สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ประธานบริษัทลูกชาย ลูกสาว รวยระดับหมื่นล้าน
การวางตัวนะดีการเข้าสังคมดี เพราะพ่อแม่เขาสอนมาดีมาก การวางตัวกับพนักงานก็ถือว่าดีเยี่ยมเขาถือว่าพนักงานคนสำคัญการดุด่าจิกหัวอะไรแบบในละครไม่มีเลย ยิ่งคนเก่าเขานับถือมากเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวกับบริษัทมายาวนานเขาถือเป็นบุญคุณ ถ้าคนมาสมัครงานใหม่ท่านประธานถือเป็นแขกไม่ใช่คนมาของานทำ
การวางตัวนะดีการเข้าสังคมดี เพราะพ่อแม่เขาสอนมาดีมาก การวางตัวกับพนักงานก็ถือว่าดีเยี่ยมเขาถือว่าพนักงานคนสำคัญการดุด่าจิกหัวอะไรแบบในละครไม่มีเลย ยิ่งคนเก่าเขานับถือมากเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวกับบริษัทมายาวนานเขาถือเป็นบุญคุณ ถ้าคนมาสมัครงานใหม่ท่านประธานถือเป็นแขกไม่ใช่คนมาของานทำ
ความคิดเห็นที่ 37
มีโอกาสได้รู้จัก มหาเศรษฐี ท่านนึง เค้ารวย ระดับ แสนล้าน
แต่ทุกครั้งที่ได้ทานข้าวด้วย เค้าจะ สอนเราให้เก็บเงินๆๆๆ พยายามหาเงินให้มากกว่า รายจ่าย ทำตัวเป็นคนจนเอ็งจะรวย ทำตัวเป็นคนรวยเอ็งจะจน
จะซื้อของใช้ต้องดู ว่าเป็นกี่% ของรายได้ จะใช้กระเป๋าแพงๆ นาฬิกาแพงๆ ทำไม ในเมื่อ ใช้ถือ และบอกเวลาได้เหมือนกัน
สอนให้ทำบัญชีรับจ่าย ห้ามขาด ถ้าอยากรวย
สอนว่าถ้าเงินเดือนออก เก็บเงินได้10% เอ็งจะเป็นแค่คนธรรมดา
ถ้าเก็บเงินได้ 30% เอ็งจะเป็นคนพอมีพอใช้
ถ้าเก็บเงินได้ 50%เอ็งจะเป็นคนรวย
ถ้าเก็บเงินได้ 80% เอ็งจะเป็นอภิมหาเศรษฐี
เค้าไม่ได้แค่พูด สอนเราเท่านั้นนะคะ ลูกๆของท่านเนี๊ยะ ก็ถูกสอนให้ประหยัด ขับรถวีออส ธรรมดา ขนาดว่าญาติท่านซื้อเบ้นซ์มาให้หลานขับ. ท่านยังให้เอาคืนเลย เพราะ ไม่สบายใจ ที่ลูกขับรถแพงๆ. ท่านบอกอยากใช้ชีวิตแบบไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นใคร กินก๋วยเตี๋ยวข้างถนนแล้วไม่โดนดักตีหัว
แต่ทุกครั้งที่ได้ทานข้าวด้วย เค้าจะ สอนเราให้เก็บเงินๆๆๆ พยายามหาเงินให้มากกว่า รายจ่าย ทำตัวเป็นคนจนเอ็งจะรวย ทำตัวเป็นคนรวยเอ็งจะจน
จะซื้อของใช้ต้องดู ว่าเป็นกี่% ของรายได้ จะใช้กระเป๋าแพงๆ นาฬิกาแพงๆ ทำไม ในเมื่อ ใช้ถือ และบอกเวลาได้เหมือนกัน
สอนให้ทำบัญชีรับจ่าย ห้ามขาด ถ้าอยากรวย
สอนว่าถ้าเงินเดือนออก เก็บเงินได้10% เอ็งจะเป็นแค่คนธรรมดา
ถ้าเก็บเงินได้ 30% เอ็งจะเป็นคนพอมีพอใช้
ถ้าเก็บเงินได้ 50%เอ็งจะเป็นคนรวย
ถ้าเก็บเงินได้ 80% เอ็งจะเป็นอภิมหาเศรษฐี
เค้าไม่ได้แค่พูด สอนเราเท่านั้นนะคะ ลูกๆของท่านเนี๊ยะ ก็ถูกสอนให้ประหยัด ขับรถวีออส ธรรมดา ขนาดว่าญาติท่านซื้อเบ้นซ์มาให้หลานขับ. ท่านยังให้เอาคืนเลย เพราะ ไม่สบายใจ ที่ลูกขับรถแพงๆ. ท่านบอกอยากใช้ชีวิตแบบไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นใคร กินก๋วยเตี๋ยวข้างถนนแล้วไม่โดนดักตีหัว
ความคิดเห็นที่ 53
คนรวย จริงๆ ไม่ใช่แค่หลักสิบ นะ แต่พูดถึงร้อยขึ้น ส่วนใหญ่จะนิสัยดีครับ
เพราะเค้ามีทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องดิ้นรน ฉะนั้นสิ่งที่เค้าอยากมี คือ เพื่อนที่ดี ที่สามารถใช้เวลาด้วยกันได้
ส่วนใหญ่คนที่บอกว่า คนรวยหยิ่ง ไม่คบคนที่จนกว่า จริงๆเค้าไม่หยิ่งนะครับ แต่เค้าก็อยากใช้เงิน ใช้เวลา ที่เค้าอุตส่าห์หามา ให้คุ้มกับที่เค้าลำบากหามา เพราะสมมุติเรามีเงิน 100 บาท เค้ามี 10,000 บาท เราเอาไปจ่าย 10 บาท ก็ถือว่าเยอะละ (10% ของเงินเราทั้งหมด) แต่สำหรับคนรวย เป็นแค่หลัก 0.1% ของเงินเค้า ก็จ่ายง่ายๆ เค้าเลยเลือกคบคนที่ไปเที่ยวกับคนที่มีเหมือนๆกัน จะได้ไม่ทำให้ลำบากใจ
ไม่ใช่ว่า คนรวยไปกินอาหารข้างถนนไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่เค้าเลือกที่จะไม่ไปมากกว่า แต่นานๆที่ คิดถึงร้านอร่อยข้างถนน เค้าก็ไปกิน
ส่วนใหญ่ที่ชอบไปว่า คนที่รวยกว่า ก็คือ พวกกลุ่มคนที่จนกว่า นั้นแหล่ะครับ พวกที่เอาใจยากที่สุด คือ คนจน ตามที่ Jack Ma พูดไว้
“The worst people to serve are the Poor people. Give them free, they think it’s a trap. Tell them it’s a small investment, they’ll say can’t earn much. Tell them to come in big, they’ll say no money. Tell them try new things, they’ll say no experience. Tell them it’s traditional business, they’ll say hard to do. Tell them it’s a new business model, they’ll say it’s MLM. Tell them to run a shop, they’ll say no freedom. Tell them run new business, they’ll say no expertise. They do have somethings in common: They love to ask google, listen to friends who are as hopeless as them, they think more than an university professor and do less than a blind man.
Just ask them, what can they do. They won’t be able to answer you. My conclusion: Instead of your heart beats faster, why not you just act faster a bit; instead of just thinking about it, why not do something about it. Poor people fail because on one common behaviour: Their Whole Life is About Waiting.”
แปลนะ
"คนที่เราเอาใจได้อยากที่สุด คือ คนจน ให้ของฟรี เค้านึกว่าเป็นกับดัก ให้ลงทุนขนาดเล็ก บอกว่าได้เงินน้อย ให้ลงทุนใหญ่ บอกไม่มีเงิน ให้ลองของใหม่ บอกไม่มีประสบการณ์ ให้ลองทำแบบดั้งเดิม บอกทำยาก ให้ลองทำธุรกิจสมัยใหม่ บอกเป็นธุรกิจเครือข่าย (ขายตรง) ให้ลองเปิดร้าน บอกไม่มีอิสระ ให้ลองทำธุรกิจใหม่ บอกไม่มีผู้เชี่ยวชาญ พวกกลุ่มนั้นมีสิ่งที่เหมือนกัน คือ ชอบถาม Google ฟังเพื่อนที่มีความสิ้นหวังเหมือนกัน คิดมากกว่าพวกศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย และทำน้อยกว่าพวกคนตาบอด
ถามว่าพวกนั้นทำอะไรเป็น พวกนั้นจะตอบไม่ได้ สรุปคือ แทนที่จะให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ทำไมไม่ทำอะไรที่เร็วขึ้นอีกนิด แทนที่จะคิดอย่างเดียว ทำไมไม่ทำอะไรสักหน่อย คนจนที่ล้มเหลว เพราะมีอุปนิสัยเหมือนกัน คือ ทั้งชีวิตเอาแต่รอ"
เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไง ก็แล้วแต่นะครับ
เพราะเค้ามีทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องดิ้นรน ฉะนั้นสิ่งที่เค้าอยากมี คือ เพื่อนที่ดี ที่สามารถใช้เวลาด้วยกันได้
ส่วนใหญ่คนที่บอกว่า คนรวยหยิ่ง ไม่คบคนที่จนกว่า จริงๆเค้าไม่หยิ่งนะครับ แต่เค้าก็อยากใช้เงิน ใช้เวลา ที่เค้าอุตส่าห์หามา ให้คุ้มกับที่เค้าลำบากหามา เพราะสมมุติเรามีเงิน 100 บาท เค้ามี 10,000 บาท เราเอาไปจ่าย 10 บาท ก็ถือว่าเยอะละ (10% ของเงินเราทั้งหมด) แต่สำหรับคนรวย เป็นแค่หลัก 0.1% ของเงินเค้า ก็จ่ายง่ายๆ เค้าเลยเลือกคบคนที่ไปเที่ยวกับคนที่มีเหมือนๆกัน จะได้ไม่ทำให้ลำบากใจ
ไม่ใช่ว่า คนรวยไปกินอาหารข้างถนนไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่เค้าเลือกที่จะไม่ไปมากกว่า แต่นานๆที่ คิดถึงร้านอร่อยข้างถนน เค้าก็ไปกิน
ส่วนใหญ่ที่ชอบไปว่า คนที่รวยกว่า ก็คือ พวกกลุ่มคนที่จนกว่า นั้นแหล่ะครับ พวกที่เอาใจยากที่สุด คือ คนจน ตามที่ Jack Ma พูดไว้
“The worst people to serve are the Poor people. Give them free, they think it’s a trap. Tell them it’s a small investment, they’ll say can’t earn much. Tell them to come in big, they’ll say no money. Tell them try new things, they’ll say no experience. Tell them it’s traditional business, they’ll say hard to do. Tell them it’s a new business model, they’ll say it’s MLM. Tell them to run a shop, they’ll say no freedom. Tell them run new business, they’ll say no expertise. They do have somethings in common: They love to ask google, listen to friends who are as hopeless as them, they think more than an university professor and do less than a blind man.
Just ask them, what can they do. They won’t be able to answer you. My conclusion: Instead of your heart beats faster, why not you just act faster a bit; instead of just thinking about it, why not do something about it. Poor people fail because on one common behaviour: Their Whole Life is About Waiting.”
แปลนะ
"คนที่เราเอาใจได้อยากที่สุด คือ คนจน ให้ของฟรี เค้านึกว่าเป็นกับดัก ให้ลงทุนขนาดเล็ก บอกว่าได้เงินน้อย ให้ลงทุนใหญ่ บอกไม่มีเงิน ให้ลองของใหม่ บอกไม่มีประสบการณ์ ให้ลองทำแบบดั้งเดิม บอกทำยาก ให้ลองทำธุรกิจสมัยใหม่ บอกเป็นธุรกิจเครือข่าย (ขายตรง) ให้ลองเปิดร้าน บอกไม่มีอิสระ ให้ลองทำธุรกิจใหม่ บอกไม่มีผู้เชี่ยวชาญ พวกกลุ่มนั้นมีสิ่งที่เหมือนกัน คือ ชอบถาม Google ฟังเพื่อนที่มีความสิ้นหวังเหมือนกัน คิดมากกว่าพวกศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย และทำน้อยกว่าพวกคนตาบอด
ถามว่าพวกนั้นทำอะไรเป็น พวกนั้นจะตอบไม่ได้ สรุปคือ แทนที่จะให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ทำไมไม่ทำอะไรที่เร็วขึ้นอีกนิด แทนที่จะคิดอย่างเดียว ทำไมไม่ทำอะไรสักหน่อย คนจนที่ล้มเหลว เพราะมีอุปนิสัยเหมือนกัน คือ ทั้งชีวิตเอาแต่รอ"
เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไง ก็แล้วแต่นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดคนร่ำรวยมากๆบ้าง เขาวางตัวและปฏิบัติตนในการใช้ชีวิตอย่างไรครับ
สวัสดีครับเพื่อนๆในพันทิป...
ก่อนอื่นผมขอขอบพระคุณเพื่อนๆที่ได้แสดงความคิดเห็นทุกคน ผมได้อ่านทุกความคิดเห็นแล้วนะครับ ชอบมากๆครับ
กระทู้นี้ได้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2560 และกลับมามีเพื่อนๆเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นในปี 2564 นี้
ในโอกาสนี้ขอส่งความปรารถนาดีถึงเพื่อนๆทุกคน ให้ปลอดภัยรอดพ้นจากสถานการณ์โรคโควิด19 และอันตรายใดๆทั้งหมด
มีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุขกันทุกๆคนนะครับ
ขอขอบพระคุณมากๆครับ
จาก...
เจ้าของกระทู้
ชายผู้มีอายุ 10,934 วัน
4 กรกฎาคม 2564
ขอบคุณมากๆครับ แล้วเจ้าของกระทู้จะมาตอบนะครับ มีสิ่งที่อยากจะพูดคุยกับเพื่อนๆทุกท่านครับ
อยากทราบครับ เพราะตัวเองคงไม่มีโอกาส อ่านหนังสือฮาวทูคงไม่พอ ขอบพระคุณครับ