"เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ถ้าเปลี่ยนแล้วแย่กว่าไม่ใช่บุ๊คโกะ" สโลแกนความสวยของ ดีเจบุ๊คโก๊ะ หนึ่งในคนดังที่มีพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงทั้งรูปร่างและหน้าตาที่ได้มาจากการศัลยกรรมจนตอนนี้หลายคนจนให้ บุ๊คโกะ เป็นไอคอนทางด้านการศัลยกรรม

แต่ไม่ใช่ว่าความสวยที่เห็นอยู่นี้จะไม่ได้มีปัญหา วันนี้ Sanook! Women จะพาไปล้วงลับข้อมูลการบินตรงศัลยกรรมที่เกาหลี กว่าจะสวยเริ่ดเชิดได้ขนาดนี้ ต้องทำอะไรมาบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ตามมาดูกันเลย

จุดเริ่มต้นในตัดสินใจทำศัลยกรรมที่เกาหลี

บุ๊คโกะตัดสินใจบินไปเกาหลีเพราะอยากทำใหม่ทั้งหน้า อยากได้หน้าสไตล์เกาหลี เริ่มไปทำตั้งแต่ประมาณ 3 ปีที่แล้ว คืออยากยกหน้าเปลี่ยนทุกอย่าง ทำตา ทำจมูก ทำคาง ทำปากเย็บขึ้นไปแต่ปัญหาของเราในการทำคือ จมูกเราเป็นคนเนื้อเยอะ บุ๊คโก๊ะต้องขุดของเก่าออก ต้องการวางโครงใหม่ทั้งหมด เอากระดูดหลังหูเป็นปลายจมูก แล้วก็เหลซิลิโคนใหม่ใช้เนื้อเทียมหุบทำเป็นทรงจมูกใหม่ ซึ่งค่อนข้างที่จะลำบากกับการทำจมูก เพราะทรงจมูกเราแก้ยาก

ตา จะเป็นการเปิดหัวตา เปิดหางตา เซาะใต้ตา ทำให้ตาโตขึ้น ตอนนั้นกำลังฮิตดอลลี่อายแต่เราก็ไม่เอาเยอะมาก โชคดีที่พอมีอยู่แล้ว

ปาก มีไฝ่ที่ปากเลยไม่กล้ากรีดปาก หมอก็เลยตัดส้นจมูก เย็บขึ้นไปเพื่อให้ปากเฉิดขึ้น

คาง หมอแนะนำไม่ให้เสริมเป็นซิลิโคน เพราะเรามีอยู่แล้ว แต่คางบุ๊คโกะจะตรง หมอเลยให้ตัดคางแล้วบิดมาข้างหน้า ด้ามใหม่คล้ายๆ กับกระดูกที่หน้าหัก

นอกจากนั้นก็มี เซาะหลังหู ดูดไขมันทั้งหน้า

หลังจากทำครั้งแรกก็ยังไม่ประสบความสำเร็จทั้งหมด เพราะเราอ้วนอยู่ เราก็ยังมีส่วนที่ไม่ชอบ คราวนี้เลยเปลี่ยนที่ใหม่ ทำจมูกใหม่ ทรงจมูกใหม่ ยกหน้าใหม่ เก็บหน้าใหม่ คือตอนแรกไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่เราไม่ชอบทรงนั้นเราก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

จนตอนนี้บุ๊คโกะเพิ่งไปเก็บวีเชฟขึ้นมา เก็บหลังหู ซึ่งแบบใช่เป็นคล้ายๆ กับรอยไหม สลบไป 2 ชั่วโมง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มา พอใจมาก หน้าเราเป็นวีเชฟเลย

ศัลยกรรมต้องรอเวลานะ เมื่อหลายปีที่แล้วบุ๊คโกะทำมา ข่าวก็แชร์ว่าบุ๊คโกะเจอพิษศัลยกรรม หน้าบวมมาก เหมือนต่อมน้ำเหลือบวม แล้วตอนนี้เป็นยังไง ต้องมาซูฮก ของแบบนี้เราปล่อยเลย เพราะว่าเรามีความฝันอยากจะเป็นไอคอนทางด้านการศัลยกรรม เรื่องความสวยความงาม ถึงเราจะไม่ใช่ระดับนางเอกแต่เราก็ก้าวผ่านสิ่งที่เราเคยอยุ่จุดที่ย้ำแย่มาแล้ว ชาตินี้ไม่สวยก็ทำมันซะเลย ตอนนี้เราได้เงินคืนมาจากที่หมดไปเป็นล้านๆ จากงานของเรา

หลังจากที่เราหน้าแล้ว งานบิวตี้ การเกี่ยวกับการกิน สกินแคร์รวมถึงผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักของบุ๊คโกะ ก็เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิมยม บุ๊คโกะก็ไม่แคร์ ใครที่ว่าดูดไขมันถึงผอม ถ้าใครรู้จริงๆ จะรู้ว่าการดูดไขมันไม่ได้ทำให้เราผอมทั้งร่างกาย เราต้องดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก เราต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย

การทำศัลยกรรมที่ไทยกับที่เกาหลี ต่างกันยังไง

ต้องบอกว่าบุ๊คโกะไม่ชอบหน้าตอนทำที่ไทยเลย ไม่ได้อะไรนะ คือไม่ชอบทรง ไม่ได้ไม่ชอบหมอ อยากได้ทรงเกาหลีเลยบินไปทำเกาหลี หลายๆ คน บอกหมอไทยก็เก่ง ใช่เก่ง แต่คนละแบบที่ชอบ เหมือนบางคนชอบสไตล์ยุโรปก็บินไปทำที่ยุโรป แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล

ส่วนไหนที่ทำแล้วชอบที่สุด

ตากับจมูก แล้วก็ชอบโครงหน้าตอนนี้มาก บุ๊คโกะเป็นคนตากวาง ตาหวาน เวลาบุ๊คโกะเบิ่งตา กล้ามเนื้อตาข้างในจะยกขึ้นด้วย โชคดีที่หมอทำสวย ถ้าใครเคยเห็นรูปที่แชร์ในอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่หน้าแรกไม่มีใครคิดหรอกค่ะว่าวันนี้จะมีบุ๊คโกะ หน้าแบบนี้ได้ ซึ่งมันพีคสุดๆ ขนาดแม่ยังบอกเลยว่า มันเป็นการผ่านพันธุกรรม จากโครมันยองแต่เราเดินมาจุดนี้ได้ เราไม่แปลกใจเลยที่เราจะกลายเป็นไอคอนเรื่องการศัลยกรรม

ค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมรวมแล้วเท่าไหร่

ทั้งหมดที่ทำมาในชีวิต หมดไปประมาณ 3 ล้านบาท ทำหน้าไม่ใช่ว่ารอบเดียวจะจบ มันต้องมีการเก็บโบท็อค ฟิลลิ่ง รอยไหม ฉีดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องดูแลผิว เข้าเครื่องออกซิเจน ไม่ใช่ทำเสร็จแล้วออกมาสวยเลย เพราะถ้าคุณไม่ดูแล หลังการผ่าตัดคุณต้องเสียเงินไปแก้ หน้าบุ๊คโกะมีส่วนที่เป็นแผลเป็นคีลอยด์น้อยมาก เพราะเราให้ความสำคัญเรื่องรอยแผลเป็น ซึ่งการรักษารอยแผลเป็นราคาสูงพอๆ กับการทำศัลยกรรมเลยนะคะ

ในอนาคตอยากศัลยกรรมอะไรเพิ่มอีกบ้างหรือเปล่า

มีแพลนว่าจะกลับไปแก้ตา เพราะตอนนี้กำลังนิยมตาชั้นเล็กๆ มากกว่า คือจะเป็นตาสองชั้นแต่จะเล็ก และว่าจะไปเอาเนื้อตาออกนิดนึง อยากได้หน้าแบบเอเชียลุค เพราะปีหน้าจะมีงานใหม่ที่อยากทำมานานตั้งแต่เกิด ต้องปรับลุคให้ดูอินเตอร์มากขึ้น เพราะตาตอนนี้มันหวานจริง แต่อยากให้ตาดูเป็นผู้ชายนิดนึง  

รูปร่างหุ่นเพรียวล่าสุด ไม่เหลือภาพอวบในอดีต ทำได้อย่างไร

ที่ผ่านมาเคยดูดไขมันนะ เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งใครที่ติดภาพนั้น บุ๊คโกะจะบอกเลยว่า การดูดไขมันไม่ได้ทำให้น้ำหนักลดลงไปเป็น 10 กิโล ไขมันเป็นมวลเบา ดูดแล้วสามารถกลับขึ้นมาได้ถ้าเราไม่ดูแล บุ๊คโกะกินยา และควบคุมด้วยการออกกำลังกาย ถึงทำให้หนักลงไปจาก 130 เหลือ 80 กิโล ออกกำลังกายด้วยการจ้างเทรนเนอร์ เดินบนลู่วิ่ง  เราเป็นคนอ้วนมาก่อน เวลาวิ่งเราจะเจ็บเข่า ต้องเริ่มเดิน เดินเร็วขึ้นๆ ให้ร่างกายปรับตัว

เห็นความดูดีที่ได้จากการศัลยกรรมมาแบบนี้ บุ๊คโกะ อยากฝากบอกทุกคนว่า การศัลยกรรมต้องศึกษาเป็นอย่างดี ต้องให้คนที่มีความเชี่ยวชาญ หมอเองก็ต้องได้การยอมรับ ไม่อย่างนั้นจะพังไม่รู้ตัว



เครดิต : http://women.sanook.com/65385/