** ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ ^^
*** ภาพถ่ายจากกล้องหลายตัว+มือถือ บางภาพอาจจะดูมัวๆไม่ค่อยชัด เนื่องจากใช้เลนส์มือหมุน บางทีรีบถ่ายโฟกัสไม่เข้าค่ะ
นอนรถไฟไปเที่ยวลาว เป็นการเดินทางด้วยรถไฟครั้งแรก จึงอยากจะมารีวิวในส่วนของรถไฟด้วยนะคะ ไม่เน้นสถานที่ท่องเที่ยวมาก เพราะเวียงจันท์-วังเวียง มีคนรีวิวไว้แล้วค่อนข้างเยอะ บ้านเราอยู่ สระบุรี รถไฟที่ผ่านจะเป็นสายอีสาน เราจึงเน้นสะดวก เลยตัดสินใจไปลาวดีกว่า เที่ยวรถไฟที่เราจะจอง ต้องดูเวลาก่อนเพราะต้องการเวลาที่ออกจากนี่ดึกแล้วไปถึงเช้า ซึ่งมีรอบเดียวคือ ต้นทางสระบุรี เวลา 22.22 น. และไปถึงปลายทางที่จ.หนองคาย เวลา 06.45 น. ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปลงอุดร แต่มันจะเช้าเกินไป(05.30 น.) เลยตัดสินใจว่าจะเป็นการเดินทาง สระบุรี-หนองคาย-เวียงจันท์-วังเวียง-เวียงจันท์-หนองคาย-สระบุรี
รถไฟที่จองเป็นรถไฟนอนชั้น 2 จองที่เวปไซต์ของ รฟท.
https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/ ได้เลยค่ะ สะดวกมาก สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต กับ บช.ธนาคารกรุงเทพได้เลย เราเลือกเป็นรถไฟนอนชั้น 2 ถ้าจะเลือกเป็นตู้ เลดี้ก็มีนะคะ(หลังจาก5ทุ่มไปแล้วประตูตู้นี้จะล๊อคไม่สามารถเดินผ่านทะลุไปตู้อื่นๆได้ค่ะ) เตียงจะมี 2 ชั้น ชั้นบน กับชั้นล่าง ราคาชั้นบนจะถูกกว่าประมาณ 90 บาท เดาว่าน่าจะเป็นเพราะที่นอนแคบกว่า ขึ้น-ลง ยาก และไม่มีหน้าต่างค่ะ เราเลือกนอนเตียงล่าง ราคาจากสถานีสระบุรี-หนองคาย เที่ยวละ 799 บาท
ประมาน 2 ทุ่มเจ้าหน้าที่ก็จะเดินมากางเตียงปูที่นอนแล้วหยิบหมอนผ้าห่มและน้ำดื่มมาให้ รถไฟค่อนข้างใหม่ ประตูเป็นประตูอัตโนมัติซึ่งจะมีปุ่มเขียวๆไว้ให้เราเอามือแตะประตูถึงจะเปิด มีกล้องวงจรปิดทุกตู้ ห้องน้ำสะอาดมาก มีแม่บ้านคอยมาทำความสะอาด+เติมสบู่ล้างมือ เติมทิชชู่ตลอด สำหรับที่นอนเมื่อกางเตียงเรียบร้อยถ้าเราดึงผ้าม่านมาปิดก้ถือว่ามิดชิดใช้ได้เลย (เราเปลี่ยนเสื้อผ้าในที่นอนเลย 555) ด้านในหัวเตียงก็จะมีรู ปลั๊กไฟ ใช้ได้ทั้งหัว 2 ขา และ 3 ขา มีช่องตาข่ายไว้เสียบมือถือได้ มีสวิสไฟเล็กๆ สำหรับคนที่จะอ่านหนังสือ
ส่วนเรื่องการนอน ถือว่าสะดวกสบายดีค่ะ แต่ด้วยความที่รถไฟมันวิ่งตลอดเวลา มันจะมีช่วงที่รางโค้งบ้าง ตู้มันก็จะโยกตามราง สำหรับใครที่เมารถง่าย แนะนำกินยาแก้เมารถช่วยได้ค่ะ แต่สำหรับเราโอเคมากค่ะ
บนรถไฟนี่มีตู้เสบียงด้วยนะคะ ถ้าใครที่หิว จะมีอาหารสำเร็จรูปเหมือนข้าวกล่องเซเว่น ราคาพอรับได้ 30-60 บาท เปิดถึงแค่ 5 ทุ่ม เราได้ใช้บริการทั้งขาไปและขากลับ เพราะไม่มีอะไรทำ ไปนั่งเล่น กินข้าว กินขนม น้ำปั่น ชา กาแฟสด ที่นี่ก็มีหมด
เพิ่มเติมส่วนของรถไฟ
- ตั๋วสามารถเลื่อนชั้นโดยสารได้ 1 ครั้ง เช่นเปลี่ยนจากเตียงบนเป็นเตียงล่าง ค่าธรรมเนียมก็คือส่วนต่างของราคาตั๋ว
- เปลี่ยนวันเดินทางได้ 1 ครั้ง ซึ่งขากลับเราเลื่อนกลับไวขึ้น 1 วัน ค่าธรรมเนียม คนละ 50 บาท
- วันเดินทาง จนท.แจ้งว่าไม่ต้องปริ้นตั๋ว(ตั๋วอินเตอร์เน็ต)ไปก็ได้ เราสามารถแคปหน้าจอรูปภาพตั๋วเราเปิดให้ จนท.ดูได้
- การเปลี่ยนแปลงตั๋วสามารถทำได้อย่างช้าที่สุด 1 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
- เจ้าหน้าที่จะมีหน้าจอแสดงหมดว่าเตียงไหนลงที่ไหน พอใกล้ถึงสถานีถ้าไม่มีประกาศของขบวนแจ้งสถานีต่อไป เจ้าหน้าที่จะเดินมาปลุกว่าสถานีหน้าแล้วนะครับ แต่ขาไปเราเจอ จนท.ผู้หญิง ใช้ไมค์ประกาศเรียกคนในตู้เราตอนถึงสถานนี เพราะเหมือนนางไม่ตื่นหรือไม่ลุกอะไรซักอย่าง “หมายเลข 30 ถึงอุดรแล้วนะคะ” เสียงแอบดุนิดนึง จนเราสะดุ้งตื่นแทน 55555
06.45 น. ถึงสถานีรถไฟหนองคาย จะไปที่ด่านมีทั้งรถ 2 แถว คนละ 20 บาท หรือ รถสกายแลปไป คนล่ะ30 บาท ไปถึงด่านยื่นเอกสารให้ ตม.ลงตราตรวจ เสร็ลแล้วก็นั่งรถข้ามไปฝั่งลาวได้เลย
ค่ารถคนละ 20 บาท
ไปถึงด่าน ก็เดินไปเข้าด่าน ตรงนี้ขอไม่อธิบายเยอะนะคะ ถามคนที่ด่านได้เลย ถามไทย ตอบลาว พอฟังรู้เรื่องค่ะ
เดินออกมาอีกนิดก็จะมีพวกรถแท็กซี่ เดินมาชวนเราเข้าเมือง นี่ก็ไม่อยากหลายต่อเลยถามราคาเหมา รวมพาเที่ยวในเวียงจันท์แล้วก้พาไปขึ้นรถไปวังเวียงด้วย ทั้งหมด 800 บาท แล้วแต่เราเลยว่าเราจะไปไหนบ้าง ด้วยความว่ากระเป๋าหนัก+หิวข้าว เลยตกลงเอาแบบนี้แหละ ราคาแอบแพงแต่ถือว่าสะดวกนะ อยากไปไหนบอกพี่แก (800 ไป 3คน หารกันคนละ 266 บาท)
นี่คือรถที่เราเหมาไปเที่ยว พี่คนขับใจดีอยากรู้อะไรถามได้หมด ร้านไหนอะไรอร่อย
เลยถามแกว่าตอนเช้าคนที่นี่เขากินอะไรกัน แกเลยพาไปกินเฝอ เจ้านี้คนเยอะตั้งแต่เช้าเลย
สั่งเฝอหมู ถ้วยเล็ก พี่คนขับบอกถ้ากินไม่เยอสั่งถ้วยเล็กพอนะ จริงๆน่าจะบอก 3คนสั่งถ้วยเดียวก็พอ เพราะมันใหญ่มากกกกก คนที่กินถ้วยใหญ่นี่ต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้วยเล็ก 20,000 กีบ (80 บาท)
กินเสร็จก็ไปเที่ยวรอบๆเมือง พี่แกก็จะเป็นไกด์อธิบายตลอดทาง นี่คืออะไร นั่นคืออะไร ได้ความรู้เยอะค่ะ
แล้วก็พาไปแลกเงินที่ห้างแถวๆตลาดเช้า เลทถือว่าดีค่ะ
พาไปซื้อซิมโทรศัพท์ด้วย ซิมที่ซื้อเป็นเนตซิม
ราคาซิมอย่างเดียว 10,000 กีบ(40บาท) เติมเนตอีก 1.5G เล่นได้นาน 7 วัน ราคา 10,000 กีบ(40บาท) เท่ากับเซตละ 80 ถือว่าถูก ถ้าที่ด่านประมาน ร้อยกว่าบาท
เที่ยวเสร็จแล้วเวลายังเหลืออีกเยอะ เลยบอกให้พี่แกพาไปพักกินกาแฟที่ร้าน Joma เดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึงเวียงจันท์
เที่ยวในเวียงจันท์จริงๆแค่ครึ่งวันก็ทั่วแล้ว
สถานที่เที่ยวหลักๆมีไม่กี่ที่ เราเลยได้ไปขึ้นรถเพื่อที่จะไปวังเวียงต่อตอนรอบเที่ยง เป็นรถตู้ ราคาคนละ 300 หรือ 350 บาทไม่แน่ใจ จ่ายเป็นเงินกีบ ยืนนับอยู่นานเพราะยังงงเงินบ้านเขาอยู่ ประมาณ 4 ชั่วโมงน่าจะได้ ใครเมารถ แนะนำพกยาอม ยาดม ยาหม่อง ยาแก้เมาไปด้วย จะได้นอนยาวๆ เพราะถ้าเจอคนขับขับไม่ดีก็อ้วกแตกได้ (แต่ถ้าเทียบกับปายหรือสังขระ ถือว่าโค้งน้อยมาก) ระยะทางจะโค้งเยอะช่วง 100 กิโลสุดท้าย
นี่คือตัวช่วยของเรา ซื้อตอนคนขับแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม 50,000 กีบ (20บาท) ช่วยได้เยอะมาก
รถตู้ที่เราใช้เดินทางไปวังเวียง
เรื่องเวลาเดินรถ ถ้าขึ้นจากเวียงจันท์ไป รถวิ่งตลอดถึง 4 โมงเย็นนะคะ รถเต็มก็ออกเลยไม่ต้องกลัวไปไม่ทัน สำหรับคนที่อยากเข้าไปเที่ยวเวียงจันท์ก่อน
อันนี้เกาหลีที่นั่งข้างหลังนางส่งมาแบ่งให้กินกันทั้งคัน น่ารักไปอีก
หลับๆตื่นๆ ไปตลอดทาง พอไปถึงฝนตกแรงมากจ้า รถตู้ก็ไม่ไปส่งให้ถึงที่พัก เราโดดลงมาแบบเปียกๆ ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เจอตุ๊กๆ ก็รีบโบก ถามเขาไปตรงนี้เท่าไหร่ นางว่า 50,000 กีบ (200บาท) ก็รีบแบกกระเป๋าขึ้นรถไปกัน นั่งไปได้ไม่ถึง 5 นาที ถึงแล้ว!!!!!!! เอ้าอีห่า ใกล้แค่นี้ 200บาท ? เซ็งมากจ่ะ (แนะนำใครมาถึงเปิด GPS ดูก่อนนะคะ ว่าอะไรอยู่ตรงไหนไกลมั๊ย เดินได้รึป่าว เพราะวังเวียงเป็นเมืองเล็กๆค่ะ เดินได้)
ถึงที่พัก เช็คอิน ฝนยังตกแรงอยู่ ร่มก็ไม่ได้เอามา ถามเจ้าของที่พักว่ามีอาหารสั่งมากินได้มั๊ย คำตอบคือไม่มี!!! เอิ่บ เลยเดินขึ้นไปบนห้องพักก่อน เราพักที่ Mountain river view guesthouse ก็ตามชื่อแหละเนาะ มันต้องวิวภูเขาและแม่น้ำ ตอนจองจองผ่าน Agoda มา รีเควสว่าขอห้องชั้นบนสุด นางก้ตอบมาว่า OK ได้บนสุดสมใจ ห้องพักค่อนข้างโอเค แต่ไม่มีตู้เย็นและอาหารเช้า ซึ่งเราไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่
เปิดประตูระเบียงมาเจอแบบนี้เลยค่ะ
ราคาห้อง จองจาก Agoda 2 คืน ทั้งหมด 2188 บาท 3 คน เท่ากันคนละ 364 บาท/คืน
นอนรอฝนหยุดซักพัก หิวไง หิวมากไม่ไหวละ เดินลงมาถามหาร้านหมูกระทะที่เขารีวิวกันเยอะๆว่าอร่อยๆ อยู่ตรงไหน แล้วก็ เช่ารถมอไซของที่พักไป คันละ 320 บาท/24 ชั่วโมง น้ำมันเติมเอาเอง (มายกอต แพงอะไรเบอร์นั้น)
เจ้าของที่พักให้แผนที่มาด้วย พร้อมอธิบายอะไรอยู่ตรงไหน
เราไปมินิมาท ซื้อเสื้อกันฝนกันคนล่ะตัว ตัวละ 10,000 กีบ (40 บาท) แล้วออกตามหาตามหาร้านหมูกระทะ Peeping Som’s
ลองกินอร่อยจิงแหละ (หรือหิวไม่รู้ 5555) น้ำจิ้มนี่อร่อยมากกก อารมณ์เหมือนน้ำจิ้มของบาบีคิวพาซ่า แต่มันอร่อยกว่านั้นอ่ะ
กิน 3คน 2ชุด ข้าว 2จาน กุ้ง 1จาน โค้ก2 เบียร์ลาว 1 ขวด หมดไปประมาน 17,5000 ( 700 บาท) มาวันเดียวหมดหลายพันละ อยากถามว่าที่มากันแบบถูกๆ นี่เขากินอะไรกันนะ 555555555 โอ้ยยย แลกเงินมาวันเดียวเงินจะหมดแล้วจ้า
กินเสร็จกลับที่พัก ไปตั้งหลักก่อน เย็นๆฝนเริ่มซา ออกมาใหม่ ไปตามหาโรตีที่เขาว่าต้องโดนกัน อันละ 10,000 กีบ (40 บาท) มีไส้เยอะมาก เยอะจนงงไม่รู้จะสั่งไส้อะไรดี
ลองกินแล้วนี่ว่าเฉยๆอ่ะ โรตีบ้านเราอร่อยกว่า แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะ
ที่นี่ร้านขายโรตีนี่เรียงกันเป็นพรืด มองแล้วเหมือนแผงขายลอตเตอรี่บ้านเรา เยอะมากแล้วก็ติดๆๆๆๆกันเป็น 10 ร้านเลย
กินโรตีเสร็จหาเป้าไปซากุระบาร์ต่อ เดี๋ยวเขาจะว่ามาไม่ถึงวังเวียง
ที่นี่เขามีให้กินฟรี 20.00 - 21.00 น. นะ
ส่วนที่ฟรีคือเหล้า เราจะเลือกผสมอะไรก็ได้มีหลายอย่าง โค้ก สไปท์ น้ำส้ม น้ำแดง หยิบได้คนละ 1 แก้วต่อครั้งนะคะ หยิบเผื่อเพื่อนไม่ได้ ต้องไปเอาเอง
นักท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลี ไทย แล้วก็ฝรั่งค่ะ
*******
Day 2
ตื่นมาด้วยความฉดใฉ ตั้งนาฬิกาไว้ 6.00 น. เผื่อจะไปขึ้นผาเงิน แต่แล้วก็พบว่า ฝนตก!!!! ลืมตามาเปิดม่านดู แล้วก็นอนต่อ ตื่นมาอีกที 9 โมงเช้า ออกไปหาข้าวกิน ร้านแถวๆ ที่พัก
อาหารที่นี่ราคาพอๆกันหมดทุกร้าน(แพง 5555) กินกันมื้อนึง หารกัน 3 คน ตกคนละ 200-250 บาท
เสร็จแล้วฝนยังปลอยอยู่ ไปหากาแฟกินก่อน ที่ร้าน Luang Prabang Bakery
ร้านนี้ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งนั่ง มีทั้ง กาแฟ ขนมปัง เค้ก อาหาร ราคาก็พอประมาณ กาแฟเย็นแก้วละ 20,000 กีบ (80 บาท) แต่รสชาตเฉยๆมากกก
นั่งคิดกันอยู่ซักพัก เอาไงต่อดีน๊า ผาเงินก็ขึ้นไม่ได้ ฝนก็ยังไม่หยุดตก มาเที่ยวถ้าเราจะอยู่เฉยๆก็ไม่ได้ละ เลยใส่ชุดกันฝนไปสะพานส้ม ถ้ำจังก่อนแล้วกัน
ฝนตกตลอดทาง ทางเข้าเป็นหลุมเป็นบ่อ+น้ำท่วม (บางทีก็คิดน๊า เรามาทำไมหน้าฝน)
นอนรถไฟไปลาว
** ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ ^^
*** ภาพถ่ายจากกล้องหลายตัว+มือถือ บางภาพอาจจะดูมัวๆไม่ค่อยชัด เนื่องจากใช้เลนส์มือหมุน บางทีรีบถ่ายโฟกัสไม่เข้าค่ะ
นอนรถไฟไปเที่ยวลาว เป็นการเดินทางด้วยรถไฟครั้งแรก จึงอยากจะมารีวิวในส่วนของรถไฟด้วยนะคะ ไม่เน้นสถานที่ท่องเที่ยวมาก เพราะเวียงจันท์-วังเวียง มีคนรีวิวไว้แล้วค่อนข้างเยอะ บ้านเราอยู่ สระบุรี รถไฟที่ผ่านจะเป็นสายอีสาน เราจึงเน้นสะดวก เลยตัดสินใจไปลาวดีกว่า เที่ยวรถไฟที่เราจะจอง ต้องดูเวลาก่อนเพราะต้องการเวลาที่ออกจากนี่ดึกแล้วไปถึงเช้า ซึ่งมีรอบเดียวคือ ต้นทางสระบุรี เวลา 22.22 น. และไปถึงปลายทางที่จ.หนองคาย เวลา 06.45 น. ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปลงอุดร แต่มันจะเช้าเกินไป(05.30 น.) เลยตัดสินใจว่าจะเป็นการเดินทาง สระบุรี-หนองคาย-เวียงจันท์-วังเวียง-เวียงจันท์-หนองคาย-สระบุรี
รถไฟที่จองเป็นรถไฟนอนชั้น 2 จองที่เวปไซต์ของ รฟท. https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/ ได้เลยค่ะ สะดวกมาก สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต กับ บช.ธนาคารกรุงเทพได้เลย เราเลือกเป็นรถไฟนอนชั้น 2 ถ้าจะเลือกเป็นตู้ เลดี้ก็มีนะคะ(หลังจาก5ทุ่มไปแล้วประตูตู้นี้จะล๊อคไม่สามารถเดินผ่านทะลุไปตู้อื่นๆได้ค่ะ) เตียงจะมี 2 ชั้น ชั้นบน กับชั้นล่าง ราคาชั้นบนจะถูกกว่าประมาณ 90 บาท เดาว่าน่าจะเป็นเพราะที่นอนแคบกว่า ขึ้น-ลง ยาก และไม่มีหน้าต่างค่ะ เราเลือกนอนเตียงล่าง ราคาจากสถานีสระบุรี-หนองคาย เที่ยวละ 799 บาท
ประมาน 2 ทุ่มเจ้าหน้าที่ก็จะเดินมากางเตียงปูที่นอนแล้วหยิบหมอนผ้าห่มและน้ำดื่มมาให้ รถไฟค่อนข้างใหม่ ประตูเป็นประตูอัตโนมัติซึ่งจะมีปุ่มเขียวๆไว้ให้เราเอามือแตะประตูถึงจะเปิด มีกล้องวงจรปิดทุกตู้ ห้องน้ำสะอาดมาก มีแม่บ้านคอยมาทำความสะอาด+เติมสบู่ล้างมือ เติมทิชชู่ตลอด สำหรับที่นอนเมื่อกางเตียงเรียบร้อยถ้าเราดึงผ้าม่านมาปิดก้ถือว่ามิดชิดใช้ได้เลย (เราเปลี่ยนเสื้อผ้าในที่นอนเลย 555) ด้านในหัวเตียงก็จะมีรู ปลั๊กไฟ ใช้ได้ทั้งหัว 2 ขา และ 3 ขา มีช่องตาข่ายไว้เสียบมือถือได้ มีสวิสไฟเล็กๆ สำหรับคนที่จะอ่านหนังสือ
ส่วนเรื่องการนอน ถือว่าสะดวกสบายดีค่ะ แต่ด้วยความที่รถไฟมันวิ่งตลอดเวลา มันจะมีช่วงที่รางโค้งบ้าง ตู้มันก็จะโยกตามราง สำหรับใครที่เมารถง่าย แนะนำกินยาแก้เมารถช่วยได้ค่ะ แต่สำหรับเราโอเคมากค่ะ
บนรถไฟนี่มีตู้เสบียงด้วยนะคะ ถ้าใครที่หิว จะมีอาหารสำเร็จรูปเหมือนข้าวกล่องเซเว่น ราคาพอรับได้ 30-60 บาท เปิดถึงแค่ 5 ทุ่ม เราได้ใช้บริการทั้งขาไปและขากลับ เพราะไม่มีอะไรทำ ไปนั่งเล่น กินข้าว กินขนม น้ำปั่น ชา กาแฟสด ที่นี่ก็มีหมด
เพิ่มเติมส่วนของรถไฟ
- ตั๋วสามารถเลื่อนชั้นโดยสารได้ 1 ครั้ง เช่นเปลี่ยนจากเตียงบนเป็นเตียงล่าง ค่าธรรมเนียมก็คือส่วนต่างของราคาตั๋ว
- เปลี่ยนวันเดินทางได้ 1 ครั้ง ซึ่งขากลับเราเลื่อนกลับไวขึ้น 1 วัน ค่าธรรมเนียม คนละ 50 บาท
- วันเดินทาง จนท.แจ้งว่าไม่ต้องปริ้นตั๋ว(ตั๋วอินเตอร์เน็ต)ไปก็ได้ เราสามารถแคปหน้าจอรูปภาพตั๋วเราเปิดให้ จนท.ดูได้
- การเปลี่ยนแปลงตั๋วสามารถทำได้อย่างช้าที่สุด 1 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
- เจ้าหน้าที่จะมีหน้าจอแสดงหมดว่าเตียงไหนลงที่ไหน พอใกล้ถึงสถานีถ้าไม่มีประกาศของขบวนแจ้งสถานีต่อไป เจ้าหน้าที่จะเดินมาปลุกว่าสถานีหน้าแล้วนะครับ แต่ขาไปเราเจอ จนท.ผู้หญิง ใช้ไมค์ประกาศเรียกคนในตู้เราตอนถึงสถานนี เพราะเหมือนนางไม่ตื่นหรือไม่ลุกอะไรซักอย่าง “หมายเลข 30 ถึงอุดรแล้วนะคะ” เสียงแอบดุนิดนึง จนเราสะดุ้งตื่นแทน 55555
06.45 น. ถึงสถานีรถไฟหนองคาย จะไปที่ด่านมีทั้งรถ 2 แถว คนละ 20 บาท หรือ รถสกายแลปไป คนล่ะ30 บาท ไปถึงด่านยื่นเอกสารให้ ตม.ลงตราตรวจ เสร็ลแล้วก็นั่งรถข้ามไปฝั่งลาวได้เลย
ค่ารถคนละ 20 บาท
ไปถึงด่าน ก็เดินไปเข้าด่าน ตรงนี้ขอไม่อธิบายเยอะนะคะ ถามคนที่ด่านได้เลย ถามไทย ตอบลาว พอฟังรู้เรื่องค่ะ
เดินออกมาอีกนิดก็จะมีพวกรถแท็กซี่ เดินมาชวนเราเข้าเมือง นี่ก็ไม่อยากหลายต่อเลยถามราคาเหมา รวมพาเที่ยวในเวียงจันท์แล้วก้พาไปขึ้นรถไปวังเวียงด้วย ทั้งหมด 800 บาท แล้วแต่เราเลยว่าเราจะไปไหนบ้าง ด้วยความว่ากระเป๋าหนัก+หิวข้าว เลยตกลงเอาแบบนี้แหละ ราคาแอบแพงแต่ถือว่าสะดวกนะ อยากไปไหนบอกพี่แก (800 ไป 3คน หารกันคนละ 266 บาท)
นี่คือรถที่เราเหมาไปเที่ยว พี่คนขับใจดีอยากรู้อะไรถามได้หมด ร้านไหนอะไรอร่อย
เลยถามแกว่าตอนเช้าคนที่นี่เขากินอะไรกัน แกเลยพาไปกินเฝอ เจ้านี้คนเยอะตั้งแต่เช้าเลย
สั่งเฝอหมู ถ้วยเล็ก พี่คนขับบอกถ้ากินไม่เยอสั่งถ้วยเล็กพอนะ จริงๆน่าจะบอก 3คนสั่งถ้วยเดียวก็พอ เพราะมันใหญ่มากกกกก คนที่กินถ้วยใหญ่นี่ต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้วยเล็ก 20,000 กีบ (80 บาท)
กินเสร็จก็ไปเที่ยวรอบๆเมือง พี่แกก็จะเป็นไกด์อธิบายตลอดทาง นี่คืออะไร นั่นคืออะไร ได้ความรู้เยอะค่ะ
แล้วก็พาไปแลกเงินที่ห้างแถวๆตลาดเช้า เลทถือว่าดีค่ะ
พาไปซื้อซิมโทรศัพท์ด้วย ซิมที่ซื้อเป็นเนตซิม
ราคาซิมอย่างเดียว 10,000 กีบ(40บาท) เติมเนตอีก 1.5G เล่นได้นาน 7 วัน ราคา 10,000 กีบ(40บาท) เท่ากับเซตละ 80 ถือว่าถูก ถ้าที่ด่านประมาน ร้อยกว่าบาท
เที่ยวเสร็จแล้วเวลายังเหลืออีกเยอะ เลยบอกให้พี่แกพาไปพักกินกาแฟที่ร้าน Joma เดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึงเวียงจันท์
เที่ยวในเวียงจันท์จริงๆแค่ครึ่งวันก็ทั่วแล้ว
สถานที่เที่ยวหลักๆมีไม่กี่ที่ เราเลยได้ไปขึ้นรถเพื่อที่จะไปวังเวียงต่อตอนรอบเที่ยง เป็นรถตู้ ราคาคนละ 300 หรือ 350 บาทไม่แน่ใจ จ่ายเป็นเงินกีบ ยืนนับอยู่นานเพราะยังงงเงินบ้านเขาอยู่ ประมาณ 4 ชั่วโมงน่าจะได้ ใครเมารถ แนะนำพกยาอม ยาดม ยาหม่อง ยาแก้เมาไปด้วย จะได้นอนยาวๆ เพราะถ้าเจอคนขับขับไม่ดีก็อ้วกแตกได้ (แต่ถ้าเทียบกับปายหรือสังขระ ถือว่าโค้งน้อยมาก) ระยะทางจะโค้งเยอะช่วง 100 กิโลสุดท้าย
นี่คือตัวช่วยของเรา ซื้อตอนคนขับแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม 50,000 กีบ (20บาท) ช่วยได้เยอะมาก
รถตู้ที่เราใช้เดินทางไปวังเวียง
เรื่องเวลาเดินรถ ถ้าขึ้นจากเวียงจันท์ไป รถวิ่งตลอดถึง 4 โมงเย็นนะคะ รถเต็มก็ออกเลยไม่ต้องกลัวไปไม่ทัน สำหรับคนที่อยากเข้าไปเที่ยวเวียงจันท์ก่อน
อันนี้เกาหลีที่นั่งข้างหลังนางส่งมาแบ่งให้กินกันทั้งคัน น่ารักไปอีก
หลับๆตื่นๆ ไปตลอดทาง พอไปถึงฝนตกแรงมากจ้า รถตู้ก็ไม่ไปส่งให้ถึงที่พัก เราโดดลงมาแบบเปียกๆ ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เจอตุ๊กๆ ก็รีบโบก ถามเขาไปตรงนี้เท่าไหร่ นางว่า 50,000 กีบ (200บาท) ก็รีบแบกกระเป๋าขึ้นรถไปกัน นั่งไปได้ไม่ถึง 5 นาที ถึงแล้ว!!!!!!! เอ้าอีห่า ใกล้แค่นี้ 200บาท ? เซ็งมากจ่ะ (แนะนำใครมาถึงเปิด GPS ดูก่อนนะคะ ว่าอะไรอยู่ตรงไหนไกลมั๊ย เดินได้รึป่าว เพราะวังเวียงเป็นเมืองเล็กๆค่ะ เดินได้)
ถึงที่พัก เช็คอิน ฝนยังตกแรงอยู่ ร่มก็ไม่ได้เอามา ถามเจ้าของที่พักว่ามีอาหารสั่งมากินได้มั๊ย คำตอบคือไม่มี!!! เอิ่บ เลยเดินขึ้นไปบนห้องพักก่อน เราพักที่ Mountain river view guesthouse ก็ตามชื่อแหละเนาะ มันต้องวิวภูเขาและแม่น้ำ ตอนจองจองผ่าน Agoda มา รีเควสว่าขอห้องชั้นบนสุด นางก้ตอบมาว่า OK ได้บนสุดสมใจ ห้องพักค่อนข้างโอเค แต่ไม่มีตู้เย็นและอาหารเช้า ซึ่งเราไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่
เปิดประตูระเบียงมาเจอแบบนี้เลยค่ะ
ราคาห้อง จองจาก Agoda 2 คืน ทั้งหมด 2188 บาท 3 คน เท่ากันคนละ 364 บาท/คืน
นอนรอฝนหยุดซักพัก หิวไง หิวมากไม่ไหวละ เดินลงมาถามหาร้านหมูกระทะที่เขารีวิวกันเยอะๆว่าอร่อยๆ อยู่ตรงไหน แล้วก็ เช่ารถมอไซของที่พักไป คันละ 320 บาท/24 ชั่วโมง น้ำมันเติมเอาเอง (มายกอต แพงอะไรเบอร์นั้น)
เจ้าของที่พักให้แผนที่มาด้วย พร้อมอธิบายอะไรอยู่ตรงไหน
เราไปมินิมาท ซื้อเสื้อกันฝนกันคนล่ะตัว ตัวละ 10,000 กีบ (40 บาท) แล้วออกตามหาตามหาร้านหมูกระทะ Peeping Som’s
ลองกินอร่อยจิงแหละ (หรือหิวไม่รู้ 5555) น้ำจิ้มนี่อร่อยมากกก อารมณ์เหมือนน้ำจิ้มของบาบีคิวพาซ่า แต่มันอร่อยกว่านั้นอ่ะ
กิน 3คน 2ชุด ข้าว 2จาน กุ้ง 1จาน โค้ก2 เบียร์ลาว 1 ขวด หมดไปประมาน 17,5000 ( 700 บาท) มาวันเดียวหมดหลายพันละ อยากถามว่าที่มากันแบบถูกๆ นี่เขากินอะไรกันนะ 555555555 โอ้ยยย แลกเงินมาวันเดียวเงินจะหมดแล้วจ้า
กินเสร็จกลับที่พัก ไปตั้งหลักก่อน เย็นๆฝนเริ่มซา ออกมาใหม่ ไปตามหาโรตีที่เขาว่าต้องโดนกัน อันละ 10,000 กีบ (40 บาท) มีไส้เยอะมาก เยอะจนงงไม่รู้จะสั่งไส้อะไรดี
ลองกินแล้วนี่ว่าเฉยๆอ่ะ โรตีบ้านเราอร่อยกว่า แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะ
ที่นี่ร้านขายโรตีนี่เรียงกันเป็นพรืด มองแล้วเหมือนแผงขายลอตเตอรี่บ้านเรา เยอะมากแล้วก็ติดๆๆๆๆกันเป็น 10 ร้านเลย
กินโรตีเสร็จหาเป้าไปซากุระบาร์ต่อ เดี๋ยวเขาจะว่ามาไม่ถึงวังเวียง
ที่นี่เขามีให้กินฟรี 20.00 - 21.00 น. นะ
ส่วนที่ฟรีคือเหล้า เราจะเลือกผสมอะไรก็ได้มีหลายอย่าง โค้ก สไปท์ น้ำส้ม น้ำแดง หยิบได้คนละ 1 แก้วต่อครั้งนะคะ หยิบเผื่อเพื่อนไม่ได้ ต้องไปเอาเอง
นักท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลี ไทย แล้วก็ฝรั่งค่ะ
*******
Day 2
ตื่นมาด้วยความฉดใฉ ตั้งนาฬิกาไว้ 6.00 น. เผื่อจะไปขึ้นผาเงิน แต่แล้วก็พบว่า ฝนตก!!!! ลืมตามาเปิดม่านดู แล้วก็นอนต่อ ตื่นมาอีกที 9 โมงเช้า ออกไปหาข้าวกิน ร้านแถวๆ ที่พัก
อาหารที่นี่ราคาพอๆกันหมดทุกร้าน(แพง 5555) กินกันมื้อนึง หารกัน 3 คน ตกคนละ 200-250 บาท
เสร็จแล้วฝนยังปลอยอยู่ ไปหากาแฟกินก่อน ที่ร้าน Luang Prabang Bakery
ร้านนี้ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งนั่ง มีทั้ง กาแฟ ขนมปัง เค้ก อาหาร ราคาก็พอประมาณ กาแฟเย็นแก้วละ 20,000 กีบ (80 บาท) แต่รสชาตเฉยๆมากกก
นั่งคิดกันอยู่ซักพัก เอาไงต่อดีน๊า ผาเงินก็ขึ้นไม่ได้ ฝนก็ยังไม่หยุดตก มาเที่ยวถ้าเราจะอยู่เฉยๆก็ไม่ได้ละ เลยใส่ชุดกันฝนไปสะพานส้ม ถ้ำจังก่อนแล้วกัน
ฝนตกตลอดทาง ทางเข้าเป็นหลุมเป็นบ่อ+น้ำท่วม (บางทีก็คิดน๊า เรามาทำไมหน้าฝน)