ถึงกับต้องล็อคอินเข้ามาตอบให้กำลังใจ สมัยเรียนพี่ไม่ใช่คนเรียนเก่งเหมือนกันครับ เรียนสายวิทย์คณิต แต่ก็อยู่ห้องท้ายเหมือนกัน ต่างกันนิดหน่อยที่พี่เรียนวิชาคำนวณใช้ได้ แต่วิชาไหนที่ต้องอ่านต้องท่อง พี่จะไม่เอาเลย เช่นชีวะ สังคม ภาษาไทย รวมทั้งเคมี ที่อ่อนมาก มีดีสองวิชาคือ คณิต กับฟิสิกซ์ ทำให้เกรดห่วยแตกมาก เพราะมีดีแค่ 2 วิชา   เลยทำให้ต้องไปเรียนมหาลัยเอกชน พี่เรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ เรียนเกี่ยวกับ โปรแกรมมิ่ง เน็ตเวิร์ค และดาต้าเบส ก็เหมือนเดิมคือพี่ไม่ใช่คนที่ขยันอ่านหนังสือ วิชาที่ได้คะแนนดีมักเป็นวิชาที่ใช้การคำนวนและความเข้าใจเช่นเคย เกรดมหาลัยก็ทำให้ไม่ดีเท่าที่ควร จนถูกติดโปร สุดท้ายพี่ก็ดันตัวเองให้จบได้ ด้วยเกรด 2.23 แต่พี่ไม่รอโอกาสหางาน พี่รู้ตัวว่าเกรดพี่น้อยแค่นี้ หางานคงไม่มีใครรับ แต่พี่มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง พี่รู้ว่าตัวพี่ไม่ใช่คนโง่ แค่พี่เรียนไม่เก่ง พี่ไม่ชอบทำอะไรที่ต้องท่องจำ เพราะคิดว่ามันไร้ค่า อยากรู้ก็แค่เปิดหาเอา พี่ใช้วิธีการหางานด้วยการไปสมัครสอบตามหน่วยราชการข้อดีคือ เค้าไม่สนใจเกรดว่าคุณจะได้เท่าไรแค่คุณทำข้อสอบให้ได้คะแนนอันดับ 1 คุณก็จะได้เข้าทำงาน แล้วก็จริงแบบที่พี่คิด เพียงแค่ที่แรกที่พี่ไปสอบพี่ก็ได้เข้าทำงานทันทีเพราะข้อสอบในสายงานพี่เป็นวิชาที่ใช้ความเข้าใจ เป็นวิชาที่พี่มักจะทำคะแนนได้ดี

** ปัจจุบันพี่ทำงานมาได้สองปีแล้ว ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ พี่ไม่กล้าพูดว่าพี่ประสบความสำเร็จแต่พี่กล้าพุดว่าพี่เป็นคนที่มีงานมั่นคงที่สุดคนนึงในกลุ่มเพื่อน พี่ไม่ต้องไปดิ้นรนในเมืองหลวงเพราะพี่ได้งานทำในจังหวัดบ้านเกิด ขับรถไปกลับทุกวันแค่ 20 นาทีถึงบ้าน พี่มีอิสระทางเวลาไม่ต้องปวดหัวกับรถติดเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เงินเดือนพี่ก็ไม่ได้ขี้เหร่กว่าเพื่อน ถึงจะน้อยกว่าแต่พี่มีเงินเก็บมากกว่าเพื่อนเก็บเท่าตัว

** สิ่งที่พี่อยากจะให้ข้อคิดคือ เราต้องมั่นใจในศักยภาพของตัวเอง ถึงเราจะเรียนไม่เก่งแต่นั่นไม่ได้บ่งบอกว่าเราจะทำงานไม่ได้ ไม่ได้บ่งบอกว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าน้องมั่นใจว่าน้องเป็นคนขยัน พี่ว่าน้องมีภาษีดีกว่าพี่เยอะ เพราะพี่เป็นคนขี้เกียจเรียน สิ่งที่น้องต้องทำคือมั่นใจ และใช้ศักยภาพของตัวเองให้เต็มที่ สู้ๆนะครับ พ่อพี่มักจะบอกเสมอว่า คนฉลาดหรือจะสู้คนขยัน ถ้าขยันซักอย่างไม่กลัวความลำบากไม่กลัวการฝึกฝน พี่เชื่อว่าทุกคนก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกันครับ