ก่อนจะโพสต์ก็คิดนะว่าถ้าเพื่อนมาอ่านจะรู้สึกยังไง จะเกลียดเรามั้ย แต่ก็ช่างเหอะ อันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกเราเอง มันเกิดขึ้นเอง เราไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่เราบังคับนิสัยตัวเองไม่ได้หรอก เป็นเรื่องของคนแย่ ๆ คนนึงเท่านั้นเอง ไม่ชอบเราได้นะแต่ทดไว้ในใจเลย ไม่ต้องมาบอก
ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน เพื่อนติดต่อมาวานว่าให้ไปจ่ายค่าเทอมให้ในสัปดาห์หน้าถ้าว่าง เพราะต้องไปตปท 10 วัน แน่นอนว่าต้องเสียค่าปรับด้วย ในใจเราก็คิดว่า กงการอะไรที่กูต้องไปวะ แต่ก็พิมพ์ตอบไปค่ะว่า “ว่าง” เค้าเลยโอนค่าเทอมพร้อมค่าปรับมาให้
พอถึงวันนี้ก็ตั้งใจจะมาจ่ายค่าเทอมให้ เลยโทรชวนรุ่นพี่ให้ไปเป็นเพื่อน ใจก็คิดให้พี่ขี่มอเตอร์ไซค์พาข้ามฝั่งไปเพราะขี้เกียจเดินข้ามฝั่งมหาลัย ซึ่งพี่เค้าก็ตอบตกลง
ระหว่างเดินทางไปมหาลัยก็ทราบข่าวว่าจำเป็นต้องช่วยคุมแลป ก็ไปช่วยด้วยความเต็มใจ อันนี้พูดจริงว่าเต็มใจ รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ ส่วนบางเรื่องที่ทำให้เกิดความวุ่นวายใจ หรือรำคาญใจ แล้วเราต้องช่วย เราจะรู้สึกว่ามันยุ่งยาก ทุกอย่างสร้างความลำบากให้ชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่กระทำได้โดยง่าย ดังนั้นทุกอย่างที่เราต้องทำมันจะเป็นการ “ฟ่าฟัน” ทั้งหมด
ดังนั้นหลังจากที่เห็นรุ่นพี่ยุ่งอยู่กับการ ‘ผ่าหนอน’ หลังจากไปหาตอนก่อนเที่ยงแล้วยังดู ‘ไม่ว่าง’ ทีนี้ไฟก็เริ่ม ‘ลามทุ่ง’ เราจึงรู้สึกว่าเรา‘ต้อง’ปลีกตัวออกจากการคุมแลป เดินผ่านแดดร้อน ‘ระอุ’ เดินขึ้นบันได‘แสนเหนื่อย’ (จริง ๆ แค่ชั้น 2) คุยกับเจ้าหน้าที่ ‘งี่เง่า’ (จริง ๆ ไม่ได้งี่เง่าแต่เค้าอธิบายเราด้วยท่าทีที่แบบ...ขอไปที แต่เราเข้าใจค่ะ ว่าเค้าคงเหนื่อยเพราะคนไปทำธุรกรรมเยอะมาก ๆ ) เพื่อไปจ่ายเงิน แล้วพบว่าจ่าย ‘ไม่ได้’ ต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่อีกห้องเพื่อทำความเข้าใจว่าต้องกลับไปพิมพ์ใบ CR8 แล้วไปจ่ายทีธนาคาร (ทำไมไม่บอกกูฮะอีเพื่อน!!! หรือกูผิดที่ไม่ถามเอง)
ระหว่างเดินกลับมา จิตก็หมกมุ่นกับความคิด ว่าทำไมต้องเป็นกู เราตะโกนถ้อยคำเหล่านี้ในหัว ‘มีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจ! นี่กูแค่มีเพื่อนเอง ทำไมแม่งกวนใจขนาดนี้วะ’ นึกพาลไปซะทุกคนที่เราต้องช่วย โดยไม่จำเป็น ทำไมเราช่วยโดยไม่ปริปากบ่น ทั้ง ๆ ที่รำคาญใจ เพื่อนคนนึงกินข้าวแล้วล้างจานช้า อารมณ์แบบ 3 วันยังไม่ล้างขึ้น เราก็ล้างให้ (แต่ก่อนเราก็ล้างให้เลย เดี๋ยวนี้เราก็ทิ้งไว้เหมือนกันดูว่ามันจะล้างเมื่อไหร่ แต่สุดท้ายก็ล้างให้ เราอยากบอกให้เพื่อนล้างมาก แต่ก็... ไม่ได้พูดออกไป) ดูซิเนี่ย ต้องมาเดินตากแดด เดินรีบ ๆ กลับไปสอน โอ๊ยยยยยย คือคิดอย่างงี้นานมากค่ะ
จนอยู่ดี ๆ เราก็รู้สึกตัว เราเห็นเราตัวใหญ่มาก จริง ๆ เป็นความรู้สึกมากกว่าค่ะ ไม่ได้เห็นแบบ see แต่เป็น feel เรารู้ว่าเวลาช่วยคนบางเรื่องเนี่ย เราไม่ได้ช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่เราต้องการสิ่งตอบแทนค่ะ เราอยากให้เค้าเห็นเราสำคัญ อยากให้ตัวเราใหญ่ขึ้นในความรู้สึกของเค้า ซึ่งเราคิดย้อนกลับไป เราเป็นแบบนี้กับหลาย ๆ คน แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเรา ‘ใหญ่ขึ้น’ รึป่าว แต่เราก็ยังแก้ไม่ได้นะคะ วันนี้เราเพิ่งรู้ตัวว่าเรารู้สึกอย่างนี้ เราไม่ชอบตัวเองเลย เราก็ห้ามความคิดที่ก่นด่าไม่ได้ จนกระทั่งเดินข้ามกลับมาอีกฝั่ง เพื่อจะกลับไปคุมแลป ทีนี้เดินสวนกับเด็กคนนึงค่ะ ผู้ชายดัดผมแฟชั่น เราจ้องตากัน เค้ามีลักษณะที่ ‘สะดุดตา’ เรามาก จนใจมันแว้บไป เราหายหงุดหงิดไปชั่วขณะนึงเลยค่ะ โหวววววว อำนาจแห่งความหลง มันเกิดขึ้นแว้บเดียวแล้วเราก็หายหงุดหงิดเลยค่ะ เราก็มาโฟกัสกับคำว่าสะดุดตา คือเราเป็นคนชอบภาษาไทยมาก เลยนึกชมคนที่คิดคำนี้อยู่ในใจ แบบใครนะช่างคิด คือตะกี๊ขาไม่ได้สะดุดนะ แต่ตามันสะดุดจริง ๆ ใจก็เลยสะดุดไปด้วยเลยค่ะ
สุดท้ายอยากถามว่ามีใครช่วยคนอื่น แล้วเป็นแบบนี้มั้ยคะ คือบางเรื่องเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสำคัญนะคะ ถ้าเป็นหน้าที่ หรือเป็นบุญคุณที่ต้องตอบแทน แต่ถ้ารู้สึกเป็นเรื่องที่ ‘กวนใจ’ ไม่ใช่กงการที่ต้องทำ จะรู้สึกแบบนี้ค่ะ เราไม่เสียสละ เราเห็นแก่ตัวรึป่าว คือใจมันเป็นแบบนี้เอง แต่เราก็ช่วยนะคะ
ปล. อย่าเกลียดเราเลย
เวลาช่วยคนอื่นบางครั้งรู้สึกแบบนี้ เป็นเหมือนกันไหมคะ จะแก้ยังไงดี?
ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน เพื่อนติดต่อมาวานว่าให้ไปจ่ายค่าเทอมให้ในสัปดาห์หน้าถ้าว่าง เพราะต้องไปตปท 10 วัน แน่นอนว่าต้องเสียค่าปรับด้วย ในใจเราก็คิดว่า กงการอะไรที่กูต้องไปวะ แต่ก็พิมพ์ตอบไปค่ะว่า “ว่าง” เค้าเลยโอนค่าเทอมพร้อมค่าปรับมาให้
พอถึงวันนี้ก็ตั้งใจจะมาจ่ายค่าเทอมให้ เลยโทรชวนรุ่นพี่ให้ไปเป็นเพื่อน ใจก็คิดให้พี่ขี่มอเตอร์ไซค์พาข้ามฝั่งไปเพราะขี้เกียจเดินข้ามฝั่งมหาลัย ซึ่งพี่เค้าก็ตอบตกลง
ระหว่างเดินทางไปมหาลัยก็ทราบข่าวว่าจำเป็นต้องช่วยคุมแลป ก็ไปช่วยด้วยความเต็มใจ อันนี้พูดจริงว่าเต็มใจ รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ ส่วนบางเรื่องที่ทำให้เกิดความวุ่นวายใจ หรือรำคาญใจ แล้วเราต้องช่วย เราจะรู้สึกว่ามันยุ่งยาก ทุกอย่างสร้างความลำบากให้ชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่กระทำได้โดยง่าย ดังนั้นทุกอย่างที่เราต้องทำมันจะเป็นการ “ฟ่าฟัน” ทั้งหมด
ดังนั้นหลังจากที่เห็นรุ่นพี่ยุ่งอยู่กับการ ‘ผ่าหนอน’ หลังจากไปหาตอนก่อนเที่ยงแล้วยังดู ‘ไม่ว่าง’ ทีนี้ไฟก็เริ่ม ‘ลามทุ่ง’ เราจึงรู้สึกว่าเรา‘ต้อง’ปลีกตัวออกจากการคุมแลป เดินผ่านแดดร้อน ‘ระอุ’ เดินขึ้นบันได‘แสนเหนื่อย’ (จริง ๆ แค่ชั้น 2) คุยกับเจ้าหน้าที่ ‘งี่เง่า’ (จริง ๆ ไม่ได้งี่เง่าแต่เค้าอธิบายเราด้วยท่าทีที่แบบ...ขอไปที แต่เราเข้าใจค่ะ ว่าเค้าคงเหนื่อยเพราะคนไปทำธุรกรรมเยอะมาก ๆ ) เพื่อไปจ่ายเงิน แล้วพบว่าจ่าย ‘ไม่ได้’ ต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่อีกห้องเพื่อทำความเข้าใจว่าต้องกลับไปพิมพ์ใบ CR8 แล้วไปจ่ายทีธนาคาร (ทำไมไม่บอกกูฮะอีเพื่อน!!! หรือกูผิดที่ไม่ถามเอง)
ระหว่างเดินกลับมา จิตก็หมกมุ่นกับความคิด ว่าทำไมต้องเป็นกู เราตะโกนถ้อยคำเหล่านี้ในหัว ‘มีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจ! นี่กูแค่มีเพื่อนเอง ทำไมแม่งกวนใจขนาดนี้วะ’ นึกพาลไปซะทุกคนที่เราต้องช่วย โดยไม่จำเป็น ทำไมเราช่วยโดยไม่ปริปากบ่น ทั้ง ๆ ที่รำคาญใจ เพื่อนคนนึงกินข้าวแล้วล้างจานช้า อารมณ์แบบ 3 วันยังไม่ล้างขึ้น เราก็ล้างให้ (แต่ก่อนเราก็ล้างให้เลย เดี๋ยวนี้เราก็ทิ้งไว้เหมือนกันดูว่ามันจะล้างเมื่อไหร่ แต่สุดท้ายก็ล้างให้ เราอยากบอกให้เพื่อนล้างมาก แต่ก็... ไม่ได้พูดออกไป) ดูซิเนี่ย ต้องมาเดินตากแดด เดินรีบ ๆ กลับไปสอน โอ๊ยยยยยย คือคิดอย่างงี้นานมากค่ะ
จนอยู่ดี ๆ เราก็รู้สึกตัว เราเห็นเราตัวใหญ่มาก จริง ๆ เป็นความรู้สึกมากกว่าค่ะ ไม่ได้เห็นแบบ see แต่เป็น feel เรารู้ว่าเวลาช่วยคนบางเรื่องเนี่ย เราไม่ได้ช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่เราต้องการสิ่งตอบแทนค่ะ เราอยากให้เค้าเห็นเราสำคัญ อยากให้ตัวเราใหญ่ขึ้นในความรู้สึกของเค้า ซึ่งเราคิดย้อนกลับไป เราเป็นแบบนี้กับหลาย ๆ คน แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเรา ‘ใหญ่ขึ้น’ รึป่าว แต่เราก็ยังแก้ไม่ได้นะคะ วันนี้เราเพิ่งรู้ตัวว่าเรารู้สึกอย่างนี้ เราไม่ชอบตัวเองเลย เราก็ห้ามความคิดที่ก่นด่าไม่ได้ จนกระทั่งเดินข้ามกลับมาอีกฝั่ง เพื่อจะกลับไปคุมแลป ทีนี้เดินสวนกับเด็กคนนึงค่ะ ผู้ชายดัดผมแฟชั่น เราจ้องตากัน เค้ามีลักษณะที่ ‘สะดุดตา’ เรามาก จนใจมันแว้บไป เราหายหงุดหงิดไปชั่วขณะนึงเลยค่ะ โหวววววว อำนาจแห่งความหลง มันเกิดขึ้นแว้บเดียวแล้วเราก็หายหงุดหงิดเลยค่ะ เราก็มาโฟกัสกับคำว่าสะดุดตา คือเราเป็นคนชอบภาษาไทยมาก เลยนึกชมคนที่คิดคำนี้อยู่ในใจ แบบใครนะช่างคิด คือตะกี๊ขาไม่ได้สะดุดนะ แต่ตามันสะดุดจริง ๆ ใจก็เลยสะดุดไปด้วยเลยค่ะ
สุดท้ายอยากถามว่ามีใครช่วยคนอื่น แล้วเป็นแบบนี้มั้ยคะ คือบางเรื่องเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสำคัญนะคะ ถ้าเป็นหน้าที่ หรือเป็นบุญคุณที่ต้องตอบแทน แต่ถ้ารู้สึกเป็นเรื่องที่ ‘กวนใจ’ ไม่ใช่กงการที่ต้องทำ จะรู้สึกแบบนี้ค่ะ เราไม่เสียสละ เราเห็นแก่ตัวรึป่าว คือใจมันเป็นแบบนี้เอง แต่เราก็ช่วยนะคะ
ปล. อย่าเกลียดเราเลย