วางแผนไปเที่ยว 3-4 เดือนก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งใจจะไปเที่ยวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะ ครอบครัวไม่เคยไปเที่ยวพร้อมกันในภาคนี้เลย และตั้งใจแวะไปเที่ยวเวียงจันทน์ด้วย เลยเลือกที่จะบินไปอุดรธานี ตอนแรกจะเช่ารถจากสนามบินอุดร แล้วขับไปหนองคาย ข้ามไปฝั่งลาว อ่านรีวิวพบว่าลาวขับรถคนละฝั่งเลยเปลี่ยนใจ หารถเช่าดีกว่า และจากรีวิวพบว่ามีที่เที่ยวในลาวที่วังเวียงห่างจากเวียงจันทน์ไม่ไกล และเป็นกุ้ยหลินเมืองลาวด้วยจึงใส่เข้าไปในตารางท่องเที่ยวด้วย เลือกวันเดินทางได้ช่วง 28-30 กค รู้ว่าจำนวนวันน้อย แต่ด้วยเหตุที่ว่างตรงกันช่วงนั้นเท่านั้นจึงเกิดเป็นทริปนี้ขึ้น

โปรแกรมการท่องเที่ยวที่วางไว้
28 กค 60
09.15 น. ถึงสนามบินอุดรธานี เดินทางไปสะพานมิตรภาพไทย ลาว (หนองคาย) ผ่านด่าน ตม เดินทางไปวังเวียง
12.00 น. กินอาหารเที่ยงระหว่างทาง
15.30น. เที่ยวถ้ำปูคำ
16.30น. ชมบรรยากาศของแม่น้ำซอง ซึ่งเป็น แม่น้ำสายหลักและเป็นสายสำคัญของเมืองวังเวียง
17.30น. เข้าเช็คอินน์ที่ โรงแรม
18.00 น. กินอาหารเย็น
19:00 น. เที่ยวตลาดเย็นวังเวียง
29 กค 60
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม พร้อมเช็คเอ้าท์
08:00 น. เที่ยวถ้ำจัง วังเวียง
10:00 น. เดินทางไปเวียงจันทน์
12:00 น. กินข้าวเที่ยงระหว่างทาง
14:30 น. ถึงเวียงจันทน์ เที่ยว
- วัดพระแก้ว
- ประตูชัย
- พระธาตุหลวง
- วัดศรีเมือง
18:00 น. ข้ามฝั่งมาหนองคาย
19:00 น. กินข้าวเย็นที่หนองคาย
30 กค 60
08:00 น. กินข้าวเช้าที่โรงแรม และเช็คเอาท์
09:00 น. เที่ยวในจังหวัดหนองคาย และอุดรธานี
17:00 น. เดินทางถึงสนามบินอุดรธานี
เดินทางถึงสนามบินอุดรธานีตรงตามเวลา

รถตู้เช่าเหมา ได้จากคนขับรถตู้ที่สนิทกัน (ต้องขอบคุณมากครับ) แล้วสอบถามต่อว่ามีคนรู้จักกันขับรถตู้อยู่ที่อุดรไหมเลยได้รถตู้คันนี้ และรู้ว่าต้องจ้างไกด์ลาวติดรถไปด้วย ไม่งั้นหากถูกตำรวจเรียกโดยไม่มีไกด์ลาว จะเสียค่าปรับเป็นหลักพันบาท ที่เมืองไทยน่าจะนำมาใช้กับกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติต่างๆ ด้วยนะครับ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ตกลงกันเรียบร้อยชัดเจน ตามรูปครับ

เดินทางจากสนามบินอุดรมาถึงด่าน ตม ไทย สะพานมิตรภาพไทยลาวที่หนองคายใช้เวลาประมาณ 50 นาที ช่องตรวจคนออกเมืองสำหรับกลุ่มที่มากับรถโดยสารประจำทางกับรถยนต์แยกคนละช่องทางกัน มากับรถตู้เช่าเหมา คนขับรถตู้จัดการให้หมด เราเพียงแต่เดินลงไปให้ จนท ถ่ายรูปและประทับลงตราในหนังสือเดินทางเท่านั้น แล้วกลับขึ้นรถเดินทางต่อได้เลย ไม่ต้องเข้าแถวเสียบบัตรผ่านทางออกนอกประเทศนะครับ
หากท่องเที่ยวแค่เวียงจันทน์ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง แต่หากไปวังเวียงต้องใช้นะครับ

จากนั้นข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาวมายังด่าน ตม ลาว ไกด์ลาวรออยู่ที่ ตม ลาว อยู่แล้ว หากมากับรถโดยสารประจำทางก็เข้าแถวตามในรูป มากับรถตู้ไกด์ลาวจัดการให้หมด

ไกด์ลาวไปแลกเงินกีบที่ด่าน ตม ลาวให้ อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท 250 กีบลาว

จากนั้นเดินทางไปวังเวียง โดยจอดพักกินข้าวเที่ยงประมาณบ่ายโมงครึ่งที่จุดพักรถร้านอาหารไชโย ห่างจากด่าน ตม ประมาณ 100 กม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ผ่านเส้นทางที่จีนมาลงทุนสร้าง one belt one road ระหว่างทางด้วย

ร้านอาหารไชโย ราคาสูง รสชาติไม่ค่อยอร่อย เฝอไม่เหมือนเฝอ หากสั่งอาหารตามสั่งอื่นๆ นอกเหนือจากเฝอจะใช้เวลานาน เนื่องจาก มีนักท่องเที่ยวเยอะมากมาแวะตลอด (เห็นมีร้านอาหารข้างทางหลายร้านใครสนใจอาจแวะลองดูแทนร้านนี้ได้นะครับ แต่ไม่แน่ใจความสะอาดและรสชาติ) มื้อนี้หมดไป 169000 กีบ (รวมค่าอาหารคนขับรถและไกด์ลาว เฝอคนละ 1 ชามด้วย)

กินเสร็จ เดินทางต่อไปวังเวียง ระยะทาง 77 กม แต่ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง เนื่องจาก เป็นทาขึ้นเขา ใครเมารถแนะนำให้กินยาแก้เมาตั้งแต่ก่อนกินมื้อเที่ยงที่จัดพักรถ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ทัน

ที่พักที่ว้งเวียง พักที่โรงแรม Grand Riverside ราคาจองหากให้ไกด์ลาวจองให้ราคา 50 US$ ต่อห้องต่อคืน หากจองผ่าน web จองโรงแรมต่างๆ ราคาคืนละ 1400-1500 บาท ครับ รวมอาหารเช้า หากเป็นช่วง high season จะมีนักท่องเที่ยวเกาหลีจำนวนมาก ช่วงที่ไปมีไม่มากเท่าไร
ภาพจากระเบียงกลางของโรงแรม (ห้องที่เป็นวิวแม่น้ำซองมีเพียง 1-2 ห้อง แต่วิวจะมีงานก่อสร้างโรงแรมใหม่ๆ บัง)

จากนั้นนั่งรถสองแถวไปบลูลากูน ตามแผนจะขึ้นถ้ำปูคำ แต่เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกตลอดทำให้ทางเดินขึ้นซึ่งเป็นเนินขึ้นเขาตามธรรมชาติลื่นไม่ปลอดภัยในการเดินขึ้นลงจึงต้องยกเลิกไป รถตู้ไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจาก ทางแคบและขรุขระเป็นลูกรัง หลุมบ่อตลอดทาง ต้องเช่ารถสองแถวเข้าไป ราคาแล้วแต่ตกลงกัน วันที่ไปไกด์ลาวเช่าให้ 1000 บาท ราคาเห็นในรีวิวจะตกคนละ 160 บาท
นักท่องเที่ยวต่างชาติมักเช่ารถแบบในรูปขี่เข้าไป หรือเช่ามอเตอร์ไซค์

ตั๋วผ่านทางเข้าบลูลากูนคนละ 10000 กีบ เป็นของเอกชนได้สัมปทานจากรัฐ เอกชนให้ชาวบ้านอต่ละบ้านเวียนกันมาเก็บเงิน มีเงินเปอร์เซนต์ให้แต่ละบ้าน (หมู่บ้าน)

จุดแรกแวะไปบลูลากูน 2 ก่อน
จุดสองแวะไปบลูลากูน 1 ซึ่งเป็นทางขึ้นถ้ำปูคำ
จากนั้นแวะไปกินมื้อเย็นที่ร้านชนะชัย Sanaxay อาหารอร่อยมาก มีหลากหลายทั้งอาหารอีสาน อาหารตะวันตก ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณอาหาร (ราคาของและอาหารในลาวสูงเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในลาว เงินเดือนคนลาวประมาณ 4000 บาท) มื้อนี้ราคา 265000 กีบ (1060 บาท 4 คน)
จริงๆ เราต้องเลี้ยงข้าวทุกมื้อคนขับรถกับไกด์ลาวตามที่ตกลงราคาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ปรากฎว่าทั้งคนขับรถและไกด์ลาวไม่ยอมมากินด้วย น่ารักมากเลยครับ


ซีซาร์สลัด 20000 กีบ
ต้มยำปลาคัง 60000 กีบ ต้มยำปลาคังที่นี่จะมีแต่หัวปลา
เนื้อย่าง 50000 กีบ
เปเปอโรนีพิซซ่า 80000 กีบ

ลาบหมู 70000 กีบ

ปิดท้ายคืนแรกด้วยการเดินย่อยอาหารผ่านตลาดกลางคืนวังเวียงกลับมาที่พัก ระยะทาง 2 กม (คนขับรถให้โทร ไปตามรถเมื่อกินเสร็จ แต่เห็นว่าไหนๆ ก็จะเดินเล่นอยู่แล้ว เลยเดินเพลินๆ กลับมาที่พัก)

หลวงพระบางเบเกอรี่
ซื้อคุ๊กกี้ชาเขียวกลับมากินห่อหนึ่ง ไม่อร่อยเอาอย่างมาก
ร้านขายโรตีเรียงรายตามทางคู่กับร้านน้ำปั่น โรตี ทุกรส 10000 กีบ

ร้านนวดก็มีเรียงราย


ปิดท้ายวันแรกเท่านี้ครับ