#หุ้นโตเร็วสิบเท่าในสิบปี #SuperStock “หุ้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า TESLA มีดีจริงหรือไม่?”
ปัจจุบันการลงทุนในหุ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในประเทศไทยแล้วนะครับ ... ถ้าเรามองออกไปข้างนอกเราจะพบว่ามีหุ้นดีๆ ที่สามารถโตสิบเท่าภายในสิบปี และจะกลายเป็น “Super Stock” หรือหุ้นผู้ชนะเต็มโลกใบนี้ไปหมดเลยครับ ... และแหล่งกำเนิดของหุ้นเหล่านี้คงหนีไม่พ้น “อเมริกา” ที่ต้องบอกว่า... อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหุ้นเติบโตเต็มไปหมด ... วันนี้เราจะมาดูหุ้นที่กำลังเป็นกระแสกันครับ หุ้น #TESLA หรือหุ้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง
มารู้จักกับ TESLA และการเติบโตอย่างรวดเร็วของกิจการ
เจ้าของ TESLA คือ คุณ Elon Reeve Musk ผู้โด่งดัง ... โดยบริษัท TESLA ในปัจจุบันมีขนาดของกิจการ หรือ Market Cap สูงกว่าธุรกิจผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม อย่าง GM และ FORD ไปเป็นที่เรียบร้อยในอเมริกา
บริษัทมียอดขายที่ประกาศในงบการเงินเติบโตขึ้นทุกปี ถ้าเรานับเริ่มตั้งแต่ปี 2012 ที่มียอดขายทั้งปีแค่หลักร้อยล้านเหรียญเท่านั้น จนในปัจจุบันยอดขายเติบโตหลักพันล้านเหรียญต่อปีเข้าไปแล้ว ถือว่าเป็นหุ้นเติบโตอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ด้านตัวเลขทางการเงินที่ผมสำรวจมา บริษัทนี้ยังไม่ทำกำไรครับ ทำให้พีอีติดลบ แถมไม่จ่ายเงินปันผลด้วย (ก็บริษัทมันยังไม่กำไรอ่ะ) ใครคิดจะลงทุนหุ้นตัวนี้ถือว่าคุณต้องซื้ออนาคตครับ
(ข้อมูลที่ผมสำรวจได้มาจาก YAHOO FINANCEนะครับ)
ยอดขายของ TESLA มาจากอะไร
ยอดขายของ TESLA มาจากการขายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ของเขาก็เข้าสู่ Model 3 เป็นที่เรียบร้อย โดยล่าสุดมียอดจองรถโมเดลนี้แล้วกว่า 4 แสนคัน ราคาขายต่อคันเฉลี่ย 1.4 ล้านบาท คิดคร่าวๆ รายได้เขา TESLA จะทำเงินจากการขายรถได้ 5 – 6 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
โมเดลรถยนต์ไฟฟ้าของ TESLA นั้นจะใช้แหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์กลไกมากมายแต่อย่างใดเลยครับ ว่ากันว่า “จำนวน” ชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะพอๆ กับไอโฟนเครื่องหนึ่งเท่านั้นเอง แต่กำลังการผลิตของ TESLA ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันสามารถผลิตรถยนต์ได้แค่ปีละหลักพันคันเท่านั้น กว่าจะส่งมอบรถหมดตามคำสั่งซื้อลูกค้าอาจเบื่อถอนจองไปก่อนก็ได้ครับ
ความเสี่ยงของกิจการมีหรือเปล่า และอะไรจะมาแข่งกับเทสล่าในอนาคต?
คำตอบก็คือ “มีแน่นอนครับ” ความเสี่ยงก็คือ การเข้ามาของคู่แข่ง เพราะค่ายรถยนต์ยุคเดิมหลายค่ายต่างก็ซุ่มทำวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้โด่งดังเหมือนกับ TESLA ทำ ... และหากรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้จริง เจ้าเก่าก็น่าจะตบเท้าเข้ามาแข่งขันเพื่อแย่งชิงความอยู่รอดแน่ๆ และประเทศที่น่ากลัวก็คือ พี่จีนของเรานั่นเอง
อย่างไรก็ตามหุ้น TESLA ในอเมริกาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาหุ้นที่โตเร็วกว่ากำไร (ที่ยังไม่มา) นั่นไม่ใช่ว่าคนอเมริกาไม่ฉลาด ดันไปซื้อหุ้นที่กำไรไม่มี เงินปันผลไม่มา แต่เป็นเพราะว่า คนเล่นหุ้นกำลังเก็งกำไรกับเรื่องราวของ “ซุปเปอร์แบตเตอรี่” ที่หากทำสำเร็จจะปฏิรูปวงการไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งโลกต่างหาก ... โดยเทสล่าเองก็ได้เริ่มเดินเครื่องไปไหนหลายๆ มิติ ทั้งการควบรวมกิจการกับเจ้าอื่นๆ และการทำวิจัยอย่างลับๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของบริษัทอย่าง Elon Reeve Musk ก็น่าจับตามองไม่แพ้ตัวบริษัทเลยครับ ความฝันอันสูงสุดของเขาก็คือ จะเห็นมนุษย์โลกไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร ... โอ ... คิดได้ไง!! ผมว่าลีลาของเจ้าของมันช่างดูตื่นเต้นไม่แพ้ราคาหุ้นเทสล่าเลยทีเดียว
ผมเข้าใจว่าการมองหาหุ้นโตเร็วสิบเท่าในสิบปีนั้น ควรเป็น
“ภาคบังคับ” ของนักลงทุนระยะยาวนะครับ เราไม่ควรพึงพอใจกับการเก็งกำไรรายวันมากจนเกินไป ทำได้บ้างแก้เบื่อ ... แต่เราควรสนใจเนื้อแท้ของกิจการ และเติบโตไปพร้อมๆ กับมัน และไม่ควรปิดหูปิดตาดูแต่หุ้นในประเทศไทย ควรเปิดรับให้กว้างเข้าไว้
เวลาเจอหุ้นดีๆ ก็ต้องดูให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ อย่างเทสล่าใช่ว่าจะไร้เทียมทานเสมอไป ... ศึกษาไว้ก่อนยังไม่ต้องรีบร้อนลงทุนนะครับ
สนใจติดตามบทความลงทุนอ่านง่ายสบายตา ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/NaiwaenTammada
(นายแว่นลงทุน)
TESLA ไร้เทียมทาน จริงหรือ?
ปัจจุบันการลงทุนในหุ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในประเทศไทยแล้วนะครับ ... ถ้าเรามองออกไปข้างนอกเราจะพบว่ามีหุ้นดีๆ ที่สามารถโตสิบเท่าภายในสิบปี และจะกลายเป็น “Super Stock” หรือหุ้นผู้ชนะเต็มโลกใบนี้ไปหมดเลยครับ ... และแหล่งกำเนิดของหุ้นเหล่านี้คงหนีไม่พ้น “อเมริกา” ที่ต้องบอกว่า... อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหุ้นเติบโตเต็มไปหมด ... วันนี้เราจะมาดูหุ้นที่กำลังเป็นกระแสกันครับ หุ้น #TESLA หรือหุ้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง
มารู้จักกับ TESLA และการเติบโตอย่างรวดเร็วของกิจการ
เจ้าของ TESLA คือ คุณ Elon Reeve Musk ผู้โด่งดัง ... โดยบริษัท TESLA ในปัจจุบันมีขนาดของกิจการ หรือ Market Cap สูงกว่าธุรกิจผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม อย่าง GM และ FORD ไปเป็นที่เรียบร้อยในอเมริกา
บริษัทมียอดขายที่ประกาศในงบการเงินเติบโตขึ้นทุกปี ถ้าเรานับเริ่มตั้งแต่ปี 2012 ที่มียอดขายทั้งปีแค่หลักร้อยล้านเหรียญเท่านั้น จนในปัจจุบันยอดขายเติบโตหลักพันล้านเหรียญต่อปีเข้าไปแล้ว ถือว่าเป็นหุ้นเติบโตอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ด้านตัวเลขทางการเงินที่ผมสำรวจมา บริษัทนี้ยังไม่ทำกำไรครับ ทำให้พีอีติดลบ แถมไม่จ่ายเงินปันผลด้วย (ก็บริษัทมันยังไม่กำไรอ่ะ) ใครคิดจะลงทุนหุ้นตัวนี้ถือว่าคุณต้องซื้ออนาคตครับ
(ข้อมูลที่ผมสำรวจได้มาจาก YAHOO FINANCEนะครับ)
ยอดขายของ TESLA มาจากอะไร
ยอดขายของ TESLA มาจากการขายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ของเขาก็เข้าสู่ Model 3 เป็นที่เรียบร้อย โดยล่าสุดมียอดจองรถโมเดลนี้แล้วกว่า 4 แสนคัน ราคาขายต่อคันเฉลี่ย 1.4 ล้านบาท คิดคร่าวๆ รายได้เขา TESLA จะทำเงินจากการขายรถได้ 5 – 6 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
โมเดลรถยนต์ไฟฟ้าของ TESLA นั้นจะใช้แหล่งพลังงานเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์กลไกมากมายแต่อย่างใดเลยครับ ว่ากันว่า “จำนวน” ชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะพอๆ กับไอโฟนเครื่องหนึ่งเท่านั้นเอง แต่กำลังการผลิตของ TESLA ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันสามารถผลิตรถยนต์ได้แค่ปีละหลักพันคันเท่านั้น กว่าจะส่งมอบรถหมดตามคำสั่งซื้อลูกค้าอาจเบื่อถอนจองไปก่อนก็ได้ครับ
ความเสี่ยงของกิจการมีหรือเปล่า และอะไรจะมาแข่งกับเทสล่าในอนาคต?
คำตอบก็คือ “มีแน่นอนครับ” ความเสี่ยงก็คือ การเข้ามาของคู่แข่ง เพราะค่ายรถยนต์ยุคเดิมหลายค่ายต่างก็ซุ่มทำวิจัย และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้โด่งดังเหมือนกับ TESLA ทำ ... และหากรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นได้จริง เจ้าเก่าก็น่าจะตบเท้าเข้ามาแข่งขันเพื่อแย่งชิงความอยู่รอดแน่ๆ และประเทศที่น่ากลัวก็คือ พี่จีนของเรานั่นเอง
อย่างไรก็ตามหุ้น TESLA ในอเมริกาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาหุ้นที่โตเร็วกว่ากำไร (ที่ยังไม่มา) นั่นไม่ใช่ว่าคนอเมริกาไม่ฉลาด ดันไปซื้อหุ้นที่กำไรไม่มี เงินปันผลไม่มา แต่เป็นเพราะว่า คนเล่นหุ้นกำลังเก็งกำไรกับเรื่องราวของ “ซุปเปอร์แบตเตอรี่” ที่หากทำสำเร็จจะปฏิรูปวงการไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งโลกต่างหาก ... โดยเทสล่าเองก็ได้เริ่มเดินเครื่องไปไหนหลายๆ มิติ ทั้งการควบรวมกิจการกับเจ้าอื่นๆ และการทำวิจัยอย่างลับๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของบริษัทอย่าง Elon Reeve Musk ก็น่าจับตามองไม่แพ้ตัวบริษัทเลยครับ ความฝันอันสูงสุดของเขาก็คือ จะเห็นมนุษย์โลกไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร ... โอ ... คิดได้ไง!! ผมว่าลีลาของเจ้าของมันช่างดูตื่นเต้นไม่แพ้ราคาหุ้นเทสล่าเลยทีเดียว
ผมเข้าใจว่าการมองหาหุ้นโตเร็วสิบเท่าในสิบปีนั้น ควรเป็น “ภาคบังคับ” ของนักลงทุนระยะยาวนะครับ เราไม่ควรพึงพอใจกับการเก็งกำไรรายวันมากจนเกินไป ทำได้บ้างแก้เบื่อ ... แต่เราควรสนใจเนื้อแท้ของกิจการ และเติบโตไปพร้อมๆ กับมัน และไม่ควรปิดหูปิดตาดูแต่หุ้นในประเทศไทย ควรเปิดรับให้กว้างเข้าไว้ เวลาเจอหุ้นดีๆ ก็ต้องดูให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ อย่างเทสล่าใช่ว่าจะไร้เทียมทานเสมอไป ... ศึกษาไว้ก่อนยังไม่ต้องรีบร้อนลงทุนนะครับ
สนใจติดตามบทความลงทุนอ่านง่ายสบายตา ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/NaiwaenTammada
(นายแว่นลงทุน)