AVANT-GARDE ADVENTURE : เมืองจีนครั้งแรก มณฑล Yunnan เส้นทาง Shangri La – Deqen

[CR] AVANT-GARDE ADVENTURE : เมืองจีนครั้งแรก มณฑล Yunnan เส้นทาง Shangri La – Deqen – Lijiang -Dali

กระทู้รีวิว

ภาพถ่ายทิวทัศน์ ประเทศจีน Backpack สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ เที่ยวภูเขา

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิป
วันนี้กระทู้ AVANT-GARDE ADVENTURE จะพาเพื่อนๆ ออกสำรวจมณฑล Yunnan ดินแดนภาคใต้ของจีนผ่านรูปภาพกัน

ตอนใต้ของจีนนั้น เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย เก่าแก่ และธรรมชาติอันสวยงาม ภูเขาสูงสลับซับซ้อนทอดตัวไปทุกทิศทาง และที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากเมืองไทยของเราด้วย

การไปจีนครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเลย จากคำชักชวนของเพื่อนที่บอกว่าไป Shangri La (แชงกีล่า) กันมั้ย ลองหาข้อมูลไม่นานก็ตอบตกลงไปทันทีว่า ไปลุยกันเลยย!!!

จีนครั้งแรกของพวกเราเดินทางไปในเส้นทาง Zhongdian (Shangri La) – Deqen – Tiger Leaping Gorge – Lijiang - Dali
ตอนเตรียมตัวตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะพอพูดถึงจีน หลายๆคนจะนึกถึงแต่เรื่องส้วม เรื่องนิสัยของคนจีน จนลืมนึกถึงความสวยงาม และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่มีอยู่มากมายในประเทศแห่งนี้

เราเริ่มต้นที่เมืองแรกคือ Zhongdian จงเตี้ยน (หรือ Shangri La)
พวกเราเดินทางตอนเดือนธันวาคม เป็นช่วงต้นหน้านาวของที่นี่ อากาศเย็นมาก แห้งมาก เมืองนี้เหมือนเป็นจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางในโซนนี้ เพราะจากสถานีรถบัสมีรถวิ่งไปเมืองสำคัญๆ เช่น เมือง Deqen ที่ตั้งของภูเขาหิมะ Meili เมือง Daocheng ที่ตั้งของอุทยานย่าติง (ฝากกระทู้ย่าติง : https://ppantip.com/topic/36648412 ) แม้กระทั่งลาซา ของเขตปกครองตนเองทิเบต ก็มีรถบัสวิ่งไปเช่นกัน

ศาสนสถานจงซ่านหลิน (Songzanlin Lamasery)

เมืองเก่า Zhongdian จงเตี้ยน จากมุมสูงบนภูเขาด้านหลังตัวเมือง

ธงมนต์ ทิเบต ที่พบเห็นได้ทั่วบริเวณนี้ ตัวแทนของความโชคดี ที่โบกสะบัดไปทั่วทุกสารทิศ

ดวงดาวที่มีอยู่เต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืน ได้เวลาบอกลาเมืองนี้แล้ว

เมืองที่สองที่พวกเราไปกันคือ Deqen (เต๋อชิง)
ความตั้งใจแรกคือยากไป Trekking เข้าหมู่บ้าน Yubeng อวี่เปิง และดูแสงแรกที่สาดส่องมายังยอด Meili Snow Mountain (ภูเขาหิมะเหมยลี่) แต่ด้วยช่วงที่เราไปเจ้าของที่พักบอกว่าตอนนี้ถนนโดนหินสไลด์ลงมาปิดทาง เข้าไปลำบาก ไม่แนะนำให้เราพวกเราไป ดังนั้นที่นี่พวกเราจึงได้ชื่นชมความงามของ Meili Snow Mountain เท่านั้น

ภูมิประเทศที่แปลกตาระหว่างเดินทางจาก Zhongdian ไป Deqen โดยรถบัสระยะเวลากว่า 5 ชั่วโมง

ระหว่างทางจะพบเห็นวิวสวยๆ สองข้างทาง เพราะรถบัสจะขับไต่ระดับขึ้นลงภูเขาอยู่แบบนี้จนไปถึงเมือง Deqen

ยิ่งขึ้นมาสูงเท่าไหร่ก็จะพบว่ายังมีหิมะ ให้เห็นตลอดทาง เดือนธันวายังเป็นช่วงต้นฤดูหนาว ถ้าใครมาช่วง ก.พ.-มี.ค. โซนนี้จะขาวโพลนไปด้วยหิมะ

หนีห่าว Deqen ยอดเขานี้ชื่อว่า Kawagebo คาวาเกโป สูง 6,740 เมตร สูงที่สุดใน Meili Snow Mountain

เดินเล่นกันจนเย็น ยามพระอาทิตย์สาดแสงช่วง Twilight เป็นภาพสวยงามน่าจดจำเสมอ สี Rose Gold : )

เสียงนาฬิกาปลุกให้เราตื่นขึ้นเพื่อมารอชมไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ แสงแรก ของวันที่จะสาดส่องมายังภูเขา Meili เป็นหนึ่งในฉากการแสดงโดยธรรมชาติที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมากมายมายืนรอชมกัน

ภารกิจที่เมือง Deqen สำเร็จแล้ว ท้องฟ้าปลอดโปร่งไม่มีเมฆมาบดบังยอดเขา เผยให้เห็นฉากการแสดงที่อลังการ ที่เกิดขึ้นทุกวัน ที่นี่ ที่ Deqen

จุดหมายที่สามที่พวกเราไปกันคือ Tiger Leaping Gorge (หุบเสือกระโจน)
สถานที่แห่งนี้เข้ามาเป็นแผนสำรองหลังจากพวกเราพลาดการ Trekking เข้าหมู่บ้าน Yubeng สำหรับ Tiger Leaping Gorge ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเฉียวโถว ระหว่างเมือง Zhongdian กับ Lijiang พวกเราใช้เวลา 2 วัน 1 คืน กับการ Trekking ที่นี่ การเดินเริ่มต้นจากเดินขึ้นเขาที่ค่อนข้างชัน จากนั้นก็จะเดินเรียบหน้าผาของหุบเขาที่ลึกติดอันดับโลกไปตลอดทาง ใครที่ชอบเดิน Trekking ขอบอกว่าอย่าพลาดที่นี่เป็นอันขาด

ภูเขา Jade Dragon (มังกรหยก) ที่สูงตระหง่านก่อให้เกิดหุบเขาสวยงาม และทอดตัวยาวอยู่เป็นเพื่อนเราตลอดการเดิน 2 วัน 1 คืนที่นี่

วิวสวยๆ หลังจากผ่านช่วงที่เรียกได้ว่าโหดสุดของเส้นทางนี้คือ โค้งหฤโหด 28 โค้ง (28 Bend) ที่มีลักษณะการเดินขึ้นที่สูงมากๆ แต่ระยะทางนั้นสั้น ผลที่ได้คือ ความชัน ที่ทุกคนต้องออกแรงขากันเต็มที่ แต่ถ้าผ่านมาได้ เส้นทางที่เหลือก็สบายแล้ว

อีกด้านของภูเขา Jade Dragon คือเมือง Lijiang (ลี่เจียง) และด้านบนของภูขาแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของลี่เจียงอีกด้วย ซึ่งพวกเราจะไปขึ้นกันหลังจากนี้

ด้วยความที่ Tiger Leaping Gorge เป็นหุบเขาสูง เวลาแสงสาดส่องเข้ามาก็เกิดเป็นภาพที่สวยงามมากทีเดียว

หลังจากจบการเดิน 2 วัน 1 คืน ที่ปลายทางมีน้ำตกสายเล็กๆ ที่ละลายจากหิมะบนยอดเขา ให้ได้สัมผัสความเย็นชื่นใจก่อนจะเดินทางต่อกันไปที่เมือง Lijiang

เมืองที่สี่ที่พวกเราไปกันคือ Lijiang (ลี่เจียง)
ที่นี่มีสถานที่สำคัญคือเขตเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และภูเขา Jade Dragon Snow Mountain ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งคนจีน และคนต่างชาติที่ได้มาเยือน มาแล้วก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แม้ว่ามองจากข้างล่างจะเห็นว่ามีเมฆปกคลุม แต่ข้างบนอาจจะมีเซอร์ไพรส์เราด้วยหิมะก็เป็นได้ครับ

ภาพมุมสูงแสดงให้เห็นภูเขา Jade Dragon กับเมือง Lijiang

ภูเขา Jade Dragon สามารถมองเห็นได้จากตัวเมือง ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันก็คือบริเวณ Black Dragon Pond หรือสระมังกรดำ ที่จะมีศาลาทรงจีนขนาดใหญ่เป็นฉากหน้า แต่น่าเสียดายตอนช่วงที่เราไปทางการกำลังปิดปรับปรุงอยู่

บริเวณ Black Dragon Pond มีสถานที่คล้ายๆ ศาลเจ้าอยู่ด้วย แวะถ่ายรูปซักหน่อย ทดแทนกับที่ศาลาใหญ่ปิด

ดอกไม้ที่คล้าย ดอกท้อ หรือบ๊วย กำลังบานอยู่พอดี

ด้านข้าง Black Dragon Pond มีคูเมืองที่ปลูกต้นหลิวสองฟากฝั่ง กำลังเปลี่ยนสีสวย อวดนักท่องเที่ยว

หลังจากเที่ยวในเขตเมืองกันแล้ว ไปต่อที่ภูเขา Jade Dragon ครับ

ระหว่างทางเข้าสู่อุทยาน Jade Dragon

ภาพจากกระเช้าที่ใช้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขา Jade Dragon

ภูเขาที่สลับซับซ้อนมากมายเมื่อมองจากบนยอดเขา

ลานกลางแจ้งที่ให้นักท่องเที่ยวไว้ชมวิวและถ่ายรูปกัน

หันหลังกลับมาก็จะเจอกับยอดเขา Jade Dragon ซึ่งทำทางเดินไว้อย่างดีให้นักท่องเที่ยวเดินไปชมความงามอย่างใกล้ชิด

ตอนไปยังมีหิมะอยู่บ้าง แต่ถ้าเข้าหน้าหนาวคงจะขาวโพลนไปทั่วบริเวณ

Glacier ธารน้ำแข็ง ที่สะสมมานาน ทำให้อากาศบนนี้เย็นตลอดเวลา ช่วงที่ไปอุณหภูมิราวๆ -5 องศาเซลเซียส แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าอากาศหนาวคือ ออกซิเจนที่เบาบาง ใครไม่มั่นใจก็หาซื้อออกซิเจนกระป๋องกันได้ มีขายอยู่ทั่วไป