เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ -เวลา ๑๘.๒๐ น. ระหว่างที่ผมพาลูกสาวและลูกชายไปที่ "ห้างบิ๊กซีสาขาอยุธยา" ติดถนนสายเอเซีย หลังจากที่เราจอดรถและกำลังเดินเข้าห้างตรงบริเวณทางเดินที่มทีหลังคาคลุม ลูกสาวผมสะดุดล้มหัวทิ่ม (ผมยังแอบหัวเราะ) แต่เสียงลูกสาวร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดทำให้ผมหัวเราะไม่ออกรีบวิ่งไปดูลูกสาว รองเท้าขาด เลือดไหลโชก (แต่ยังโชคดีที่ไม่ล้มจนหน้าแหก) ผมตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูกพร้อมกับความงวยงงว่าทำไมเลือดออกเยอะ กับอีแค่สะดุดล้ม พยายามหาน้ำเปล่ามาล้างเลือดออก มีพี่ผู้ชายคนนึงเห็นเหตุการณ์ แกวิ่งไปหยิบน้ำดื่มที่รถแกมาช่วยล้างแผล (ขอบคุณมากจริงๆครับ) แถมยังเฝ้าลูกสาวผมให้ในขณะที่ผมวิ่งเข้าไปซื้อผ้าสะอาดมาห้ามเลือด ผมมาดูแผลที่เท้าลูกเห็นเป็นรูโบ๋ขนาดไม่ใหญ่น่าจะลึกประมาณครึ่งถึงหนึ่งเซนติเมตร เลือดไหลไม่ยอมหยุด น่าจะเพราะอากาศร้อนด้วย มีน้องพนักงานโฮมโปรคนหนึ่งแจ้งเจ้าหน้าที่ของบิ๊กซี ผมก็พยายามหาตะปูที่ตำเท้าลูกสาวผม แต่มันไม่ใช่ตะปูครับ มันคือน้อตยึดเก้าอี้ของห้างบิ๊กซี ที่นำเก้าอี้ออกแล้วไม่ได้ตัดน้อต ปล่อยให้น้อตเบอร์สิบ สนิมเขรอะความยาวประมาณ ๔ ถึง ๕ เซนติเมตร โผล่ลอยๆอยู่ในความมืด
เจ้านี่เองครับที่ทำให้รองเท้าของลูกสาวผมซึ่งมีความหนาประมาณเกือบ ๑ เซนติเมตรทะลุเข้าไปถึงเท้าได้อย่างง่ายดาย รองเท้าไนน์เวสท์ราคาสี่พันกว่าบาทมันคงมีพื้นที่ค่อนข้างแข็งแรง แต่นี่เหยียบเข้าไปเต็มๆครับ ก็เป็นอย่างที่เห็น
(รูปนี้หลังจากล้างน้ำที่แผลและกดห้ามเลือดแล้ว) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่บิ๊กซีก็มาครับ
ขั้นแรกพยายามจะให้พยาบาลบิ๊กซีมาดูแผลให้ก่อน แต่ผมจะขอไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดครับเพราะเลือดมันไหลออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่บิ๊กซีก็ยอมให้ไป รพ.ราชธานี พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ตามมาเคลียค่าใช้จ่าย ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีครับ ดูเหมือนจะรับผิดชอบทั้งหมด ลูกผมไปทำแผลอยู่สามวัน แต่วันที่สี่ก็จำเป็นต้องไปเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วันแรกทั้งๆที่มีผ้าพันแผลที่เท้าพร้อมกับการเดินแบบกระโผลกกระเผลก ผจก.บิ๊กซีสาขาอยุธยาชื่อ "คุณยอดชัย" โทรมาหาผมเพื่อจะนำของมาเยี่ยมและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ผมไม่สะดวกและลูกสาวก็ไม่สะดวก บิ๊กซีอยุธยาแจ้งให้ผมเก็บใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลที่ไปรักษาต่อที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯเพื่อไปเบิกที่บิ๊กซี แต่ผมแจ้งไปแล้วว่าค่าล้างแผลมันคงไม่มากมาย อีกอย่างผมก็เบิกได้จากหน่วยงานที่ทำงานอยู่ ผจก.บิ๊กซีเลยสอบถามค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผมที่จะต้องเดินทางไปรับลูกที่หอทุกวันเพื่อไปล้างแผล ผมก็แจ้งไปคร่าวๆโดยประมาณ หลังจากวันนั้น ผจก.บิ๊กซีโทรกลับมาแจ้งวง่าเขาไม่มีอำนาจที่จะชดเชยค่าเสียหายได้ และทางผู้ใหญ่แจ้งว่า "บิ๊กซีไม่มีนโยบายชดเชยค่าเสียหายให้กับลูกค้าที่ประสบอุบัติเหตุในบิ๊กซี ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว" ฟังแล้วอึ้งครับ (ถ้าเป็นเมืองนอกเรื่องแบบนี้เขาชดเชยให้จนพอใจเพราะการฟ้องร้องทางแพ่งมันเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการตกลงกัน) หลังจากวันนั้น ผจก.บิ๊กซีอยุธยาโทรมาหาผมอีกครั้งแจ้งว่าไม่ได้นิ่งนอนใจทางผู้ใหญ่บิ๊กซียังไม่ให้คำตอบ จนถึงวันนี้ผ่านไปแล้วนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ไม่มีข่าวคราวจากผู้จัดการบิ๊กซีสาขาอยุธยา วันนี้ผมไลน์ไปถามก็ไม่อ่าน โทรไปก็ไม่รับสาย นี่แหละครับความรับผิดชอบของห้างสรรพสินค้ายักษ์ใมหญ่ของคนไทยเพื่อคนไทย ดังวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ว่า "บิ๊กซี เป็นห้างค้าปลีกของคนไทยที่อยู่ในใจชุมชน โดยยึดถือลูกค้าเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงาน" พร้อมพันธกิจที่สวยหรู "เราเป็นห้างค้าปลีกแห่งความคุ้มค่า ที่มุ่งมั่นตอบสนองลูกค้า ด้วยหลากหลายสินค้าราคาคุณภาพ ราคาประหยัด พร้อมด้วยบริการที่เป็นเลิศ ท่ามกลางบรรยากาศการจับจ่ายสุดประทับใจ" ต้องบอกว่าประทับใจไม่มีวันลืมครับ ........
เดินห้างบิ๊กซีให้ระวังอันตรายจากความไม่รับผิดชอบ