ที่จริงตอนว่ายน้ำ ถึงร่างกายจะเผาผลาญจนอุณหภูมิที่คายออกทางเหงื่อทำให้รู้สึกว่าตัวอุ่น ตามหลักน้ำในสระว่ายน้ำก็มีการถ่ายเทหมุนเวียนอยู่ตลอด ระหว่างที่ว่ายร่างกายกับน้ำในสระถ้าเป็นบ้านเราอุณหภูมิไม่ค่อยห่างกันมากฮะ ยิ่งสระกลางแจ้งต่อให้หน้าหนาวแต่ถ้าตากแดดตอนกลางวันน้ำมีค่าความร้อนแฝงจำเพาะอยู่แล้ว การคายอุณหภูมิจนมันเย็นก็ไม่ถือว่ามากเท่ากับการถ่ายเทของอากาศฮะ ...เพราะงั้น สาระจริงๆ คือระหว่างว่ายน้ำเหนื่อยๆ ร่างกายเราก็ถูก Cool down แบบค่อยเป็นค่อยไปกับน้ำในสระอยู่แล้ว ...

แต่เมื่อเทียบกับการสูญเสียอุณหภูมิร่างกายแบบฉับพลัน การที่ออกกำลังกายเหนื่อยๆ ตัวกพลังเผาผลาญมาอุ่นๆ มีการสูญเสียพลังงานแบบค่อยเป็นค่อยไปกับอากาศ การวิ่งไปอาบน้ำที่อุณหภูมิต่างกันมากๆ (ซัก 10-15 องศาฯ ขึ้นไป) ถ้าคุณไม่ใช่ร่างกายนักกีฬาหรือเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแบบเฉียบพลัน การที่อาบน้ำทันทีโดยไม่ Cool down มันทำให้ร่างกายสูญเสียอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ปกติร่างกายมีกลไกปกป้องอวัยวะสำคัญภายในก่อนด้วยการดึงเลือดบางส่วนไปเพิ่มการไหลเวียนเลี้ยงไว้เมื่อถูกทำให้เข้าใจว่าอยู่ภาวะสูญเสียอุณหภูมิฉับพลัน เพราะงั้นมันจะเลือกปกป้องหัวใจก่อนเป็นอันดับแรก บางคนอาจจะมีอาการมึนหัวที่อาบน้ำเย็นทันที บางรายก็อาจจะชาปลายมือปลายเท้าได้ ...

การว่ายน้ำ มันเกิดการกระจายอุณหภูมิในร่างกายแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าการออกกำลังกายมาตัวร้อนๆ แล้วไปอาบน้ำทันที ...เค้าถึงต้องมี Warm up กับ Cool down ไงฮะ ...แต่ที่บางคนลืมคิดเวลาไปว่ายน้ำ คือ ที่เค้าให้อาบน้ำก่อนและหลังว่ายน้ำ มันไม่ใช่แค่ต้องทำความสะอาดร่างกายเพื่ออนามัยเท่านั้น แต่มันเป็นการค่อยๆ ปรับอุณหภูมิในร่างกายทั้งก่อนและหลังว่ายน้ำด้วย ...และ มันไม่ใช่แค่ไม่ควรอาบน้ำทันทีโดยไม่ Cool down หลังออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ควรรีบไปผึ่งพัดลมเย็นๆ หรือดื่มน้ำเย็นจัดๆ ทันทีหลังออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ ด้วย ...

หลักการคือ ควรพยายามให้ร่างกายค่อยๆ ปรับอุณหภูมิซึ่งมาจากอัตรการเผาผลาญและการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ อย่าพยายามกระชากอุณหภูมิร่างกายโดยไม่จำเป็น ...