สวัสดีค้าบ วันนี้จะขอเอาประสบการณ์จริงที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายมาแบ่งปันกับเพื่อนๆเผื่อจะเป็นประโยชน์และเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต
เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นปีแล้ว เรากับเพื่อนๆพร้อมแม่เพื่อนและเพื่อนแม่ รวม 10 กว่าคน ได้จัดทริปเที่ยวเกาะเต่ากัน เที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ทะเลสวย บรรยากาศดีงาม จนถึงช่วงเย็นของวันที่ต้องเดินทางกลับเข้าฝั่งที่สุราษฎร์ ก่อนขึ้นเรือเพื่อนๆก็ชวนกันไปเซเว่น เพื่อนถามว่าจะเอายาแก้เมาเรือไหม เราตอบไปว่าไม่เอา เพราะเป็นคนไม่เมาเรือ
พอถึงเวลาขึ้นเรือประมาณ 3-4 ทุ่ม ก็พากันหอบข้าวของขึ้นไป ในเรือแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนคือที่ที่ผู้โดยสารนอน ชั้นล่างคือห้องน้ำ ห้องเครื่อง และที่คนขับ ส่วนพวกเรา 10 กว่าคน นอนในห้องพิเศษที่กั้นเป็นห้องเล็กๆที่ปลายหัวเรือ มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวม 100 กว่าชีวิต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชม. จะไปสว่างที่ปลายทางตอนเช้าตรู่พอดี
ก่อนเรือออกมีคนแจ้งว่าคืนนี้จะมีลมและคลื่นแรงกว่าปกติ ใครเมาเรือควรกินยาหรือไม่ก็หลับไปเลย ก็ไม่ได้กังวลใดๆทั้งสิ้น ก็ยังสนุกสนานเฮฮาตามประสาได้ไปเที่ยวกับเพื่อน พอเรือออกมาได้ซักพัก คลื่นมันซัดเรือแรงจริงๆจนหลายคนเมาเรือตามๆกันไป ส่วนเรารีบแหกปากขอยาแก้เมาเรือกับเพื่อนทันที (ไหนเมิงบอกว่าเป็นคนไม่เมาเรือไง อีดวก) ก็ซัดไปเม็ดนึง แล้วรีบพยายามหลับ แล้วก็หลับได้จริงๆ ช่วงที่เราหลับ เพื่อนๆก็เล่นไพ่กันไปจนมันเมาเรือ ก็พากันอวกกระจุยกระจาย
เรือออกจากฝั่งได้ประมาณ 2 ชม. เวลาประมาณเที่ยงคืน จะมีคลื่นซัดเข้ากับเรือแรงพอสมควรในช่วงที่ทุกคนหลับ แต่ก็จะสะลึมสะลือพอรู้สึกได้ถึงแรงซัด เราก็นอนๆไปนอนๆมาก็รู้สึกว่าเหมือนเรือไม่วิ่งไปข้างหน้า มันนิ่งอยู่กับที่ แล้วทีนี้มีเพื่อนลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่าง นางรีบวิ่งกลับขึ้นมาหน้าตาตกใจพร้อมเสียงตะโกน "ทุกคน เรือรั่ว!!!" ไม่มีเสียงตอบรับ เราก็นอนฟังเฉยๆ เพราะคิดว่าเรื่องเล็กมาก เดี๋ยวเค้าก็สูบน้ำออก
ผ่านไปประมาณ 15 นาที เริ่มมีเสียงโครงครางที่ชั้นล่าง พร้อมกับเสียงพนักงานบนเรือตะโกนคุยกัน เพื่อนก็ลงไปเข้าห้องน้ำอีก ลงไปชั้นล่างรอบนี้น้ำท่วมเข้ามาในเรือสูงเท่าเอวคับ ถังน้ำลอยไปมา นางก็รีบวิ่งหน้าแหกขึ้นมาบอกเพื่อน แล้วมาเขย่าตัว จขกท พร้อมตะโกน เรือรั่วๆๆๆๆๆๆเป็นรอบที่ 2 รอบนี้มันชักจะเอาจริงแล้วล่ะ เพราะข้างนอกก็เริ่มมีเสียงคนคุยกันดังขึ้นๆ เราทุกคนก็ลุกขึ้นมานั่งแบบมึนๆงงๆ ในใจเราก็ไม่ได้กลัวอะไรเพราะคิดว่าไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ เพราะเราไม่เห็นสภาพน้ำท่วมที่ชั้น 1 ในขณะที่เรือหยุดนิ่งอยู่กลางทะเลยามดึก อยู่ดีๆไฟก็ดับ พรึบ! ทั่วทั้งเรือ ในใจคิด เอาแล้ววว ความซวยเริ่มมา จากนั้นเครื่องยนต์เรือก็ดับ เครื่องสูบน้ำดับ ดับสนิททุกสิ่งทุกอย่างเพราะเครื่องปั่นไฟโดนน้ำท่วม
ตอนนั้น จขกท. ก็ยังไม่ได้ตกใจอะไรมาก เพราะยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทีนี้เสียงฝรั่งเสียงคนเริ่มดังขึ้นๆ เรือเริ่มวุ่นวายขึ้น อยู่ดีๆก็มีพนักงานบนเรือวิ่งเข้ามาบอกว่า "ทุกคน ใส่เสื้อชูชีพด่วน!!! เรือกำลังจม!!" โห พอได้ยินแบบนี้ก็วิ่งหน้าแหกรีบหาเสื้อชูชีพกันใหญ่ วุ่นวายมาก เสียงดังมาก มืดก็มืด มองไปนอกเรือก็มืด โหยนี่มันกลางทะเลชัดๆไม่มีแอ๊บ พอมือคว้าได้เสื้อชูชีพ ก็ใส่ทันที ฝรั่งข้างนอกวิ่งเข้ามา ร้องห่มร้องไห้มาถามหาเสื้อชูชีพยังมีเหลือไหม ของจริงมันมาแล้ว เสื้อชูชีพไม่พอ เชี่ยแล้วววว
เพื่อนบอกว่าให้เอาของสำคัญใส่ถุงพลาสิกไว้ เราก็พากันเปิดหน้าต่างกว้างสุด เอาคอยื่นออกไปเตรียมโดดน้ำ นั่งเกาะเสาเรือใจจดใจจ่อ รอฟังคำสั่งสละเรือจากกัปตัน หัวใจเต้นแรง ร้อนไปทั้งตัว สายตาพยายามมองหาฝั่ง แต่ก็ไร้วี่แวว พนักงานเรือก็ช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ เสียงตะโกนโหวกเหวก วุ่นวายกันไปหมด แม่เพื่อนก็ร้องไห้ เพราะพาลูกๆมาเยอะ
ในความรู้สึกของ จขกท. ตอนนั้นคือโดดก็โดด ยังไม่ก็ไม่ตาย หูรอฟังเสียงกัปตันอย่างเดียว ในใจคิด กะจะมาเที่ยวดีๆกลับบ้านสบายๆที่ไหนได้ เรือรั่วกลางทะเลยามดึก แจ็กพ็อต เรือบริษัทนี้ไม่ขึ้นอีกแน่นอนตลอดชีวิต ในใจก็คิดถึงแม่ คิดถึงตอนแม่ป้อนข้าวป้อนน้ำ คิดเป็นร้อยเรื่องสารพัด
เรือที่หยุดนิ่งกลางทะเล มืดสนิท ก็เริ่มมีเสียงออกมาว่า เครื่องสูบน้ำติดแล้ววว รู้สึกเบาใจขึ้น เรือก็เริ่มลอยสูงขึ้นๆ จนสูบน้ำออกได้แล้วเครื่องปั่นไฟก็ติด แสงสว่างเริ่มมา จากนั้นเค้าก็วิทยุคุยกันกับเรือประมง เรือ speed boat และเฮลิคอปเตอร์ให้เตรียมพร้อม เผื่อมีการสละเรือ เรือประมงก็มาส่องไฟล้อมๆเรือเรา ตอนนั้นอุ่นใจขึ้นมามากละ ผ่านไปเกือบชั่วโมงทุกอย่างดูสงบลง เสียงร้องไห้เงียบไป ช่างก็ซ่อมเรือ จนพร้อมที่จะออกเดินทางต่อ
ตั้งแต่ผ่านช่วงคับขันมา คงไม่มีใครหลับต่ออย่างสนิทใจแน่นอน จกขท กับเพื่อนๆ นอนแบบไม่ถอดเสื้อชูชีพเลยล่ะ จนมาถึงปลายทางช่วงใกล้สว่างถึงถิด แล้วกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
สุดท้ายนี้อยากบอกทุกคนว่า ชีวิตมันไม่แน่ไม่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ คิดอะไรดีๆแล้วให้รีบลงมือทำ ผิดถูกไม่ว่ากันขอให้เรียนรู้กันไป ขอให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง ชีวิตเราทุกคนมีค่า พ่อแม่รักเราเสมอและห่วงใยเราตลอดเวลา ถ้ารักพ่อแม่เราต้องรักตัวเอง ขอบคุณที่อ่านมาจนจบคับ
แชร์ประสบการณ์เฉียดตาย "เรือรั่วอย่างรุนแรงในทะเลกลางดึก"
เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นปีแล้ว เรากับเพื่อนๆพร้อมแม่เพื่อนและเพื่อนแม่ รวม 10 กว่าคน ได้จัดทริปเที่ยวเกาะเต่ากัน เที่ยวกันอย่างสนุกสนาน ทะเลสวย บรรยากาศดีงาม จนถึงช่วงเย็นของวันที่ต้องเดินทางกลับเข้าฝั่งที่สุราษฎร์ ก่อนขึ้นเรือเพื่อนๆก็ชวนกันไปเซเว่น เพื่อนถามว่าจะเอายาแก้เมาเรือไหม เราตอบไปว่าไม่เอา เพราะเป็นคนไม่เมาเรือ
พอถึงเวลาขึ้นเรือประมาณ 3-4 ทุ่ม ก็พากันหอบข้าวของขึ้นไป ในเรือแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนคือที่ที่ผู้โดยสารนอน ชั้นล่างคือห้องน้ำ ห้องเครื่อง และที่คนขับ ส่วนพวกเรา 10 กว่าคน นอนในห้องพิเศษที่กั้นเป็นห้องเล็กๆที่ปลายหัวเรือ มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวม 100 กว่าชีวิต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชม. จะไปสว่างที่ปลายทางตอนเช้าตรู่พอดี
ก่อนเรือออกมีคนแจ้งว่าคืนนี้จะมีลมและคลื่นแรงกว่าปกติ ใครเมาเรือควรกินยาหรือไม่ก็หลับไปเลย ก็ไม่ได้กังวลใดๆทั้งสิ้น ก็ยังสนุกสนานเฮฮาตามประสาได้ไปเที่ยวกับเพื่อน พอเรือออกมาได้ซักพัก คลื่นมันซัดเรือแรงจริงๆจนหลายคนเมาเรือตามๆกันไป ส่วนเรารีบแหกปากขอยาแก้เมาเรือกับเพื่อนทันที (ไหนเมิงบอกว่าเป็นคนไม่เมาเรือไง อีดวก) ก็ซัดไปเม็ดนึง แล้วรีบพยายามหลับ แล้วก็หลับได้จริงๆ ช่วงที่เราหลับ เพื่อนๆก็เล่นไพ่กันไปจนมันเมาเรือ ก็พากันอวกกระจุยกระจาย
เรือออกจากฝั่งได้ประมาณ 2 ชม. เวลาประมาณเที่ยงคืน จะมีคลื่นซัดเข้ากับเรือแรงพอสมควรในช่วงที่ทุกคนหลับ แต่ก็จะสะลึมสะลือพอรู้สึกได้ถึงแรงซัด เราก็นอนๆไปนอนๆมาก็รู้สึกว่าเหมือนเรือไม่วิ่งไปข้างหน้า มันนิ่งอยู่กับที่ แล้วทีนี้มีเพื่อนลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่าง นางรีบวิ่งกลับขึ้นมาหน้าตาตกใจพร้อมเสียงตะโกน "ทุกคน เรือรั่ว!!!" ไม่มีเสียงตอบรับ เราก็นอนฟังเฉยๆ เพราะคิดว่าเรื่องเล็กมาก เดี๋ยวเค้าก็สูบน้ำออก
ผ่านไปประมาณ 15 นาที เริ่มมีเสียงโครงครางที่ชั้นล่าง พร้อมกับเสียงพนักงานบนเรือตะโกนคุยกัน เพื่อนก็ลงไปเข้าห้องน้ำอีก ลงไปชั้นล่างรอบนี้น้ำท่วมเข้ามาในเรือสูงเท่าเอวคับ ถังน้ำลอยไปมา นางก็รีบวิ่งหน้าแหกขึ้นมาบอกเพื่อน แล้วมาเขย่าตัว จขกท พร้อมตะโกน เรือรั่วๆๆๆๆๆๆเป็นรอบที่ 2 รอบนี้มันชักจะเอาจริงแล้วล่ะ เพราะข้างนอกก็เริ่มมีเสียงคนคุยกันดังขึ้นๆ เราทุกคนก็ลุกขึ้นมานั่งแบบมึนๆงงๆ ในใจเราก็ไม่ได้กลัวอะไรเพราะคิดว่าไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ เพราะเราไม่เห็นสภาพน้ำท่วมที่ชั้น 1 ในขณะที่เรือหยุดนิ่งอยู่กลางทะเลยามดึก อยู่ดีๆไฟก็ดับ พรึบ! ทั่วทั้งเรือ ในใจคิด เอาแล้ววว ความซวยเริ่มมา จากนั้นเครื่องยนต์เรือก็ดับ เครื่องสูบน้ำดับ ดับสนิททุกสิ่งทุกอย่างเพราะเครื่องปั่นไฟโดนน้ำท่วม
ตอนนั้น จขกท. ก็ยังไม่ได้ตกใจอะไรมาก เพราะยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทีนี้เสียงฝรั่งเสียงคนเริ่มดังขึ้นๆ เรือเริ่มวุ่นวายขึ้น อยู่ดีๆก็มีพนักงานบนเรือวิ่งเข้ามาบอกว่า "ทุกคน ใส่เสื้อชูชีพด่วน!!! เรือกำลังจม!!" โห พอได้ยินแบบนี้ก็วิ่งหน้าแหกรีบหาเสื้อชูชีพกันใหญ่ วุ่นวายมาก เสียงดังมาก มืดก็มืด มองไปนอกเรือก็มืด โหยนี่มันกลางทะเลชัดๆไม่มีแอ๊บ พอมือคว้าได้เสื้อชูชีพ ก็ใส่ทันที ฝรั่งข้างนอกวิ่งเข้ามา ร้องห่มร้องไห้มาถามหาเสื้อชูชีพยังมีเหลือไหม ของจริงมันมาแล้ว เสื้อชูชีพไม่พอ เชี่ยแล้วววว
เพื่อนบอกว่าให้เอาของสำคัญใส่ถุงพลาสิกไว้ เราก็พากันเปิดหน้าต่างกว้างสุด เอาคอยื่นออกไปเตรียมโดดน้ำ นั่งเกาะเสาเรือใจจดใจจ่อ รอฟังคำสั่งสละเรือจากกัปตัน หัวใจเต้นแรง ร้อนไปทั้งตัว สายตาพยายามมองหาฝั่ง แต่ก็ไร้วี่แวว พนักงานเรือก็ช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ เสียงตะโกนโหวกเหวก วุ่นวายกันไปหมด แม่เพื่อนก็ร้องไห้ เพราะพาลูกๆมาเยอะ
ในความรู้สึกของ จขกท. ตอนนั้นคือโดดก็โดด ยังไม่ก็ไม่ตาย หูรอฟังเสียงกัปตันอย่างเดียว ในใจคิด กะจะมาเที่ยวดีๆกลับบ้านสบายๆที่ไหนได้ เรือรั่วกลางทะเลยามดึก แจ็กพ็อต เรือบริษัทนี้ไม่ขึ้นอีกแน่นอนตลอดชีวิต ในใจก็คิดถึงแม่ คิดถึงตอนแม่ป้อนข้าวป้อนน้ำ คิดเป็นร้อยเรื่องสารพัด
เรือที่หยุดนิ่งกลางทะเล มืดสนิท ก็เริ่มมีเสียงออกมาว่า เครื่องสูบน้ำติดแล้ววว รู้สึกเบาใจขึ้น เรือก็เริ่มลอยสูงขึ้นๆ จนสูบน้ำออกได้แล้วเครื่องปั่นไฟก็ติด แสงสว่างเริ่มมา จากนั้นเค้าก็วิทยุคุยกันกับเรือประมง เรือ speed boat และเฮลิคอปเตอร์ให้เตรียมพร้อม เผื่อมีการสละเรือ เรือประมงก็มาส่องไฟล้อมๆเรือเรา ตอนนั้นอุ่นใจขึ้นมามากละ ผ่านไปเกือบชั่วโมงทุกอย่างดูสงบลง เสียงร้องไห้เงียบไป ช่างก็ซ่อมเรือ จนพร้อมที่จะออกเดินทางต่อ
ตั้งแต่ผ่านช่วงคับขันมา คงไม่มีใครหลับต่ออย่างสนิทใจแน่นอน จกขท กับเพื่อนๆ นอนแบบไม่ถอดเสื้อชูชีพเลยล่ะ จนมาถึงปลายทางช่วงใกล้สว่างถึงถิด แล้วกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
สุดท้ายนี้อยากบอกทุกคนว่า ชีวิตมันไม่แน่ไม่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ คิดอะไรดีๆแล้วให้รีบลงมือทำ ผิดถูกไม่ว่ากันขอให้เรียนรู้กันไป ขอให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง ชีวิตเราทุกคนมีค่า พ่อแม่รักเราเสมอและห่วงใยเราตลอดเวลา ถ้ารักพ่อแม่เราต้องรักตัวเอง ขอบคุณที่อ่านมาจนจบคับ