[SR] รักษาสิว 3 วัน มาดูกันว่าหายจริงไหม ?

สวัสดีค่ะ ห่างหายไปนานเลย กลับมากับการรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกครั้ง ครั้งนี้มารีวิวเจลรักษาสิว เราจะทดลองเทียบก่อนและหลังให้เห็นกันแบบชัดๆ เลยว่าใช้แล้วเป็นยังไง ก่อนจะไปเริ่มการทดลองมาดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์กันก่อนเลยค่ะ

เริ่มที่ตัวแรก “Clear Pore Refine Cream ครีมลดสิวเสี้ยน” คล้ายๆ กับเจลแต้มสิว แต่ตัวนี้ใช้แต้มสำหรับสิวเสี้ยนเลย ในตลาดไม่ค่อยเห็นในรูปแบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเจลที่ทาลงผิว พอนวดแล้วจะอุ่นๆ ที่ผิว และต้องล้างออก แต่ตัวนี้ทาแล้วจบเลย ไม่ต้องล้างออก



:: สรรพคุณที่เคลมไว้ ::

ครีมเจลเนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมส่วนผสมที่คัดสรรมาเพื่อคุณ ได้แก่ Fomes Officinails Extract, Green Lenti Extract และ Salicylic Acid ช่วยลดและควบคุมความมันบนใบหน้า พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้รูขุมขนแลดูกระชับ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว Tea Tree Oil ช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว เพื่อผิวเรียบเนียน รอยดำจากสิวแลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ



:: เนื้อผลิตภัณฑ์และสัมผัสหลังทา ::

ที่กล่องเขียนไว้ว่าเป็นครีมเจล อ่านตอนแรกก็งงว่าเป็นไง 555555 เราว่าก็เหมือนเนื้อเจลแต่ไม่ใสมาก มีความข้นเล็กน้อย เกลี่ยง่ายซีมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว กลิ่นก็เหมือนปกติของแบรนด์นี้ค่ะ หอมอ่อนๆ


ต่อกันที่ตัวที่สองหน้าตาคล้ายๆ กันเลย นางเป็นแฝดคนละฝาค่ะ ตัวนี้คือ “Acne Clear Cream Formula ครีมแต้มสิวอักเสบ สูตรธรรมชาติ” ที่ช่วยรักษาสิวอักเสบ



:: สรรพคุณที่เคลมไว้ ::

ครีมป้องกันการเกิดสิว สูตรธรรมชาติ ลดการอุดตันของสิว แบคทีเรีย และรอยแดงบนใบหน้า ผิวจะกระชับ นุ่มนวล Salicylic จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลง (เนื่องจากหลังกล่องเขียนสรรพคุณไว้น้อย เราเลยบอกข้อมูลที่ทางแบรนด์ส่งมา แปะเพิ่มเติมให้ค่ะ) มีคุณสมบัติ 7 ประการ ดังนี้ แก้สิวอักเสบ, ลดการอุดตันของรูขุมขน, กระชับรูขุมขน, สมานรอยแผลจากสิว, แก้รอยแดงจากสิว, ปลอบประโลมผิว และบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น



:: เนื้อผลิตภัณฑ์และสัมผัสหลังทา ::

ตัวนี้เนื้อคล้ายๆ ตัวแรก แต่เข้มข้นและมีความเป็นเนื้อครีมมากกว่า ต้องค่อยๆ เกลี่ยก็ซึมลงผิว สัมผัสหลังทาเหมือนกับตัวแรกเลยค่ะ เราว่าเนื้อเหมาะกับการแต้มสิวเฉพาะจุดค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ



มาค่ะ เราว่าคงถึงเวลาที่เพื่อนๆ รอคอย นั่นคือ การพิสูจน์ประสิทธิภาพของทั้งสองตัวนี้ว่าเวิร์คจริงหรือเปล่า งานนี้เราอาสาสมัครจากน้องในออฟฟิศ เพราะต้องการผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน แบบเห็นชัดๆ จะๆ ได้เหยื่อมารายหนึ่ง น้องมีปัญหาสิวครบทั้งสิวเสี้ยนและสิวอักเสบ แถมนางไม่แต่งหน้า หน้าสดมาทำงานทุกวัน คุณสมบัติครบสำหรับการทดลองครั้งนี้ ไม่รอช้า เราขอเริ่มกันที่สิวเสี้ยน ก่อนจะไปดูการทดลอง มาดู Before กันก่อน



:: สภาพสิวก่อนใช้ ::

ดูเผินๆ เหมือนจะสิวเสี้ยนจะน้อย พอซูมเท่านั้นแหละค่ะ รู้เรื่อง! (ใครกินข้าวอยู่ ขออภัยด้วยค่ะ) สิวเสี้ยนมาเป็นเส้นๆ ตอๆ เลย ภาพฝั่งขวาที่ซูมชัดๆ เราใช้ฟังก์ชั่น Microscope ของ Olympus Tough TG-4 ค่ะ (เราบอกไว้ เผื่อมีคนถามนะคะ ไม่ได้ tie-in ขายกล้องเน้อ 555555)

:: วิธีการใช้และระยะเวลาในการทดลอง ::

เราให้น้องใช้ครีมลดสิวเสี้ยน Clear Pore Refine Cream ทาเฉพาะข้างขวา เพื่อจะได้เห็นผลที่ชัดเขน โดยทาหลังจากล้างหน้าและก่อนลงสกินแคร์บำรุงผิวตัวปกติของน้อง ทาวันละสองครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 3 วัน



หลังจากที่ให้น้องใช้ครีมลดสิวเสี้ยนเฉพาะข้างขวามา 3 วัน (สงสารน้องสวยอยู่ข้างเดียว 55555) เราแอบเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ดูตาเปล่า รูปนี้เทียบให้ระหว่างข้างขวาที่ทากับข้างซ้ายที่ไม่ทาว่าหัวสิวเสี้ยนดูลดลง ถ้าไม่เชื่อไปดูรูปซูมของแต่ละข้างแบบชัดๆ เลยจ้า



จะเห็นว่าข้างขวารูขุมขนดูเล็กลง สิวเสี้ยนก็ยังมี แต่ไม่เป็นเสี้ยนๆ แบบข้างซ้ายแล้ว ถ้าสครับกับทาต่ออีก น่าจะผิวเรียบเนียนเลยค่ะ

:: สรุปผลลัพธ์ ::

หลังจากที่สัมภาษณ์เจ้าตัวก็ได้ผลลัพธ์ ดังนี้ค่ะ
เนื้อผลิตภัณฑ์ >> เท่าที่ลองทาที่มือและถามจากน้องก็ชอบทั้งคู่นะ เพราะทาแล้วซึมไว เบาสบายผิว เหมือนไม่ได้ทา
ความอ่อนโยน >> ทาแล้วไม่มีอาการแห้งลอก บริเวณที่ทานะคะ ค่อนข้างอ่อนโยนเลยค่ะ (ส่วนเรื่องการแพ้ แต่ละคน ไม่เหมือนกันนะคะ สาวๆ ควรทำการทดสอบการแพ้ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่หน้าทุกครั้งค่ะ)
การรักษาสิว >> ถ้าเทียบจากรูปก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเห็นชัดขนาดนี้

🌟🌟🌟🌟🌟
เอาไปเลย 5 ดาว เห็นผลลัพธ์แล้วรู้สึกสะใจเบาๆ ความคิดส่วนตัว สาวๆ ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนไม่ควรพลาดค่ะ


การทดลองครั้งนี้ ยังไม่จบ เรามาต่อกันที่สิวอักเสบ มาดูรูป Before กันค่ะ


:: สภาพสิวก่อนใช้ ::

หลายๆ คนเห็นรูปขวา อาจขนลุก สังเกตได้เลยว่าสิวกำลังอักเสบได้ที่เลย ดูไกลๆ ตอนแรกก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอมาดูตอนคัดทำรีวิว รู้สึกเจ็บแทนน้องเลย อยากบีบด้วย 5555 แต่สาวๆ ห้ามบีบนะคะ เดี๋ยวสิวจะยิ่งหายช้าค่ะ

:: วิธีการใช้และระยะเวลาในการทดลอง ::

วิธีใช้เหมือนการแต้มสิวปกติทั่วไป หลังจากล้างหน้า ใช้ครีมรักษาสิว Acne Clear Cream Formula แต้มบริเวณสิวอักเสบ วันละสองครั้ง เช้า-เย็น หลังจากนั้นก็บำรุงผิวตามปกติค่ะ โดยจะทดลองเป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของหัวสิวในแต่ละวัน



ไม่ทันไร น้องสิวก็ได้จากเราไปแล้ว ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปรีวิวแบบชัดๆ เลย ภาพนี้ได้บันทึกด้วยตัวเจ้าของสิวเอง (ขออภัยในความเบลอด้วยนะคะ เราเน้นความเรียล 555555) น้องเล่าให้ฟังว่าหลังจากแต้มสิวช่วงเช้า รู้สึกคันยิบๆ นิดนึงตรงบริเวณสิว แต่ไม่ได้รู้สึกแสบ ตอนที่แวะร้านกาแฟก่อนเข้าออฟฟิศ ก็สังเกตเห็นว่าหัวสิวก็หลุดออกมาเองเลย ตามที่เห็นในรูปทางขวาที่วงกลมไว้



:: สรุปผลลัพธ์ ::

หลังจากที่สัมภาษณ์เจ้าตัวก็ได้ผลลัพธ์ ดังนี้ค่ะ
เนื้อผลิตภัณฑ์ >> ตอนบีบและทารู้เลยว่าเข้มข้น เข้มข้นกว่าที่แต้มสิวทั่วๆ ไป แต่เกลี่ยไม่ยาก ซึมง่าย มีความหนึบๆ ที่ผิวนิดหน่อย แต่ไม่เหนอะหนะ
ความอ่อนโยน >> ถ้ามีผิวแพ้ง่ายมากๆ อาจลองใช้ทีละน้อยๆ เพราะตอนที่แต้มจะรู้สึกคันยิบๆ น้องบอกว่ารู้สึกได้เลยว่าครีมกำลังทำงานและรักษาอยู่ 555 แต่ไม่รู้สึกระคายเคืองผิวหรือแพ้ค่ะ (ส่วนเรื่องการแพ้เหมือนกับข้อบนเลยค่ะ แต่ละคนแพ้ไม่เหมือนกันนะคะ สาวๆ ควรทำการทดสอบการแพ้ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่หน้าทุกครั้งค่ะ)
การรักษาสิว >> ก็ถือว่าทำได้ดีในระยะเวลาอันสั้น สั้นมากด้วย 5555 ช่วยผลัดหัวสิวให้หลุดได้แบบนุ่มนวล ไม่ต้องบีบต้องเค้นให้เป็นแผลเลยค่ะ

🌟🌟🌟🌟
ให้ 4 ดาวค่ะ ประสิทธิภาพโอเค รวดเร็วทันใจ
แต่ว่าหักตรงที่แอบมีคันยิบๆ คนที่ไม่ชอบความสะใจ อาจวิตกกังวลได้ แต่ถ้าสายซาดิส คงติดใจ 5555



ก่อนจะลากันไปขอแนะนำทริคง่ายๆ ในการรักษาสิว แบบที่เราใช้และแนะนำให้สาวๆ รอบตัว ซึ่งก็ได้ผลอยู่นะจ๊ะ


:: ทริครักษาสิว ฉบับบ้านๆ ::

“สิวเสี้ยน” ใช้กับตัวซ้าย >> เวลาล้างหน้าตอนเย็นทุกวัน เราจะสครับเฉพาะตรงจมูกด้วยโฟมที่มีเม็ดสครับเล็กๆ แบบเนื้อละเอียด เพื่อไม่ให้ทำร้ายผิว ถ้าใครมีผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งอาจทำวันเว้นวัน ** การเลือกสครับสำคัญมากค่ะ ถ้าใช้แบบที่มีเนื้อหยาบและเม็ดสครับใหญ่ ไม่ควรสครับทุกวันนะคะ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ค่ะ **

“สิวอักเสบ” ใช้กับตัวขวา >> แต้มสิวเช้า-เย็นจนหัวมันเป่งขึ้นมากและรู้สึกว่าสิวจะใกล้ระเบิดตัว เราจะแปะแผ่นดูดซับสิวก่อนแต่งหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้สิวสัมผัสกับเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก ตอนเย็นก็ลอกแผ่นดูดซับสิวออก ทั้งหนองและหัวสิวจะออกมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องบีบ หลังจากนั้นก็หลังล้างหน้า แต้มแผลที่หัวสิวเพิ่งหลุดออกไป เพื่อสมานแผลและลดการเป็นรอยดำค่ะ


สาวๆ ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เจอกันใหม่รีวิวหน้านะจ๊ะ บายจ้า
ชื่อสินค้า:   Dermist Clear Pore Refine Cream, Dermist Acne Clear Cream Formula
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่