The U.S. military's stealth hybrid dirt bike
จักรยานยนต์วิบากของหน่วยรบพิเศษ
ต้องลุยเข้าไปในสถานที่ทุรกันดารได้
ทั้งยังต้องมีสภาพเหมาะสมกับภูมิประเทศที่ยากลำบาก
เช่น การขับขี่ผ่านพื้นที่ดงป่าไม้
หนองน้ำลำธารที่ไม่ลึกมากนัก
ช่องทางที่คับแคบพอเบียดไปได้
เส้นทางเดินเท้าของนักเดินป่า
และต้องมีน้ำหนักเบา มีความคล่องตัวสูง
พร้อมกับความรวดเร็วในการขับขี่
แต่มีปัญหาสำคัญเพียงอย่างเดียวคือ
รถจักรยานยนต์วิบากส่งเสียงดังมาก
ทำให้การติดตามสะกดรอย
หรือภาระกิจลับที่ไล่ล่าศัตรูเป้าหมาย
ที่ต้องการความเงียบในการทำงาน
ต้องล้มเหลวจากเสียงก้องคำรามของเครื่องยนต์
นี่คือเหตุผลหลักของโครงการนี้ที่ DARPA
(Defense Advanced Research Projects Agency
หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ)
ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา
ได้ให้เงินทุนสนับสนุน Logos Technologies
ในการพัฒนารถจักรยานยนต์วิบาก
ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด/ไฟฟ้าสำหรับหน่วยรบพิเศษ
เพราะสามารถขับขี่ได้อย่างค่อนข้างเงียบกว่า
หรือการใช้อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนจากเครื่องยนต์ได้ยาก
ทั้งยังมีความแตกต่างจากรถจักรยานยนต์วิบากทั่วไป
และได้ตั้งชื่อรถจักรยานยนต์วิบากรุ่นนี้ว่า
SilentHawk (เหยี่ยวไร้ซุ่มเสียง)
และหลังจากที่ DARPA ได้รับต้นแบบแล้ว
ก็ชื่นชอบมากจนสั่งให้มีการผลิตรถต้นแบบเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง
ก่อนที่จะมีคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการในภายหลัง
SilentHawk เป็นโครงการความร่วมมือของ
Logos Technologies ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร
เช่น โดรน และอุปกรณ์ตรวจจับประเภทต่าง ๆ
ได้ร่วมมือกับ Alta Motors ผู้ผลิตจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ร่วมกันออกแบบและพัฒนารถจักรยานยนต์วิบาก SilentHawk
ให้เป็นเครื่องยนต์ไฮบริดที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันกับไฟฟ้า
ซึ่งสามารถวิ่งด้วยน้ำมันในกรณีภารกิจทั่วไป
และวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวในกรณีภารกิจปิดลับที่ต้องการความเงียบ
เครื่องยนต์จักรยานยนต์รุ่นนี้เป็นระบบโรตารี่รุ่นใหม่
ทำให้สามารถใช้น้ำมันได้หลายประเภท
เช่น น้ำมันเบนซีน น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบินประเภท JP5 กับ JP8
ทำให้หน่วยรบพิเศษสามารถจัดหาน้ำมันเหล่านี้มาใช้งานได้โดยง่าย
ในพื้นที่ปฏิบัติภารกิจปิดลับที่มีหน่วยทหาร/หน่วยส่งบำรุงกำลังรบในพื้นที่เป้าหมาย
SilentHawk ในขณะที่วิ่งด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง
จะสามารถอัดกระแสไฟฟ้า(ชาร์ท)ให้กับแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์
และอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ไฟฟ้าระบบ DC
เช่น วิทยุสื่อสาร อุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS แท็บแล็ต
SILENTHAWK คาดว่าทำความเร็วสูงสุดได้ 80 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งระบบไฟฟ้ากับระบบไฮบริด
“ มันเป็นรถจักรยานยนต์วิบาก รุ่น V-22
มีขนาดที่ดูเหมือนว่าค่อนข้างเล็ก
แต่มันยังสามารถบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ
ตรงกระเป๋าพ่วงข้างที่ด้านหลังคนขับ
และสามารถปลดของบางอย่างลงเป็นการชั่วคราว
เพื่อกลับมาใช้อีกในภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจได้
มันสามารถวิ่งได้ไกลราว 50 ไมล์ด้วยน้ำมัน
และเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายราว 10 ไมล์
ก็สลับมาทำงานด้วยระบบไฟฟ้า
เพื่อเข้าไปในพื้นที่เป้าหมายภารกิจลับ
ด้วยการดับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน
แล้วขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแทน
เสียงที่พอจะได้ยินมีเพียง
เสียงจากล้อยางรถจักรยานยนต์
กับเสียงโซ่ที่ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์ “
Doug Rombough รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Logos Technologies
ในขณะที่ SilentHawk ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน
มันจะส่งเสียงดังราว 75 เดซิเบล
ดังพอ ๆ กับเครื่องเครื่องดูดฝุ่นตามบ้านเรือน
แต่ถ้าขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
มันจะส่งเสียงดังราว 55 เดซิเบล
ดังพอ ๆ กับการพูดคุยของคนทั่วไป
มันยังสามารถลดเสียงดังลงได้อีก
เพราะตามข้อเท็จจริงแล้วเสียงที่ดังที่สุด
คือ เสียงของโซ่รถจักรยานยนต์
และถ้าใช้สายพานยางขับเคลื่อนแทน
เสียงก็จะเบากว่าเดิมมาก
แต่จะมีปัญหาในกรณีวิ่งในพื้นที่มีก้อนหิน
ก้อนหินอาจจะบาดสายพานยางให้ขาดออกจากกันได้
แต่ถ้าวิ่งในพื้นที่เป็นทรายเพียงอย่างเดียว
เช่นในทะเลทราย การใช้สายพานก็ทำได้
และค่อนข้างดีเยี่ยมเลยทีเดียว “
Alex Dzwill หัวหน้าทีมวิศวกร
เมื่อเปรียบเทียบความดังของเครื่องยนต์
ความดังราว 55 เดซิเบล
คือ เสียงดังต่ำที่สุดของ SilentHawk
ขณะที่รถจักรยานยนต์วิบากทั่วไป
จะส่งเสียงคำรามไม่น้อยกว่า 113 เดซิเบล
ทำให้ SilentHawk คือ ตัวอย่างของการพัฒนาระดับแนวหน้าของโลก
ความเงียบของรถจักรยานยนต์ SilentHawk
ยังได้สร้างความแปลกใจให้กับทีมนักออกแบบ
Alex Dzwill ยังจำได้ว่าในการทดสอบครั้งหนึ่งในดงป่าไม้
ผู้ขับขี่สามารถสะกดรอยพวกเขาได้
ด้วยการค่อย ๆ ขับเข้ามาตามหลังอย่างช้า ๆ
“ เขาโผล่ขึ้นด้านหลังของพวกเราอย่างทันทีทันใด
เพราะเสียงเดินเท้าของพวกเรา
ต่างกลบเสียงเครื่องยนต์ที่ขับตามหลังพวกเรา
ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์วิบากทั่วไปตามท้องตลาด
เราจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามล่วงหน้า
เป็นระยะทางไม่น้อยกว่าหนึ่งไมล์แล้ว "
อุปกรณ์ประกอบเพิ่มเติมของ SilentHawk แทบไม่จำเป็นเลย
เพราะที่ต้องการหลัก ๆ คือ ความเงียบของเครื่องยนต์
ที่มีความดังในระดับนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
สำหรับนักล่าสังหารมืออาชีพในการสู้รบ
ที่ต้องการความเงียบในการกำจัดศัตรู
การเดินทางเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายอย่างปิดลับ
คือหนึ่งในความได้เปรียบต่อศัตรู
ถ้าหากว่ารถจักรยานยนต์วิบากไม่ใช่ตัวสร้างปัญหา
เป้าหมายหลักของ DARPA คือ
การหาต้นแบบรถจักรยานยนต์วิบากรุ่นใหม่
ที่ลดน้ำหนักลง แต่ยังคงองคาพยพเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ Alta Motors
ที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีน้ำหนัก 270 ปอนด์
แต่หลังจากที่มีการประกอบเพิ่มเติมลงในรถต้นแบบครั้งแรก
ที่รวมชุดขับเคลื่อนล้อทั้งสองข้าง เครื่องยนต์ไฮบริด และระบบควบคุม
ทำให้มีน้ำหนักรวมเพิ่มขึ้นเป็น 350 ปอนด์
เพื่อรีดน้ำหนักรถจักรยานยนต์ลงอีก
Logos Technologies จำเป็นต้องรื้อทำงานใหม่อีกครั้ง
ด้วยการปรับลดระบบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่
ชิ้นส่วนหลัก ๆ ของเดิมมาจาก Parahawk
โครงการอากาศยานไร้คนขับ
ระบบเครื่องยนต์ทำความเย็นด้วยของเหลว
เปลี่ยนเป็น
ระบบทำความเย็นด้วยอากาศ
ก็จะขจัดหม้อน้ำรถจักรยานยนต์
และลดน้ำหนักรถจักรยานยนต์วิบากลงไปได้อีก
SilentHawk ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่รวมกันและแยกออกจากกันได้
ชุดแรก ให้พลังงานสำรอง สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า
ที่จำเป็นต้องใช้งาน และอุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ
ชุดที่สอง ขยายความสามารถขับเคลื่อนของรถจักรยานยนต์
ทั้งสองชุดทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ไฮบริด
ส่วนชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถปรับลด
เข้าทำงานแทนเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันได้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ายังสามารถทำงาน
ได้แม้ว่ารถจักรยานยนต์จะไม่วิ่งด้วยระบบไฮบริดแล้วก็ตาม
เป้าหมายสุดท้าย คือ ความคล่องตัวที่จำเป็นอย่างมาก
กับความสามารถในการปรับเปลี่ยนในภาคสนาม
“ รถจักรยานยนต์รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนจาก
เครื่องยนต์ไฮบริดเป็นเครื่องยนต์ใช้ไฟฟ้า
ด้วยเวลาเพียงแค่ 30 นาที หรืออาจจะมากกว่าชั่วโมง
ถ้ายังไม่มีประสบการณ์ในการปรับเปลี่ยน
เพื่อให้สามารถเข้าไปในพื้นที่ปิดลับ
ที่ต้องการความเงียบ/คล่องตัวและปราดเปรียว “
Doug Rombough
“ ความเงียบ ความคล่องตัว น้ำหนักรถที่เบา
ความสามารถลุยในที่ทุรกันดาร
หรือภูมิประเทศที่แตกต่างกันไป
ทำให้ภารกิจปิดลับมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
รถจักรยานยนต์วิบากที่ขับเคลื่อนทั้งสองล้อ
เป็นของหายากอย่างไม่น่าเชื่อมาก่อน
แต่ความสามารถดังกล่าวของ SilentHawk
ทำให้มันลุยเข้าไปในภูมิประเทศที่ท้าทายยิ่งขึ้น
แนวทางการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่
รวมทั้งการควบรวมระบบเครื่องยนต์ทั้งสองระบบได้
อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการรถจักรยานยนต์เลย
ทำให้เป็นที่สนใจและเหนือความคาดหมายของทางรัฐการ "
Wade Pullman ผู้จัดการด้านพัฒนาแนวคิด
SilentHawk hybrid-electric motorcycle from Logos Technologies (artist's conception)
SilentHawk รถจักรยานยนต์วิบากของหน่วยรบพิเศษสหรัฐ
The U.S. military's stealth hybrid dirt bike
จักรยานยนต์วิบากของหน่วยรบพิเศษ
ต้องลุยเข้าไปในสถานที่ทุรกันดารได้
ทั้งยังต้องมีสภาพเหมาะสมกับภูมิประเทศที่ยากลำบาก
เช่น การขับขี่ผ่านพื้นที่ดงป่าไม้
หนองน้ำลำธารที่ไม่ลึกมากนัก
ช่องทางที่คับแคบพอเบียดไปได้
เส้นทางเดินเท้าของนักเดินป่า
และต้องมีน้ำหนักเบา มีความคล่องตัวสูง
พร้อมกับความรวดเร็วในการขับขี่
แต่มีปัญหาสำคัญเพียงอย่างเดียวคือ
รถจักรยานยนต์วิบากส่งเสียงดังมาก
ทำให้การติดตามสะกดรอย
หรือภาระกิจลับที่ไล่ล่าศัตรูเป้าหมาย
ที่ต้องการความเงียบในการทำงาน
ต้องล้มเหลวจากเสียงก้องคำรามของเครื่องยนต์
นี่คือเหตุผลหลักของโครงการนี้ที่ DARPA
(Defense Advanced Research Projects Agency
หน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ)
ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา
ได้ให้เงินทุนสนับสนุน Logos Technologies
ในการพัฒนารถจักรยานยนต์วิบาก
ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด/ไฟฟ้าสำหรับหน่วยรบพิเศษ
เพราะสามารถขับขี่ได้อย่างค่อนข้างเงียบกว่า
หรือการใช้อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนจากเครื่องยนต์ได้ยาก
ทั้งยังมีความแตกต่างจากรถจักรยานยนต์วิบากทั่วไป
และได้ตั้งชื่อรถจักรยานยนต์วิบากรุ่นนี้ว่า
SilentHawk (เหยี่ยวไร้ซุ่มเสียง)
และหลังจากที่ DARPA ได้รับต้นแบบแล้ว
ก็ชื่นชอบมากจนสั่งให้มีการผลิตรถต้นแบบเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง
ก่อนที่จะมีคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการในภายหลัง
SilentHawk เป็นโครงการความร่วมมือของ
Logos Technologies ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร
เช่น โดรน และอุปกรณ์ตรวจจับประเภทต่าง ๆ
ได้ร่วมมือกับ Alta Motors ผู้ผลิตจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ร่วมกันออกแบบและพัฒนารถจักรยานยนต์วิบาก SilentHawk
ให้เป็นเครื่องยนต์ไฮบริดที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันกับไฟฟ้า
ซึ่งสามารถวิ่งด้วยน้ำมันในกรณีภารกิจทั่วไป
และวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวในกรณีภารกิจปิดลับที่ต้องการความเงียบ
เครื่องยนต์จักรยานยนต์รุ่นนี้เป็นระบบโรตารี่รุ่นใหม่
ทำให้สามารถใช้น้ำมันได้หลายประเภท
เช่น น้ำมันเบนซีน น้ำมันดีเซล น้ำมันเครื่องบินประเภท JP5 กับ JP8
ทำให้หน่วยรบพิเศษสามารถจัดหาน้ำมันเหล่านี้มาใช้งานได้โดยง่าย
ในพื้นที่ปฏิบัติภารกิจปิดลับที่มีหน่วยทหาร/หน่วยส่งบำรุงกำลังรบในพื้นที่เป้าหมาย
SilentHawk ในขณะที่วิ่งด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง
จะสามารถอัดกระแสไฟฟ้า(ชาร์ท)ให้กับแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์
และอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ไฟฟ้าระบบ DC
เช่น วิทยุสื่อสาร อุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS แท็บแล็ต
SILENTHAWK คาดว่าทำความเร็วสูงสุดได้ 80 ไมล์ต่อชั่วโมง ทั้งระบบไฟฟ้ากับระบบไฮบริด
“ มันเป็นรถจักรยานยนต์วิบาก รุ่น V-22
มีขนาดที่ดูเหมือนว่าค่อนข้างเล็ก
แต่มันยังสามารถบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ
ตรงกระเป๋าพ่วงข้างที่ด้านหลังคนขับ
และสามารถปลดของบางอย่างลงเป็นการชั่วคราว
เพื่อกลับมาใช้อีกในภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจได้
มันสามารถวิ่งได้ไกลราว 50 ไมล์ด้วยน้ำมัน
และเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายราว 10 ไมล์
ก็สลับมาทำงานด้วยระบบไฟฟ้า
เพื่อเข้าไปในพื้นที่เป้าหมายภารกิจลับ
ด้วยการดับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน
แล้วขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแทน
เสียงที่พอจะได้ยินมีเพียง
เสียงจากล้อยางรถจักรยานยนต์
กับเสียงโซ่ที่ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์ “
Doug Rombough รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Logos Technologies
ในขณะที่ SilentHawk ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน
มันจะส่งเสียงดังราว 75 เดซิเบล
ดังพอ ๆ กับเครื่องเครื่องดูดฝุ่นตามบ้านเรือน
แต่ถ้าขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
มันจะส่งเสียงดังราว 55 เดซิเบล
ดังพอ ๆ กับการพูดคุยของคนทั่วไป
มันยังสามารถลดเสียงดังลงได้อีก
เพราะตามข้อเท็จจริงแล้วเสียงที่ดังที่สุด
คือ เสียงของโซ่รถจักรยานยนต์
และถ้าใช้สายพานยางขับเคลื่อนแทน
เสียงก็จะเบากว่าเดิมมาก
แต่จะมีปัญหาในกรณีวิ่งในพื้นที่มีก้อนหิน
ก้อนหินอาจจะบาดสายพานยางให้ขาดออกจากกันได้
แต่ถ้าวิ่งในพื้นที่เป็นทรายเพียงอย่างเดียว
เช่นในทะเลทราย การใช้สายพานก็ทำได้
และค่อนข้างดีเยี่ยมเลยทีเดียว “
Alex Dzwill หัวหน้าทีมวิศวกร
เมื่อเปรียบเทียบความดังของเครื่องยนต์
ความดังราว 55 เดซิเบล
คือ เสียงดังต่ำที่สุดของ SilentHawk
ขณะที่รถจักรยานยนต์วิบากทั่วไป
จะส่งเสียงคำรามไม่น้อยกว่า 113 เดซิเบล
ทำให้ SilentHawk คือ ตัวอย่างของการพัฒนาระดับแนวหน้าของโลก
ความเงียบของรถจักรยานยนต์ SilentHawk
ยังได้สร้างความแปลกใจให้กับทีมนักออกแบบ
Alex Dzwill ยังจำได้ว่าในการทดสอบครั้งหนึ่งในดงป่าไม้
ผู้ขับขี่สามารถสะกดรอยพวกเขาได้
ด้วยการค่อย ๆ ขับเข้ามาตามหลังอย่างช้า ๆ
“ เขาโผล่ขึ้นด้านหลังของพวกเราอย่างทันทีทันใด
เพราะเสียงเดินเท้าของพวกเรา
ต่างกลบเสียงเครื่องยนต์ที่ขับตามหลังพวกเรา
ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์วิบากทั่วไปตามท้องตลาด
เราจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามล่วงหน้า
เป็นระยะทางไม่น้อยกว่าหนึ่งไมล์แล้ว "
อุปกรณ์ประกอบเพิ่มเติมของ SilentHawk แทบไม่จำเป็นเลย
เพราะที่ต้องการหลัก ๆ คือ ความเงียบของเครื่องยนต์
ที่มีความดังในระดับนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
สำหรับนักล่าสังหารมืออาชีพในการสู้รบ
ที่ต้องการความเงียบในการกำจัดศัตรู
การเดินทางเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายอย่างปิดลับ
คือหนึ่งในความได้เปรียบต่อศัตรู
ถ้าหากว่ารถจักรยานยนต์วิบากไม่ใช่ตัวสร้างปัญหา
เป้าหมายหลักของ DARPA คือ
การหาต้นแบบรถจักรยานยนต์วิบากรุ่นใหม่
ที่ลดน้ำหนักลง แต่ยังคงองคาพยพเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ Alta Motors
ที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีน้ำหนัก 270 ปอนด์
แต่หลังจากที่มีการประกอบเพิ่มเติมลงในรถต้นแบบครั้งแรก
ที่รวมชุดขับเคลื่อนล้อทั้งสองข้าง เครื่องยนต์ไฮบริด และระบบควบคุม
ทำให้มีน้ำหนักรวมเพิ่มขึ้นเป็น 350 ปอนด์
เพื่อรีดน้ำหนักรถจักรยานยนต์ลงอีก
Logos Technologies จำเป็นต้องรื้อทำงานใหม่อีกครั้ง
ด้วยการปรับลดระบบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่
ชิ้นส่วนหลัก ๆ ของเดิมมาจาก Parahawk
โครงการอากาศยานไร้คนขับ
ระบบเครื่องยนต์ทำความเย็นด้วยของเหลว
เปลี่ยนเป็น ระบบทำความเย็นด้วยอากาศ
ก็จะขจัดหม้อน้ำรถจักรยานยนต์
และลดน้ำหนักรถจักรยานยนต์วิบากลงไปได้อีก
SilentHawk ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่รวมกันและแยกออกจากกันได้
ชุดแรก ให้พลังงานสำรอง สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า
ที่จำเป็นต้องใช้งาน และอุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ
ชุดที่สอง ขยายความสามารถขับเคลื่อนของรถจักรยานยนต์
ทั้งสองชุดทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ไฮบริด
ส่วนชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถปรับลด
เข้าทำงานแทนเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันได้
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ายังสามารถทำงาน
ได้แม้ว่ารถจักรยานยนต์จะไม่วิ่งด้วยระบบไฮบริดแล้วก็ตาม
เป้าหมายสุดท้าย คือ ความคล่องตัวที่จำเป็นอย่างมาก
กับความสามารถในการปรับเปลี่ยนในภาคสนาม
“ รถจักรยานยนต์รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนจาก
เครื่องยนต์ไฮบริดเป็นเครื่องยนต์ใช้ไฟฟ้า
ด้วยเวลาเพียงแค่ 30 นาที หรืออาจจะมากกว่าชั่วโมง
ถ้ายังไม่มีประสบการณ์ในการปรับเปลี่ยน
เพื่อให้สามารถเข้าไปในพื้นที่ปิดลับ
ที่ต้องการความเงียบ/คล่องตัวและปราดเปรียว “
Doug Rombough
“ ความเงียบ ความคล่องตัว น้ำหนักรถที่เบา
ความสามารถลุยในที่ทุรกันดาร
หรือภูมิประเทศที่แตกต่างกันไป
ทำให้ภารกิจปิดลับมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
รถจักรยานยนต์วิบากที่ขับเคลื่อนทั้งสองล้อ
เป็นของหายากอย่างไม่น่าเชื่อมาก่อน
แต่ความสามารถดังกล่าวของ SilentHawk
ทำให้มันลุยเข้าไปในภูมิประเทศที่ท้าทายยิ่งขึ้น
แนวทางการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่
รวมทั้งการควบรวมระบบเครื่องยนต์ทั้งสองระบบได้
อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการรถจักรยานยนต์เลย
ทำให้เป็นที่สนใจและเหนือความคาดหมายของทางรัฐการ "
Wade Pullman ผู้จัดการด้านพัฒนาแนวคิด
SilentHawk hybrid-electric motorcycle from Logos Technologies (artist's conception)