สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ตามความคิดผม คือ ลักษณะทางกายภาพของโลก จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามคลื่นความโน้มถ่วง
ที่พาดผ่านโลกครับ คนบนโลกก็ยังเห็นวัตถุต่าง ๆ เหมือนเดิม เพียงแต่จะมี แรงโน้มถ่วง กระทำต่อโลก
เปลี่ยนแปลงเป็นระลอก ๆๆๆ ซึ่งจะตรวจจับได้ค่อนข้างเข้ม เพราะ จขกท.กำหนดให้โลกอยู่ใกล้หลุมดำ
การที่ตัวเราจะ มองเห็น วัตถุใด ๆ มีสภาพเปลี่ยนแปลงภายใต้แรงโน้มถ่วงสูง จะมีกรณีเดียวคือ
แรงโน้มถ่วงที่สูงมากใกล้ ๆ Event horizon ของหลุมดำ โดยเมื่อวัตถุนั้นกำลังจะเคลื่อนที่เข้าเขต Event horizon
วัตถุนั้นจะแทบหยุดนิ่งในสายตาเรา (ที่มองห่างจากหลุมดำ) และจะเห็นวัตถุนั้นค่อย ๆ จางออกไปเป็นแสงสีแดง (Red shift) ครับ
สรุป เราจะเห็นสิ่งต่าง ๆ เหมือนเดิมทั้งในโลก และ นอกโลกครับ
เพียงแต่มีการตรวจวัดคลื่นแรงโน้มถ่วงเป็นระลอกพาดผ่านโลกไปเท่านั้น
แต่ .... ยังมีอีกกรณีหนึ่งที่อาจเกิดขึ้น คือ สัณฐานของโลกอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยไปตาม
คลื่นแรงโน้มถ่วงที่พาดผ่านโลก หลักการนี้จะเหมือนกับพวกดวงจันทร์ของดาวพฤหัส ที่ บิดเบี้ยว
ไปตามการโคจรรอบดาวพฤหัส ทำให้ดวงจันทร์บางดวงเกิด Tidal heating ได้ครับ
อีกอย่างหนึ่ง คือ อาจมีปรากฏการณ์ Gravitational Lensing เกิดขึ้นก็ได้ครับ
สมมุติว่าตำแหน่งของหลุมดำ 2 หลุมหมุนรอบกัน คือ ดวงอาทิตย์ และเราอยู่ห่างออกไป
ประมาณ 10 นาทีแสง เราก็อาจจะมองเห็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา
มีภาพที่บิดเบี้ยวไปตามอิทธิพลของ Gravitational Lensing ก็ได้ ก็คือแสงจากดาวเคราะห์
ที่เราเห็นจากโลก จะมีการ วูบวาบ ตามผลของ Lensing ครับ
เพิ่มเติมครับ Period ของการโคจรรอบกันของหลุมดำ ส่วนใหญ่จะคำนวณได้มากถึง
10,000 - 30,000 ปี ดังนั้น การตรวจจับ หรือ การมองเห็นในปรากฏการณ์ Gravitational Lensing
ก็จะเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะช่วงเวลานานมากจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ที่พาดผ่านโลกครับ คนบนโลกก็ยังเห็นวัตถุต่าง ๆ เหมือนเดิม เพียงแต่จะมี แรงโน้มถ่วง กระทำต่อโลก
เปลี่ยนแปลงเป็นระลอก ๆๆๆ ซึ่งจะตรวจจับได้ค่อนข้างเข้ม เพราะ จขกท.กำหนดให้โลกอยู่ใกล้หลุมดำ
การที่ตัวเราจะ มองเห็น วัตถุใด ๆ มีสภาพเปลี่ยนแปลงภายใต้แรงโน้มถ่วงสูง จะมีกรณีเดียวคือ
แรงโน้มถ่วงที่สูงมากใกล้ ๆ Event horizon ของหลุมดำ โดยเมื่อวัตถุนั้นกำลังจะเคลื่อนที่เข้าเขต Event horizon
วัตถุนั้นจะแทบหยุดนิ่งในสายตาเรา (ที่มองห่างจากหลุมดำ) และจะเห็นวัตถุนั้นค่อย ๆ จางออกไปเป็นแสงสีแดง (Red shift) ครับ
สรุป เราจะเห็นสิ่งต่าง ๆ เหมือนเดิมทั้งในโลก และ นอกโลกครับ
เพียงแต่มีการตรวจวัดคลื่นแรงโน้มถ่วงเป็นระลอกพาดผ่านโลกไปเท่านั้น
แต่ .... ยังมีอีกกรณีหนึ่งที่อาจเกิดขึ้น คือ สัณฐานของโลกอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยไปตาม
คลื่นแรงโน้มถ่วงที่พาดผ่านโลก หลักการนี้จะเหมือนกับพวกดวงจันทร์ของดาวพฤหัส ที่ บิดเบี้ยว
ไปตามการโคจรรอบดาวพฤหัส ทำให้ดวงจันทร์บางดวงเกิด Tidal heating ได้ครับ
อีกอย่างหนึ่ง คือ อาจมีปรากฏการณ์ Gravitational Lensing เกิดขึ้นก็ได้ครับ
สมมุติว่าตำแหน่งของหลุมดำ 2 หลุมหมุนรอบกัน คือ ดวงอาทิตย์ และเราอยู่ห่างออกไป
ประมาณ 10 นาทีแสง เราก็อาจจะมองเห็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา
มีภาพที่บิดเบี้ยวไปตามอิทธิพลของ Gravitational Lensing ก็ได้ ก็คือแสงจากดาวเคราะห์
ที่เราเห็นจากโลก จะมีการ วูบวาบ ตามผลของ Lensing ครับ
เพิ่มเติมครับ Period ของการโคจรรอบกันของหลุมดำ ส่วนใหญ่จะคำนวณได้มากถึง
10,000 - 30,000 ปี ดังนั้น การตรวจจับ หรือ การมองเห็นในปรากฏการณ์ Gravitational Lensing
ก็จะเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะช่วงเวลานานมากจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แสดงความคิดเห็น
ถ้าโลกอยู่ใกล้จุดที่หลุมดำชนกัน โลกของเราจะยืดหดไปกับคลื่นความโน้มถ่วงไหม แล้วเราจะเห็นอะไรบ้างครับ
เราจะสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวเรายืดหดเหมือนคลื่นไหมครับ ถ้ามันยืดหดได้แสดงว่ามันก็ไม่ใช่ของแข็งสิครับ
งั้นสสารต่างๆที่อยู่ในจักรวาลคืออะไร ของเหลว แก๊ส แสงที่มีอนุภาคเข้มข้นสูง หรือจริงๆแล้วเป็นแค่ภาพลวงตาครับ
เราสามารถใช้หลักการนี้หดโลกให้เดินทางได้เร็วขึ้นได้ไหมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้