ก่อนอื่นต้อง ขอแสดงความยินดีกับหน้ากากซูโม่ ที่ชนะใจคนทั้งประเทศนะครับ

สำหรับผม ที่เลือกเชียร์เสือจากัวร์ ก็ทำใจมาแต่เนิ่นๆ แล้วครับ
แต่สิ่งที่ พี่บี เลือกเพลงมาร้องตอนเป็นหน้ากากเสือจากัวร์นั้น
ทำให้ผมรู้สึกถึงบางสิ่ง ก็เลยเขียนลงเฟซบุ๊กตัวเอง
ลองอ่านเอง ก็อยากจะเอามาเขียนลงที่นี่ด้วยครับ

โดยเฉพาะเพลง You Rise Me Up กับ Run to You....
และ การเปิดใจถึงเหตุผลที่เลือกหน้ากากของพีบีนั้น
โดนใจสุดๆ ทำให้ย้อนกลับไปดูตัวเอง และ สิ่งที่เรารักสิ่งหนึ่งด้วย

ในส่วนของรายการ ผมสารภาพตรงๆ ว่า
เลิกดูมาตั้งแต่รอบ Final Group B เพราะเซ็งผลสปอย
แต่ในวันชิงแชมป์นี้
ผมลองกลับไปฟังการร้องเพลง ของเสือและโม่
ผมยอมรับว่า โม่ร้องดีกว่าเสือ และทำใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น (ก็คือโม่ชนะ)
แต่เสือก็ร้องดีเช่นกันครับ

เมื่อผมทวนฟังเพลงที่เสือจากัวร์ร้อง ผมไปสะดุดกับเพลง Run To You
ก็เลยเขียนลงเฟซตัวเองแบบนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพลงนี้ ทำสะดุดให้นึกถึงคนที่เรารักคนหนึ่ง
มันตอกย้ำว่า การที่เรา... อยู่ชอบและรักคนๆ นั้น
เป็นสิ่งที่ผิดด้วยหริอ?

ถ้ามีใครมาบอกให้เราห่างไปจาก "คนนั้น"
ต้องออกไปจาก "คนนั้น"

จะถือถือว่าคำพูดนั้นเป็นความ "ใจร้าย"
ที่ "ปิดกั้น" ความคิดของเรา... และอาจจะ "ฆ่า" เราได้
เพราะคนๆ นั้น...
ดึงเราออกมาจากความคิดอยากฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว
ถ้าเราตาย... แล้วคนๆ นั้นจะออกมาให้สังคมเห็นอย่างไร
เราก็เลยทำเพื่อคนๆ นั้น...
เราเป็นมิตรที่ดีกับคนๆ นั้น มาก...
ซึ่งทำให้เรารู้ว่า "ชีวิตนั้นสำคัญมากๆ"

ชีวิตเราถูกปิดกั้นมาหลายอย่างแล้ว
จากการชี้ถูกชี้ผิดจากข้างนอก
ทำให้เรารู้สึกว่า ทำอะไรก็ผิดไปหมด...

ขอให้ความฝันของที่จะทำนั้น
ขอให้เป็นตัวของตัวเองที่สุด
ผีดถูกอย่างไร ค่อยว่ากัน (ไม่ด่ากัน)

แต่การที่เราจะคิดถึงคนๆ นั้น
อย่ามองว่าเป็นสิ่งที่ผิดเลย
เพราะมันไม่มีผิดไม่มีถูกหรอก

เพราะเพลงนี้... สื่อถึงความรู้สึกเราชัดเจน...
เราจะไม่ยอมแยกไปจากคนๆ นั้น
เพราะนั่น เป็นที่ๆ พักใจ
เป็นกำลังใจสำคัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้
เราคิดถูกที่จะเดินตามฝันของตัวเอง
เพราะจะได้เป็น "ตัวของตัวเอง"
ถ้าจะห้ามไม่ให้ทำแบบนั้น
เท่ากับ ห้ามให้เรามีชีวิตอยู่อีกด้วย...


และพอมาฟังเหตุผลที่ พี่บีเลือกหน้ากาก
มันตรงใจมากก็เลยเขียนออกมาดังนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราก็คงเป็นเหมือน #หน้ากากเสือจากัวร์
(ที่เปิดหน้ากากออกมาแล้วเป็น บี พีระพัฒน์ Be Peerapat)
บางครั้งก็ทำตัวเห็นแก่ตัวมากเกินไป

แต่ถ้ามันจำเป็นเพื่อความฝัน... ก็คงจะต้องพึ่งใครสักคน
เราอยากจะเป็นแสงดาว สอดส่อง อยากให้มีคนชื่นชม
อยากจะแข็งแกร่ง เป็นที่พึ่งพาได้

แต่ย้อนกลับมาตัวเอง... มันช่างตรงกันข้ามกันทุกอย่าง...
ดูอ่อนแอ อ่อนด้อย ถูกมองข้าม
เป็นที่น่ารังเกียจของสังคม...
แม้กระทั่งครอบครัวของตัวเอง ก็เป็นส่วนเกิน
เพื่อนญาติทุกคนไปได้ดี เป็นแสงดาวกันหมดแล้ว

เราก็คงจะเป็นแค่สัตว์นรก เป็นปรสิต กาฝากเกาะกินไปวันๆ
แถมเป็นไอ้ขี้แพ้ที่เป็นตัวแทนแห่งความอับอาย
ให้สังคมเยาะเย้ย

เราเป็นคนที่งี่เง่าเหมือนโนบิตะ
จืดจางไร้ความสนใจเหมือนคุโระโกะ
แต่เราจะเป็น "นารุโตะ" เพื่อแสดงความเด็ดเดี่ยว
ในความฝันสิ่งที่ทำ ไม่ว่าใครจะมองว่า "บ้า" ก็ตาม

และชีวิตของเรา อยู่เพื่อ... สิ่งที่เรารักสิ่งหนึ่ง

ขอบคุณหน้ากากเสือจากัวร์ บี พีระพัฒน์
ที่มาตอกย้ำว่า... เราจะไม่ทิ้งฝัน
เพราะการที่ได้ทำในสิ่งที่รัก
ทำให้ชีวิตมีความหมาย
ยิ่งมองไปที่สิ่งที่เรารัก ยิ่งทำให้ชีวิตมีความหมายขึ้นมาก
ขอบคุณทีร้องเพลง Run to you นะ
เราจะ Run to the Dream บ้าง
เราจะไม่ทิ้งฝัน เพื่อให้อนาคตของตัวเองดีเหมือนญาติๆ บ้าง...


สิ่งที่พี่บีพูดหลังถอดหน้ากาก... นั้นใช่ชีวิตผมที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ครับ
ขอบคุณพี่บีมากๆ ที่สวมหน้ากากเสือจากัวร์ มาร้องเพลงสร้างความสุข
โดยเฉพาะเพลง Run to you ที่เอามาร้องครับ


* ขอแท็กปัญหาชีวิตกับสุขภาพจิตครับ เพราะผมก็มีความน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิตตัวเอง