***K-license ทำงาน ....... ความเขี้ยวของแทคติก บนความอึดอัด ในถนนสาย J1 ในแมช CS 2-0 URA

กราบสวัสดีทุกท่าน
มาเจอกันอีกแล้วกับ โค๊ชคีบอร์ดดดดดด K-License

pompompompompompom


...คำเตือน ...
การวิเคราะห์จากผม เป็นการมั่วและซุยไปตามความรู้ที่มีอันน้อยนิดของตัวเอง อาจถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้าง หรือถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย


วันนี้มากับ แมทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลไทย นั่นคือ .... แมทที่เจ้าเจ ชนาธิป ได้ลงโลดแล่นใน J1 เป็นครั้งแรก


ซึ่งผลการแข่งขั้น ก็ออกมาเป็น ทีม คอนซาโดเร ซัปเปา ที่เก็บชับชนะ เหนือทีม อุราวะ เรดไดมอน ไปได้ในสกอล 2-0

เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม



ซึ่งวันนี้เราจะมาดูแทคติกที่เกิด ขึ้นในนัดนี้กันเน้อครับเน้ออออ


ก่อนจะเข้าไปที่ line-up ผมขอกล่าวอะไรสักหน่อยเกี่ยวกับ โค๊ชทั้ง 2
เพื่อจะได้เข้าใจไสตล์การทำทีม และแนวทางการเล่นของทั้ง 2 ทีม เด้อครับเด้อออ



- มาเริ่มที่  Consadole Sapporo โดยโค๊ช ยิปมัน ....... เอ้ย โยโมดะ  โยโมดะเริ่มทำทีม มาตั้งแต่ปี 2015 เริ่มคุม ใน J2 หลังจาก บาบาร์ริช โค๊ชชาว โครเอชียโดนปลดไป เป็นบอลไสตล์ รับลึก รอสวน เน้นบอลไดเรก เข้าหากองหน้า ไม่ค่อยมีการวางบอลจากแนวหลัง เพื่อข้ามไลน์แต่จะเน้น บอลแนวแทยง ออกข้าง แผนการเล่นที่ชอบใช้คือ 3-4-2-1 และ 3-2-3-2 โดยกองหน้าตัวความหวังคือ  เคน โทคุระ กองหน้าร่างใหญ่ ลงสนามให้ ซัปเปาโร ไปแล้ว 111 นัด ซัดไป 47 ประตู  



- ส่วน Urawa Reds ที่นำทีมโดยโค๊ช มิไฮโล เปรโตวิช ผู้ทำทีม อุราวะ มายาวนาน ตั้งแต่ปี 2012 เป็นโค๊ชที่มีแนวทางการทำทีมแบบ เดินหน้าฆ่าแหลก เน้นเกมส์รุก (ฤดูกาลนี้เคย อัด วากาตะเซนได ไป 7-0) การเข้าทำมีหลากหลาย จะว่าไปก็คล้ายๆ อาเซนอลนะ กองกลางทีมนี้สามารถสอดมาทำประตูได้ค่อนข้างบ่อย โดยระบบที่ชอบใช้ ก็จะเป็น 3-4-2-1 และ 3-2-4-1 ดาวเเด่นของทีมคือ ยูกิ อาเบะ กัปตันทีม อดีตนักเตะ เลสเตอร์ซิติ สมัยโลดแล่นใน แชมป์เปี้ยนชิพ อังกฤษ


เอาล่ะ......สำหรับนัดนี้ มาดูแผนการเล่น และแทคติกที่เกิดขึ้นกันครับ
เรามาเริ่มกันเลยยยยยย



Line-up ของทั้ง 2 ทีม  ไม่ต้องสนใจตัวผู้เล่นก็ได้เดี๋ยวจะยาวไป เอาเป็นว่า สนใจแค่เจ-ชนา ก็พอ 555


เห็น Line-up ก็พอจะเดาได้ในแนวทางการเล่นของทั้ง 2 ทีมได้  โดย


- ซัปเปาโร มาในแผน 5-4-1 วางกองกลางตัวรับ หน้ากองหลัง3คน ถึง 2 ตัว เพื่อหยุดการทะลุทะลวงตรงกลาง และวางเบอร์  11 โจนาทาน รีส เป็นกองหน้าคอยเก็บบอล ส่วน เคนจัง ก็ต้องวิ่งลงมาช่วยเกมส์รับ  คือเน้นรับแน่น สวนออกที่ว่างให้ รีส เก็บบอล แล้วค่อยสร้างจังหวะ ออกข้างไปยัง วิงแบค ส่วนเคนจังค่อย สอดเข้าไปตรงกลาง ส่วนเจ-ชนา น่าจะวางเป็นตัวทีเด็ดในการสวนกลับ



- อุราวะ หลังจากที่แพ้ เซเรโซ โอซากา มานัดที่แล้ว นัดนนี้ มาจัดเต็มเพื่อหวัง 3 แต้ม โดยแผนคือการใช้การสอดประสารของ มุโตะ และ โคโรกิ รวมถึงคาชิวากิ  ทะลุทะลวงตรงกลาง ซึ่งมุโตเป็นกองหน้าที่ มีความคล่องตัวสูงเพื่อดึงกองหลังให้หุบเข้ากลางมา และใช้การสอด ของ เซกิเนะ ทางกาบซ้าย เพื่อคลอสบอลเข้ามา  ส่วน Abe จะเป็นคนคอยคุมและคอยดักจังหวะ ใช้อาเบะ คุมจังหวะ


*** Kick off ***

นาที ที่ 1-5 แทคติกที่เกิดขึ้นในเกมส์ ไม่ต่างจากที่ พูดมาตอนแรก การยืนแนวกองหลังของ ซัปเปาโร 5 คน ค่อนข้างลึกมาก และเป็นระเบียบ  และในเกมส์รุก เกิดการฝากบอลไปที่ ชนาธิปบ่อยครั้ง  ส่วนอุราวะใช้การ สวิชบอลเร็วเปลี่ยนแกน แล้วทำชิ่งตามช่อง จนเปิดที่ว่างด้านข้าง



จากรูป จะเห็นการยืนแนวรับของ ซัปเปาโร ว่ายืนลึก และใช้กองกลาง 2 ตัว ร่วมเพลวกับ วิงแบงค์ กับปีกซ้าย อย่างชนะธิป ทำให้ฟอเมชั่นการยืน โล้ไปตามทิศทางบอล ทำให้เกิดที่ว่างสีฟ้าตรงกลาง เป็นการเปิดพื้นที่ให้ อุราวะ อาเบะจึง วิ่งสอดขึ้นมาเพื่อเติมรับบอล   แต่โคมาอิก็ แก้ไขโดยการ วางบอลเปลี่ยนแกนไว ทะแยงไปให้ เซกิเนะ ทางกาบซ้าย แสดงว่า อุราวะ เน้นเจาะแนวรับทางซ้ายแน่ๆ



ซึ่งการเปลี่ยนแกนตรงนี้ได้ผล  เพราะทำให้เฮียวโดะ และมิยาซาวา กลับมาคุมพื้นที่อันตรายไม่ทัน เกิดพื้นที่ว่างในแนวรับ ของซัปโปโร รูเบ้อเร่อ จากรูปจะเห็นเลยว่า มีแนวรับของซัปเปาโร 6 คน ต่อแนวรุก อุราวะ 7 คน และรูโหว่ตรงนั้น อาจก่อให้เกิดการเสียประตูได้เลย


เกมส์รุกของอุราวะ ใช้ แนวรุก 3 ตัว ตรึงไว้กับกองหลัง ซัปโปโร เพื่อกดให้กองหลังถอยร่นลงไป เพราะต้องระวังการคลอส ข้ามไลน์ และล่อให้กองกลางเข้ามาเพลส เพื่อก่อนช่องว่างระหว่างกองกลางและกองหลัง เกิดขึ้น และหวังจะใช้ตรงนี้โจมตี เพราะกองหลัง 3 ตัวของเจ้าบ้านค่อนข้างช้า   แต่ซัปเปาโร ก็ใช้กองหน้าอย่าง รีส ลงมาช่วยบีบให้ เกิดการคลายบอลออกด้านข้างจะได้ง่ายต่อการป้องกัน



ซึ่งต้องบอกว่า เจ้าบ้านเล่นเกมส์รับได้ดีและอดทน อาจมีหลุดบ้าง ฝืนบ้าง แต่ก็ไม่เสียประตู ส่วนทีมเยือนก็ใช้การเพลสไวตรงกลางสนาม ทำให้เจ้าบ้านขึ้นเกมส์บุกไม่ได้เลย แต่เกมส์รุกก็ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกัน ถึงจะมีวูบวาบ แต่การเข้าถึงพื้นที่อันตราย ยังมีน้อย


และแล้วจังหวะเกมส์ ก็เป็นของเจ้าบ้าน เมื่อได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 31 แถมทีมเยือนยังมาโชคร้าย กองหลังตัวกลางคนเก่ง อย่าง มากิโนะ โดนใบแดงจากจังหวะพัวพันปบะพยายามลุกวิ่ง แต่เตะเข้าไปที่คางของ เคนจัง ซึ่งกรรมการมองว่าเป็นการเจตนา เลยควักใบแดงให้ไป



บังคับให้เปรโตวิช ต้องปรับหมากแรก ในนาทีที่ 38 เท่านั้น โดยการถอย อาเบะไปเป็นกองหลัง ขยับเบอร์ 46 ที่เอาเจ-ชนาอยู่หมัดเป็น แบ๊คซ้าย หุบเบอร์ 18 เข้ามายืนกลางตัวรับ ไลน์การยืนกลายเป็น 4-1-1-3  แล้วใช้การเพลสในแนวลึก เพื่อดักบอล เพื่อสวนกลับ ส่วนซัปเปาโร แม้ตัวผู้เล่นะนำแต่คุณภาพผู้เล่นต่ำกว่า จึงไม่เน้นบุกเพราะกลัวโดนสวนกลับ เลยเล่นประคองเพื่อจบครึ่งแรกในสกอล 1-0



ความน่าสนใจในเกมส์นี้เกิดขึ้นอีกครั้งในนาที ที่ 46 เมื่อ เปรโตวิช ตัดสินใจเปลี่ยนตัว 3 คนรวด โดยดปลี่ยนแนวรุก 2 คนเอา ซลาตัน เบอร์21 และ โทโมอิ เบอร์3 ลงมาแทน โมโตะ และ ลี ที่ทำอะไรไม่ค่อยได้ในครึ่งแรก  ส่วนการเปลี่ยน กองหลัง เบอร์46 ออกและใส่ นาสุ เบอร์ 4 ลงมาแทน คาดว่าเพราะอาการบาดเจ็บ  แต่แล้วก็ต้องโชคร้าย เหลือ 9 คน เพราะ นาสุ ดันบาดเจ็บจากจังหวะ แย่งโหม่ง ทำให้อีก 40 กว่านาทีที่เหลือ อุราวะ ต้องเล่น 9 คน


ในช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลัง โค๊ช ยามาดะ ของซัปเปาโร ได้ปรับแผนให้เพลสสูงขึ้นเพื่อบีบเอาบอลเนื่องจากมีตัวผู้เล่นมากกว่า แต่กลับโดน ผู้เล่นอุราวะ เลี้ยงกินตัวผ่านแนวกลางสวนเกือบเป็นประตู 2-3 ครั้ง



พอเห็นแบบนั้น โค๊ชโยโมดะดะ เลยสั่งให้แพ๊ครับ ในแนวลึก ล่อให้ เกิดการไล่บอล แล้วใช้การวางบอล ออกข้าง เพื่อสวนกลับ ซึ่งตรงนี้ เจ-ชนา ทำได้ดี จนเกือบได้ ประตูที่ 2-3


ดูเหมือนแผนนี้จะเวิร์ค แต่ ในนาที่ 61 โยโมดะ กลับเปลี่ยนแผนอีกครั้ง ในการถอดเจ-ชนา ที่มีใบเหลืองอยู่ ออก แล้วส่ง เจ-โบ ลงไปคำแดนหน้าคู่กับ รีส และเน้นรับ 8 ตัว



ยืนขึงตรงกลางแน่นมาก บังคับให้ออกข้าง อย่างเดียว ซึ่งโค๊ชเปรโตวิช ก็แก้ไขตรงนี้โดยสั่งให้ นักเตะอุราวะ เน้นเลี้ยงกินตัวเจาะตรงกลางเพื่อให้เกิดช่อง มากกว่า ออกข้างและโยน เพราะ ตัวผู้เล่นน้อกว่า ออกข้างและโยนเข้าไป ยังไง ก็โดนเก็บกินหมด


การต่อบอลสั้น การเลี้ยงกินตัว ของอุราวะ ทำได้ดีมากจริงๆ ทำให้ 9 คน ของอุราวะ โหมบุกใส่เจ้าบ้าน 11 ตัว อย่างต่อเนื่อง แต่การใช้วิธีเลี้ยงกินตัวเพื่อเปิดช่อง เนื่องจากตัวผู้เล่นน้อยกว่า นั้นเปลืองพลังงานมาก ณ จุดนี้ เปรโตวิช รู้ จึงต้องรีบทำให้สัมฤทธิ์ผลโดยไว



โยโมดะ ที่กำความได้เปรียบทั้งในด้าน สกอ ตัวผู้เล่น และหมากที่เหลือในการแก้เกมส์ ตัดสินใจปรับแผนอีกครั้ง โดยส่ง ชินจิ โอโนะ ลงมาแทนเคนจังที่เหมือนหมดแรง เพื่อคุมจังหวะแดนกลาง เพราะหลายครั้งที่ตัดบอลได้ กลับไปเสียบอลในแดนหน้า อย่างรวดเร็ว ทำให้ อุราวะ มีโอกาส บุกอย่างต่อเนื่อง


และคงกำชับให้ โอโนะ ลดเทมโป ของเกมส์ให้ช้าลง เล่นถ่ายบอลถ่างบอลให้มากขึ้น ให้อุราวะเสียแรงมากขึ้นในการไล่บอล การรับเป็นแบบ คุมโซน 5-3-1-1 โดยให้ โบทรอยค้ำอยู่ เพียงคนเดียว เมื่อเหลือกองหน้าฝั่งตรงข้ามคนเดียว อุราวะ จึงตัดสินใจ ใช้ 7 คน ในการรุกเข้าไปในแดน เจ้าบ้าน โดยเหลือ อาเบะ ยืนเป็นปราการหลังตัวสุดท้ายคนเดียว


อุราวะ ยังคงตัดบอล และโหมดบุก แต่ยิงบุกก็เหมือนถลำลงไป ลึกมาขึ้น ด้วยตัวผู้เล่นที่น้อยกว่า แรงที่ร่อยหรอ การเข้าทำที่ไม่สำเร็จสักที กับนาทีที่ 85 แล้ว ทำให้อุราวะแผ่วลง



เกือบ 2 นาที ที่อุราวะ ไม่ได้สัมผัสบอลเลย โดยซัปเปาโร พยายามถ่างบอล ถ่ายบอลออกไปเรื่อยๆ



ด้วยแรงที่ร่อยหรอ ในนาทีท้าย ทำให้แบ๊คซ้าย ของอุราวะ เข้าไปบังการเปิดบอลของโอโนะได้ช้ามาก โอโนะบรรจงวางบอลไปถึงเจ-โบ ที่กระโดดแย่งบอลกับ เซกิเนะ ที่วิ่งมาแล้วกว่า 10 กม. ทั้งเกมส์ ทำให้เซกิเนะ กระโดดไปไม่ถึงบอล ...... กลายเป็นประตูปิดเกมส์ของซัปเปาโรไปเรียบร้อย


เกมส์จบลงที่ความพ่ายแพ้ของ อุราวะ ทีมอันดับ8 ต่อทีม อันดับที่ 15 อย่างซัปเปาโร


เกมส์นี้ ผมขอสดุดี ความใจถึงและการตัดสินใจของ เปรโตวิช ที่ทำให้ อุราวะที่เหลือ 9 คนเล่นได้ขนาดนี้ และขอชื่นชม โยโมดะ ที่เลือกแทคติกได้เหมาะกับตัวผู้เล่นที่มี ในการไม่ผลีผลามบุก เพราะตัวผู้เล่นของตนเองสู้เจ้าบ้านไม่ได้ จริงๆ เลยต้องยอมเลือกทางเดินที่ อึดอัด ในการแพ๊คเกมส์รับ อย่างเหนียวแน่นแทน  


สถานการณ์ตอนนี้ ซัปเปาโร ห่างโซนตกชั้น 4 แต้ม ไม่มีความแน่นอนในการอยู่รอด ไม่สามารถแพ้ได้อีก

จึงขอเอาใจช่วยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ


จบด้วย สถิติชนาคุง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่