จากการตั้งกระทู้ตอบคำถามของ สลิ่ม ล็อคอิน สายใจ T ที่อยากให้สาธยายว่า การดิ้นรน ไปอยู่อเมริกา ทำกันอย่างไร ... กระทู้นี้จะไม่ไปพูดซ้ำถึงเรื่องนั้นอีก เพราะดูว่า พลพรรคสลิ่มที่เกณฑ์กันมา "กล่าวร้าย" นั้น จะให้อธิบายอย่างไรก็คงไม่เปิดสมองรับรู้รับฟัง เพราะ "ฝังชิฟ" ในหัวไปกันแล้วว่า ผมไปก้าวล่วงและดูหมิ่นเพศแม่(ทั้งอึ้งทั้งขำว่า คิดกันไปได้) ... แต่กระทู้นี้ อยากจะอุทิศฯให้กับ สลิ่ม ที่มากล่าวหาใส่ความให้ผมก็แล้วกัน


สลิ่มหลายล็อคอิน "อิน" กับบริบทนี้มาก เหมือนจะ "คิดลึก" แทนเพื่อนว่า เป็นการด่าหรือดูหมิ่นเพศหญิงอย่าง ล็อคอิน สายใจ T รวมถึงหญิงไทยที่เคยทำในบาร์ที่พัทยา-ภูเก็ต ... ถ้าจะคิดอย่างนี้ได้ สลิ่ม ต้องใช้คุณสมบัติตามหัวข้อกระทู้ที่ มีความดัดจริตสูง แต่สามัญสำนึกต่ำ ... ปรกติจะคิดอะไรได้ตื้นๆ แต่มักจะคิดลึกซึ้งและเก่งในการตีความหาเรื่องหากต้องการเอาชนะ

ตอน อดีตนายก ยิ่งลักษณ์ โดนป้ายสีเรื่อง โรงแรมโฟซีซั่นสวรรค์ชั้น 7, เหล่าดาราสลิ่มแสดงละครล้อเลียนบนเวที กปปส, นายแพทย์ และอาจารย์ปริญญา 5 ใบ พูดบนเวทีแบบโจ่งครึ่ม ฯลฯ และอีกหลายๆครั้ง เหล่าสลิ่มใน รดน ทำไมไม่คัดค้านว่านั่น ก็เป็นการเหยียดเพศแม่อย่างชัดเจน ... นอกจากไม่ตะขิดตะขวางใจแล้วยังขานรับกันเกรียวกราวเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน ทุกวันนี้ สลิ่มบางคนก็ยังเอารูปเอาข้อความมาแปะเพื่อตอกย้ำอย่างไม่รู้จบสิ้น ... อันนี้เรียกกันว่าอะไร ไม่ได้เป็นการดูหมิ่นเพศแม่หรือเพศหญิงเลยใช่ไหมถ้าเป็นฝ่ายตรงข้าม

ข้อความที่ ล็อคอิน พร แคปมาเล่น เป็นเรื่องของความ ดัดจริต ที่ไม่ยอมรับความเป็นจริง (เหมือน เมืองไทยไม่ได้มีชื่อเสียงเรื่องการค้าประเวณียังไงยังงั้น) ... ประเด็นจากคำพูดนี้ผมไม่ได้คิดขึ้นมาเอง  ... หาก ล็อคอิน พร จะจริงจัง ก็เป็นการ ตอกลิ่มทิ่มหน้าตัวเองไปเสียเปล่าๆ เพราะผมไม่เคยได้คิดได้เอ่ยถึง สลิ่ม สายใจ T และหญิงไทยที่มีสามีฝรั่งทุกคนจะมีที่มาแบบนั้นในกระทู้ของเธอ ... ปีที่แล้วที่วิวาทะกัน แต่เพิ่งเอามาตั้งกระทู้ถามให้เป็นประเด็นในปีนี้ ถามแบบท้าทาย พรรคพวกสลิ่มเข้ามาว่าผม รวมถึง สายใจT ที่คะนองปากอย่างมาก ก็แค่ถามถึงสามัญสำนึกในการใช้คำพูด เพราะนี่จะบ่งบอกถึงนิสัย(ถาวร)ของบางคนได้เป็นอย่างดี

คำเปรียบเปรยนี้ ได้มาจากบรรดาสามีฝรั่งที่เขาสรรพยอกภรรยาพวกเขา ซึ่งเป็น "ปัจเจกบุคคล" ไม่ใช่หญิงไทยทั้งหมด ... ด้วยสามัญสำนึกที่แตกต่างกันของหญิงไทยแต่ละคนจะตามติดพวกเธอข้ามน้ำข้ามทะเลไปด้วยทุกหนแห่ง จะใกล้จะไกล หรือจะยังอยู่ในประเทศไทย ล้วนเป็นเรื่องธรรมดา ... สำนึกดี มีความเหตุเป็นเหตุเป็นผล มีตรรกะที่เหมาะสมกับวัยและสภาพแวดล้อม รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง มันจะเป็นสิ่งบ่งบอกถึง ความคิดผิดชอบชั่วดี ความรับผิดชอบในหน้าที่ รสนิยมส่วนบุคคล ซึ่งจะสัมพันธ์กับโอกาสที่จะปรับตัวเพื่อจะเปลี่ยนแปลงจนสามารถประสบผลสำเร็จในการใช้ชีวิตได้อย่างมีทุกข์น้อยที่สุด ฯลฯ

สามัญสำนึกของ ล็อคอิน สายใจ T ก็เช่นกัน มันติดตัวเธอไปอยู่ที่โน่น เป็นแนวความคิดส่วนบุคคลที่ฝังแน่นในกมล แม้กายห่างบ้านเกิดเมืองนอน แต่ยังมีความใกล้ชิดทางความคิดแบบสลิ่มที่อยู่ในประเทศไทย จนแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเจนอย่างที่เป็นอยู่ใน รดน นี้ ... โดยภาพรวม คนไทยทั้งสลิ่มและไม่สลิ่มที่ไปอาศัยในประเทศที่พัฒนาแล้ว ล้วนมีโอกาสทางชีวิตที่สูงกว่าคนไทยในแผ่นดินเกิด เพราะการได้เข้าไปอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายและกฎระเบียบทางสังคมที่เจริญกว่ามาก นั้น ได้ตีกรอบให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าอยู่บนเส้นแห่งความเสมอภาค มีสิทธิเสรีภาพ มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดยุติธรรม รวมถึงมีการตรวจสอบจากภาคประชาชนที่เข้มแข็ง

แต่เป็นที่น่าเสียดาย แม้สลิ่มไทยในต่างแดนเหล่านั้นจะได้รับโอกาสที่เอื้อให้มีทั้งอิสระภาพทางความคิดและการแสดงออก(ภายใต้กฎหมายอย่างประชาธิปไตยเต็มใบ) รวมถึงความเสรีของสื่อสารมวลชนที่สามารถจะนำเสนอความเป็นมาของปัญหาทางการเมืองของประเทศไทยให้วิเคราะห์กันทุกแง่มุม แต่กลับไม่ยอมเปิดกะลาออกมารับรู้ความจริง ไม่อิงเหตุผล (ประเภท เอากะลาโหลดใส่เครื่องบินไปครอบที่โน่นด้วย) จนโดนชักนำให้สนับสนุนแบบผิดฝาผิดข้าง สลิ่มไทยหลายคนทำตัวไร้สำนึกไร้ความเป็นคนทั้งที่อยู่ท่ามกลางสังคมอารยะ เห็นได้จากเหตุการณ์ถือป้ายด่าทอขับไล่ อดีต นายกฯ สมัคร ตอนไปรักษาตัวที่อเมริกา ... คำว่า มนุษยธรรม-การดูหมิ่นเหยียดหยาม สลิ่มไทยจะกล่าวถึงเป็นวรรคเป็นเวรก็ต่อเมื่อตัวเองหรือคนฝั่งตนโดนผลกระทบ

วีระกรรมทั้งหลายที่เหล่า สลิ่มไทย ได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำจนส่งผลร้ายให้กับสังคมไทยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะทำอะไรก็ไม่ต้องรับผิด เลยไม่มีความสำนึกว่า สิ่งที่ร่วมกันทำลงไปตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมานั้น มันทำร้ายประเทศชาติให้ย่อยยับไปมากแค่ไหนแล้ว
.
.
.
.

แก้คำผิด