ซีเกมส์ที่จะจัดในปี 2019 นั้น จริงๆแล้วเป็นคิวของฟิลิปปินส์
แต่เนื่องจากทางฟิลิปปินส์เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก่อน (อันนี้พอเข้าใจได้) จึงขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ซึ่งตรงกับคิวจัดของฟิลิปปินส์พอดี เพราะต้องการนำงบประมาณ มาพัฒนาเมืองมาราวี ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบอย่างหนักระหว่าง กองกำลังรักษาความปลอดภัยของฟิลิปปินส์กับกลุ่มไอเอส ซึ่งถ้าใครตามข่าวก็จะเห็นสภาพบ้านเรือนพังพินาศย่อยยับเลยทีเดียว ต้องฟื้นฟูกันขนานใหญ่

ซึ่งทำให้ต้องการสรรหาเจ้าภาพแทนฟิลิปปินส์ โดยหนึ่งในนั้นมีไทย ที่เสนอตัวจัด และนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์แทนฟิลิปปินส์ในปี 2019

และมีข่าวว่า ทางเวียดนาม ก็เป็นอีกประเทศที่จะเสนอตัวแข่งกับไทยจัดแทนฟิลิปปินส์

งงในงง ก็คือ
สื่อของเวียดนามให้ข่าวตอนที่ถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ว่า ได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าจากการจัด ไม่ได้ส่งผลต่อการพัฒนาการกีฬาของประเทศมากพอ โดยเทียบกับไทยว่า ไทยเคยจัดเอเชียนเกมส์มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นจะมีผลกับการพัฒนากีฬาอะไรของไทย คือ ไทยเสนอตัวแค่ 2 ครั้ง ส่วนอีก 2 ครั้ง จัดแทนประเทศอื่น แถมตอนที่จัดแทนเกาหลี ก็แทบไม่ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินด้วยซ้ำ เพราะถูกขอร้องแกมบังคับให้จัด
(แต่เหงียนเติ๊นสุง นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน โดยอ้างว่าปัญหาเศรษฐกิจและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ)

งงมากที่ ตอนเสนอตัวไม่ได้คิดถึงประเด็นนี้ พอเสนอตัว บิดได้ ได้รับสิทธิจัด กลับเพิ่งคิดได้ ว่าไม่ได้ช่วยพัฒนาการกีฬาหรือภาพลักษณ์ประเทศเท่าไหร่ เลยเลิกจัด ซึ่งถ้าเหตุผลที่อ้างมานี้เป็นสิ่งที่ออกจากปากของผู้ใหญ่ของเวียดนามจริงๆ ก็คงต้องบอกว่า แสดงว่าทีมงานที่เสนอตัวจนได้รับคัดเลือก คงจะ........สุดๆไปเลยครับ ประเด็นง่ายๆแค่นี้ ก่อนจะเสนอตัวจัดแข่งกลับคิดไม่ได้ มาคิดได้เอาตอนที่ได้สิทธิจัดแล้ว ก็เลยยกเลิก ทำเหมือนเด็กเล่นขายของ พอไม่อยากเล่นก็บอกไม่เล่นไปซะเฉยๆ

สุดท้ายก็ยกเลิก โดยมีอินโดนีเซียได้รับสิทธิ์จัดแทน

แต่ๆๆๆๆๆ
เวียดนามบอกว่า การเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ ไม่ได้ช่วยพัฒนาการกีฬาของเวียดนาม
แต่ดันจะเสนอตัวจัดซีเกมส์แทนฟิลิปปินส์
แปลว่ากีฬาซีเกมส์ที่อุดมไปด้วยกีฬาพื้นบ้าน จะช่วยพัฒนาการกีฬาของเวียดนามได้ดีกว่างั้นเหรอ

งงกับ (สื่อ) เวียดนาม