เตย "หัตถยา บำรุงสุข" เสื้อหมายเลข 4 ที่เคยเว้นไว้รอ เพื่อให้เธอกลับมาใส่

กระทู้สนทนา


เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อหลายปีก่อนผมไปนั่งดูทีมชาติซ้อมบ่อยๆเพื่อหาข้อมูลและความรู้ให้กับตัวเอง และ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง
ของทีมวอลเลย์บอลตั้งแต่ระดับยุวชนจนถึงชุดใหญ่อยู่ประจำ และ 1 ในนั้นมีเรื่องที่ผมยังจำได้ไม่มีลืม และ คิดว่าคงถึงเวลาแล้ว
ที่จะขีดเขียนอะไรเกี่ยวกับเธอที่มีชื่อว่า "เตย"หัตถยา บำรุงสุข

ปัจจุบัน "เตย" หัตถยา บำรุงสุข กลายเป็นตัวหลักของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยไปแล้ว แต่การที่จะก้าวเดินมาถึงจุดนี้ได้
ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากการฝึกซ้อมแล้วคงมีเรื่องของสภาพจิตใจที่เธอต้องสู้กับตัวเองมาโดยตลอด

ช่วงปี 2013 ผมเจอเตยที่สนามซ้อม กกท. สถานที่ซ้อมของนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งก็รู้สึกแปลกใจว่าตอนนั้นทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชคิด
อะไรอยู่ถึงเอานักกีฬาคนนี้มาซ้อมด้วย ทั้งๆที่ผลงานก่อนหน้าก็แทบไม่มีอะไรให้เห็น เพราะจากที่เธอเคยติดทีมชาติในระดับ
เยาวชนแล้วเธอก็จางหายไปจากวงการระยะใหญ่ๆ

ผมยังคงถามตัวเองย้ำๆว่า "โค้ชคิดอะไรอยู่ถึงเอาคนที่ตีบอลก๊องแก๊งมาซ้อม"

สาเหตุที่คิดแบบนั้นเพราะภาพที่เห็นจนชินตาคือ การตีบอลที่เบามาก จังหวะวิ่งหาช่องที่ไม่มีทิศทาง ทุกอย่างดูขาดๆเกินๆ
ไปหมด มองไม่เห็นแววเลยว่าส่วนไหนในความสามารถของเธอจะทำให้เธอเก่งขึ้นมาได้ เอาจริงๆผมเห็นเตยตีโดนบอลก็
อยากจะปิดซอยที่บ้านเลี้ยงฉลองแล้ว

ตอนแรกผมคิดว่ามีผมคนเดียวที่คิดแบบนั้น จนกระทั่งนักข่าวที่ไปทำข่าวเดินมาถามว่า "คนนี้มาซ้อมกับทีมชาติได้ไงวะ"
มันยิ่งตอกย้ำทำให้ผมรู้สึกไม่เชื่อใจในการตัดสินใจของทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชเข้าไปใหญ่
แต่มันไม่ใช่ความผิดของ "เตย" ที่ถูกเรียกให้มาร่วมซ้อมด้วย เธอจะผิดก็ต่อเมื่อ "ไม่ตั้งใจซ้อม"

อีก 1 เหตุผลที่ต้องเฝ้าติดตามพัฒนาการของเตยเพราะอยากเห็นการตัดสินใจที่ผิดของโค้ชบ้าง
-------------------
ช่วงชีวิตหนึ่ง "หัตถยา" เคยก้าวมาเป็นนักกีฬาระดับเยาวชนทีมชาติ และ ได้รับการดูแลจากพี่ๆในทีม ซึ่ง 1 ในข้อมูลที่น่าสนใจ
คือ "เตย" เป็นสาวห้าวแบบแมนๆมาก่อน จนตอนนั้น ปลื้มจิตร์ ถินขาว เรียกเตยว่า "ศรราม" คนเรามักจะเดินทางถูกบ้าง ผิดบ้าง
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่จะควบคุมตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนนั้นอีกเรื่อง ซึ่งเตยก็เคย"ติดชีวิตวัยรุ่น"จนวอลเลย์บอลกับเธอต้อง
เจอทางแยก และ นี่คือเหตุผลที่เธอหายไปจากวงการ

จากการตัดสินใจแบบนั้นของเตย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเองเท่านั้น หนึ่งในทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะนอกจากตั้งความหวังในตัวเธอแล้ว ยังมีข้อมูลเชิงลึกไปกว่านั้นก็คือสมัยนั้น "โค้ชอ๊อต"อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยัง
ตั้งใจเว้นชุดหมายเลข 4 ไว้ให้เตยอีกด้วย........แต่..ทุกอย่างพังลง
------------------
ด้านมืดของดวงจันทร์เป็นสิ่งที่ไม่มีใครมองเห็น และ เตยก็รู้ดีกว่าจุดที่ตัวเองยืนอยู่ในตอนนั้นมันเป็นอย่างไรมากกว่าคนอื่นที่มอง
ดูเธออยู่ จนแล้วจนรอด"โอกาส"ได้เดินมาทักทายอีกครั้ง และ คราวนี้เตยตัดสินใจเปิดประตูรับมัน

"แม้พื้นที่ข้างในจิตใจเธอจะรกไปหน่อย แต่ก็ใช้เวลาไม่นานจัดเรียงมันใหม่"

ทุกอย่างเหมือนนับ 1 อีกครั้ง....จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผมจะเห็นเธอตีบอลได้ก๊องแก๊ง หรือ เห็นเธอหายใจหอบมากกว่าคน
อื่นในทีมตอนซ้อม จนเวลาเดินผ่านไปพร้อมกับเธอที่พยายามตั้งใจจะเหวี่ยงตัวเองให้มาอยู่วงโคจรชีวิตนักวอลเลย์บอลให้ได้
อีกครั้ง

ชีวิตใหม่ของหัตถยาเริ่มจากการเป็นนักกีฬาตัวหลักของสโมสรนครราชสีมา พาทีมคว้าแชมป์ลีกอาชีพ และ เป็นตัวแทนไปเล่น
สโมสรเอเชียต่อ

จากนั้นในปี 2014 ก้าวมาติดทีมชาติชุดชิงแชมป์โลก พร้อมกับพัฒนาระเบียบการใช้ชีวิตของตัวเองขึ้น และ
ยังเจอบททดสอบครั้งใหญ่เมื่อได้เล่นแทนปลื้มจิตร์ที่มีอาการบาดเจ็บในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ซึ่งผลงานในสนามแสดงออก
มาชัดว่าเธอยังต้องพัฒนาอีกเยอะ

คอมเม้นมากมายในโซเชียลพูดถึงเธอกับการเล่นที่ยังไม่เข้าขั้น แต่เธอกลับไม่สนใจที่จะเอามาทำลายความตั้งใจตัวเอง และ
เหมือนจะมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ

จนปี 2015 วอลเลย์บอล U-23 ชิงแชมป์เอเชีย เป็นรายการที่ทำให้ทุกคนยอมรับในตัวเธอ เพราะหัตยาแสดงออกมาให้เห็นชัดเจน
ว่าเธอควรคู่กับโอกาสที่ได้รับ และ ความไว้วางใจที่โค้ชมีให้ จากนั้นพัฒนาการของเธอยังไม่หยุดเท่านั้นเพราะเวทีที่เปิดรอเธออยู่
นั้นคือทีมชาติชุดใหญ่ที่มีคิวแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเวิลด์กรังด์ปรีซ์,ชิงแชมป์เอเชีย รวมไปถึง
U23 ชิงแชมป์โลก เธอใช้โอกาสตรงนี้แสดงออกถึงความสามารถทั้งหมดของเธอ

เรื่องของผลงานผมคงไม่ต้องขยายความอะไรต่อแล้ว เพราะที่ผ่านมาผมเชื่อว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าเธอมีความสามารถแค่ไหน
แต่ที่อยากจะเพิ่มเติมคือองค์ประกอบสิ่งแวดล้อมของชีวิตเธอที่เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จที่เราได้เห็นกัน "ความรักที่ดี"
ชีวิตของเตยเปลี่ยนไปมากๆเมื่อเจอโอบกอดที่ส่งเสริมให้เดินไปข้างหน้า จริงๆแล้วผมไม่ค่อยอยากไปเอาเรื่องส่วนตัวของ
นักกีฬามาเขียน แต่ครั้งนี้ขออนุญาตพูดถึง "ฟาง" คนข้างๆของเตยสักหน่อย เท่าที่ผมรู้จักกับเตยมา ความรักครั้งนี้ดูเหมือน
เป็นจุดลงตัวของเธอจริงๆ หลายอย่างที่ฟางทำให้มันเป็นแรงบวกดันให้เกิดสิ่งดีๆต่อชีวิตเตย

มีคนเคยพูดอยู่บ่อยๆว่า "คนเป็นแฟนกันต้องส่งเสริมกันในเรื่องดีๆ" ผมคิดว่าฟางเป็นแบบนั้นนะ ถือโอกาสชื่นชมฟางตรงนี้แล้วกัน
เรื่องครอบครัวผมก็ได้ยินมาว่าเตยช่วยเหลือทางบ้านอยู่เป็นประจำ แต่ที่พ่อแม่ภาคภูมิใจที่สุดคงเป็นความสำเร็จที่เธอกำลัง
ทำอยู่ทุกวันนี้ ความสุขของคนเป็นพ่อและแม่คือการได้เห็นลูกประสบความสำเร็จในชีวิต และ คิดว่ารอยยิ้มของพ่อแม่คงกว้างมากๆ
เวลาเชียร์ลูกผ่านหน้าจอทีวีรวมไปถึงตอนเชียร์อยู่ที่ข้างสนาม

อีกอย่างที่ต้องชื่นชมคือทีมชาติ ใครที่อยู่ในทีมชาติจะรู้ดีกว่าการช่วยเหลือกันและกันมันเกิดขึ้นอยู่ตลอด เพราะในทีมอยู่กัน
แบบครอบครัว ทุกคนส่งเสริมกันมากๆ เวลาใครมีปัญหาจะถูกโอบล้อมด้วยการช่วยเหลือจากพี่ เพื่อน ทีมโค้ช และ เจ้าหน้าที่
ส่วนต่างๆทันที ผมชอบมองเวลาพวกเขาอยู่ด้วยกัน ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ผมประทับใจในสังคมวอลเลย์บอลทีมชาติมากๆ
คิดว่ามีโอกาส หรือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะเอามาเขียนให้ได้อ่านกัน

สุดท้ายนี้ขอชื่นชมเตยนะ เตยพัฒนาตัวเองได้ดีมากๆ ขอขอบคุณสำหรับทุกช่วงชีวิตของเตย มันเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน
ได้เป็นอย่างดี ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และ ขอโทษอีกครั้งที่เคยแอบต่อว่าเรื่องตีบอลก๊องแก๊ง ( 555 )

อีกอย่างที่อยากให้หลายๆคนรู้......ตอนที่เตยได้กลับมารั้วทีมชาติอีกครั้ง โค้ชอ๊อตยิ้มอย่างดีใจแล้วพูดว่า "ลูกสาวครูกลับมาแล้ว"
สุขสันต์วันเกิดนะเตย

เอก ประวิตร
-----------
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก เนตร
เอก ประวิตร

ที่มา..  http://www.smmsport.com/reader.php?article=8906

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่