คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
๑. แสร้งทำว่าระส่ำระส่ายสักสี่ห้าวัน
๒. แกล้งส่งทหารที่จิตวิทยาดีๆ สักห้าสิบ-ร้อยนาย หนีไปทางทิศต่างๆ พอถูกศัตรูจับได้ก็วางอาวุธ แล้วบอกว่าตอนนี้ในเมืองวุ่นวายหนัก นายทัพไม่ลงรอย บางส่วนให้ถอย บางส่วนให้ตั้งรับ บ้างว่าให้หลบหนีจากเมือง ตอนนี้สายการบังคับบัญชาสับสน แต่ละกองมีการแก่งแย่งกักตุนเสบียง แต่ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าให้หนี
#๒.๑ ระหว่างนี้ผมจะทหารลอบขุดอุโมงค์ดิน... แต่ไม่ใช่เพื่อหนีออกนอกเมือง แต่เพื่อ "ฝังตัว" สำหรับซุ่มซ่อนทหารสัก ๙,๕๐๐ ไว้ ๖ ทิศ ภายในเมือง อยู่ในระยะวิ่งหากันได้ จากรัศมีสู่จุดศูนย์กลางสักสิบนาที และให้มีการขุดหลุมขวาก วางกับดักในเส้นทางที่ข้าศึกปกติแล้วไม่น่าจะผ่าน แต่เป็นเส้นทางที่เหมาะสมเพื่อพุ่งเข้าหาทหารของเรา ที่ทยอยออกมจากสถานที่ซุ่มซ่อน (แน่นอนว่าต้องพรางไว้กันแผนแตก)
#๒.๒ อย่างที่ด้านบนบอก ทหารหนึ่งแสนต้องมีปัญหาเรื่องเสบียง นั่นคือนำมาเยอะเสียจนต้องใช้คนเฝ้าเยอะ หรือนำมาน้อยเสียจนต้องรีบเผด็จศึก
๔. พอถึงวันที่ ๑๔ บอกทหารทุกคนว่าเสบียงเราเหลือแค่พรุ่งนี้ ดังนั้นให้สู้จนตัวตาย อาหารมื้อถัดไปก็คือเสบียงข้าศึก จากนั้นแยกกันซุ่มซ่อนตามจุดต่างๆ ที่วางไว้
๕. ตามหลักแล้ว ศัตรูคงไม่คิดว่าเราจะฝ่าไปในทางที่มีกับดัก แต่ผมเลือกที่จะตัดสินใจไม่ยุ่งกับอีกเส้นทางนึงที่ไม่ได้สืบไปเลยดีกว่า เน้นทางที่มีกับดัก ส่งทหาร ๔๐๐ คน ทำเอะอะโวยวาย ถอยไปในทางที่มีกับดักนั่นแหล่ะในเวลาค่ำคืน ส่วนอีก ๑๐๐ พอใกล้สว่างก็แสร้งเป็นขบถ เปิดประตูเมืองยอมแพ้ เรียกกองทัพใหญ่เข้ามา แล้วปากโป้งว่า ทัพส่วนใหญ่หนีออกไปทางที่มีกับดักแล้ว มีการขนเสบียง ทรัพย์สินเงินทอง กวาดต้อนชาวบ้าน แบบไร้ระเบียบ ให้รีบติดตามไป
#๕.๑ จากแผนที่เราวางไว้ เชื่อว่าศัตรูไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ คงติดตามไป ส่วนหนึ่งคงเฝ้าเสบียงที่ค่ายด้านนอก อีกส่วนหนึ่งต้องรักษาการในเมือง (และคงต้องกระจายตัวหวังจะปล้นเมือง) ไหนจะพวกที่ต้องควบคุมนักโทษอีก ส่วน ๔๐๐ คนที่ให้บุกไปทางที่มีกับดัก แน่นอนว่าคนไปน้อย ก็สูญเสียน้อย มีโอกาสเล็ดรอดไปมาก ส่วนข้าศึกที่ติดตามย่อมเข้าใจว่า กับดักมีไม่มากพอที่จะหยุดยั้งทั้งหมื่นคน แต่ก็คงเสียขบวนรบง่ายต่อการตามติดเป็นแน่ ซึ่งกับดักนั่นแหล่ะจะเป็นภาระแกตัวข้าศึกเอง และจะยิ่งเตลิดห่างทัพหลังและกองเสบียงออกไป
๖. กองทัพที่เหลือเก้าพันห้าร้อยคนในเมือง ก็ออกจากหลุมหลบซ่อน แล้วขึ้นมาจัดการทหารที่รักษาการณ์และกำลังปล้นภายในเมืองเสีย (พวกกองเสบียงข้างนอกย่อมเข้าใจว่าพวกกำลังปล้นเมืองและมีการต่อต้านเล็กน้อย) เมื่อราบคาบแล้วก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของข้าศึกแล้วส่งทูตตัวปลอมไปเรียกกองเสบียงของข้าศึกเข้าเมือง ถ้าไม่หลวมตัวเราก็ออกไปตีชิง (แต่คิดว่าคงหลวมตัวเคลื่อนเข้ามาในเมืองแหล่ะ เพราะล้อมเมืองอยู่ครึ่งเดือนเหล่าข้าศึกคงอยากมีส่วนร่วมกับการแบ่งปันผู้หญิงและเศษๆ ทรัพย์สมบัติที่อาจจะพอมี)
๗. ปิดประตูตีแมวซะ
จาก ๑๐๐,๐๐๐ ต่อ ๑๐,๐๐๐ ตอนนี้ก็อาจจะเหลือสัก ๖๐,๐๐๐ ต่อ ๘,๐๐๐ แต่ว่าเราได้เสบียงกรังของข้าศึกมา ขณะที่ข้าศึกที่เตลิดตามกองทัพล่องหนไป ถ้าโชคดีอาจจะรู้ตัวไว กลับมาก็ไม่มีเสบียงเหลือแล้ว ข้าศึกในเมืองและที่ประจำอยู่กองเสบียง ขวัญกำลังใจย่อมเตลิด เพราะคิดว่าได้ชัยแล้ว ปลดเกราะลดโล่ห์ได้พักเสียที แต่กลับถูกทหารข้าศึกจากหลายทิศทางโจมตี ....ในที่สุดทัพหลักก็คงทำได้แค่ยกทัพกลับแบบห่วงหน้าพะวงหลัง แถมยังต้องระแวงว่า กองทัพล่องหนนั้น แท้จริงมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่
๘. หากกรณีข้าศึกถอยโดยขาดเสบียง ถ้าเป็นผมจะส่งกองทัพตามตี โดยใช้ยุทธวิธีแบบกองโจร หลอกตีกลางวัน เข้าตีจริงในเวลากลางคืน ไปตลอดทาง เผลอๆ อาจจะละลายได้ทั้งกองทัพ
ปล. ใช้ตามข้อมูลเท่าที่มีนะครับ เพราะถ้ารบจริงย่อมมีปัจจัยแทรกเสริมมากมาย มีการพลิกแพลงรับมือจากทั้งสองฝ่าย แต่แผนยุทธการย่อๆ ถ้าผมเป็นแม่ทัพก็คงใช้ประมาณนี้ ต้องยอมใช้แผนเสี่ยงๆ เพราะเสียเปรียบมาก
๒. แกล้งส่งทหารที่จิตวิทยาดีๆ สักห้าสิบ-ร้อยนาย หนีไปทางทิศต่างๆ พอถูกศัตรูจับได้ก็วางอาวุธ แล้วบอกว่าตอนนี้ในเมืองวุ่นวายหนัก นายทัพไม่ลงรอย บางส่วนให้ถอย บางส่วนให้ตั้งรับ บ้างว่าให้หลบหนีจากเมือง ตอนนี้สายการบังคับบัญชาสับสน แต่ละกองมีการแก่งแย่งกักตุนเสบียง แต่ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าให้หนี
#๒.๑ ระหว่างนี้ผมจะทหารลอบขุดอุโมงค์ดิน... แต่ไม่ใช่เพื่อหนีออกนอกเมือง แต่เพื่อ "ฝังตัว" สำหรับซุ่มซ่อนทหารสัก ๙,๕๐๐ ไว้ ๖ ทิศ ภายในเมือง อยู่ในระยะวิ่งหากันได้ จากรัศมีสู่จุดศูนย์กลางสักสิบนาที และให้มีการขุดหลุมขวาก วางกับดักในเส้นทางที่ข้าศึกปกติแล้วไม่น่าจะผ่าน แต่เป็นเส้นทางที่เหมาะสมเพื่อพุ่งเข้าหาทหารของเรา ที่ทยอยออกมจากสถานที่ซุ่มซ่อน (แน่นอนว่าต้องพรางไว้กันแผนแตก)
#๒.๒ อย่างที่ด้านบนบอก ทหารหนึ่งแสนต้องมีปัญหาเรื่องเสบียง นั่นคือนำมาเยอะเสียจนต้องใช้คนเฝ้าเยอะ หรือนำมาน้อยเสียจนต้องรีบเผด็จศึก
๔. พอถึงวันที่ ๑๔ บอกทหารทุกคนว่าเสบียงเราเหลือแค่พรุ่งนี้ ดังนั้นให้สู้จนตัวตาย อาหารมื้อถัดไปก็คือเสบียงข้าศึก จากนั้นแยกกันซุ่มซ่อนตามจุดต่างๆ ที่วางไว้
๕. ตามหลักแล้ว ศัตรูคงไม่คิดว่าเราจะฝ่าไปในทางที่มีกับดัก แต่ผมเลือกที่จะตัดสินใจไม่ยุ่งกับอีกเส้นทางนึงที่ไม่ได้สืบไปเลยดีกว่า เน้นทางที่มีกับดัก ส่งทหาร ๔๐๐ คน ทำเอะอะโวยวาย ถอยไปในทางที่มีกับดักนั่นแหล่ะในเวลาค่ำคืน ส่วนอีก ๑๐๐ พอใกล้สว่างก็แสร้งเป็นขบถ เปิดประตูเมืองยอมแพ้ เรียกกองทัพใหญ่เข้ามา แล้วปากโป้งว่า ทัพส่วนใหญ่หนีออกไปทางที่มีกับดักแล้ว มีการขนเสบียง ทรัพย์สินเงินทอง กวาดต้อนชาวบ้าน แบบไร้ระเบียบ ให้รีบติดตามไป
#๕.๑ จากแผนที่เราวางไว้ เชื่อว่าศัตรูไม่น้อยกว่า ๕๐,๐๐๐ คงติดตามไป ส่วนหนึ่งคงเฝ้าเสบียงที่ค่ายด้านนอก อีกส่วนหนึ่งต้องรักษาการในเมือง (และคงต้องกระจายตัวหวังจะปล้นเมือง) ไหนจะพวกที่ต้องควบคุมนักโทษอีก ส่วน ๔๐๐ คนที่ให้บุกไปทางที่มีกับดัก แน่นอนว่าคนไปน้อย ก็สูญเสียน้อย มีโอกาสเล็ดรอดไปมาก ส่วนข้าศึกที่ติดตามย่อมเข้าใจว่า กับดักมีไม่มากพอที่จะหยุดยั้งทั้งหมื่นคน แต่ก็คงเสียขบวนรบง่ายต่อการตามติดเป็นแน่ ซึ่งกับดักนั่นแหล่ะจะเป็นภาระแกตัวข้าศึกเอง และจะยิ่งเตลิดห่างทัพหลังและกองเสบียงออกไป
๖. กองทัพที่เหลือเก้าพันห้าร้อยคนในเมือง ก็ออกจากหลุมหลบซ่อน แล้วขึ้นมาจัดการทหารที่รักษาการณ์และกำลังปล้นภายในเมืองเสีย (พวกกองเสบียงข้างนอกย่อมเข้าใจว่าพวกกำลังปล้นเมืองและมีการต่อต้านเล็กน้อย) เมื่อราบคาบแล้วก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของข้าศึกแล้วส่งทูตตัวปลอมไปเรียกกองเสบียงของข้าศึกเข้าเมือง ถ้าไม่หลวมตัวเราก็ออกไปตีชิง (แต่คิดว่าคงหลวมตัวเคลื่อนเข้ามาในเมืองแหล่ะ เพราะล้อมเมืองอยู่ครึ่งเดือนเหล่าข้าศึกคงอยากมีส่วนร่วมกับการแบ่งปันผู้หญิงและเศษๆ ทรัพย์สมบัติที่อาจจะพอมี)
๗. ปิดประตูตีแมวซะ
จาก ๑๐๐,๐๐๐ ต่อ ๑๐,๐๐๐ ตอนนี้ก็อาจจะเหลือสัก ๖๐,๐๐๐ ต่อ ๘,๐๐๐ แต่ว่าเราได้เสบียงกรังของข้าศึกมา ขณะที่ข้าศึกที่เตลิดตามกองทัพล่องหนไป ถ้าโชคดีอาจจะรู้ตัวไว กลับมาก็ไม่มีเสบียงเหลือแล้ว ข้าศึกในเมืองและที่ประจำอยู่กองเสบียง ขวัญกำลังใจย่อมเตลิด เพราะคิดว่าได้ชัยแล้ว ปลดเกราะลดโล่ห์ได้พักเสียที แต่กลับถูกทหารข้าศึกจากหลายทิศทางโจมตี ....ในที่สุดทัพหลักก็คงทำได้แค่ยกทัพกลับแบบห่วงหน้าพะวงหลัง แถมยังต้องระแวงว่า กองทัพล่องหนนั้น แท้จริงมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่
๘. หากกรณีข้าศึกถอยโดยขาดเสบียง ถ้าเป็นผมจะส่งกองทัพตามตี โดยใช้ยุทธวิธีแบบกองโจร หลอกตีกลางวัน เข้าตีจริงในเวลากลางคืน ไปตลอดทาง เผลอๆ อาจจะละลายได้ทั้งกองทัพ
ปล. ใช้ตามข้อมูลเท่าที่มีนะครับ เพราะถ้ารบจริงย่อมมีปัจจัยแทรกเสริมมากมาย มีการพลิกแพลงรับมือจากทั้งสองฝ่าย แต่แผนยุทธการย่อๆ ถ้าผมเป็นแม่ทัพก็คงใช้ประมาณนี้ ต้องยอมใช้แผนเสี่ยงๆ เพราะเสียเปรียบมาก
แสดงความคิดเห็น
ขอทดสอบคนที่อ่านตำราพิชัยสงครามหน่อยครับ
สมมุติ
ท่านเป็นเจ้าเมือง มีทหาร 10,000คน
ในเมื่องมีเสบียงอยู่ได้ 15 วัน
แล้วข้าศึกยกพลมา 100,000 คนมาล้อมเมืองท่าน
ข้าศึกล้อม ทุกด้านอย่างแน่นหนา แต่เปิดช่องไว้ 2 ช่อง
ช่องแรก ข้าศึกขุดหลุมพรางดักไว้
ช่อง 2 ไม่ทราบแน่ชัด
ข้าศึก ไม่รับการเจรจา ใดๆทั้งสิ้น
ไม่ทราบว่าท่านจะทำอย่างไร ให้ชนะครับ
หรือไม่ ถ้าท่านไม่คิดสู้ แล้วต้องทำอย่างไร ถึงจะ หนีรอด