อ่านไพ่ทาโรต์บูชาครูวันพฤหัส (๒๘/๒๕๖๐) ไพ่สามใบ - Delayed

กระทู้สนทนา

คำแนะนำที่ท่านได้รับจะช่วยให้ท่านตัดสินใจได้ว่าจะเดินออกมาหรือหันหลังกลับไปแก้ไขปัญหาที่คาราคาซัง


กติกาเดิมครับ

ปิดกระทู้ที่ คห. 36 และ ตอบเฉพาะความเห็นที่ตั้งคำถามเป็นปลายเปิด ตามที่ชี้แจงไว้ด้านล่างนะครับ
รบกวนใช้อุปกรณ์หน้าจอสัมผัสนะครับ กระทู้ก่อนเห็นมีถ่ายหน้าจอคอมมาหลายคน เดี๋ยวผลทำนายไม่แม่นโทษผมไม่ได้นะ 555+


เพื่อให้การทำนายมีความแม่นยำ ขอให้ผู้สนใจปฏิบัติตามนี้นะครับ ถ้าผิดเงื่อนไขขอผ่านครับ

1. เตรียม*อุปกรณ์หน้าจอสัมผัส (เช่น แท็บเล็ต โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่สั่งการแบบทัชสกรีน)  ให้พร้อม

2. ตั้งคำถามแบบปลายเปิด โดยโฟกัสที่คำถามเดียวให้ชัดเจน
*ไม่ตอบคำถามแบบ ใช่หรือไม่ ได้หรือไม่ ถูกหรือผิด
*ไม่ตอบพื้นดวง พยากรณ์ทั่วไป

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับคนที่คบกันอยู่จะเป็นอย่างไรต่อไป
ให้ตั้งคำถามว่า (สมมติว่าชื่อ น้องชมฯ)​ "ความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับน้องชมฯ จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต"
หรือ อยากรู้ว่า ผลการสมัครงานจะได้หรือไม่
ให้ตั้งคำถามว่า "ข้าพเจ้าไปสมัครงาน/สัมภาษณ์งานที่ บริษัท xxx ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรบ้าง"
หรือ อยากรู้ว่า ถ้าลาออกจากงานตอนนี้จะดีไหม
ให้ตั้งคำถามว่า "ถ้าข้าพเจ้าลาออกจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้ จะส่งผลอย่างไรกับชีวิตข้าพเจ้าบ้าง/ ชีวิตข้าพเจ้าจะเป็นอย่างไรต่อไป"

เมื่อได้คำถามแล้ว ให้ทดไว้ในใจก่อนครับ

3. ก่อนการทำนายขอให้ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระอาจารย์​หรือบุคคลที่ท่านเคารพ
ขอให้ท่านช่วยเปิดทางชี้นำชีวิตในสิ่งที่เราอยากรู้อยากทราบ

4. ถามคำถามที่เตรียมเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงสัมผัสลิงค์บนหน้าจออุปกรณ์เพื่อจับไพ่ผ่านลิงค์
*โดยใช้อุปกรณ์หน้าจอสัมผัสเท่านั้น
http://www.astrosimple.com/tarot/index.php?item=tarot3

*เนื่องจากการเปิดไพ่สามใบเป็นการทำนายที่ค่อนข้างเบสิค ท่านไหนสะดวกใช้ไพ่จริงหรือจะจับจากเวปที่สะดวกก็ตามใจครับ
สิ่งที่สำคัญคือขอให้ใช้อุปกรณ์หน้าจอสัมผัสเพื่อให้สามารถสื่อพลังงานได้เต็มที่ (กรณีที่ไม่ได้จับไพ่จริง) และกำหนดจิตตั้งคำถามให้ถูกต้องครับ

5. บันทึกภาพหน้าจอ แล้วนำมาโพสท์ในความเห็นของคุณพร้อมคำถามครับ



#ภาพจากบทความของคุณพิชชารัศมิ์ (ดีมากเช่นกัน)
http://www.marumura.com/dare-to-be-hated/


สัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือชื่อ "กล้าที่จะถูกเกลียด"​ แล้วก็รู้สึกประทับใจมาก จึงได้นำมาแนะนำให้เพื่อนๆ เผื่อว่าจะสนใจลองไปหยิบอ่านกันดูนะครับ โดยในเนื้อหานั้นอธิบายหลักปรัชญาของนักจิตวิทาชาวตะวันตกที่ผมมองแล้วว่า เหมือนเป็นการหยิบเองแก่นของพระพุทธศาสนามาอธิบายในสไตล์แบบจิตวิทยา ทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ และเข้าใจชีวิตมากขึ้น

เนื้อหาด้านล่างหยิบยืมมาจากเว็บไซต์ SkillLane  นะครับ เพราะเห็นว่ามีคนทำไฮไลท์เอาไว้แล้วจึงไม่อยากเสียเวลาไปทำซ้ำอีก

คุณต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและมีความสุข ณ ปัจจุบันไหมครับ?

ผมเชื่อว่าเราทุกคนล้วนอยากพัฒนาตัวเอง หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น
แต่คุณเชื่อจริงๆหรือไม่ว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้และมีความสุข ณ ตอนนี้ได้เลย


“กล้าที่จะถูกเกลียด” เป็นหนังสือโดยชาวญี่ปุ่น 2 คนที่ศึกษาหลักจิตวิทยาของอัลเฟรด แอดเลอร์
หนังสือเล่มนี้กล่าวไว้ว่า “คนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ และโลกใบนี้ก็เรียบง่ายจนไม่ว่าใครก็สามารถมีความสุขได้”
วันนี้ผมนำ 5 ข้อคิดที่ไม่ธรรมดา จากหนังสือเล่มนี้มาฝากกัน
ใครอ่านแล้วชอบ ตามไปอุดหนุนหนังสือจาก สำนักพิมพ์วีเลิร์น ได้เลยนะครับ

1. ไม่มีใครที่เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ - เลิกยึดติดกับอดีต

ไม่ว่าอยู่ในช่วงเวลาไหน สภาพแวดล้อมแบบไหน คนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เสมอ
ที่คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะคุณตัดสินใจว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงต่างหาก
ถึงจะไม่พอใจหลายอย่าง แต่คนเราก็เลือกที่จะอยู่กับ ตัวตนในแบบที่เป็นอยู่ เพราะมันช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายและอุ่นใจกว่า

คำตอบของการเปลี่ยนแปลงตัวเองคือ ตัดสินใจเลิกใช้ชีวิตในแบบที่เป็นอยู่
ตราบใดที่คุณผูกติดกับคำว่า “ถ้า” เช่น “ถ้าฉันทำแบบนี้” คุณก็จะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย

2. คุณรู้สึกทุกข์ เพราะคุณเลือกที่จะมีความทุกข์เอง - ทุกข์หรือสุข ใจเรากำหนด
คุณไม่ได้ทุกข์เพราะสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย คุณไม่ได้ทุกข์เพราะเจอสิ่งที่ไม่ดี
คุณรู้สึกทุกข์ เพราะคุณตัดสินใจว่า ความทุกข์ส่งผลดีต่อตัวคุณ
เพราะความทุกข์ให้ประโยชน์กับคุณบางอย่าง

เคยเจอคนที่ชอบพร่ำบ่น หรือมีอะไรต้องมาระบาย มาปรับทุกข์ไหมครับ
เคยเจอคนที่ทุกข์แล้วเก็บตัว ไม่ยอมพูดคุยกับใครไหมครับ
คนประเภทนี้รู้สึกต่ำต้อย จนต้องใช้ความทุกข์เป็นเครื่องมือ ให้ตัวเองเป็น “คนพิเศษ”
มันคือการเอาความทุกข์ของตัวเองมาใช้เป็นอาวุธเพื่อควบคุมคนอื่น

แต่อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่คุณยังเอาความทุกข์มาเป็นอาวุธเพื่อทำให้ตัวเองเป็นคนพิเศษ
คนคนนั้นก็จำเป็นต้องพึ่งพาความทุกข์ไปตลอดกาล

3. อิสรภาพคือการถูกคนอื่นเกลียด - ข้อนี้จริงๆ เราไ่ม่ต้องทำให้คนอื่นเกลียดเราหรอกครับ แค่รู้จักเลือกที่จะทำหรือไม่ทำในสิ่งที่คนอื่นคาดหวังเท่านั้นเอง
คนเราทุกคนล้วนอยากได้การยอมรับจากผู้อื่น
แต่ยิ่งเราแสวงหาการยอมรับเท่าไร เราก็ยิ่งถูกพันธนาการมากขึ้นเท่านั้น

การใช้ชีวิตเพื่อเติมเต็มความคาดหวัง หรือฝากชีวิตของตัวเองไว้กับคนอื่น
คือการโกหกตัวเองและคนรอบข้างไปวันๆ
ความกล้าที่จะมีความสุข ต้องอาศัยความกล้าที่จะถูกเกลียด
ตราบใดที่คุณยังไม่เลิกสนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ ยังกลัวที่จะถูกเกลียด ยังอยากได้การยอมรับ
คุณก็ไม่สามารถใช้ชีวิตตามที่ตนเองปรารถนาได้

4. คุณไม่ใช่ศูนย์กลางของโลก - ยอมรับ เข้าใจธรรมชาติของตัวเอง
คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตราวกับว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก
คนแบบนี้จะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าคนอื่นคิดกับตัวเองอย่างไร
มองว่าตัวเองเป็นอย่างไร หรือจะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้มากแค่ไหน
คนแบบนี้ดูเผินๆเหมือนเขากำลังคิดถึงคนอื่นอยู่
แต่แท้จริงแล้วพวกเขากำลังมองแต่ตัวเอง ใส่ใจแต่ตัวเอง และไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนอื่นเลย

จริงๆแล้วคุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเท่านั้น
และเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องก้าวไปสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยตัวเอง
ไม่ใช่คิดว่า “คนคนนี้จะให้อะไรกับเราได้บ้าง”
แต่ต้องคิดว่า “เราจะให้อะไรกับคนคนนี้ได้บ้าง”

5. การช่วยเหลือคนอื่นคือการทำเพื่อตัวเอง - การทำบุญ
นิยามของความสุข ในหนังสือเล่มนี้ คือ “การรู้สึกว่าได้ช่วยเหลือคนอื่น”
ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทำให้คุณช่วยคนอื่นได้อย่างไร้เงื่อนไข
ถ้าคุณช่วยคนอื่นเพราะอยากได้การยอมรับ คุณก็จะไม่เป็นอิสระ
การช่วยเหลือคนอื่นจึงไม่ใช่การอุทิศตนจนถึงขั้นละทิ้งตัวเอง
แต่เป็นการทำเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าต่างมาก

ถ้าเราช่วยเหลือผู้อื่นจากใจจริง จะได้รับการยอมรับหรือไม่ ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป
เพราะเรารู้สึกได้เองว่า “ฉันมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อใครสักคน”
และนั่นแหละครับ คือความสุขที่แท้จริง

ท่านที่สนใจอ่านเนื้อหาจากหน้าเวป สามารถอ้างอิงตามลิงค์ไปได้เลยครับ แต่อยากแนะนำว่าถ้ามีเวลาลองไปหาตัวหนังสือจริงๆ มาอ่านดูครับ
https://www.skilllane.com/blog/5-lessons-learned-from-daretobehated
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ดูดวงไพ่ยิปซี
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่