สวัสดีคะ ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนแฟนเราทำงานบริษัทแห่งหนึ่งในบางพลี ตัวเราเงินเดือนหมื่นเลยกลาง
มานิด เราทั้งสองทำงานมาแล้วประมาณ 5 ปี ซึ่งดูรวมๆเงินเดือนน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาในการทำงาน แฟนเราเงินหมื่นต้นๆ ถ้ามีโอทีเยอะ ก็ตก วิคละ 7-9 พัน เราสองคนตกลงเก็บเงินตอนที่คบกันได้เพียง 2 เดือน ซึ่งเราก็เพิ่งจะเลิกกับแฟนเรามาได้ 1 วัน ก็มาเจอเขาบนรถเมล์ ซึ่งเราทั้งสองรู้จักกันมาก่อน เขาเป็นรุ่นพี่ 1 ปี ตั้งแต่สมัยอนุบาลยัน ป.6 แต่ไม่เคยคุยกันเลย แค่รู้ว่าเป็นเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น อันที่จริงก็เจอกันบนรถหลายครั้ง แต่เราไม่อยากทัก ไม่อยากสนใจ เพราะตอนนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว และก็ไม่เคยคุยกันด้วยเลยไม่กล้า พอเลิกกับแฟนได้ 1 วัน เจอกันบนรถอีกแต่รอบนี้เราเลยทักเขาไปเพราะก่อนหน้าที่เจอกัน เราได้เจอกันบนเฟส ซึ่งเขาแท็ก พี่ชายมาเราก็เลยแกล้งไปถามว่าใช่คนที่เห้นบนรถเมล์ไหม เขาก็ตอบว่าใช่ เราก็ตอบว่าเห็นอยู่แต่ไม่กล้า เขาก็บอกว่าทักได้ พี่ไม่ใช่โจรซะหน่อย พอเจอหน้ากันวันนั้นเราก็เลยทักเขา หลังจากนั้นเราก็สานความสัมพันธ์กัน ซึ่งตอนคบกัน
บอกเลยว่าแฟนเราไม่มีเงินเก็บสักบาท เงินเดือน วิคชนวิค จีบกันใหม่ๆ ไม่เคยพาไปไหนเพราะไม่มีเงิน เขาก็บอกเราตรงๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้ทำไมนะถึงได้
ตกลงเป็นแฟนกับเขา เหมือนเราจะคิดในใจว่า ผช.คนนี้เปลี่ยนแปลงได้ เขาโสดเขาเลยอาจจะไม่รู้จะเก็บเงินไปทำไมก็ได้ เราก็เลยตัดสินใจคบเขา พอ
คบกันได้ 5-6 เดือน แม่ก็ให้มาหมั้น ก็เลยเอาเงินที่ได้จากการเก็บด้วยกันนั้นแหละคะมาหมั้น หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาอยู่กับเรา เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้
จ่ายมากยิ่งขึ้น เล่ามาซะยืดยาว เข้าเรื่องวิธีเก็บเงินของเราเลยละกันนะคะ
1.เราทำตารางรายรับรายจ่ายของเรา แต่ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ ทำแค่เดือนละครั้ง
รายรับ XX
รายจ่าย XX
รายจ่าย XX
รายจ่าย XX
รวมรายจ่าย XX
เหลือสุทธิ XX
ฝากเงินเข้าธนาคารตัวเอง(เงินเก็บ) XX
ฝากเงินเข้ากองกลาง (ค่าแต่งแ XX
รวมเงินฝาก XX
เหลือใช้ XX
ประมาณนี้ที่เราทำ
2.เราจะแบ่งเงินของเราคน 2000 เพื่อมาเก็บในบัญชีงานแต่ง และก็จะแบ่งเงินเก็บในบัญชีเก็บของแต่ละคน เริ่มเก็บเดือน ต.ค 2559 ถึงเดือน ส.ค
2560 พอเดือน กันยายนเราจะเก็บเพิ่มเป็นเดือนละ 3000 บาท
3.ค่าอาหารเราจะเน้นทำกับข้าวกินเอง เราออกค่าอาหารคนละ 300 บาท แต่ถ้ามีซื้อของใช้เพิ่มก็ตกคนละ 400 ต่อ 10 วัน เราจะไปซื้อเสบียงทุกวันที่
10.20.30 ตกครั้งละ 600 บาท ตกเดือนละ 1800 บาท แต่บางทีเราก็มีไปกินก๋วยเตี๋ยวบ้างเป็นบบางครั้ง ซื้อผักเพิ่มบ้างก็ตกเดือนละ ประมาณ 1800-
2300 ประมาณนี้ เราจะห่อข้าวเช้า กับ ข้าวเที่ยงไปกิน ส่วนแฟนเราเขาแต่งตัวเร็ว เขาจะกินจากห้องไปเลย ส่วนข้าวเที่ยงที่บริษัทเขามีกินฟรี ถ้าแฟน
ทำโอวันหยุดเราก็ทำอาหารให้ทั้งเช้าและเที่ยง ห่อไปกินที่ทำงาน โชคดีที่แฟนเราเป็นคนกินง่าย
4.เราหยอดกระปุกทุกวัน ถ้ามีเหรียญอยู่ในกระเป๋า และเราก็เก็บแบงค์ 50 บาท และก็เก็บเงินที่ได้จากถูกหวยบ้าง เล่นแชร์ บ้างมาหยอดกระปุกไว้โดย
หยอดแยกกระปุกกัน
เงินเดือนของแฟนเราเขาจะเป็นคนถือ แต่เงินเก็บของเขา กับ เงินกองกลางเราจะเป็นคนเก็บ พอเงินแฟนออกถ้าเป็นต้นเดือนเขาจะโอนค่าห้องมาให้ 1000 ถ้าได้โอเยอะ เขาจะโอนมาให้ 1200 ซึ่งค่าห้องรวมน้ำไฟจะตกประมาณ 2300 บาท แล้วเขาก็จะโอนเข้าเงินเก็บของเขา 1000-3000 แล้วแต่ว่าได้โอมากหรือน้อย พอกลางวิค เขาก็จะโอนค่างานแต่ง 2000 กับ โอนเข้าเงินเก็บของเขา การโอนเงินเข้าเงินออกบัญชีของแฟนเรา เราทำตารางรายการโอนเข้า โอนออกไว้ ไม่ว่าจะให้เติมเงินให้จากบัญชีของเขา โอนให้ใคร หรือโอนเข้ามาฝาก เราจะบันทึกไว้หมด บันทึกเป็นตารางไว้ เขาจะได้รู้ว่าเงินเขา เข้า - อก ไปไหนบ้าง
รายรับรายจ่ายของแฟนเรา เราก็บันทึกไว้ เดือนละครั้ง เขาจะได้รู้ว่าวิคนี้เขาใช้เงินไปกี่บาท แฟนเราเป็นคนไม่กินของหรู ไม่ชอบซื้อเสื้อผ้า แต่เสีย
อย่างชอบกินเหล้า ดูดบุหรี่ แต่พอมาอยู่กับเราก็ดีขึ้นเยอะ เงินเก็บก็มีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งที่แต่ก่อน เงินไม่เคยเหลือถึงสิ้นเดือน หยิบยืมคนอื่นตลอด
เราตั้งใจว่าจะเก็บถึงเดือน ธํนวาคม 2562 เพราะวางแผนว่าจะแต่งงานเดือนมกราคม 2563 เงินจะครบ แสนแปดพอดี เพราะเราหมั้นไปแล้ว 2 หมื่น ทอง 1 บาท ขาดอีก แสนแปดกับทองอีก 1 บาท
เราอยากจะบอกว่าการเก็บเงินมันเป็นอะไรที่อยากมาก แต่ก่อนเราอยากกินอะไรเราก็ซื้อๆๆๆ แต่เดี๋ยวนี้เราคิดแล้วคิดอีก กลายเป็นคนประหยัดมากก
ไปห้างแต่ละทีต้องดูแล้วดูอีก คิดแล้วคิดอีก
เวลาเราไปซื้อเสบียงเราจะไปซื้อที่แมคโคร เพราะเขาขายผักเป็นกิโล และมีเนื้อหลากหลายให้เลือกเยอะ เราเลยเลือกไปซื้อของที่แมคโคร มีบางครั้ง
ที่ไปโลตัสบ้าง
เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเก็บเงินแต่งงานนะคะ สำหรับคนเงินเดือนน้อยก็อย่าไปท้อนะคะ ถ้าเราสู้ไปด้วยกัน ได้แต่งแน่นอนคะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเก็บเงิน เราต้องมุ่งหมั่น วางเป้าหมายชัดเจน อย่าวอกแวก อย่าเอาไปใช่อย่างอื่นเด็ดขาด และต้องซื้อของที่คิดว่ามันจำ
เป็นจริงๆ และมีประโยชน์กับเรา อะไรที่มันไม่มีประโยชน์ ไม่สำคัญมากนักก็ยังไม่ต้องซื้อ
ขอจบกระทู้เพียงเท่านี้นะคะ ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้ว
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ
หากเขียนอะไรผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะคะ
**เราพิมพ์ใน WORD ก็อปแล้วเอาวาง การเว้นวรรคเลยดูแปลกๆๆ**
**มีข้อความเพิ่มเติมที่ ความคิดเห็นที่ 45 นะคะ**
แบ่งปันวิธีเก็บเงินแต่งงานของคนเงินเดือนน้อย
มานิด เราทั้งสองทำงานมาแล้วประมาณ 5 ปี ซึ่งดูรวมๆเงินเดือนน้อยมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาในการทำงาน แฟนเราเงินหมื่นต้นๆ ถ้ามีโอทีเยอะ ก็ตก วิคละ 7-9 พัน เราสองคนตกลงเก็บเงินตอนที่คบกันได้เพียง 2 เดือน ซึ่งเราก็เพิ่งจะเลิกกับแฟนเรามาได้ 1 วัน ก็มาเจอเขาบนรถเมล์ ซึ่งเราทั้งสองรู้จักกันมาก่อน เขาเป็นรุ่นพี่ 1 ปี ตั้งแต่สมัยอนุบาลยัน ป.6 แต่ไม่เคยคุยกันเลย แค่รู้ว่าเป็นเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น อันที่จริงก็เจอกันบนรถหลายครั้ง แต่เราไม่อยากทัก ไม่อยากสนใจ เพราะตอนนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว และก็ไม่เคยคุยกันด้วยเลยไม่กล้า พอเลิกกับแฟนได้ 1 วัน เจอกันบนรถอีกแต่รอบนี้เราเลยทักเขาไปเพราะก่อนหน้าที่เจอกัน เราได้เจอกันบนเฟส ซึ่งเขาแท็ก พี่ชายมาเราก็เลยแกล้งไปถามว่าใช่คนที่เห้นบนรถเมล์ไหม เขาก็ตอบว่าใช่ เราก็ตอบว่าเห็นอยู่แต่ไม่กล้า เขาก็บอกว่าทักได้ พี่ไม่ใช่โจรซะหน่อย พอเจอหน้ากันวันนั้นเราก็เลยทักเขา หลังจากนั้นเราก็สานความสัมพันธ์กัน ซึ่งตอนคบกัน
บอกเลยว่าแฟนเราไม่มีเงินเก็บสักบาท เงินเดือน วิคชนวิค จีบกันใหม่ๆ ไม่เคยพาไปไหนเพราะไม่มีเงิน เขาก็บอกเราตรงๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้ทำไมนะถึงได้
ตกลงเป็นแฟนกับเขา เหมือนเราจะคิดในใจว่า ผช.คนนี้เปลี่ยนแปลงได้ เขาโสดเขาเลยอาจจะไม่รู้จะเก็บเงินไปทำไมก็ได้ เราก็เลยตัดสินใจคบเขา พอ
คบกันได้ 5-6 เดือน แม่ก็ให้มาหมั้น ก็เลยเอาเงินที่ได้จากการเก็บด้วยกันนั้นแหละคะมาหมั้น หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาอยู่กับเรา เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้
จ่ายมากยิ่งขึ้น เล่ามาซะยืดยาว เข้าเรื่องวิธีเก็บเงินของเราเลยละกันนะคะ
1.เราทำตารางรายรับรายจ่ายของเรา แต่ไม่ได้ทำทุกวันนะคะ ทำแค่เดือนละครั้ง
รายรับ XX
รายจ่าย XX
รายจ่าย XX
รายจ่าย XX
รวมรายจ่าย XX
เหลือสุทธิ XX
ฝากเงินเข้าธนาคารตัวเอง(เงินเก็บ) XX
ฝากเงินเข้ากองกลาง (ค่าแต่งแ XX
รวมเงินฝาก XX
เหลือใช้ XX
ประมาณนี้ที่เราทำ
2.เราจะแบ่งเงินของเราคน 2000 เพื่อมาเก็บในบัญชีงานแต่ง และก็จะแบ่งเงินเก็บในบัญชีเก็บของแต่ละคน เริ่มเก็บเดือน ต.ค 2559 ถึงเดือน ส.ค
2560 พอเดือน กันยายนเราจะเก็บเพิ่มเป็นเดือนละ 3000 บาท
3.ค่าอาหารเราจะเน้นทำกับข้าวกินเอง เราออกค่าอาหารคนละ 300 บาท แต่ถ้ามีซื้อของใช้เพิ่มก็ตกคนละ 400 ต่อ 10 วัน เราจะไปซื้อเสบียงทุกวันที่
10.20.30 ตกครั้งละ 600 บาท ตกเดือนละ 1800 บาท แต่บางทีเราก็มีไปกินก๋วยเตี๋ยวบ้างเป็นบบางครั้ง ซื้อผักเพิ่มบ้างก็ตกเดือนละ ประมาณ 1800-
2300 ประมาณนี้ เราจะห่อข้าวเช้า กับ ข้าวเที่ยงไปกิน ส่วนแฟนเราเขาแต่งตัวเร็ว เขาจะกินจากห้องไปเลย ส่วนข้าวเที่ยงที่บริษัทเขามีกินฟรี ถ้าแฟน
ทำโอวันหยุดเราก็ทำอาหารให้ทั้งเช้าและเที่ยง ห่อไปกินที่ทำงาน โชคดีที่แฟนเราเป็นคนกินง่าย
4.เราหยอดกระปุกทุกวัน ถ้ามีเหรียญอยู่ในกระเป๋า และเราก็เก็บแบงค์ 50 บาท และก็เก็บเงินที่ได้จากถูกหวยบ้าง เล่นแชร์ บ้างมาหยอดกระปุกไว้โดย
หยอดแยกกระปุกกัน
เงินเดือนของแฟนเราเขาจะเป็นคนถือ แต่เงินเก็บของเขา กับ เงินกองกลางเราจะเป็นคนเก็บ พอเงินแฟนออกถ้าเป็นต้นเดือนเขาจะโอนค่าห้องมาให้ 1000 ถ้าได้โอเยอะ เขาจะโอนมาให้ 1200 ซึ่งค่าห้องรวมน้ำไฟจะตกประมาณ 2300 บาท แล้วเขาก็จะโอนเข้าเงินเก็บของเขา 1000-3000 แล้วแต่ว่าได้โอมากหรือน้อย พอกลางวิค เขาก็จะโอนค่างานแต่ง 2000 กับ โอนเข้าเงินเก็บของเขา การโอนเงินเข้าเงินออกบัญชีของแฟนเรา เราทำตารางรายการโอนเข้า โอนออกไว้ ไม่ว่าจะให้เติมเงินให้จากบัญชีของเขา โอนให้ใคร หรือโอนเข้ามาฝาก เราจะบันทึกไว้หมด บันทึกเป็นตารางไว้ เขาจะได้รู้ว่าเงินเขา เข้า - อก ไปไหนบ้าง
รายรับรายจ่ายของแฟนเรา เราก็บันทึกไว้ เดือนละครั้ง เขาจะได้รู้ว่าวิคนี้เขาใช้เงินไปกี่บาท แฟนเราเป็นคนไม่กินของหรู ไม่ชอบซื้อเสื้อผ้า แต่เสีย
อย่างชอบกินเหล้า ดูดบุหรี่ แต่พอมาอยู่กับเราก็ดีขึ้นเยอะ เงินเก็บก็มีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งที่แต่ก่อน เงินไม่เคยเหลือถึงสิ้นเดือน หยิบยืมคนอื่นตลอด
เราตั้งใจว่าจะเก็บถึงเดือน ธํนวาคม 2562 เพราะวางแผนว่าจะแต่งงานเดือนมกราคม 2563 เงินจะครบ แสนแปดพอดี เพราะเราหมั้นไปแล้ว 2 หมื่น ทอง 1 บาท ขาดอีก แสนแปดกับทองอีก 1 บาท
เราอยากจะบอกว่าการเก็บเงินมันเป็นอะไรที่อยากมาก แต่ก่อนเราอยากกินอะไรเราก็ซื้อๆๆๆ แต่เดี๋ยวนี้เราคิดแล้วคิดอีก กลายเป็นคนประหยัดมากก
ไปห้างแต่ละทีต้องดูแล้วดูอีก คิดแล้วคิดอีก
เวลาเราไปซื้อเสบียงเราจะไปซื้อที่แมคโคร เพราะเขาขายผักเป็นกิโล และมีเนื้อหลากหลายให้เลือกเยอะ เราเลยเลือกไปซื้อของที่แมคโคร มีบางครั้ง
ที่ไปโลตัสบ้าง
เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเก็บเงินแต่งงานนะคะ สำหรับคนเงินเดือนน้อยก็อย่าไปท้อนะคะ ถ้าเราสู้ไปด้วยกัน ได้แต่งแน่นอนคะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเก็บเงิน เราต้องมุ่งหมั่น วางเป้าหมายชัดเจน อย่าวอกแวก อย่าเอาไปใช่อย่างอื่นเด็ดขาด และต้องซื้อของที่คิดว่ามันจำ
เป็นจริงๆ และมีประโยชน์กับเรา อะไรที่มันไม่มีประโยชน์ ไม่สำคัญมากนักก็ยังไม่ต้องซื้อ
ขอจบกระทู้เพียงเท่านี้นะคะ ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อแล้ว
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ
หากเขียนอะไรผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะคะ
**เราพิมพ์ใน WORD ก็อปแล้วเอาวาง การเว้นวรรคเลยดูแปลกๆๆ**
**มีข้อความเพิ่มเติมที่ ความคิดเห็นที่ 45 นะคะ**