หน้าฝนแล้วจะมีอะไรดีไปกว่าการได้ไปน้ำตก ร้อนๆแบบนี้แค่คิดก็สดชื่นซะแล้ว ทริปนี้เกิดขึ้นได้แบบปุปปัปมาก เราแค่บ่นๆในfbว่าวันหยุดยาว28-30กค.60 ไปไหนดี เผอิญ มีพี่สาวคนนึงเข้ามาคอมเม้นท์ว่าอยากไปน้ำตก เราก็...ห้วยแม่ขมิ้นมั้ยคะ ((ตอนนั้นไม่รู้คิดอะไรว่าจะไปที่นี่ แต่ก็อยากไปมานานแล้วนะ เห็นจากรูปคือน้ำตกสวยดี )) ผ่านไปไม่กี่วัน นางinboxมาว่าจะไปจริงมั้ย? ไอเราก็คิดว่าคุยกันเล่นๆ แต่ดันไปจริงซะงั้น เอาล่ะ เราใจง่ายไม่มากเรื่อง ไปไหนไปกันอยู่แล้ว เลยจัดการหาที่พักสักคืน แต่มันวันหยุดยาวน่ะสิ ที่ที่เราอยากไปเต็มซะแล้ว สรุปนอนเต็นท์ที่อุทยานละกัน พี่สาวเราเลยโทรไปถามทางอุทยาน เขาบอกให้มาถึงก่อน4โมงเย็น แต่ถ้าฝนตกหนัก เต็นท์อาจซึมนะ พี่เราเลยบอก ถ้าฝนตกหนักก็นอนในรถ ฮ่าฮ่า เอาล่ะ มีที่นอนแล้ว สรุปวันเรียบร้อย ได้สมาชิกเพิ่มมาอีกคนค่ะ เราเดินทางกันสามคน เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า


รู้ก่อนไป
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์  จัดว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของกาญจนบุรี และเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ของเมืองไทย
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ
คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท

เปิดทำการเวลา  06.00-18.00 น. มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์พักแรมไว้บริการ รวมทั้งร้านค้าสวัสดิการจำหน่ายอาหาร ให้แก่นักท่องเที่ยว ใครที่กังวลว่าขึ้นมาถึงที่นี่แล้วจะไม่มีอะไรกิน คิดใหม่เลยค่ะ สะดวกและอร่อยด้วยค่ะ ราคาไม่ถูกไม่แพง รับได้ค่ะ ส้มตำอย่างนัว อาหารตามสั่งก็มี ครัวเปิดตั้งแต่6โมงเช้า ปิดประมาณ1ทุ่มค่ะ ที่นี่จะใช้แลกคูปองใช้ได้วันต่อวันนะคะ
สอบถามเพิ่มเติม
โทรศัพท์ที่ทำการ : 06 2325 5498
โทรศัพท์ศูนย์บริการบ้านพัก : 08 2290 2466

สำหรับวันที่เราไปกรมอุทยานเปิดให้เข้าฟรี ยกเว้นค่าธรรมเนียม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร ค่ะ

เช้าวันที่28
เราเริ่มออกเดินทางกันประมาณเกือบ7โมง มุ่งหน้าน้ำตกเลย ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะไกลมาก แต่!! เด๋วนี้ถนนเขาดีแล้วนะคะ เดินทางสะดวกมาก ไม่ต้องข้ามน้ำขึ้นเรือ ถนนไม่ลูกรังเหมือนสมัยก่อน แอบบอกนิดนึง คนไม่เยอะมากด้วย ลานกางเต็นท์ก็มีหลายจุด โดยรวมแล้วคือดีค่ะ ถ้าเทียบกับระยะทางที่ไกลแล้วไม่แปลกใจที่คนไม่เยอะเท่าน้ำตกเอราวัณ แต่ควรไปนะ ถนนดีแล้วเข้าถึงสบาย ไปเถอะค่ะ 😊


มาถึงแล้วก็ ไปติดต่อจนท.เช่าเต็นท์และเครื่องนอนก่อนนะคะ

เจ้าถิ่นกำลังเล่นกันใหญ่เลย


ด้านหน้าสุดมีผู้จับจองพื้นที่เรียบร้อย วิวก็จะประมาณนี้ ด้านหน้าคือเขื่อนนะคะ ใหญ่มากๆ


เราเลยเลือกด้านหลังๆละกัน เผื่อฝนตกจริงจะได้วิ่งกลับรถง่ายหน่อย ขอบอกว่าจนท.ให้บริการดีมากตั้งแต่ปากทางที่จะเข้ามาในอุทยานเลยค่ะ ที่นี่จนท.กางเต็นท์ให้นะคะ เราแค่ถือที่รองนอนที่เราเช่า และไปชี้จุดว่าอยากให้กางตรงไหนได้เลย พอวันที่เรากลับก็เอาที่รองนอนไปคืนก่อนเที่ยง ส่วนเต็นท์จนท.มาเก็บเองค่ะ


นี่ค่ะเต็นท์ของเราลายทหารของอุทยานแห่งชาติทุกที่ก็ลายนี้


น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจะมีทั้งหมด7ชั้น นี่คือระยะทางทั้งหมดค่ะ ลานกางเต็นท์จะอยู่ที่น้ำตกชั้น4 ฉัตรแก้ว ใกล้มากค่ะ เดินไปไม่กี่ก้าวถึงเลย นอนฟังเสียงน้ำตกทั้งคืนเลยค่ะ เข้าถึงธรรมชาติสุดๆ

กางเต็นท์เสร็จ ก็ประมาณเที่ยงแล้ว เราหาอะไรกินกันก่อนที่จะเดินเล่น ถ่ายรูปกันค่ะ กินกันในสวัสดิการร้านค้าอุทยานนี่ล่ะค่ะ พออิ่มแล้ว ก็เริ่มสำรวจกันเลยค่ะ วันนี้เราจะเดินน้ำตกฝั่งชั้น1-4ก่อน พรุ่งนี้เราจะเดินฝั่งชั้น5-7ค่ะ


ทานเสร็จ เราพร้อมลุย ไปกันค่ะ ไปชมความงามและความชุ่มฉ่ำพร้อมๆกัน

อ่อ!! ถุงผ้าลดโลกร้อนค่ะ ใช้ดีใช้ทนเลย เอาล่ะ!เราจะเริ่มจากชั้น4ไปชั้น1นะคะ



นี่คือชั้น4 ฉัตรแก้ว เราชอบชั้นนี้มากที่สุด สวยอลังมาก ชั้นนี้ไม่สามารถสัมผัสน้ำได้นะคะ ไกลจากจุดที่เรายืนถ่าย


ความอุดมสมบูรณ์ มีเห็ดขึ้นด้วยนะ


ต่อไปชั้น3 วังหน้าผา ระหว่างเดินมีฝนตกลงมาบ้างไม่ถึงกับหนักแต่ต้องรีบเก็บกล้องนิดนึง แฮ่ะๆ


ระหว่างชั้น3ไปชั้น2ค่ะ




มีเด็กน้อยมาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน


ชั้น2 ม่านขมิ้น ชั้นนี้เล่นน้ำได้สบายๆ เราก็เล่นน้ำกันชั้นนี้ค่ะ น้ำเย็นมาก สดชื่นมากเช่นกัน


เย็นมั้ยจ๊ะหนุ่มน้อย


ระหว่างทางชั้น2ไปชั้น1 ชั้นนี้ก็มีคนมาเล่นน้ำเยอะเหมือนกัน น้ำแรงควรระมัดระวังนะคะ


บางคนก็มานั่งให้น้ำตกนวดหลัง ฮ่าฮ่า น้ำแรงๆนอกจากจะเย็นชื่นใจแล้วยังนวดคลายเส้นได้ด้วยนะเนี่ยะ



มาถึงชั้น1 ดงว่านค่ะ  ถ่ายรูปเล่นกันสักพัก ดูนาฬิกาอีกที ห๊า! นี่มันก็เย็นแล้ว เรารีบกลับขึ้นไปเล่นน้ำแล้วรีบไปกินข้าวเย็นดีกว่าก่อนที่ครัวจะปิด

ตอนเดินลงก็ชิลอยู่ล่ะ ทางเดินที่นี่ทำดีนะ เป็นระแนงไม้ มีขั้นบันไดที่เดินง่ายมาก แต่ตอนเดินขึ้นก็ได้มาสักหอบสองหอบ (ขออภัยไม่มีภาพให้ชม)


เล่นน้ำกันเสร็จแล้วกลับขึ้นมาอีกที เต็นท์ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่เรียบร้อยจ้า แต่ถือว่าคนไม่เยอะมากถึงแบบแออัดหามุมถ่ายไม่ได้ คือชิลสบายๆ เดินไม่เหนื่อยมากด้วย

มาถึงตอนนี้ก็ไม่มีไรมากค่ะ รีบสั่งอาหาร พอทานกันเสร็จรีบไปอาบน้ำ อ่อ! พกไฟฉายคาดหัวมาด้วยก็ดีนะคะจะได้สะดวกเวลาเดินไปไหนมาไหนตอนกลางคืน และด้วยความที่ไม่รู้จะทำอะไรกันสัญญาณอินเตอร์เน็ตมีนะแต่ไม่ค่อยแรง พวกเรานั่งคุยกันสักพักแล้วก็แยกย้ายกันนอน แต่!!นี่มันสองทุ่มเองค่ะคุณ เวลาปกติในเมืองกรุงนอนเที่ยงคืน เอาไงล่ะ พวกพี่ๆหลับล่ะ เราก็พยายามข่มตาหลับ ฟังเสียงน้ำตกให้เคลิ้มๆเข้าไว้ ประมาณสามทุ่มกว่าถึงหลับจ้า อากาศไม่หนาวไม่ร้อน แต่จะเย็นๆแบบสบายๆเอาตอนใกล้เช้า คือดีนะ
***เราอยากถามว่าคุณนอนเต็นท์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?? นานเท่าไหร่ที่ไม่ได้ออกมาสัมผัสกับธรรมชาติมาสูดลมหายใจเอาออกซิเจนที่บริสุทธิ์เข้าปอด มาเถอะค่ะเติมพลังให้ชีวิตกัน***