เห็นมานานละว่าที่Major เซ็นทรัลพระราม3 จะมีภาพยนตร์อินเดียฉายตลอด ยังไม่เคยมีโอกาสได้ดูซะที ตั้งแต่เรื่อง PK, Lunchbox และหนังดีดีอีกหลายเรื่องก็พลาดตลอด จนมาเมื่อวานนี้ครับ
เรื่องที่ผมได้ดูคือ
Toilet : Ek Prem Katha (English: Toilet - A Love Story) 14สิงหาคม รอบ 21.30 น.
หนังตัวอย่างที่ฉาย : เป็นหนังอินเดียครับ ตัวอย่างหนังไม่มีซับเลย ผมเข้าไปช้านิดนึงเลยเห็นตัวอย่างหนังแค่เรื่องเดียวแล้วก็ขึ้นเพลงสรรเสริญพระบารมีฯเลย ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเค้าฉายตัวอย่างหนังกี่เรื่อง มีตัวอย่างหนังที่ไม่ใช่หนังอินเดียด้วยหริอเปล่าผมไม่ทราบครับ และผมยังไม่เห็นโฆษณาสินค้านะครับ
Subtitle :
มีซับไทยและอังกฤษ ขึ้นคู่กันเลยครับ ภาษาไทยด้านบน ภาษาอังกฤษด้านล่าง ช่วงบนสนทนายาวๆนี่ซับ4บรรทัด กินเนื้อที่ไปประมาณ 20%ของจอเลยก็มี
การหยุดพักฉายกลางเรื่อง : มีพักเบรก 10 นาที ด้วยครับ เปิดไฟสว่าง ให้ไปห้องน้ำยืดเส้นยืดสาย หน้าจอก็ฉายหนังตัวอย่าง1เรื่องเสร็จแล้วก็ปิดจอไป
ค่าตั๋ว : หนังอินเดียจะไม่ร่วมโปรโมชั่นใดๆนะครับ AIS TRUE DTAC ไม่มีลด ที่มีส่วนลดคือบัตร M-Genของเครื่อMajorเองเท่านั้นครับ(สะสมแต้มได้)
บรรยากาศในโรง
คนเต็มโรงจ้าาาาาา เดิมที่เคยสงสัยว่าจะมีคนมาดูไหม เค้าจะคุ้มหรอ ความเป็นจริงคือตามภาพครับ คนดูเยอะกว่าหนังHollywoodหรือหนังไทยบางเรื่องอีก ขนาดค่าตั๋วแพงกว่าปกตินะเนี่ย
ผมนั่งตรงรูปดาวท่ามกลางพี่น้องครอบครัวเชื้อสายเอเชียใต้ รอบนี้ผมน่าจะเป็นคนไทยที่ไม่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนเดียวในโรงครับ ลองพยายามมองหาคนไทยคนอื่นก็ไม่เจอครับ แต่ผมได้ยินเสียงพูดคุยกันเองเป็นภาษาไทยสำเนียงไทยด้วยนะครับ (น่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายอินเดีย) ที่มากันมีทั้งมาเป็นคู่ กลุ่มเพื่อน และมาเป็นครอบครัวพร้อมเด็กเล็กลุงป้าน้าอา
เข้าโรงมาสักพัก ผมได้กลิ่นขนมครับ เป็นกลิ่นขนมถุงๆคล้ายๆเลย์คือเป็นแป้งแผ่นทอดหรือแผ่นมันทอดคลุกเครื่องเทศ เป็นขนมที่ผมเคยลองกินเมื่อตอนไปอินเดีย แอบหิวเลยครับ omgนี่เราเดินผ่านประตูโดราเอมอนมานั่งดูหนังในนิวเดลีใช่ไหมเนี่ย 555 (กลิ่นนิดหน่อยนะครับ ไม่ได้แรงมาก เหมือนประมาณเราได้กลิ่นคนนั่งข้างๆกินฮานามิอะครับ)
บรรยากาศโดยรวม ครึกครื้นดีครับ มีเสียงเด็กแทรกขึ้นมาบ้างนิดหน่อย มีเสียงพูดคุยกันบ้าง ช่วงที่ฮาก็หัวเราะกันเสียงดังเต็มที่แบบเต็มที่จริงๆ ช่วงที่กำลังเครียดๆลุ้นๆเค้าก็เงียบๆกัน ช่วงที่เป็นเพลงอินเดียสนุกสนานแอบเห็นบางคนก็ขยับเท้าขยับมือตามจังหวะ ผมสัมผัสได้ชัดเจนเลยครับว่าคนทั้งโรงกำลังมีความสุขจริงๆเวลาดูหนัง มีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อนกับครอบครัวกับคนรัก มีความสุขจนผมที่มาดูคนเดียวก็พลอยมีความสุขไปกับเค้าด้วย
อีกความรู้สึกนึงที่ผมเจอก็คือ ช่วงที่เป็นมุกตลกของเค้าแล้วเราไม่เก็ต เค้าหัวเราะกันทันโรงแล้วเรานั่งงงอยู่คนเดียวมันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ครับ 5555
ป.ล.1 ขอเน้นอีกทีนึง ที่เค้าไม่นั่งเงียบในโรงกัน มันเป็นวิถีของเค้านะครับ อย่ามองเป็นว่าเค้าไม่มีมารยาทหรือรบกวนเรา
ป.ล.2 ส่วนใครที่ชอบการดูหนังแบบเงียบๆไร้เสียงใดรบกวน ควรไปซื้อแผ่นหรือเสียเงินโหลดดูที่บ้านจะดีกว่าครับ ไม่เหมาะจริงๆสำหรับการมาดูหนังอินเดียที่โรงครับ
ป.ล.3
แม้ว่าเค้าเสียงดังยังไงกันก็ตามตั้งแต่เดินเข้าโรง แต่เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นมาทุกคนก็ยืนขึ้นพร้อมเพรียงไม่มีคุยเล่น เด็กเสียงดังเค้าก็ห้ามปรามเด็ก คนที่ยังเดินไม่ถึงที่นั่งก็ยืนตรงทางเดินไม่เดินต่อ
ป.ล.4 โรงหนังออกแบบมาไม่ค่อยดีนะครับ เก้าอี้นั่งใกล้จอเกินไป ตรงที่ผมนั่งต้องแหงนคอดู และก็ลำบากเวลาอ่านซับ แนะนำว่าถ้าเจอโรงนี้ให้ลงทุนซื้อตั๋ว500ดีกว่าสบายตากว่าครับ
ป.ล.5 หนังเรื่องนี้หนังดีครับ ควรค่าแก่การมาดูอย่างยิ่งครับ
[CR] มินิรีวิว การดูหนังอินเดียที่โรงหนังในเมืองไทยครั้งแรก
เรื่องที่ผมได้ดูคือ Toilet : Ek Prem Katha (English: Toilet - A Love Story) 14สิงหาคม รอบ 21.30 น.
หนังตัวอย่างที่ฉาย : เป็นหนังอินเดียครับ ตัวอย่างหนังไม่มีซับเลย ผมเข้าไปช้านิดนึงเลยเห็นตัวอย่างหนังแค่เรื่องเดียวแล้วก็ขึ้นเพลงสรรเสริญพระบารมีฯเลย ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเค้าฉายตัวอย่างหนังกี่เรื่อง มีตัวอย่างหนังที่ไม่ใช่หนังอินเดียด้วยหริอเปล่าผมไม่ทราบครับ และผมยังไม่เห็นโฆษณาสินค้านะครับ
Subtitle : มีซับไทยและอังกฤษ ขึ้นคู่กันเลยครับ ภาษาไทยด้านบน ภาษาอังกฤษด้านล่าง ช่วงบนสนทนายาวๆนี่ซับ4บรรทัด กินเนื้อที่ไปประมาณ 20%ของจอเลยก็มี
การหยุดพักฉายกลางเรื่อง : มีพักเบรก 10 นาที ด้วยครับ เปิดไฟสว่าง ให้ไปห้องน้ำยืดเส้นยืดสาย หน้าจอก็ฉายหนังตัวอย่าง1เรื่องเสร็จแล้วก็ปิดจอไป
ค่าตั๋ว : หนังอินเดียจะไม่ร่วมโปรโมชั่นใดๆนะครับ AIS TRUE DTAC ไม่มีลด ที่มีส่วนลดคือบัตร M-Genของเครื่อMajorเองเท่านั้นครับ(สะสมแต้มได้)
บรรยากาศในโรง
คนเต็มโรงจ้าาาาาา เดิมที่เคยสงสัยว่าจะมีคนมาดูไหม เค้าจะคุ้มหรอ ความเป็นจริงคือตามภาพครับ คนดูเยอะกว่าหนังHollywoodหรือหนังไทยบางเรื่องอีก ขนาดค่าตั๋วแพงกว่าปกตินะเนี่ย
ผมนั่งตรงรูปดาวท่ามกลางพี่น้องครอบครัวเชื้อสายเอเชียใต้ รอบนี้ผมน่าจะเป็นคนไทยที่ไม่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนเดียวในโรงครับ ลองพยายามมองหาคนไทยคนอื่นก็ไม่เจอครับ แต่ผมได้ยินเสียงพูดคุยกันเองเป็นภาษาไทยสำเนียงไทยด้วยนะครับ (น่าจะเป็นคนไทยเชื้อสายอินเดีย) ที่มากันมีทั้งมาเป็นคู่ กลุ่มเพื่อน และมาเป็นครอบครัวพร้อมเด็กเล็กลุงป้าน้าอา
เข้าโรงมาสักพัก ผมได้กลิ่นขนมครับ เป็นกลิ่นขนมถุงๆคล้ายๆเลย์คือเป็นแป้งแผ่นทอดหรือแผ่นมันทอดคลุกเครื่องเทศ เป็นขนมที่ผมเคยลองกินเมื่อตอนไปอินเดีย แอบหิวเลยครับ omgนี่เราเดินผ่านประตูโดราเอมอนมานั่งดูหนังในนิวเดลีใช่ไหมเนี่ย 555 (กลิ่นนิดหน่อยนะครับ ไม่ได้แรงมาก เหมือนประมาณเราได้กลิ่นคนนั่งข้างๆกินฮานามิอะครับ)
บรรยากาศโดยรวม ครึกครื้นดีครับ มีเสียงเด็กแทรกขึ้นมาบ้างนิดหน่อย มีเสียงพูดคุยกันบ้าง ช่วงที่ฮาก็หัวเราะกันเสียงดังเต็มที่แบบเต็มที่จริงๆ ช่วงที่กำลังเครียดๆลุ้นๆเค้าก็เงียบๆกัน ช่วงที่เป็นเพลงอินเดียสนุกสนานแอบเห็นบางคนก็ขยับเท้าขยับมือตามจังหวะ ผมสัมผัสได้ชัดเจนเลยครับว่าคนทั้งโรงกำลังมีความสุขจริงๆเวลาดูหนัง มีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อนกับครอบครัวกับคนรัก มีความสุขจนผมที่มาดูคนเดียวก็พลอยมีความสุขไปกับเค้าด้วย
อีกความรู้สึกนึงที่ผมเจอก็คือ ช่วงที่เป็นมุกตลกของเค้าแล้วเราไม่เก็ต เค้าหัวเราะกันทันโรงแล้วเรานั่งงงอยู่คนเดียวมันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ครับ 5555
ป.ล.1 ขอเน้นอีกทีนึง ที่เค้าไม่นั่งเงียบในโรงกัน มันเป็นวิถีของเค้านะครับ อย่ามองเป็นว่าเค้าไม่มีมารยาทหรือรบกวนเรา
ป.ล.2 ส่วนใครที่ชอบการดูหนังแบบเงียบๆไร้เสียงใดรบกวน ควรไปซื้อแผ่นหรือเสียเงินโหลดดูที่บ้านจะดีกว่าครับ ไม่เหมาะจริงๆสำหรับการมาดูหนังอินเดียที่โรงครับ
ป.ล.3 แม้ว่าเค้าเสียงดังยังไงกันก็ตามตั้งแต่เดินเข้าโรง แต่เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นมาทุกคนก็ยืนขึ้นพร้อมเพรียงไม่มีคุยเล่น เด็กเสียงดังเค้าก็ห้ามปรามเด็ก คนที่ยังเดินไม่ถึงที่นั่งก็ยืนตรงทางเดินไม่เดินต่อ
ป.ล.4 โรงหนังออกแบบมาไม่ค่อยดีนะครับ เก้าอี้นั่งใกล้จอเกินไป ตรงที่ผมนั่งต้องแหงนคอดู และก็ลำบากเวลาอ่านซับ แนะนำว่าถ้าเจอโรงนี้ให้ลงทุนซื้อตั๋ว500ดีกว่าสบายตากว่าครับ
ป.ล.5 หนังเรื่องนี้หนังดีครับ ควรค่าแก่การมาดูอย่างยิ่งครับ