จากที่ห่างหายไปนาน หลังจากเขียนบทความที่แล้ว ผมก็วุ่นอยู่กับหลายเรื่องที่วางแผนทำในอเมริกา ทำให้ผมได้เห็นหลากหลายมุมมองจากประสบการณ์ตรง จึงเป็นที่มาของบทความที่หลายคนมักหาคำตอบ ว่า ทำไมหลายคนอยากได้กรีนการ์ดในอเมริกา เมื่อได้ตามต้องการแล้ว เป็นไปตามที่คาดหวังไหม?
ช่วงแรกที่ผมตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางในการขอกรีนการ์ด EB-3 ผ่านการจ้างงาน คนรอบตัวหลายคนมักจะบอกว่า เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง และอื่นๆ อีกมากมาย ผมเลือกที่จะไม่สนใจ คนส่วนใหญ่จะมองจากจุดที่ตัวเองยืนแล้วประเมินทุกเรื่องจากจุดนั้น พอดีผมมองจากจุดที่ผมยืนอยู่ ไม่ใช่จุดของคนอื่น ผมจึงเดินไปข้างหน้า ผมมีเหตุผลของตัวเอง คือ เป้าหมายที่ชัดเจนของผมนั่นเอง ผมคิดเสมอว่า หลังจากทำงานล้างจาน ตามสัญญาขั้นต่ำของนายจ้างแล้ว วางแผนเป้าหมายในการใช้ชีวิตไว้ว่า ต้องทำงานที่เรารักให้ได้
หลายคนคุยกับคนรู้จักที่อยู่อเมริกา มักจะเจอได้รับคำเตือนว่า อย่ามาอเมริกาเลย ไม่มีงานให้ทำหรอก ที่นี่ลำบากจะตาย เค้าเองก็ยังอยากกลับไทยเลย มันก็น่าคิด เมื่อคนที่อยู่อเมริกาตอนนี้เตือนมา แต่ถ้ามองอีกมุม แล้วทำไมคุณไม่กลับละ ถ้าบอกว่าตัวเองก็อยากกลับ เห็นอยู่มาเป็นสิบกว่าปี แถมบางคนอยู่ผิดกฎหมาย ยังไม่เห็นมีท่าทีว่าจะกลับ ตรงกันข้ามเค้าพยายามหาทางหลบอยู่ในประเทศให้นานที่สุด และเหล่าวีซ่านักเรียนจำนวนมากก็มาลงทะเบียนเรียน เพื่ออยู่ในอเมริกาให้นานที่สุด ยอมจ่ายค่าเทอมไปเรื่อยๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย คิดว่าทำไมคนเหล่านี้อยากอยู่นานที่สุด คงไม่พ้น เรื่องทำงาน หรือตรงๆ คือ แอบทำงานนั่นเอง เพราะวีซ่านักเรียนทำงานไม่ได้ ผิดกฎหมาย ยกเว้นงานใน campus หรือที่มหาวิทยาลัยอนุญาตเท่านั้น จึงไม่แปลกที่เจอนักเรียนไทยทำงานที่ร้านอาหารไทยเยอะมาก เพราะนายจ้างอเมริกันไม่รับเข้าทำงาน
นั่นคือ เหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงอยากได้กรีนการ์ดในอเมริกา เพราะทำให้เราอยู่ในอเมริกาได้ถาวร และทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เสียภาษี สิทธิในการครอบครองทรัพย์สิน และสวัสดิการต่างๆ เหมือนคนอเมริกัน เมื่อถือกรีนการ์ดครบ 5 ปี หรือ 3 ปีสำหรับคนที่แต่งงานกับคนอเมริกัน ก็ยื่นขอเปลี่ยนสัญชาติได้ แต่ก็เห็นบางคนที่ได้กรีนการ์ดแล้วยกเลิก กลับมาอยู่ไทย น่าจะเป็นเพราะ เค้าไม่รู้จะทำอะไรที่อเมริกา ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ถ้าเราอยากได้กรีนการ์ด แต่ไม่รู้เป้าหมายตัวเอง เหมือนไม่มีจะดีกว่า บางครอบครัวที่อยากได้กรีนการ์ด เพราะอยากให้ลูกมาเรียนที่โรงเรียนจนจบมัธยมที่อเมริกาได้ฟรีตามสิทธิ แล้วต่อมหาวิทยาลัยซึ่งมีทุนการศึกษา ระบบกู้ยืมเรียนของรัฐ และสิทธิอื่นๆ อีกมากมายที่นักเรียนต่างชาติไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งก็ต้องแลกกับหน้าที่ในการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่การเสียภาษีทำให้เราได้รับสิทธิทุกอย่างเช่นกัน รวมทั้งสวัสดิการของภาครัฐเฉกเช่นคนอเมริกัน ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเองในการเลือกเส้นทางของตัวเอง
งานเป็นอีกเรื่องที่หลายคนสงสัยเป็นอย่างมากว่า การเริ่มต้นทำงานแรงงาน มีสิทธิจะเปลี่ยนงานไปทำงานอย่างอื่นได้จริงไหม ต้องเข้าใจก่อนว่า กรีนการ์ด คือ กรีนการ์ด ไม่ได้จำกัดให้ทำงานใดงานหนึ่ง แต่มีสิทธิทำงานทุกอย่างได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยกเว้นงานด้านความมั่นคง เมื่อครบสัญญาจ้าง เราจะเปลี่ยนงาน ย้ายรัฐ เรียนต่อ หรือ ทำธุรกิจ ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเราเอง หลายคนเปลี่ยนไปทำงานที่ตัวเองถนัดและชอบ บางทีก็เจอปัญหาในการสมัครงานรายได้สูง เพราะนายจ้างอเมริกันส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยยอมรับวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ ลองศึกษาดูดีๆ มันก็มีเหตุผล แต่ที่ทำให้ต้องย้อนกลับมาดูจริงๆ ก็คือ คนที่นี่จบ high school ก็สามารถทำงาน skill ที่ได้รับเงินเดือนสูงๆ ได้เช่นกัน ทำให้พอเรียนจบ high school หลายคนก็ไปทำงานเลย ไม่เรียนต่อ หรือ ทำงานไปสักพัก แล้วกลับมาเรียน associate degree หรือ เรียน professional degree เพื่อไปสร้างทักษะ หรือ ทางเลือกงานให้กับเค้าเอง บางคนอายุมากกลับมาเรียน ป. ตรี เพื่อที่จะเปลี่ยนงาน หรือบางคนเรียนไป ทำงานไปด้วย มันคือการใช้ชีวิตจริงๆ คนที่นี่ถ้าเรียนจบ ป. ตรี มีงานทำกันทุกคน ยกเว้นจะเลือกไม่ทำเอง พอกลับไปมองบ้านเรา จบ ป.ตรี มาแล้ว หลายคนไม่มีงานทำ หรือ ได้ทำงานไม่ตรงตามที่เรียนมา แล้วจะเรียนมาทำไม? บางคนไปทำงานในร้านสะดวกซื้อ หรือ ไปเป็นผู้จัดการร้านแฟรนไชส์ต่างๆ หรือ ทำงานร้านกาแฟ ซึ่งที่นี่เค้าใช้แค่วุฒิ high school ก็ไปทำได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียน ป. ตรีเลย ลองสังเกตจะเห็นข้อแตกต่างชัดเจน คือ คนที่นี่เรียนเพื่อเอาไปใช้ทำงานจริง เพราะถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เรียน ค่าเทอมแพง แต่บ้านเราเรียนเพื่อให้รู้ว่าจบ ป. ตรี ใช้หรือไม่ได้ใช้ เป็นอีกเรื่อง
สำหรับผมเอง เริ่มต้นด้วยการทำงานเสียภาษีเหมือนทุกคนที่อยู่ที่นี่ ผมมองหาโอกาสทุกครั้งที่เป็นไปได้ เพื่อให้ผมบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ทำให้ได้เรียนรู้หลายอย่างระหว่างทางเดิน จากที่หลายคนบอกว่า คนถือกรีนการ์ด ไม่สามารถขอ in-state tuition ได้ ยืนยันตรงนี้เลยว่า ทำได้แน่นอน หรือ ไม่สามารถขอทุนการศึกษา หรือ กู้ยืมเงินของรัฐในการเรียนต่อได้ ยืนยันตรงนี้เช่นกันว่า ทำได้แน่นอน ที่สำคัญไม่ได้ยาก แค่เสียภาษีให้ครบในแต่ละปี ส่วนเอกสารและขั้นตอนการยื่น ง่ายมากกว่าที่คิด ใช้เวลาทำไม่นานเลย ผมเริ่มจากการไปลงเรียนใน technology college ในเมือง เพื่อเรียนรู้ระบบต่างๆ ทั้งหมด ทำให้รู้ว่า ทุกอย่างมันทำได้จริง ใครอยากเรียนอะไร ทำงานอะไร วางแผนให้ชัดเจน โอกาสมีทุกที่ เลือกแล้วลงทำมือให้สำเร็จ
เริ่มลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจ คือ ศัลยแพทย์ การที่จะเป็นศัลยแพทย์ที่อเมริกา ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 13 ปี คือ วิทยาศาสตร์ 4 ปี (Pre-Med), Clinical 4 ปี ซึ่งค่าเทอมคนต่างชาติประมาณปีละ $90,000 แต่ถ้าถือกรีนการ์ดได้ in-state tuition ประมาณปีละ $40,000 ยังไม่รวมทุนการศึกษาที่สามารถขอได้อีก เรียนจบเป็น General Physician (M.D) แล้วเรียนต่อ surgical resident อีก 5 ปี ผมเรียนจบเภสัชศาสตร์ที่ไทยมา เทียบเท่ากับ Pre-Med ได้ หรือ ถ้าคนที่เรียนจบแพทยศาสตร์จากไทยมา ก็เทียบเท่า M.D ได้เช่นกัน ถ้าสอบใบประกอบโรคศิลป์ The United States Medical Licensing Examination (USMLE) ผ่าน Step 3 แต่หากผ่านแล้ว ไม่มีกรีนการ์ด ก็ทำงานโรงพยาบาลในอเมริกาไม่ได้อยู่ดี จะเรียนต่อ resident ที่นี่ก็ยาก เพราะส่วนใหญ่จะกำหนดเฉพาะคนอเมริกัน หรือ แพทย์ที่ถือกรีนการ์ด เนื่องจาก surgical resident ที่นี่มีรายได้ปีละประมาณ $50,000-$70,000 โดยไม่ต้องจ่ายค่าเทอมใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนถ้าเรียนจบแล้ว รายได้ของ surgeon ก็ประมาณ $400,000 ต่อปี
ทุกคนมีหลากหลายเหตุผลของตัวเองในการเลือกเส้นทางที่เราเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดที่หลายคนอยากได้กรีนการ์ดในอเมริกา ก็เพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ผมเกิดเป็นลูกชาวนาในถิ่นที่คนในเมืองบอกว่าบ้านนอก เรียนจบจากโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ผมขอบคุณตัวเองเสมอที่กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ ถึงแม้จะสวนทางกับความคิดคนอื่น เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ตั้งใจทำตามเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง
“คนอย่างผมทำได้ คุณก็ทำได้ ไม่มีอะไรยากเกินกว่า ความพยายาม”
By
Thum Ideas
ทำไมหลายคนอยากได้กรีนการ์ดในอเมริกา?
ช่วงแรกที่ผมตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางในการขอกรีนการ์ด EB-3 ผ่านการจ้างงาน คนรอบตัวหลายคนมักจะบอกว่า เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง และอื่นๆ อีกมากมาย ผมเลือกที่จะไม่สนใจ คนส่วนใหญ่จะมองจากจุดที่ตัวเองยืนแล้วประเมินทุกเรื่องจากจุดนั้น พอดีผมมองจากจุดที่ผมยืนอยู่ ไม่ใช่จุดของคนอื่น ผมจึงเดินไปข้างหน้า ผมมีเหตุผลของตัวเอง คือ เป้าหมายที่ชัดเจนของผมนั่นเอง ผมคิดเสมอว่า หลังจากทำงานล้างจาน ตามสัญญาขั้นต่ำของนายจ้างแล้ว วางแผนเป้าหมายในการใช้ชีวิตไว้ว่า ต้องทำงานที่เรารักให้ได้
หลายคนคุยกับคนรู้จักที่อยู่อเมริกา มักจะเจอได้รับคำเตือนว่า อย่ามาอเมริกาเลย ไม่มีงานให้ทำหรอก ที่นี่ลำบากจะตาย เค้าเองก็ยังอยากกลับไทยเลย มันก็น่าคิด เมื่อคนที่อยู่อเมริกาตอนนี้เตือนมา แต่ถ้ามองอีกมุม แล้วทำไมคุณไม่กลับละ ถ้าบอกว่าตัวเองก็อยากกลับ เห็นอยู่มาเป็นสิบกว่าปี แถมบางคนอยู่ผิดกฎหมาย ยังไม่เห็นมีท่าทีว่าจะกลับ ตรงกันข้ามเค้าพยายามหาทางหลบอยู่ในประเทศให้นานที่สุด และเหล่าวีซ่านักเรียนจำนวนมากก็มาลงทะเบียนเรียน เพื่ออยู่ในอเมริกาให้นานที่สุด ยอมจ่ายค่าเทอมไปเรื่อยๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมาย คิดว่าทำไมคนเหล่านี้อยากอยู่นานที่สุด คงไม่พ้น เรื่องทำงาน หรือตรงๆ คือ แอบทำงานนั่นเอง เพราะวีซ่านักเรียนทำงานไม่ได้ ผิดกฎหมาย ยกเว้นงานใน campus หรือที่มหาวิทยาลัยอนุญาตเท่านั้น จึงไม่แปลกที่เจอนักเรียนไทยทำงานที่ร้านอาหารไทยเยอะมาก เพราะนายจ้างอเมริกันไม่รับเข้าทำงาน
นั่นคือ เหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงอยากได้กรีนการ์ดในอเมริกา เพราะทำให้เราอยู่ในอเมริกาได้ถาวร และทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เสียภาษี สิทธิในการครอบครองทรัพย์สิน และสวัสดิการต่างๆ เหมือนคนอเมริกัน เมื่อถือกรีนการ์ดครบ 5 ปี หรือ 3 ปีสำหรับคนที่แต่งงานกับคนอเมริกัน ก็ยื่นขอเปลี่ยนสัญชาติได้ แต่ก็เห็นบางคนที่ได้กรีนการ์ดแล้วยกเลิก กลับมาอยู่ไทย น่าจะเป็นเพราะ เค้าไม่รู้จะทำอะไรที่อเมริกา ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ถ้าเราอยากได้กรีนการ์ด แต่ไม่รู้เป้าหมายตัวเอง เหมือนไม่มีจะดีกว่า บางครอบครัวที่อยากได้กรีนการ์ด เพราะอยากให้ลูกมาเรียนที่โรงเรียนจนจบมัธยมที่อเมริกาได้ฟรีตามสิทธิ แล้วต่อมหาวิทยาลัยซึ่งมีทุนการศึกษา ระบบกู้ยืมเรียนของรัฐ และสิทธิอื่นๆ อีกมากมายที่นักเรียนต่างชาติไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งก็ต้องแลกกับหน้าที่ในการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่การเสียภาษีทำให้เราได้รับสิทธิทุกอย่างเช่นกัน รวมทั้งสวัสดิการของภาครัฐเฉกเช่นคนอเมริกัน ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเองในการเลือกเส้นทางของตัวเอง
งานเป็นอีกเรื่องที่หลายคนสงสัยเป็นอย่างมากว่า การเริ่มต้นทำงานแรงงาน มีสิทธิจะเปลี่ยนงานไปทำงานอย่างอื่นได้จริงไหม ต้องเข้าใจก่อนว่า กรีนการ์ด คือ กรีนการ์ด ไม่ได้จำกัดให้ทำงานใดงานหนึ่ง แต่มีสิทธิทำงานทุกอย่างได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยกเว้นงานด้านความมั่นคง เมื่อครบสัญญาจ้าง เราจะเปลี่ยนงาน ย้ายรัฐ เรียนต่อ หรือ ทำธุรกิจ ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเราเอง หลายคนเปลี่ยนไปทำงานที่ตัวเองถนัดและชอบ บางทีก็เจอปัญหาในการสมัครงานรายได้สูง เพราะนายจ้างอเมริกันส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยยอมรับวุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ ลองศึกษาดูดีๆ มันก็มีเหตุผล แต่ที่ทำให้ต้องย้อนกลับมาดูจริงๆ ก็คือ คนที่นี่จบ high school ก็สามารถทำงาน skill ที่ได้รับเงินเดือนสูงๆ ได้เช่นกัน ทำให้พอเรียนจบ high school หลายคนก็ไปทำงานเลย ไม่เรียนต่อ หรือ ทำงานไปสักพัก แล้วกลับมาเรียน associate degree หรือ เรียน professional degree เพื่อไปสร้างทักษะ หรือ ทางเลือกงานให้กับเค้าเอง บางคนอายุมากกลับมาเรียน ป. ตรี เพื่อที่จะเปลี่ยนงาน หรือบางคนเรียนไป ทำงานไปด้วย มันคือการใช้ชีวิตจริงๆ คนที่นี่ถ้าเรียนจบ ป. ตรี มีงานทำกันทุกคน ยกเว้นจะเลือกไม่ทำเอง พอกลับไปมองบ้านเรา จบ ป.ตรี มาแล้ว หลายคนไม่มีงานทำ หรือ ได้ทำงานไม่ตรงตามที่เรียนมา แล้วจะเรียนมาทำไม? บางคนไปทำงานในร้านสะดวกซื้อ หรือ ไปเป็นผู้จัดการร้านแฟรนไชส์ต่างๆ หรือ ทำงานร้านกาแฟ ซึ่งที่นี่เค้าใช้แค่วุฒิ high school ก็ไปทำได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียน ป. ตรีเลย ลองสังเกตจะเห็นข้อแตกต่างชัดเจน คือ คนที่นี่เรียนเพื่อเอาไปใช้ทำงานจริง เพราะถ้าไม่จำเป็นก็ไม่เรียน ค่าเทอมแพง แต่บ้านเราเรียนเพื่อให้รู้ว่าจบ ป. ตรี ใช้หรือไม่ได้ใช้ เป็นอีกเรื่อง
สำหรับผมเอง เริ่มต้นด้วยการทำงานเสียภาษีเหมือนทุกคนที่อยู่ที่นี่ ผมมองหาโอกาสทุกครั้งที่เป็นไปได้ เพื่อให้ผมบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ทำให้ได้เรียนรู้หลายอย่างระหว่างทางเดิน จากที่หลายคนบอกว่า คนถือกรีนการ์ด ไม่สามารถขอ in-state tuition ได้ ยืนยันตรงนี้เลยว่า ทำได้แน่นอน หรือ ไม่สามารถขอทุนการศึกษา หรือ กู้ยืมเงินของรัฐในการเรียนต่อได้ ยืนยันตรงนี้เช่นกันว่า ทำได้แน่นอน ที่สำคัญไม่ได้ยาก แค่เสียภาษีให้ครบในแต่ละปี ส่วนเอกสารและขั้นตอนการยื่น ง่ายมากกว่าที่คิด ใช้เวลาทำไม่นานเลย ผมเริ่มจากการไปลงเรียนใน technology college ในเมือง เพื่อเรียนรู้ระบบต่างๆ ทั้งหมด ทำให้รู้ว่า ทุกอย่างมันทำได้จริง ใครอยากเรียนอะไร ทำงานอะไร วางแผนให้ชัดเจน โอกาสมีทุกที่ เลือกแล้วลงทำมือให้สำเร็จ
เริ่มลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจ คือ ศัลยแพทย์ การที่จะเป็นศัลยแพทย์ที่อเมริกา ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 13 ปี คือ วิทยาศาสตร์ 4 ปี (Pre-Med), Clinical 4 ปี ซึ่งค่าเทอมคนต่างชาติประมาณปีละ $90,000 แต่ถ้าถือกรีนการ์ดได้ in-state tuition ประมาณปีละ $40,000 ยังไม่รวมทุนการศึกษาที่สามารถขอได้อีก เรียนจบเป็น General Physician (M.D) แล้วเรียนต่อ surgical resident อีก 5 ปี ผมเรียนจบเภสัชศาสตร์ที่ไทยมา เทียบเท่ากับ Pre-Med ได้ หรือ ถ้าคนที่เรียนจบแพทยศาสตร์จากไทยมา ก็เทียบเท่า M.D ได้เช่นกัน ถ้าสอบใบประกอบโรคศิลป์ The United States Medical Licensing Examination (USMLE) ผ่าน Step 3 แต่หากผ่านแล้ว ไม่มีกรีนการ์ด ก็ทำงานโรงพยาบาลในอเมริกาไม่ได้อยู่ดี จะเรียนต่อ resident ที่นี่ก็ยาก เพราะส่วนใหญ่จะกำหนดเฉพาะคนอเมริกัน หรือ แพทย์ที่ถือกรีนการ์ด เนื่องจาก surgical resident ที่นี่มีรายได้ปีละประมาณ $50,000-$70,000 โดยไม่ต้องจ่ายค่าเทอมใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนถ้าเรียนจบแล้ว รายได้ของ surgeon ก็ประมาณ $400,000 ต่อปี
ทุกคนมีหลากหลายเหตุผลของตัวเองในการเลือกเส้นทางที่เราเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดที่หลายคนอยากได้กรีนการ์ดในอเมริกา ก็เพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ผมเกิดเป็นลูกชาวนาในถิ่นที่คนในเมืองบอกว่าบ้านนอก เรียนจบจากโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ผมขอบคุณตัวเองเสมอที่กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ ถึงแม้จะสวนทางกับความคิดคนอื่น เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ตั้งใจทำตามเป้าหมายในชีวิตของตัวเอง
“คนอย่างผมทำได้ คุณก็ทำได้ ไม่มีอะไรยากเกินกว่า ความพยายาม”
By
Thum Ideas