การเสริมทีมที่ดี/แย่ที่สุดของแต่ละทีมในลีก NBA ปีนี้ ขอคัดมาลงแค่ 13 ทีมนะคะ ทีมที่เหลือจะวิเคราะห์เติมข้อมูลกันเองก็ได้นะคะ
Atlanta Hawks
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมดราฟต์ John Collins มาด้วย pick #19 Collins มีสถิติ 15.4 PPG
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมปล่อยตัว Dwight Howard ไป Hornets แบบแทบไม่ได้อะไรกลับมาเหมือนกับเอาเงิน 100 บาทไปแลกแล้วได้ของกลับมาแค่ 1 บาท ทีมเหยี่ยวเสีย Dwight ไปแต่ได้แค่ Marco Belinelli กับ Miles Plumlee กลับมา สองคนนี้อย่างมากก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง นอกจากนี้ทีมเหยี่ยวต้องยอมไปสลับอันดับดราฟต์กับทีม Hornets ด้วยเพื่อให้ดีล Dwight ผ่าน ทีมเหยี่ยวเลยตกไปได้ดราฟต์รอบ 2 pick #41 ส่วน Hornets เลื่อนอันดับดราฟต์มาได้ pick #31 แทน งานนี้นอกจากแลกตัวผู้เล่นได้ไม่คุ้มแล้ว อันดับดราฟต์ยัง downgrade อีก
Boston Celtics
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมไปได้ตัว Gordon Hayward มา HC แบรด สตีเว่นบอกว่าทีมเชลติกตอนนี้มีผู้เล่นแค่ 3 ตำแหน่งคือคนถือบอล, ปีกและพวกตัวใหญ่ ไม่ได้มีผู้เล่น 5 ตำแหน่งเหมือนทีมอื่น Hayward เป็นผู้เล่นที่ติดอันดับ 1 ใน 30 ผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มรอบเพลยออฟได้ยอดเยี่ยมฤดูกาลก่อน ก็ต้องดูว่าเขาจะเล่นเข้ากับระบบที่เชลติกไหม
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด ไม่มี จริงอยู่ที่ทีมเชลติกเสีย Avery Bradley ไปแต่เขาใกล้จะหมดสัญญากับทีมแล้ว การที่ทีมได้ตัว Marcus Morris มาแทนก็ทดแทนกันได้ ส่วนการเทรดอันดับดราฟต์กับ 76ers ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ Jayson Tatum ก็เล่น summer league ได้ดี
Charlotte Hornets
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมได้ตัว Dwight Howard มาแบบเสียอะไรไปน้อยมากแถมได้อันดับดราฟต์รอบ 2 ดีขึ้นกว่าเดิมอีก นอกจากนี้ Steve Clifford HC ของทีม Hawks เคยร่วมงานกับ Dwight มาก่อนที่ Magic ดังนั้นเขาอาจจะรู้วิธีใช้ Dwight ให้มีประสิทธิภาพเหมือนตอนที่ Dwight ฟอร์มพีกสุดๆ ก็ต้องมาดูกันว่า Clifford จะช่วยงัดฟอร์มเก่าๆ ของ Dwight ได้จริงหรือไม่
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีม Hornets ดันไปใว้ใจ MCW ไมเคิล คาร์เตอร์ วิลเลี่ยมให้เป็น backup guard สำรองเบอร์ 1 รองจาก Kemba Walker ฤดูกาลนี้ทีมชุด 2 ของ Hornets ยังน่าเป็นห่วงอยู่มาก เกมส์รับก็แย่ ผลงานของ MCW ก็ไม่ค่อยดี เขาไม่น่าจะเป็นผู้เล่นชุด 2 เลยด้วย น่าจะเป็นผู้เล่นชุด 3 ของทีมมากกว่า
Chicago Bulls
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมเซ็นตัว Christiano Felicio กลับมา ฟอร์มของเขาอาจจะไม่ได้เด่นอะไรมากคือสถิติเขาอยู่ที่ 10.9 PPG, 10.8 RB, 1.4 assists จากการลงเล่นเฉลี่ย 15.8 นาทีต่อเกมส์แต่สัญญา 4 ปี/$32 ล้านถือว่าไม่แพงเลย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีม Bulls ขายสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 อันดับ 38 ให้ทีม Warriors ไปที่ราคา $3.5 ล้าน ทำให้ทีม Warriors ไปดราฟต์ตัว Jordan Bell มา ทีม Bulls ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขายสิทธิ์ดราฟต์เลยนะเพราะปีนี้ทีมต้อง rebuild ใหม่หมด การสร้างทีมใหม่ต้องใช้ผู้เล่นดราฟต์หนุ่มๆ แต่ทีมดันไปขายสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 เอาเงินสดแทนซะงั้น ตัว Bell เองถึงก่อนดราฟต์จะบาดเจ็บจนอันดับดราฟต์หล่นไปไกลแต่เขาก็เล่นได้ดีใน summer league การที่ทีม Bulls เทรดสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไป Wolves พร้อม Butler ที่ว่าแย่แล้ว ยังแย่ไม่เท่าการที่ทีมขายสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 ให้ Warriors มันเหมือนผู้บริหารของทีม Bulls บริหารทีมมั่วไปหมด ไม่มีวิสัยทัศน์เลย
Cleveland Cavaliers
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมได้ตัว Derrick Rose มาร่วมทีมด้วยค่าตัวระดับ veteran minimum $2.1 ล้าน ค่าเหนื่อยจริงๆ ของโรสนี่ประเมินได้ค่อนข้างยาก เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ควรได้ค่าเหนื่อยระดับ max อีกแล้วแต่เขาก็ไม่ควรได้ค่าเหนื่อยน้อยขนาดนี้ ถึงจะเป็นการเสี่ยงกับทีม Cavs อยู่บ้างถ้า Rose ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแทนไครี่แล้ว Rose เกิดบาดเจ็บหนักขึ้นมาเหมือนปีก่อนๆ ทีม Cavs ก็จบเห่เลยนะ แต่ยังไงก็ถือว่าทีม Cavs โชคดีได้ของดีราคาถูกมาใช้ ยังไงก็คุ้ม
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมประกาศแยกทางไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ GM David Griffin ถือว่าทีม Cavs ไม่ฉลาดอย่างแรงที่ดันเอา GM คนเก่าออกช่วงก่อนวันดราฟต์พอดี แถมทีมเองก็ไม่ได้มีแผนสองรองรับมาก่อนว่าจะเอาใครมารับตำแหน่งแทน ตอนทีมไปติดต่อ Chauncey Billsup มารับงาน front office ทีมก็สัมภาษณ์เขาแค่คนเดียว ไม่สัมภาษณ์คนอื่นเผื่อไว้บ้างเลยและ Billsup ก็ขอเวลาตัดสินใจอีกเป็นอาทิตย์ มันก็ยิ่งเสียเวลาเข้าไปอีกเพราะทีมไม่มีคนบริหารเป็นเวลาเดือนกว่า พอ Billsup ปฏิเสธงานนี้ ทีมก็เลยตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้ Koby Altman จากผู้ช่วย GM เบอร์ 2 ก็ได้เลื่อนขึ้นมาเป็น GM คนใหม่แทน ส่วนรอง GM เบอร์ 1 ที่เคยเป็นมือขวาของ Griffin ก็ถูก Cavs ปล่อยตัวออกไปพร้อมกับ Griffin พอ Altman เข้ามาเริ่มงานก็เจองานหนักเลยทั้งเรื่องไครี่ขอเทรดและ LeBron ไม่พอใจที่ทีมไม่ได้เสริมทัพตามที่เขาต้องการ ก็ต้องดูว่าชะตากรรมของทีม Cavs จะจบลงยังไงปีนี้
Dallas Mavericks
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมดราฟต์ Dennis Smith Jr. เข้ามาด้วย pick #9 Smith เล่นช่วง summer league ได้ดี เขามีสถิติ 17.3 PPG, 4.2 assists, 2.2 steals, ยิงสามแต้มลง 34.6% ต่อเกมส์ในลีกฤดูร้อนที่ลาสเวกัส ปีนี้ Mavs ยังอยู่ในโหมด rebuild ดังนั้นผู้เล่นพลังหนุ่มที่จะก้าวมาเป็นอนาคตของทีมแทนที่ป๋า Dirk จึงสำคัญมาก
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมเลือกเก็บ Wesley Matthew ไว้ใช้ต่อ การที่ทีมตัดสินใจ rebuild สร้างทีมใหม่ก็ไม่ควรเก็บ Matthew ไว้ใช้ต่อนะ น่าจะเทรดออกไปตั้งแต่ช่วงก่อนวันดราฟต์แล้วแต่ทีมก็ไม่ทำ Matthew ตอนนี้อายุ 30 แล้วแถมเจ็บบ่อย ไม่รู้ว่าทีมจะเก็บเขาไว้ทำไม
Denver Nuggets
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมได้ตัว Paul Millsap มาจาก Hawks เขาน่าจะจับคู่เล่นกับ Nikola Jokic ได้ดี ปกติทีม Nuggets มักจะกินแห้วในตลาด FA เพราะเวลาทีมไปจีบผู้เล่นตัวดังๆ ระดับออลสตาร์ทีไร ทีมมักจะขายขนมจีบสู้ทีมอื่นไม่ได้ ค่าเหนื่อย Millsap อาจจะไม่ถูกแต่สัญญาปีที่ 3 เป็น team option ดังนั้นดีลนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนะและ Millsap ก็ไม่ค่อยเจ็บออดแอดเหมือนผู้เล่นบางคนด้วย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมมีผู้เล่น frontcourt มากเกินต้องการเช่น Tyler London, Trey Lyles และทีมก็ไปดึง Millsap มาอีก ทำให้ทีมมีผู้เล่น Power Forward หลายคน จริงๆ น่าจะปล่อยออกไปบ้าง
Detroit Pistons
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการเซ็นตัว Anthony Tolliver มา ขอให้ทุกคนลืมไปก่อนว่า Tolliver อายุ 32 แล้ว เขาเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์และสัญญา 1 ปี/$3.3 ล้านนี่ไม่แพงเลย เขาน่าจะเหมาะกับระบบของทีม Pistons ด้วย ถึงคนจะไม่ค่อยพูดถึงเขามากนักช่วงที่เขาเล่นเป็นตัวสำรองให้ทีม Kings Tolliver ยิงสามแต้มได้ดีและเกมส์รับก็คล่อง สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ถึงดูๆ แล้วเขาไม่น่าจะอยู่กับ Pistons ระยะยาวเพราะอายุมากแล้วแต่การเซ็นเขามาจะช่วยให้ทีม Pistons มีสำรองดีๆ เพิ่มโอกาสลุ้นเข้ารอบเพลยออฟสายตะวันออกที่ปีนี้อ่อนลงมาก
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีม Pistons ไป hard-cap เร็วไปด้วยการไปเซ็นตัว Langston Galloway มาด้วยสัญญา 3 ปี/$21 ล้านมาในวันเปิดตลาด free agency วันแรกเลย ใครที่อยากเรียนรู้วิธีบริหารแคปแบบผิดๆ ให้ดูทีม Pistons ปีนี้เป็นตัวอย่าง ทีมตัดสินใจผิดหลายเรื่อง ถึงทีมจะได้ Avery Bradley มาแต่เขาก็เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียวเอง การที่ Pistons เทรด Marcus Morris ไป Celtics และปล่อย KCP-Kentavious Caldwell-Pope ไปเลเกอร์ก็ดูไม่ฉลาดเลยนะ ทีมไปเซ็นตัว Galloway เร็วเกินไปแถมจ่ายค่าเหนื่อยให้เขามากเกินจริง ถ้า Pistons อดทนรออีกนิด ทีมอาจจะได้ตัวผู้เล่นอย่าง Ian Clark ในราคาถูกกว่าที่จ่าย Galloway เยอะหรือไม่ทีมก็อาจจะเจรจาตกลงต่อสัญญาระยะยาวกับ KCP ได้ถ้า KCP ยอมลดค่าเหนื่อยลงมา
Houston Rockets
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมไปเทรดคริส พอลมาจับคู่กับ Harden ตอนนี้ทีมจรวดเลยมีจอมทัพในทีมถึงสองคน
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมไปยื่นสัญญา 4 ปี/$32 ล้านให้ P.J. Tucker ที่ตอนนี้อายุ 32 แล้ว เขาไม่ควรได้สัญญายาวแบบนั้นเลย
Los Angeles Lakers
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมดราฟต์ Lonzo Ball ด้วย pick #2 ถึงพ่อของ Lonzo จะน่าหมั่นไส้แต่ Lonzo ก็โชว์ฟอร์มได้ดี เขาได้รางวัล MVP ใน summer league ปีนี้ด้วย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่เลเกอร์เอา D’Angelo Russell ไปเป็นเหยื่อล่อเทรดจากทีมอื่น จริงๆ แล้วถึงเลเกอร์จะบอกว่า D’lo ขาดความเป็นผู้นำ เเต่ทีมเลเกอร์ก็น่าจะเก็บ D’lo ไว้ใช้ต่อ พัฒนาให้เขาลงเล่นคู่กับ Lonzo ต่อไป แต่ทีมต้องการปล่อย Mozgov ออกเลยต้องเอา D’lo ไปเป็นเหยื่อล่อทีมอื่นเพราะถ้าเสนอ Mozgov คนเดียว คงไม่มีทีมไหนสนใจยอมเทรดด้วย ก็น่าเสียดายที่ D’lo ต้องไปจากทีม
Oklahoma City Thunder
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีม OKC ไปเทรดตัว Paul George มาจาก Pacers โดยที่ทีมเอา Oladipo กับ Sabonis ไปแลก และการที่ทีมได้ตัว Patrick Patterson มาด้วยสัญญา 3 ปี/$16.4 ล้าน นอกจากนี้ทีม OKC ยังต่อสัญญากับ Andre Robertson 3 ปี/$30 ล้าน summer นี้ลุงแซม GM ของทีม OKC จับอะไรก็กลายเป็นทองไปหมด มือขึ้นมาก
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมไปเลือกดราฟต์ Terrence Ferguson มาด้วย pick #21 จริงๆ ทีม OKC น่าจะเลือกดราฟต์ Frank Jackson, Caleb Swangian หรือ Josh Hart มากกว่า ปีนี้ทีม OKC ต้องการชัยชนะเพราะทีมต้องการรั้งให้ Westbrook กับ Paul George ต่อสัญญาปักหลักอยู่ที่นี่ระยะยาวดังนั้นทีมควรเลือกผู้เล่นดราฟต์ที่พร้อมที่จะก้าวมาช่วยทีมได้เลย แต่ตัว Ferguson อายุแค่ 19 ยังต้องขัดเกลาอีกเยอะและเขาคงต้องลงเล่น G-league เป็นส่วนใหญ่เพราะยังไม่พร้อมกับสนามใหญ่ NBA
Philadelphia 76ers
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมสลับอันดับดราฟต์กับเชลติกไปเลือก Markelle Fultz ทีม 76ers เอาสิทธิ์ดราฟต์ pick #3 และสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในอนาคตไปแลกกับ pick #1 ของเชลติก ทีม 76ers ก็เลยมีฉายาใหม่ว่า FEDS (Fultz, Embiid, Dario, Simmons) แถมทีมยังมี JJ Redick กับ Robert Covington เป็นตัวเสริมอีกด้วย ทีมซิกเซอร์กลายเป็นตัวเต็งเข้ารอบเพลยออฟปีนี้ไปโดยปริยาย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมยังเก็บ Jahil Okafor ไว้ใช้ต่อ จริงๆ ทีม 76ers ควรจะเทรดเขาทิ้งไปซะ จะได้มีอะไรดีๆ ติดมือกลับมาบ้าง เก็บเขาไว้แบบดองไม่ให้ลง มูลค่าก็ตกซะเปล่าๆ Okafor อดีตผลผลิตจากมหาวิทยาลัย Duke ดูท่าจะไม่ค่อยเหมาะกับระบบของ 76ers เท่าไหร่ยิ่งตอนนี้ทีมมีทั้ง Fultz และ Simmons ก็กลายเป็นตำแหน่งทับกันไป
San Antonio Spurs
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมเซ็นตัว Patty Mills กลับมา ปีก่อน Mills ได้ลงแทน Parker หลังจากที่ Parker บาดเจ็บหนัก ดูๆ แล้วผลงานของ Mills ดีกว่า Parker ที่เริ่มโรยราขึ้นทุกที การที่ทีมสเปอร์เซ็นจ้าง 4 ปี/$50 ล้านจึงถือว่าไม่แพงเลย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมสเปอร์ไปต่อสัญญากับ Pau Gasol 3 ปี/$48 ล้าน จริงๆ การที่ทีมสเปอร์จะเก็บ Gasol ไว้ก็โอเคนะแต่ทำไมทีมต้องทุ่มเงิน $16 ล้านต่อปีให้ผู้เล่นอายุ 37 แบบเขาด้วย ถึงสัญญาปีที่สามของ Gasol จะเป็นแบบการันตีบางส่วนแต่ทีมก็ต้องจ่าย $6.7 ล้านถ้าจะ waive เขาทิ้งในปีที่ 3
Source: Bleacher
คิดว่ายังไงกันบ้างคะกับการเสริมทีมของเเต่ละทีมปีนี้
การเสริมทีมที่ดี/แย่ที่สุดของแต่ละทีมในลีก 🏀 NBA ปีนี้
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมดราฟต์ John Collins มาด้วย pick #19 Collins มีสถิติ 15.4 PPG
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมปล่อยตัว Dwight Howard ไป Hornets แบบแทบไม่ได้อะไรกลับมาเหมือนกับเอาเงิน 100 บาทไปแลกแล้วได้ของกลับมาแค่ 1 บาท ทีมเหยี่ยวเสีย Dwight ไปแต่ได้แค่ Marco Belinelli กับ Miles Plumlee กลับมา สองคนนี้อย่างมากก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง นอกจากนี้ทีมเหยี่ยวต้องยอมไปสลับอันดับดราฟต์กับทีม Hornets ด้วยเพื่อให้ดีล Dwight ผ่าน ทีมเหยี่ยวเลยตกไปได้ดราฟต์รอบ 2 pick #41 ส่วน Hornets เลื่อนอันดับดราฟต์มาได้ pick #31 แทน งานนี้นอกจากแลกตัวผู้เล่นได้ไม่คุ้มแล้ว อันดับดราฟต์ยัง downgrade อีก
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมไปได้ตัว Gordon Hayward มา HC แบรด สตีเว่นบอกว่าทีมเชลติกตอนนี้มีผู้เล่นแค่ 3 ตำแหน่งคือคนถือบอล, ปีกและพวกตัวใหญ่ ไม่ได้มีผู้เล่น 5 ตำแหน่งเหมือนทีมอื่น Hayward เป็นผู้เล่นที่ติดอันดับ 1 ใน 30 ผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มรอบเพลยออฟได้ยอดเยี่ยมฤดูกาลก่อน ก็ต้องดูว่าเขาจะเล่นเข้ากับระบบที่เชลติกไหม
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด ไม่มี จริงอยู่ที่ทีมเชลติกเสีย Avery Bradley ไปแต่เขาใกล้จะหมดสัญญากับทีมแล้ว การที่ทีมได้ตัว Marcus Morris มาแทนก็ทดแทนกันได้ ส่วนการเทรดอันดับดราฟต์กับ 76ers ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ Jayson Tatum ก็เล่น summer league ได้ดี
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมได้ตัว Dwight Howard มาแบบเสียอะไรไปน้อยมากแถมได้อันดับดราฟต์รอบ 2 ดีขึ้นกว่าเดิมอีก นอกจากนี้ Steve Clifford HC ของทีม Hawks เคยร่วมงานกับ Dwight มาก่อนที่ Magic ดังนั้นเขาอาจจะรู้วิธีใช้ Dwight ให้มีประสิทธิภาพเหมือนตอนที่ Dwight ฟอร์มพีกสุดๆ ก็ต้องมาดูกันว่า Clifford จะช่วยงัดฟอร์มเก่าๆ ของ Dwight ได้จริงหรือไม่
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีม Hornets ดันไปใว้ใจ MCW ไมเคิล คาร์เตอร์ วิลเลี่ยมให้เป็น backup guard สำรองเบอร์ 1 รองจาก Kemba Walker ฤดูกาลนี้ทีมชุด 2 ของ Hornets ยังน่าเป็นห่วงอยู่มาก เกมส์รับก็แย่ ผลงานของ MCW ก็ไม่ค่อยดี เขาไม่น่าจะเป็นผู้เล่นชุด 2 เลยด้วย น่าจะเป็นผู้เล่นชุด 3 ของทีมมากกว่า
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมเซ็นตัว Christiano Felicio กลับมา ฟอร์มของเขาอาจจะไม่ได้เด่นอะไรมากคือสถิติเขาอยู่ที่ 10.9 PPG, 10.8 RB, 1.4 assists จากการลงเล่นเฉลี่ย 15.8 นาทีต่อเกมส์แต่สัญญา 4 ปี/$32 ล้านถือว่าไม่แพงเลย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีม Bulls ขายสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 อันดับ 38 ให้ทีม Warriors ไปที่ราคา $3.5 ล้าน ทำให้ทีม Warriors ไปดราฟต์ตัว Jordan Bell มา ทีม Bulls ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขายสิทธิ์ดราฟต์เลยนะเพราะปีนี้ทีมต้อง rebuild ใหม่หมด การสร้างทีมใหม่ต้องใช้ผู้เล่นดราฟต์หนุ่มๆ แต่ทีมดันไปขายสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 เอาเงินสดแทนซะงั้น ตัว Bell เองถึงก่อนดราฟต์จะบาดเจ็บจนอันดับดราฟต์หล่นไปไกลแต่เขาก็เล่นได้ดีใน summer league การที่ทีม Bulls เทรดสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไป Wolves พร้อม Butler ที่ว่าแย่แล้ว ยังแย่ไม่เท่าการที่ทีมขายสิทธิ์ดราฟต์รอบ 2 ให้ Warriors มันเหมือนผู้บริหารของทีม Bulls บริหารทีมมั่วไปหมด ไม่มีวิสัยทัศน์เลย
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมได้ตัว Derrick Rose มาร่วมทีมด้วยค่าตัวระดับ veteran minimum $2.1 ล้าน ค่าเหนื่อยจริงๆ ของโรสนี่ประเมินได้ค่อนข้างยาก เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ควรได้ค่าเหนื่อยระดับ max อีกแล้วแต่เขาก็ไม่ควรได้ค่าเหนื่อยน้อยขนาดนี้ ถึงจะเป็นการเสี่ยงกับทีม Cavs อยู่บ้างถ้า Rose ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแทนไครี่แล้ว Rose เกิดบาดเจ็บหนักขึ้นมาเหมือนปีก่อนๆ ทีม Cavs ก็จบเห่เลยนะ แต่ยังไงก็ถือว่าทีม Cavs โชคดีได้ของดีราคาถูกมาใช้ ยังไงก็คุ้ม
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมประกาศแยกทางไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ GM David Griffin ถือว่าทีม Cavs ไม่ฉลาดอย่างแรงที่ดันเอา GM คนเก่าออกช่วงก่อนวันดราฟต์พอดี แถมทีมเองก็ไม่ได้มีแผนสองรองรับมาก่อนว่าจะเอาใครมารับตำแหน่งแทน ตอนทีมไปติดต่อ Chauncey Billsup มารับงาน front office ทีมก็สัมภาษณ์เขาแค่คนเดียว ไม่สัมภาษณ์คนอื่นเผื่อไว้บ้างเลยและ Billsup ก็ขอเวลาตัดสินใจอีกเป็นอาทิตย์ มันก็ยิ่งเสียเวลาเข้าไปอีกเพราะทีมไม่มีคนบริหารเป็นเวลาเดือนกว่า พอ Billsup ปฏิเสธงานนี้ ทีมก็เลยตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้ Koby Altman จากผู้ช่วย GM เบอร์ 2 ก็ได้เลื่อนขึ้นมาเป็น GM คนใหม่แทน ส่วนรอง GM เบอร์ 1 ที่เคยเป็นมือขวาของ Griffin ก็ถูก Cavs ปล่อยตัวออกไปพร้อมกับ Griffin พอ Altman เข้ามาเริ่มงานก็เจองานหนักเลยทั้งเรื่องไครี่ขอเทรดและ LeBron ไม่พอใจที่ทีมไม่ได้เสริมทัพตามที่เขาต้องการ ก็ต้องดูว่าชะตากรรมของทีม Cavs จะจบลงยังไงปีนี้
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมดราฟต์ Dennis Smith Jr. เข้ามาด้วย pick #9 Smith เล่นช่วง summer league ได้ดี เขามีสถิติ 17.3 PPG, 4.2 assists, 2.2 steals, ยิงสามแต้มลง 34.6% ต่อเกมส์ในลีกฤดูร้อนที่ลาสเวกัส ปีนี้ Mavs ยังอยู่ในโหมด rebuild ดังนั้นผู้เล่นพลังหนุ่มที่จะก้าวมาเป็นอนาคตของทีมแทนที่ป๋า Dirk จึงสำคัญมาก
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมเลือกเก็บ Wesley Matthew ไว้ใช้ต่อ การที่ทีมตัดสินใจ rebuild สร้างทีมใหม่ก็ไม่ควรเก็บ Matthew ไว้ใช้ต่อนะ น่าจะเทรดออกไปตั้งแต่ช่วงก่อนวันดราฟต์แล้วแต่ทีมก็ไม่ทำ Matthew ตอนนี้อายุ 30 แล้วแถมเจ็บบ่อย ไม่รู้ว่าทีมจะเก็บเขาไว้ทำไม
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมได้ตัว Paul Millsap มาจาก Hawks เขาน่าจะจับคู่เล่นกับ Nikola Jokic ได้ดี ปกติทีม Nuggets มักจะกินแห้วในตลาด FA เพราะเวลาทีมไปจีบผู้เล่นตัวดังๆ ระดับออลสตาร์ทีไร ทีมมักจะขายขนมจีบสู้ทีมอื่นไม่ได้ ค่าเหนื่อย Millsap อาจจะไม่ถูกแต่สัญญาปีที่ 3 เป็น team option ดังนั้นดีลนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนะและ Millsap ก็ไม่ค่อยเจ็บออดแอดเหมือนผู้เล่นบางคนด้วย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมมีผู้เล่น frontcourt มากเกินต้องการเช่น Tyler London, Trey Lyles และทีมก็ไปดึง Millsap มาอีก ทำให้ทีมมีผู้เล่น Power Forward หลายคน จริงๆ น่าจะปล่อยออกไปบ้าง
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการเซ็นตัว Anthony Tolliver มา ขอให้ทุกคนลืมไปก่อนว่า Tolliver อายุ 32 แล้ว เขาเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์และสัญญา 1 ปี/$3.3 ล้านนี่ไม่แพงเลย เขาน่าจะเหมาะกับระบบของทีม Pistons ด้วย ถึงคนจะไม่ค่อยพูดถึงเขามากนักช่วงที่เขาเล่นเป็นตัวสำรองให้ทีม Kings Tolliver ยิงสามแต้มได้ดีและเกมส์รับก็คล่อง สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ถึงดูๆ แล้วเขาไม่น่าจะอยู่กับ Pistons ระยะยาวเพราะอายุมากแล้วแต่การเซ็นเขามาจะช่วยให้ทีม Pistons มีสำรองดีๆ เพิ่มโอกาสลุ้นเข้ารอบเพลยออฟสายตะวันออกที่ปีนี้อ่อนลงมาก
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีม Pistons ไป hard-cap เร็วไปด้วยการไปเซ็นตัว Langston Galloway มาด้วยสัญญา 3 ปี/$21 ล้านมาในวันเปิดตลาด free agency วันแรกเลย ใครที่อยากเรียนรู้วิธีบริหารแคปแบบผิดๆ ให้ดูทีม Pistons ปีนี้เป็นตัวอย่าง ทีมตัดสินใจผิดหลายเรื่อง ถึงทีมจะได้ Avery Bradley มาแต่เขาก็เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียวเอง การที่ Pistons เทรด Marcus Morris ไป Celtics และปล่อย KCP-Kentavious Caldwell-Pope ไปเลเกอร์ก็ดูไม่ฉลาดเลยนะ ทีมไปเซ็นตัว Galloway เร็วเกินไปแถมจ่ายค่าเหนื่อยให้เขามากเกินจริง ถ้า Pistons อดทนรออีกนิด ทีมอาจจะได้ตัวผู้เล่นอย่าง Ian Clark ในราคาถูกกว่าที่จ่าย Galloway เยอะหรือไม่ทีมก็อาจจะเจรจาตกลงต่อสัญญาระยะยาวกับ KCP ได้ถ้า KCP ยอมลดค่าเหนื่อยลงมา
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมไปเทรดคริส พอลมาจับคู่กับ Harden ตอนนี้ทีมจรวดเลยมีจอมทัพในทีมถึงสองคน
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมไปยื่นสัญญา 4 ปี/$32 ล้านให้ P.J. Tucker ที่ตอนนี้อายุ 32 แล้ว เขาไม่ควรได้สัญญายาวแบบนั้นเลย
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมดราฟต์ Lonzo Ball ด้วย pick #2 ถึงพ่อของ Lonzo จะน่าหมั่นไส้แต่ Lonzo ก็โชว์ฟอร์มได้ดี เขาได้รางวัล MVP ใน summer league ปีนี้ด้วย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่เลเกอร์เอา D’Angelo Russell ไปเป็นเหยื่อล่อเทรดจากทีมอื่น จริงๆ แล้วถึงเลเกอร์จะบอกว่า D’lo ขาดความเป็นผู้นำ เเต่ทีมเลเกอร์ก็น่าจะเก็บ D’lo ไว้ใช้ต่อ พัฒนาให้เขาลงเล่นคู่กับ Lonzo ต่อไป แต่ทีมต้องการปล่อย Mozgov ออกเลยต้องเอา D’lo ไปเป็นเหยื่อล่อทีมอื่นเพราะถ้าเสนอ Mozgov คนเดียว คงไม่มีทีมไหนสนใจยอมเทรดด้วย ก็น่าเสียดายที่ D’lo ต้องไปจากทีม
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีม OKC ไปเทรดตัว Paul George มาจาก Pacers โดยที่ทีมเอา Oladipo กับ Sabonis ไปแลก และการที่ทีมได้ตัว Patrick Patterson มาด้วยสัญญา 3 ปี/$16.4 ล้าน นอกจากนี้ทีม OKC ยังต่อสัญญากับ Andre Robertson 3 ปี/$30 ล้าน summer นี้ลุงแซม GM ของทีม OKC จับอะไรก็กลายเป็นทองไปหมด มือขึ้นมาก
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมไปเลือกดราฟต์ Terrence Ferguson มาด้วย pick #21 จริงๆ ทีม OKC น่าจะเลือกดราฟต์ Frank Jackson, Caleb Swangian หรือ Josh Hart มากกว่า ปีนี้ทีม OKC ต้องการชัยชนะเพราะทีมต้องการรั้งให้ Westbrook กับ Paul George ต่อสัญญาปักหลักอยู่ที่นี่ระยะยาวดังนั้นทีมควรเลือกผู้เล่นดราฟต์ที่พร้อมที่จะก้าวมาช่วยทีมได้เลย แต่ตัว Ferguson อายุแค่ 19 ยังต้องขัดเกลาอีกเยอะและเขาคงต้องลงเล่น G-league เป็นส่วนใหญ่เพราะยังไม่พร้อมกับสนามใหญ่ NBA
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมสลับอันดับดราฟต์กับเชลติกไปเลือก Markelle Fultz ทีม 76ers เอาสิทธิ์ดราฟต์ pick #3 และสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกในอนาคตไปแลกกับ pick #1 ของเชลติก ทีม 76ers ก็เลยมีฉายาใหม่ว่า FEDS (Fultz, Embiid, Dario, Simmons) แถมทีมยังมี JJ Redick กับ Robert Covington เป็นตัวเสริมอีกด้วย ทีมซิกเซอร์กลายเป็นตัวเต็งเข้ารอบเพลยออฟปีนี้ไปโดยปริยาย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมยังเก็บ Jahil Okafor ไว้ใช้ต่อ จริงๆ ทีม 76ers ควรจะเทรดเขาทิ้งไปซะ จะได้มีอะไรดีๆ ติดมือกลับมาบ้าง เก็บเขาไว้แบบดองไม่ให้ลง มูลค่าก็ตกซะเปล่าๆ Okafor อดีตผลผลิตจากมหาวิทยาลัย Duke ดูท่าจะไม่ค่อยเหมาะกับระบบของ 76ers เท่าไหร่ยิ่งตอนนี้ทีมมีทั้ง Fultz และ Simmons ก็กลายเป็นตำแหน่งทับกันไป
การเสริมทีมที่ดีที่สุด คือการที่ทีมเซ็นตัว Patty Mills กลับมา ปีก่อน Mills ได้ลงแทน Parker หลังจากที่ Parker บาดเจ็บหนัก ดูๆ แล้วผลงานของ Mills ดีกว่า Parker ที่เริ่มโรยราขึ้นทุกที การที่ทีมสเปอร์เซ็นจ้าง 4 ปี/$50 ล้านจึงถือว่าไม่แพงเลย
การเสริมทีมที่แย่ที่สุด คือการที่ทีมสเปอร์ไปต่อสัญญากับ Pau Gasol 3 ปี/$48 ล้าน จริงๆ การที่ทีมสเปอร์จะเก็บ Gasol ไว้ก็โอเคนะแต่ทำไมทีมต้องทุ่มเงิน $16 ล้านต่อปีให้ผู้เล่นอายุ 37 แบบเขาด้วย ถึงสัญญาปีที่สามของ Gasol จะเป็นแบบการันตีบางส่วนแต่ทีมก็ต้องจ่าย $6.7 ล้านถ้าจะ waive เขาทิ้งในปีที่ 3
Source: Bleacher
คิดว่ายังไงกันบ้างคะกับการเสริมทีมของเเต่ละทีมปีนี้