** เคล็ดลับคำโคลง ** ตอน.. การเล่นคำ

ไม่ได้เข้าห้องเรียนโคลงนานมากแล้ว วันนี้คุณครูว่าง จึงแวะมาต่อยอดจากอดีตที่เคยร่วมเรียนกันมา

นักเรียนใหม่สามารถเข้าไปดูกระทู้ย้อนหลังได้โดยพิมพ์หาในกูเกิ้ลว่า  ** เคล็ดลับคำโคลง **  ( ของแท้ต้องมีดอกจัน ** ประกบหัว-ท้าย )
ซึ่งเป็นตอนต้นๆอีกหลายตอน..


พูดถึงการเล่นคำ กวีโบราณจะนิยมนำมาใช้ในแทบทุกโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทนิราศต่างๆ เพราะต้องผ่านสถานที่ เหตุการณ์ การระลึกบุคคล
สิงสาราสัตว์ พฤกษ์พรรณไม้  ธรรมชาติ ฯลฯ

ยกตัวอย่างโคลงปรมาจารย์ อ.นรินทร์  ที่มีการเล่นคำ"บาง"

๐ จากบางมาลิ่วล้ำ                           ลำบาง
บางยี่เรือราพราง                              พี่พร้อง
เรือแผงช่วยพานาง                           เมียงม่าน  มานา
บางบ่รับคำคล้อง                              คล่าวน้ำตาคลอ ฯ

คราวนี้ลองมาดูนิราศแม่ฮ่องสอน ที่ข้าพเจ้าเคยแต่งบ้าง...

๑๔๕ ถึงนิวาสป่าพร้าว                         พราวไสว
พร้าวผ่องฉลองสมัย                            แม่นหมั้น
เคยเคียงคู่วิไล                                   วิลาส  ยาตรแฮ
สองปรารถนาปั้น                                ปลูกพร้าวอนุสรณ์ ฯ

+++ บทนี้เป็นการเล่นคำ"พร้าว" แบบตรงไป-ตรงมา บาทแรกพูดถึง "ป่าพร้าว" ซึ่งเป็นชื่อหมู่บ้านหนึ่งที่เคยร่วมอาศัยกับคนรัก +++

๑๔๖ จรจรัลจอมแจ้งจรัส                     ใจจอม
จอมจิ่มจอมถนอม                              แจ่มแจ้ง
แจ้งใจข่มใจยอม                                จำจาก  จริตแม่
จากสุขจอมปลอมแกล้ง                       กลับแล้งแจ้งสมร ฯ

+++ คนนอกพื้นที่อ่าน อาจไม่เข้าใจ  "จอมแจ้ง" เป็นชื่อหมู่บ้านหนึ่งใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
จุดเด่นของคำ"แจ้ง" คือ เป็นคำโท และ เป็นกิริยาอาการ ( นอกเหนือจากคำวิสามานยนาม ที่เป็นชื่อหมู่บ้าน )
จึงพยายามจัดวางตำแหน่งและการเล่นคำ ตามตัวอย่างที่เห็น


๑๔๗ กาดแลงแกงร่ำก้อย                    รอยกรรม
รำเก่าเล่ากานท์ลำ                             ก่ำร้าว
กาวรอยกร่อยหลายตำ                        ตรำตราก  ตรมพ่อ
ต่องแต่งตำรับข้าว                             ข่าวเลี้ยงเคยเลียง ฯ

+++ ในบทนี้ "กาดแลง" หมายถึง ตลาดตอนเย็น ( ในแม่สะเรียงจะมีกาดเช้า, กาดแลง )
ผู้เขียนนำคำดังกล่าวมาเล่นคำ เล่นอักษรสลับ ส่วน"เลียง"คำสุดท้าย หมายถึง แกงเลียง


๒๑๘ ถึงแม่สามแลบแล้ว                     แจวเรือ
สองฝั่งธรรมชาติเหนือ                         น่านน้ำ
รวยรินกลิ่นโคลนเจือ                           โกลนจ่อม  ทรายฤา
หินกรวดระกำช้ำ                                 ตอกย้ำนิราเฉา ฯ    

+++ "แม่สามแลบ" เป็นชื่อตำบลหนึ่งในอำเภอสบเมย เป็นพื้นที่หนึ่งของอุทยานสาละวิน ผู้เขียนบรรยายตอนพายเรือในลำน้ำสาละวิน
เจอกลิ่นโคลนดิน สาบทราย มองดูคล้ายหินกรวดกำลังเศร้าใจ เหมือนโคลนดินมาพอกทรายและหินกรวด เท่ากับพอกหรือตอกย้ำความช้ำใจของผู้เขียน


๒๑๙ ปลาคังขังข้องดัก                        เดียวไฉน
ปลาตะเพียนเพียรไป                           ประพาส-ร้าง
ปลาคมข่มดุกไพร                               ใดพิศ  สนิทเอย
เรียมโศกปลาโศกบ้าง                          บ่อน้ำโศกเสมือน ฯ

+++ ระหว่างแจวเรือในลำน้ำสาละวินอันใสสะอาด เจอปลาหลากชนิด เช่น ปลาคัง, ปลาตะเพียน, ปลาคม, ปลาดุกป่า เป็นต้น
พายไปเศร้าใจไป พิศมัจฉาประหนึ่งเจอพิษโศกศัลย์เฉกเช่นโศกเรียม


๒๒๐ นิรารสบถสะท้าน                          สาละวิน  ไพรเอย
ร่มสักรักษาดิน                                    เด่นอะคร้าว
ไอชรอุ่มไอสินธุ์                                  อินสุข  แล้วฤา
ลืมเพรียกไพรพงพร้าว                          เพิ่มร้อยวารคืน ฯ

+++ เดินทางมาป่าสาละวินครานี้ เห็นต้นสักมากมาย รักษ์ป่ารักษ์ดินรักษ์น้ำ
กลับมามองตัวเรา ที่เคยอาศัยอยู่แถวหมู่บ้านป่าพร้าวกับน้องนาง อย่างมีความสุขสองต่อสอง
แต่มาบัดนี้ไยเล่าจึ่งจำพรากจากกันไกล จึงอย่ากให้อดีตอันหวานชื่นเช่นนั้นคืนหวน. +++

.... ที่บรรยายมานั้น เพียงให้ดูตัวอย่างคร่าวๆเท่านั้น มิบังอาจจะไปบังคับใครให้ทำตามได้
อยากให้ไว้เป็นไอเดียในการแต่งเฉยๆ ข้อสำคัญคือต้องหมั่นอ่านบทกวีโบราณ, ฝึกเขียนบ่อยๆ, ฝึกคิดฝึกจินตนาการ และพยายามค้นหาตัวเองให้เจอ
หากผิดพลาดประการใดแนะนำกันได้นะครับ ....

ปล.อยากให้เขียนเรื่องอะไรต่อก็บอกได้ หากไม่เหลือบ่ากว่าเนื้อสมองอันน้อยนิดนี้ ก็ยินดีรับใช้ครับ. อมยิ้ม26อมยิ้ม29อมยิ้ม17อมยิ้ม22
แก้ไขคำผิดครับ.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่