนทาระหว่างคิ้ว และปลายจมูก และอย่าลืมไฮไลที่หน้าผาดและคางด้วยนะจ้ะ จะแถมโหนกแก้มอีกนิดหน่อยพอเป็นพิธีก็ได้
11. สุดท้ายปิดด้วยการทาปาก ถือเป็นอันเสร็จพิธี กดหยุดนาฬิกาจับเวลาแต่งหน้าได้เลย
เมื่อเวลา 10 นาทีผ่านไป เราก็เตรียมพร้อมเอาหน้าตาออกไปลุยสายตาประชาชนกันแล้ว....
วันนี้ก็ฝากกันไว้เท่านี้คร่า... เพื่อนๆ คนไหนแต่งหน้าได้เวลาเท่าไหร่กันบ้าง เอามาอวดกันด้วนะคะ
สาวยุคใหม่ สวยได้ในเวลานิสสสเดียววว
รีวิวครั้งนี้ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ลากันไปก่อนจ้า บ๊ายบายยย