สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
? คำถาม "เดตแรกกับหนุ่มเยอรมัน เขาถามเงินเดือน ปกติมั้ย?"
ตอบ
"ไม่ปกติ" ถ้าหากว่า เช่น ถ้าหากเขาใหม่สดต่อเมืองไทย เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ไม่ค่อยรู้ระบบความคิดคนไทย ไม่รู้ธรรมเนียมไทย ไม่รู้จักคนไทยดีพอ,
ถ้าหากเขาไม่เคยคบคนไทยเป็นแฟนมาก่อน, ถ้าหากเขาไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมไทย (ในแง่ที่คนไทย "ส่วนใหญ่" ชอบสอดรู้สอดเห็นอยากทราบเงินเดือนของผู้อื่น เพื่อเอาไปประเมินสถานะทางการเงิน สถานะภาพทางสังคม เปรียบเทียบ หาผลประโยชน์ เป็นต้น) หรือ ถ้าหากว่าเขาไม่เคยอาศัยใช้ชีวิตทำงาน หรือไม่เคยคบกับพลเมืองของ ปท ที่กำลังพัฒนามาก่อน เหล่านี้เป็นต้น จะแปลกมาก ไม่ปกติ
"ปกติ" ถ้าหากว่า เช่น เขาอยู่เมืองไทยมานาน รู้จักคนไทยดี รู้จักระบบความคิดของคนไทย, เคยคบกับคนไทยเป็นแฟนมาก่อน,
รู้จักระบบความคิด รู้จักระบบครอบครัวไทย เขาอาจจะกลัวเรื่องเหล่านี้เช่น เรื่องที่คนไทยต้องส่งเงินให้ทางบ้าน กลัวเรื่องสินสอด
หรือ เขาต้องการจะเช็คเบื้องต้นว่าคุณเป็นคนอย่างไร เช่น เงินเดือนที่ได้เหมาะสมกับข้าวของที่ใช้หรือไม่ เพราะพนักงานออฟฟิสคนไทยบางคนเงินเดือนอาจจะ 2, 3-5 หมื่น ไม่เกิน 1 แสนต่อเดือน แต่สะพายกระเป๋าใบละ 6 หมื่น รองเท้าคู่ละหมื่นกว่า โทรศัพท์เครื่องละ 3 หมื่นกว่า มีรถขับไปทำงาน ผ่อนคอนโด เที่ยวนอกปีละ 4-5 ทริป คาดนาฬิกาข้อมือเรือนละ 5-6 หมื่น หรือ แสนกว่าบาท
หรือ ต้องการคบคนที่มีหน้าที่การงานมีรายได้ที่ไม่ด้อยกว่าเขามากนัก พอที่เขาจะคุยอวดคนอื่นเชิดหน้าชูตาได้ว่าเขาคบผู้หญิงไทย
ที่มีการศึกษามีหน้าที่การงานดี มีรายได้ดี หากคิดคบจริงจัง เป็นต้น แบบนี้ปกติ
***ฝรั่งบางคนก็เลือกคบคนที่ฐานะ ที่สถานะภาพทางสังคม ที่ระดับการศึกษา มียศมีตำแหน่ง มีคอนเน็คชั่น เป็นต้น เหมือนๆ คนไทย
และ คนอีกหลายชาติอื่นๆ
ถ้าเราเป็นผู้หญิง เจอผู้ชายมาถามคำถามนี้ตั้งแต่เดทแรก เราไม่คบ เพราะถือว่า ในหัวเขาคิดเรื่องเงินมาก่อนอย่างอื่น
ดูเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย เรื่องเงิน เรื่องกำไรขาดทุน ดูเป็นธุรกิจ (แต่เงินก็สำคัญนะ ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ เงินสามารถซื้อความสะดวกสบายได้
ซื้อการรักษาสุขภาพที่ดีได้ ซื้อคุณภาพชีวิตที่ดีได้ เป็นต้น เพราะชีวิตไม่ได้สามารถดำรงได้แค่ด้วยแกลบ หรือ แค่ด้วยก้อนเกลือ)
แต่เราชอบตรงที่เขาถามตรงประเด็นสไตล์ฝรั่ง ไม่อ้อมค้อม คงเพราะไม่ต้องการเสียเวลา ต้องการประเมินตั้งแต่เดทแรก
จึงต้องมองเขาอย่างเข้าใจด้วยว่า มันเป็นสิทธิของเขา โดยเบสจากประสบการณ์ในอดีตของเขา
เพราะเขาอาจจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน เกี่ยวกับการคบคนไทย หรือ การคบกับพลเมืองของ ปท ที่กำลังพัฒนา ปท อื่นๆ
ปัญหาในเรื่องของเงินๆ ทองๆ สินสอด ดราม่ากตัญญู หรือ โดนหลอกเอาเงิน โดยที่คนหลอกเอาหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะเอาเรื่องการส่งเสียครอบครัว
การส่งเสียลูกติด การมีภาระทางการเงินเยอะ มาอ้างหลอกสร้างสถานะการณ์เพื่อบีบน้ำตาเอาเงินเขา
ผู้ชายฝรั่งหลายๆ คน เขากลัวการคบผู้หญิงบางชาติก็เพราะแบบนี้แหละ โดยเฉพาะผู้ชายดีๆ ฉลาดๆ มีความคิด
หรือ คนที่เคยมีประสบการณ์ถูกหลอก ถูกเอาเปรียบมาก่อน เขาก็ต้องปกป้องตัวเอง และ ทรัพย์สินที่เขาหามาได้ เป็นเรื่องธรรมดา
หรือ อาจจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องที่ฝรั่งโดนคนไทยหลอกมาเยอะ จากอินเทอร์เน็ท จากคนใกล้ชิด หรือ อาจจะเคยมีญาติที่มีแฟนมีภรรยาคนไทย
หรือ คน ปท กำลังพัฒนาชาติอื่นๆ แล้วเขาเตือนๆ ต่อๆ กันมา ว่าต้องระวังอะไรบ้างถ้าจะคบ
ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้หมด เราคาดคะเนเอา วิเคราะห์เอาล้วนๆ
***เราแนะนำ ให้คุณถามเหตุผลเขาไปตรงๆ เลย ว่าเขาถามทำไม บอกเขา สำหรับฝรั่งถือเป็นเรื่องเสียมารยาท
แต่สำหรับคนไทย "ส่วนใหญ่" คือถามกัน แต่ทำไมเขาเป็นฝรั่งจึงถาม
ถ้าเขาเป็นคนที่เปิดกว้าง ตรงไปตรงมา หลากวัฒนธรรม ความคิดไม่คับแคบ ชอบสนทนา ชอบแลกเปลี่ยนมุมมอง
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุณกับเขาจะได้มีเรื่องมาสนทนากันต่อในเรื่องของวัฒนธรรม ความแตกต่าง
และ เขาอาจจะเล่าประสบการณ์ ให้คุณฟัง เพราะทุกอย่างมันต้องมีที่มาที่ไปเสมอ
แต่ถ้าเขาไม่เปิดใจ ก็ต้องเดากันต่อไป ช่วยๆ กันเดา กับคนในพันทิป ☺️😄
***ส่วนตรงนี้ขอเรียนถาม จขกท ดังนี้ เพื่อ
1. เอาไว้เป็นกรณีศึกษา
2. จะได้มีข้อมูลมากขึ้น ทำให้การวิเคราะห์สามารถทำได้กว้างขึ้น
ขอถามว่า
1. เดทแรกที่ไปดินเน่อร์กันนั้น ใครชวนใครก่อน ใครเป็นคนเลือกร้านอาหาร หรือ เอาตัวเลือกมานำเสนอกัน แล้วตัดสินใจร่วมกัน
2. ไปร้านอาหารประเภทไหน ไทย อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น เยอรมัน อิสาน จีน เม็กซิกัน เยอรมัน ฟิวชั่น เป็นต้น
3. ร้านระดับไหน ล่าง ปานกลาง ธรรมดา หรู หรูมาก ร้านเดี่ยวตามบ้านสวยๆ ร้านในห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านในโรงแรม 4-5 ดาว
4. ใครเป็นคนจ่ายเงินค่าอาหาร ตกลงหารกัน หรือ เขาควักจ่ายเลย โดยไม่อิดออด หรือ มีการลังเลเล็กน้อย
5. หลังจากคำถามนั้นแล้ว เขาถามเรื่องส่วนตัวอะไรอีก
6. เขาถามเงินเดือนคุณ แต่เขาบอกเงินเดือนของเขาให้คุณทราบไหม
7. มีนัดมื้อต่อไปไหม ยังคุยกันอยู่หรือเปล่า
***ข้อควรระวัง ผู้บริหารระดับสูง ส่วนใหญ่อายุใกล้วัยกลางคน หรือ ต้องเป็นวัยกลางคนแล้ว (พูดถึงช่วงอายุประมาณตั้งแต่ราวๆ 30 กลางๆ
ไปจนถึง 40 ต้นๆ ขึ้นไป จนถึง 50 กว่า) ซึ่งตามปกติมักจะเป็นคนที่แต่งงานแล้ว หรือ มีคู่ที่อยู่ร่วมกันมานานแล้ว เขามีแนวโน้มที่จะแต่งงานแล้ว สูงมาก
ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน ระวังจะเจอ "ไบ" หรือ "เกย์แอ๊บแมน" เพราะผู้ชายบางคนชอบลองทุกแบบทุกอย่าง หรือ บางคนต้องการคบผู้หญิงบังหน้า
หรือ อาจจเเจอผู้ชายที่จู้จี้ ขี้เหนียว ใจแคบ เผด็จการ เห็นแก่ตัว หรือ พวกรักสนุก รักอิสระ คนอื่นอยู่ด้วยยาก
หรือ เขาอาจจะเป็นพ่อหม้าย เมียตาย เมียหย่า ต้องดูให้ดีว่าเลิกกันเพราะอะไร กับคนเก่า หรือ ทำไมยังไม่แต่งงาน
อ่านแล้วอย่าเพิ่งตกใจวิ่งหนีไปนะน้อง 😄 พี่แค่วิเคราะห์ให้ฟัง ถึงความต่างๆ นาๆ ที่น่าจะเป็นไปได้
***ขอบคุณเจ้าของกระทู้เช่นกันที่เข้ามาดู มาตอบ รู้สึกยินดี และ ดีใจว่าที่พิมพ์ให้ข้างบนนั้น สามารถช่วย จขกท ได้บ้าง
ขอตอบกลับเช่นกัน เป็นข้อๆ ข้อต่อข้อ ดังนี้
"1. เขาชวนก่อนค่ะ เขาให้ตัวเลือกมา 2 ร้านที่เขารุ้สึกว่าดี เราเลือกร้านนึงในนั้น"
**แสดงให้เห็นถึงว่าเขาสนใจในตัวคุณ เป็นคนที่ให้เกียรติผู้อื่น มีมารยาท นึกถึงผู้อื่น ไม่ใช่เอาแต่ความชอบของตนเองเป็นหลัก
"2.ไปร้านอาหารอิตาเลียน"
**ช้อยส์ดี
"3. ก็หรูนิดนึงค่ะ ร้านบ้านเดี่ยวบรรยากาศดีมีสวน"
**รสนิยมดี ให้ความสำคัญกับคู่เดท พาไปสถานที่ๆ มีบรรยากาศดี
หวังว่าถ้ากินพาสต้ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ถ้ากินสปาเก็ตตี้" เขาจะกินอย่างรู้มารยาทว่า "จะต้องไม่ใช้ช้อนช่วยม้วนเด็ดขาด"
กินแบบ "อาล เดนเต้"
และ หวังว่า ร้านที่เขาพาไปกิน จะเป็นร้านที่พนักงานจะไม่เอาช้อนมาวางให้ สำหรับใช้กินสปาเก็ตตี้
และ จะไม่มีการตัดเส้นสปาเก็ตตี้เด็ดขาด ร้านอิตาเลี่ยนบางร้าน ในบาง ปท ตัดเส้นสปาเก็ตตี้ให้สั้น จนไม่สามารถใช้ส้อมม้วนได้เลย
ที่ต้องขอเขียน เพราะคน "ส่วนใหญ่" หลายๆ ชาติ แทบจะทั่วโลก คิดว่าการกินสปาเก็ตตี้นั้น ต้องใช้ช้อนช่วยพัน
หรือ ที่หนักกว่านั้น คนบางชาติกินสปาเก็ตตี้ด้วยส้อมกับมีด - การกินพาสต้าด้วยช้อนสามารถทำได้ตามมารยาทก็ต่อเมื่อพาสต้านั้นอยู่ในถ้วยซุปเท่านั้น
"4. เขาจ่ายเลยไม่อิดออด แต่เช็คเมนูอาหารละเอียดอยู่ค่ะ"
**ไม่งก ไม่ขี้เหนียว รอบคอบ (แต่อาจจะใช้งบบริษัท ใช้เครดิตการ์ดที่บริษัททำให้จ่าย แล้วเคลมรายจ่ายว่าพาลูกค้าไปเอนเตอร์เทน ไปคุยธุรกิจ 555)
"5. วันนั้นคุยเรื่องส่วนตัวกันเยอะมาก เขาถามเราเราก้อถามเขากลับ แต่เรื่องเงินเดือนนี่ที่ไม่ได้ถามกลับเพราะรุ้สึกว่าเปนเรื่องส่วนตัวมากๆ"
**เสมอภาคดี และ การที่จะทำความรู้จักกับใครสักคนเพื่อศึกษาดูใจในขั้นต่อๆ ไป ก็ต้องมีการซักถามทำความรู้จักกันก่อน
แต่สำหรับเรา เราชอบแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปมากกว่า ชอบแบบธรรมชาติ ชอบแบบที่เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ระหว่างคบ
ชอบแบบที่ให้ออกมาจากบทสนทนาเอง หรือ จากเหตุการณ์บังเอิญ แต่ไม่ใช่การตั้งหน้าตั้งตาถามคำถามกันอย่างกับจะสัมภาษณ์งาน
ในเดทแรก เราว่าไวไป จู่โจมเกินไป
ดีมากๆ แล้วที่คุณไม่ถามเรื่องเงินเดือนเขากลับ เป็นเราเราก็ไม่ถาม เพราะเราถือว่าเสียมารยาทมากๆ และ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ
หากมีคนถาม เราไม่ตอบ และ เราไม่เคยถามใครเรื่องเงินเดือน
แต่อย่างที่เราให้เหตุผลกับคุณข้างบน ว่าทำไม่ฝรั่งคนนี้ถาม คือมันต้องมีที่มาที่ไป แนะนำให้คุณคุยกับเขาถามเขาไปเลยว่า ถามทำไม
จะได้ไม่ต้องมีอะไรคาใจ คำตอบของเขาจะเป็นเครื่องประเมินวิเคราะห์ตัวตนของเขาได้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก โดยเฉพาะทัศนะคติของเขา
ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ
หรือ ไม่อีกทีก็ คือ นอกจากเขาจะชอบคุณแบบจีบแล้ว แต่อาจจะชอบโพรไฟล์ในการศึกษา ในการทำงาน ความสามารถของคุณด้วย
คิดอยากจะชวนให้คุณมาทำงานด้วย จะเอาข้อมูลเรื่องเงินเดือนไปพิจารณาถึงค่าจ้างที่บริษัทของเขาจะยื่นข้อเสนอในการชักชวนคุณให้มา
ทำงานด้วย
"6. เขาไม่ได้บอกเงินเดือนให้ทราบค่ะ แต่รุ้สึกเขาจะมีแชร์ในบริษัทค่ะ"
**ไม่แฟร์ ถามของคนอื่น แต่ไม่บอกของตัวเอง บริษัทอาจจะเป็นของครอบครัวของเขา หรือ ของเครือญาติ
ไม่งั้นอายุน้อยขนาดนี้คงไม่ได้มาคุมในตำแหน่งนี้ เป็นบริษัทเล็กๆ ใช่ไหม ไม่ใช่บริษัทข้ามชาติใหญ่ๆ ระดับโลก
"7. มีนัดต่อค่ะ เดตแรกจบค่อนข้างดี"
**ก็ขอให้มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ถ้าหาก จขกท อยากคบเขาอย่างยืนยาว อย่างไม่เจ็บตัว ไม่เสียใจ ไม่ต้องตั้งความหวังสูง
ขอให้คบเขาแบบเพื่อน ให้มิตรภาพเขาในฐานะคนไทยที่มีมิตรไมตรีกับเพื่อนฝรั่ง ที่สามารถเป็นคู่คิด เป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนสนทนา เพื่อนกิน
เพื่อนเที่ยว แบบนี้จะคบยืนยาวกว่า สามารถเรียนรู้กันได้ดีมากกว่าการเริ่มคบแบบแฟน ถ้าคบแบบแฟน เรื่องเซ็กซ์จะนำหน้าเรื่องอื่น
ความสัมพันธ์จะไม่ยืนยาว เพราะถ้าได้ซั่มกันเมื่อไหร่ อาจจะเบื่อกันได้เร็ว (แต่มีเซ็กซ์ได้ถ้ามีจังหวะดีๆ ไม่ได้บอกห้ามมี เพราะพวกคุณอายุจะ 30 แล้ว
ถ้าคบกันแล้วไม่อยากมีเซ็กซ์ ก็ถือว่าแปลกผิดปกติของมนุษย์)
เพราะฉนั้นคบแบบเพื่อนก่อน จะมั่นคงกว่า ถ้าคุณชอบเขา คิดจริงจัง ต้องวางตัวในฐานะเพื่อน ที่สามารถเป็นที่พึ่ง ให้คำปรึกษา
ให้เสียงหัวเราะ ให้ความไว้วางใจได้ ชนิดที่ว่า หากเขามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็แล้วแต่ เขาจะนึกถึงคุณเป็นคนแรก อยากคุยกับคุณ อยากได้คำปลอบใจจากคุณ หรือ แค่มีคุณอยู่ใกล้ๆ เขาก็รู้สึกดีแล้ว โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรกันเลยก็ได้
"และเรื่องอายุเขาอายุ 29 ค่ะ เท่าที่ฟังน่าจะยังไม่เคยแต่งงานค่ะ"
***เป็นคนอายุ 29 ที่ฟังดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว มีความรับผิดชอบเกินอายุ สไตล์ฝรั่ง
จากข้อมูลน้อยนิดที่อ่านจากคุณเล่ามา ซึ่งเราอาจจะวิเคราะห์ไม่ตรงนัก อาจจะจริงบ้าง ใกล้เคียง พลาดคลาดเคลื่อนบ้าง
แต่ดูเขาเป็นคนทะเยอทะยาน คงจะมาจากพื้นฐานการศึกษาดี พื้นฐานครอบครัวที่ใช้ได้
แต่เขาเป็นฝรั่ง อายุก็น้อย และ อาศัยอยู่ในเมืองไทย หน้าที่การงานก็ฟังดูดี มีเงินเปย์พาสาวไปดินเน่อร์หรูได้
ย่อมเป็นที่หมายปองของสาวไทย ทั้งสาวใหญ่ สาวน้อย สาวไม่น้อย สาวสอง สาวแท้ สาวเทียม รวมไปถึงเก้ง กวาง
นอกจากบ่าง และ ชะนี เขาก็ย่อมเลือกได้ ต้องระวังในจุดนี้ด้วย
ขอให้คบด้วยการเอาสติปัญญานำ อย่าเอากิเลสนำ อย่าเอาความนิยมชมชอบฝรั่งนำ อย่าเอาเซ็กซ์นำ
ผู้ชายบางคนสับรางเก่ง ต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ การเป็นฝรั่งในเมืองไทย แถมอายุน้อย โสด ตำแหน่งดี เขาจะมีคนมาเสนอตัวให้เสมอ
แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองด้วย ว่าต้องการอะไร มีจุดยืนในหลายๆ ด้านในการใช้ชีวิตอย่างไร
จากการอ่านที่หนู จขกท ตั้งกระทู้ ภาษาที่ใช้ การเล่าเรื่อง มารยาท การที่มีหนุ่มฝรั่งอายุน้อย โพรไฟล์ดี มาสนใจ ให้เกียรติ
เราก็คิดว่า คุณต้องเป็นคนมีบุคลิกดี มีเสน่ห์น่าสนใจ รู้จักการพูดคุย เป็นคนมีการศึกษา มีงานดีๆ ทำ รู้จักแต่งตัว รู้จักการวางตัว
มาจากพื้นฐานครอบครัวที่ดีในระดับหนึ่ง
ที่เหลือคุณต้องใช้สมองคิดเอง ใช้สติปัญญาคบเอง เอาสองอย่างแรกนำหน้าการคบด้วยใจ นำหน้าการคบด้วยอารมณ์
เราคนอ่าน ช่วยวิเคราะห์ให้ได้แค่นี้
ตอบ
"ไม่ปกติ" ถ้าหากว่า เช่น ถ้าหากเขาใหม่สดต่อเมืองไทย เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ไม่ค่อยรู้ระบบความคิดคนไทย ไม่รู้ธรรมเนียมไทย ไม่รู้จักคนไทยดีพอ,
ถ้าหากเขาไม่เคยคบคนไทยเป็นแฟนมาก่อน, ถ้าหากเขาไม่คุ้นเคยวัฒนธรรมไทย (ในแง่ที่คนไทย "ส่วนใหญ่" ชอบสอดรู้สอดเห็นอยากทราบเงินเดือนของผู้อื่น เพื่อเอาไปประเมินสถานะทางการเงิน สถานะภาพทางสังคม เปรียบเทียบ หาผลประโยชน์ เป็นต้น) หรือ ถ้าหากว่าเขาไม่เคยอาศัยใช้ชีวิตทำงาน หรือไม่เคยคบกับพลเมืองของ ปท ที่กำลังพัฒนามาก่อน เหล่านี้เป็นต้น จะแปลกมาก ไม่ปกติ
"ปกติ" ถ้าหากว่า เช่น เขาอยู่เมืองไทยมานาน รู้จักคนไทยดี รู้จักระบบความคิดของคนไทย, เคยคบกับคนไทยเป็นแฟนมาก่อน,
รู้จักระบบความคิด รู้จักระบบครอบครัวไทย เขาอาจจะกลัวเรื่องเหล่านี้เช่น เรื่องที่คนไทยต้องส่งเงินให้ทางบ้าน กลัวเรื่องสินสอด
หรือ เขาต้องการจะเช็คเบื้องต้นว่าคุณเป็นคนอย่างไร เช่น เงินเดือนที่ได้เหมาะสมกับข้าวของที่ใช้หรือไม่ เพราะพนักงานออฟฟิสคนไทยบางคนเงินเดือนอาจจะ 2, 3-5 หมื่น ไม่เกิน 1 แสนต่อเดือน แต่สะพายกระเป๋าใบละ 6 หมื่น รองเท้าคู่ละหมื่นกว่า โทรศัพท์เครื่องละ 3 หมื่นกว่า มีรถขับไปทำงาน ผ่อนคอนโด เที่ยวนอกปีละ 4-5 ทริป คาดนาฬิกาข้อมือเรือนละ 5-6 หมื่น หรือ แสนกว่าบาท
หรือ ต้องการคบคนที่มีหน้าที่การงานมีรายได้ที่ไม่ด้อยกว่าเขามากนัก พอที่เขาจะคุยอวดคนอื่นเชิดหน้าชูตาได้ว่าเขาคบผู้หญิงไทย
ที่มีการศึกษามีหน้าที่การงานดี มีรายได้ดี หากคิดคบจริงจัง เป็นต้น แบบนี้ปกติ
***ฝรั่งบางคนก็เลือกคบคนที่ฐานะ ที่สถานะภาพทางสังคม ที่ระดับการศึกษา มียศมีตำแหน่ง มีคอนเน็คชั่น เป็นต้น เหมือนๆ คนไทย
และ คนอีกหลายชาติอื่นๆ
ถ้าเราเป็นผู้หญิง เจอผู้ชายมาถามคำถามนี้ตั้งแต่เดทแรก เราไม่คบ เพราะถือว่า ในหัวเขาคิดเรื่องเงินมาก่อนอย่างอื่น
ดูเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย เรื่องเงิน เรื่องกำไรขาดทุน ดูเป็นธุรกิจ (แต่เงินก็สำคัญนะ ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ เงินสามารถซื้อความสะดวกสบายได้
ซื้อการรักษาสุขภาพที่ดีได้ ซื้อคุณภาพชีวิตที่ดีได้ เป็นต้น เพราะชีวิตไม่ได้สามารถดำรงได้แค่ด้วยแกลบ หรือ แค่ด้วยก้อนเกลือ)
แต่เราชอบตรงที่เขาถามตรงประเด็นสไตล์ฝรั่ง ไม่อ้อมค้อม คงเพราะไม่ต้องการเสียเวลา ต้องการประเมินตั้งแต่เดทแรก
จึงต้องมองเขาอย่างเข้าใจด้วยว่า มันเป็นสิทธิของเขา โดยเบสจากประสบการณ์ในอดีตของเขา
เพราะเขาอาจจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน เกี่ยวกับการคบคนไทย หรือ การคบกับพลเมืองของ ปท ที่กำลังพัฒนา ปท อื่นๆ
ปัญหาในเรื่องของเงินๆ ทองๆ สินสอด ดราม่ากตัญญู หรือ โดนหลอกเอาเงิน โดยที่คนหลอกเอาหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะเอาเรื่องการส่งเสียครอบครัว
การส่งเสียลูกติด การมีภาระทางการเงินเยอะ มาอ้างหลอกสร้างสถานะการณ์เพื่อบีบน้ำตาเอาเงินเขา
ผู้ชายฝรั่งหลายๆ คน เขากลัวการคบผู้หญิงบางชาติก็เพราะแบบนี้แหละ โดยเฉพาะผู้ชายดีๆ ฉลาดๆ มีความคิด
หรือ คนที่เคยมีประสบการณ์ถูกหลอก ถูกเอาเปรียบมาก่อน เขาก็ต้องปกป้องตัวเอง และ ทรัพย์สินที่เขาหามาได้ เป็นเรื่องธรรมดา
หรือ อาจจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องที่ฝรั่งโดนคนไทยหลอกมาเยอะ จากอินเทอร์เน็ท จากคนใกล้ชิด หรือ อาจจะเคยมีญาติที่มีแฟนมีภรรยาคนไทย
หรือ คน ปท กำลังพัฒนาชาติอื่นๆ แล้วเขาเตือนๆ ต่อๆ กันมา ว่าต้องระวังอะไรบ้างถ้าจะคบ
ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้หมด เราคาดคะเนเอา วิเคราะห์เอาล้วนๆ
***เราแนะนำ ให้คุณถามเหตุผลเขาไปตรงๆ เลย ว่าเขาถามทำไม บอกเขา สำหรับฝรั่งถือเป็นเรื่องเสียมารยาท
แต่สำหรับคนไทย "ส่วนใหญ่" คือถามกัน แต่ทำไมเขาเป็นฝรั่งจึงถาม
ถ้าเขาเป็นคนที่เปิดกว้าง ตรงไปตรงมา หลากวัฒนธรรม ความคิดไม่คับแคบ ชอบสนทนา ชอบแลกเปลี่ยนมุมมอง
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุณกับเขาจะได้มีเรื่องมาสนทนากันต่อในเรื่องของวัฒนธรรม ความแตกต่าง
และ เขาอาจจะเล่าประสบการณ์ ให้คุณฟัง เพราะทุกอย่างมันต้องมีที่มาที่ไปเสมอ
แต่ถ้าเขาไม่เปิดใจ ก็ต้องเดากันต่อไป ช่วยๆ กันเดา กับคนในพันทิป ☺️😄
***ส่วนตรงนี้ขอเรียนถาม จขกท ดังนี้ เพื่อ
1. เอาไว้เป็นกรณีศึกษา
2. จะได้มีข้อมูลมากขึ้น ทำให้การวิเคราะห์สามารถทำได้กว้างขึ้น
ขอถามว่า
1. เดทแรกที่ไปดินเน่อร์กันนั้น ใครชวนใครก่อน ใครเป็นคนเลือกร้านอาหาร หรือ เอาตัวเลือกมานำเสนอกัน แล้วตัดสินใจร่วมกัน
2. ไปร้านอาหารประเภทไหน ไทย อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น เยอรมัน อิสาน จีน เม็กซิกัน เยอรมัน ฟิวชั่น เป็นต้น
3. ร้านระดับไหน ล่าง ปานกลาง ธรรมดา หรู หรูมาก ร้านเดี่ยวตามบ้านสวยๆ ร้านในห้างสรรพสินค้า หรือ ร้านในโรงแรม 4-5 ดาว
4. ใครเป็นคนจ่ายเงินค่าอาหาร ตกลงหารกัน หรือ เขาควักจ่ายเลย โดยไม่อิดออด หรือ มีการลังเลเล็กน้อย
5. หลังจากคำถามนั้นแล้ว เขาถามเรื่องส่วนตัวอะไรอีก
6. เขาถามเงินเดือนคุณ แต่เขาบอกเงินเดือนของเขาให้คุณทราบไหม
7. มีนัดมื้อต่อไปไหม ยังคุยกันอยู่หรือเปล่า
***ข้อควรระวัง ผู้บริหารระดับสูง ส่วนใหญ่อายุใกล้วัยกลางคน หรือ ต้องเป็นวัยกลางคนแล้ว (พูดถึงช่วงอายุประมาณตั้งแต่ราวๆ 30 กลางๆ
ไปจนถึง 40 ต้นๆ ขึ้นไป จนถึง 50 กว่า) ซึ่งตามปกติมักจะเป็นคนที่แต่งงานแล้ว หรือ มีคู่ที่อยู่ร่วมกันมานานแล้ว เขามีแนวโน้มที่จะแต่งงานแล้ว สูงมาก
ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน ระวังจะเจอ "ไบ" หรือ "เกย์แอ๊บแมน" เพราะผู้ชายบางคนชอบลองทุกแบบทุกอย่าง หรือ บางคนต้องการคบผู้หญิงบังหน้า
หรือ อาจจเเจอผู้ชายที่จู้จี้ ขี้เหนียว ใจแคบ เผด็จการ เห็นแก่ตัว หรือ พวกรักสนุก รักอิสระ คนอื่นอยู่ด้วยยาก
หรือ เขาอาจจะเป็นพ่อหม้าย เมียตาย เมียหย่า ต้องดูให้ดีว่าเลิกกันเพราะอะไร กับคนเก่า หรือ ทำไมยังไม่แต่งงาน
อ่านแล้วอย่าเพิ่งตกใจวิ่งหนีไปนะน้อง 😄 พี่แค่วิเคราะห์ให้ฟัง ถึงความต่างๆ นาๆ ที่น่าจะเป็นไปได้
***ขอบคุณเจ้าของกระทู้เช่นกันที่เข้ามาดู มาตอบ รู้สึกยินดี และ ดีใจว่าที่พิมพ์ให้ข้างบนนั้น สามารถช่วย จขกท ได้บ้าง
ขอตอบกลับเช่นกัน เป็นข้อๆ ข้อต่อข้อ ดังนี้
"1. เขาชวนก่อนค่ะ เขาให้ตัวเลือกมา 2 ร้านที่เขารุ้สึกว่าดี เราเลือกร้านนึงในนั้น"
**แสดงให้เห็นถึงว่าเขาสนใจในตัวคุณ เป็นคนที่ให้เกียรติผู้อื่น มีมารยาท นึกถึงผู้อื่น ไม่ใช่เอาแต่ความชอบของตนเองเป็นหลัก
"2.ไปร้านอาหารอิตาเลียน"
**ช้อยส์ดี
"3. ก็หรูนิดนึงค่ะ ร้านบ้านเดี่ยวบรรยากาศดีมีสวน"
**รสนิยมดี ให้ความสำคัญกับคู่เดท พาไปสถานที่ๆ มีบรรยากาศดี
หวังว่าถ้ากินพาสต้ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ถ้ากินสปาเก็ตตี้" เขาจะกินอย่างรู้มารยาทว่า "จะต้องไม่ใช้ช้อนช่วยม้วนเด็ดขาด"
กินแบบ "อาล เดนเต้"
และ หวังว่า ร้านที่เขาพาไปกิน จะเป็นร้านที่พนักงานจะไม่เอาช้อนมาวางให้ สำหรับใช้กินสปาเก็ตตี้
และ จะไม่มีการตัดเส้นสปาเก็ตตี้เด็ดขาด ร้านอิตาเลี่ยนบางร้าน ในบาง ปท ตัดเส้นสปาเก็ตตี้ให้สั้น จนไม่สามารถใช้ส้อมม้วนได้เลย
ที่ต้องขอเขียน เพราะคน "ส่วนใหญ่" หลายๆ ชาติ แทบจะทั่วโลก คิดว่าการกินสปาเก็ตตี้นั้น ต้องใช้ช้อนช่วยพัน
หรือ ที่หนักกว่านั้น คนบางชาติกินสปาเก็ตตี้ด้วยส้อมกับมีด - การกินพาสต้าด้วยช้อนสามารถทำได้ตามมารยาทก็ต่อเมื่อพาสต้านั้นอยู่ในถ้วยซุปเท่านั้น
"4. เขาจ่ายเลยไม่อิดออด แต่เช็คเมนูอาหารละเอียดอยู่ค่ะ"
**ไม่งก ไม่ขี้เหนียว รอบคอบ (แต่อาจจะใช้งบบริษัท ใช้เครดิตการ์ดที่บริษัททำให้จ่าย แล้วเคลมรายจ่ายว่าพาลูกค้าไปเอนเตอร์เทน ไปคุยธุรกิจ 555)
"5. วันนั้นคุยเรื่องส่วนตัวกันเยอะมาก เขาถามเราเราก้อถามเขากลับ แต่เรื่องเงินเดือนนี่ที่ไม่ได้ถามกลับเพราะรุ้สึกว่าเปนเรื่องส่วนตัวมากๆ"
**เสมอภาคดี และ การที่จะทำความรู้จักกับใครสักคนเพื่อศึกษาดูใจในขั้นต่อๆ ไป ก็ต้องมีการซักถามทำความรู้จักกันก่อน
แต่สำหรับเรา เราชอบแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปมากกว่า ชอบแบบธรรมชาติ ชอบแบบที่เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ระหว่างคบ
ชอบแบบที่ให้ออกมาจากบทสนทนาเอง หรือ จากเหตุการณ์บังเอิญ แต่ไม่ใช่การตั้งหน้าตั้งตาถามคำถามกันอย่างกับจะสัมภาษณ์งาน
ในเดทแรก เราว่าไวไป จู่โจมเกินไป
ดีมากๆ แล้วที่คุณไม่ถามเรื่องเงินเดือนเขากลับ เป็นเราเราก็ไม่ถาม เพราะเราถือว่าเสียมารยาทมากๆ และ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ
หากมีคนถาม เราไม่ตอบ และ เราไม่เคยถามใครเรื่องเงินเดือน
แต่อย่างที่เราให้เหตุผลกับคุณข้างบน ว่าทำไม่ฝรั่งคนนี้ถาม คือมันต้องมีที่มาที่ไป แนะนำให้คุณคุยกับเขาถามเขาไปเลยว่า ถามทำไม
จะได้ไม่ต้องมีอะไรคาใจ คำตอบของเขาจะเป็นเครื่องประเมินวิเคราะห์ตัวตนของเขาได้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีก โดยเฉพาะทัศนะคติของเขา
ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ
หรือ ไม่อีกทีก็ คือ นอกจากเขาจะชอบคุณแบบจีบแล้ว แต่อาจจะชอบโพรไฟล์ในการศึกษา ในการทำงาน ความสามารถของคุณด้วย
คิดอยากจะชวนให้คุณมาทำงานด้วย จะเอาข้อมูลเรื่องเงินเดือนไปพิจารณาถึงค่าจ้างที่บริษัทของเขาจะยื่นข้อเสนอในการชักชวนคุณให้มา
ทำงานด้วย
"6. เขาไม่ได้บอกเงินเดือนให้ทราบค่ะ แต่รุ้สึกเขาจะมีแชร์ในบริษัทค่ะ"
**ไม่แฟร์ ถามของคนอื่น แต่ไม่บอกของตัวเอง บริษัทอาจจะเป็นของครอบครัวของเขา หรือ ของเครือญาติ
ไม่งั้นอายุน้อยขนาดนี้คงไม่ได้มาคุมในตำแหน่งนี้ เป็นบริษัทเล็กๆ ใช่ไหม ไม่ใช่บริษัทข้ามชาติใหญ่ๆ ระดับโลก
"7. มีนัดต่อค่ะ เดตแรกจบค่อนข้างดี"
**ก็ขอให้มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ถ้าหาก จขกท อยากคบเขาอย่างยืนยาว อย่างไม่เจ็บตัว ไม่เสียใจ ไม่ต้องตั้งความหวังสูง
ขอให้คบเขาแบบเพื่อน ให้มิตรภาพเขาในฐานะคนไทยที่มีมิตรไมตรีกับเพื่อนฝรั่ง ที่สามารถเป็นคู่คิด เป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนสนทนา เพื่อนกิน
เพื่อนเที่ยว แบบนี้จะคบยืนยาวกว่า สามารถเรียนรู้กันได้ดีมากกว่าการเริ่มคบแบบแฟน ถ้าคบแบบแฟน เรื่องเซ็กซ์จะนำหน้าเรื่องอื่น
ความสัมพันธ์จะไม่ยืนยาว เพราะถ้าได้ซั่มกันเมื่อไหร่ อาจจะเบื่อกันได้เร็ว (แต่มีเซ็กซ์ได้ถ้ามีจังหวะดีๆ ไม่ได้บอกห้ามมี เพราะพวกคุณอายุจะ 30 แล้ว
ถ้าคบกันแล้วไม่อยากมีเซ็กซ์ ก็ถือว่าแปลกผิดปกติของมนุษย์)
เพราะฉนั้นคบแบบเพื่อนก่อน จะมั่นคงกว่า ถ้าคุณชอบเขา คิดจริงจัง ต้องวางตัวในฐานะเพื่อน ที่สามารถเป็นที่พึ่ง ให้คำปรึกษา
ให้เสียงหัวเราะ ให้ความไว้วางใจได้ ชนิดที่ว่า หากเขามีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็แล้วแต่ เขาจะนึกถึงคุณเป็นคนแรก อยากคุยกับคุณ อยากได้คำปลอบใจจากคุณ หรือ แค่มีคุณอยู่ใกล้ๆ เขาก็รู้สึกดีแล้ว โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรกันเลยก็ได้
"และเรื่องอายุเขาอายุ 29 ค่ะ เท่าที่ฟังน่าจะยังไม่เคยแต่งงานค่ะ"
***เป็นคนอายุ 29 ที่ฟังดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว มีความรับผิดชอบเกินอายุ สไตล์ฝรั่ง
จากข้อมูลน้อยนิดที่อ่านจากคุณเล่ามา ซึ่งเราอาจจะวิเคราะห์ไม่ตรงนัก อาจจะจริงบ้าง ใกล้เคียง พลาดคลาดเคลื่อนบ้าง
แต่ดูเขาเป็นคนทะเยอทะยาน คงจะมาจากพื้นฐานการศึกษาดี พื้นฐานครอบครัวที่ใช้ได้
แต่เขาเป็นฝรั่ง อายุก็น้อย และ อาศัยอยู่ในเมืองไทย หน้าที่การงานก็ฟังดูดี มีเงินเปย์พาสาวไปดินเน่อร์หรูได้
ย่อมเป็นที่หมายปองของสาวไทย ทั้งสาวใหญ่ สาวน้อย สาวไม่น้อย สาวสอง สาวแท้ สาวเทียม รวมไปถึงเก้ง กวาง
นอกจากบ่าง และ ชะนี เขาก็ย่อมเลือกได้ ต้องระวังในจุดนี้ด้วย
ขอให้คบด้วยการเอาสติปัญญานำ อย่าเอากิเลสนำ อย่าเอาความนิยมชมชอบฝรั่งนำ อย่าเอาเซ็กซ์นำ
ผู้ชายบางคนสับรางเก่ง ต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ การเป็นฝรั่งในเมืองไทย แถมอายุน้อย โสด ตำแหน่งดี เขาจะมีคนมาเสนอตัวให้เสมอ
แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองด้วย ว่าต้องการอะไร มีจุดยืนในหลายๆ ด้านในการใช้ชีวิตอย่างไร
จากการอ่านที่หนู จขกท ตั้งกระทู้ ภาษาที่ใช้ การเล่าเรื่อง มารยาท การที่มีหนุ่มฝรั่งอายุน้อย โพรไฟล์ดี มาสนใจ ให้เกียรติ
เราก็คิดว่า คุณต้องเป็นคนมีบุคลิกดี มีเสน่ห์น่าสนใจ รู้จักการพูดคุย เป็นคนมีการศึกษา มีงานดีๆ ทำ รู้จักแต่งตัว รู้จักการวางตัว
มาจากพื้นฐานครอบครัวที่ดีในระดับหนึ่ง
ที่เหลือคุณต้องใช้สมองคิดเอง ใช้สติปัญญาคบเอง เอาสองอย่างแรกนำหน้าการคบด้วยใจ นำหน้าการคบด้วยอารมณ์
เราคนอ่าน ช่วยวิเคราะห์ให้ได้แค่นี้
แสดงความคิดเห็น
เดตแรกกับหนุ่มเยอรมัน เขาถามเงินเดือน ปกติมั้ย?