โปรแกรมการเดินทางทั้งหมดของพวกเราทั้งหมด 4 วัน 3 คืน กับเพื่อน อีก 2 คน
ได้เวลาแบกกระเป๋าขึ้นหลังแล้วลุยกันเลย !
เราใช้เวลาเดินทางจากดอนเมืองถึงโฮจิมินห์โดยใช้เวลาชั่วโมงนิดๆหลับมาแป๊บเดียวตื่นขึ้นมาก็ถึงแล้ว
ซินจ่าว สวัสดีเวียดนาม
ถึงปุ๊บแลกเงินเวียดนามดองก่อนนะเดี๋ยวจะไม่มีที่พักที่กิน เราแลกเงินไทยเป็นเงินดอลล่าห์ที่บ้านเราก่อน แล้วนำเงินดอลล่าห์มาแลกเงินเวียดนามดอง
พอแลกเงินเสร็จเราก็จะกลายเป็นเศรษฐีที่นั่นกันเลยที่เดียว มีเงินเป็นล้านๆ (ดอง) ใครจะเป็นเศรษฐี 555555 ฉันหน่ะสิ ฉันหน่ะสิ
แลกเงินเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็เดินหาซื้อซิม ซึ่งซื้อในสนามบินนั่นแหละ พอเดินผ่าน ตม มา ก็เจอร้านแลกเงินและร้านขายซิมเลย จะสะดวกร้านไหนก็เลือกได้เลย โปรโมชั่นและราคาไม่ค่อยแตกต่างกัน
หลังจากแลกเงินและซื้อซิมเสร็จ ก็เดินออกมา เพื่อที่จะขึ้นรถ สาย 152 เพื่อไปฟามงูหลาว
เราจะเจอรถเมล์สายนี้จอดอยู่ข้างหน้าเลย ขึ้นรถแล้วเราก็หยอดตังค์ตรงประตูแล้วรับตั๋วโดยสารเลย คนละ 5000 VND
เรานั่งรถเมล์จากสนามบินมาฟามงูหลาวโดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ถึงแล้ว ฟามงูหลาว
พอเรามาถึงฟามงูหลาวเราก็เดินหารถเพื่อจะเดินทางไปดาลัทต่อในคืนวันนี้ ก็ได้ซื้อตั๋ว ของ PHOUNG TRANG ป้ายสีส้มๆ โดยรถจะออกเวลาประมาณ 5 ทุ่ม เราก็เลยเดินเล่นกันก่อนในเมืองโฮจิมินห์
มาถึงถิ่นเวียดนามทั้งที อย่างแรกที่ต้องกินคือ เฝอ แต่เป็นเฝอที่กินแล้วไม่ประทับใจเลย จืดมากๆ น้ำแตงโมปั่นก็แปลกๆ ฮ่าๆ
หลังจากเพิ่มพลังกันเสร็จก็เดินเล่นกันต่อเรื่อยๆในโฮจิมินห์
ไปรษณีย์กลางเมืองโฮจิมินห์
เมืองแห่งมอเตอร์ไซค์เป็นใหญ่
หลังจากเดินเล่นซื้อตั๋วรถและซื้อวันเดย์ทริปเพื่อที่จะไปเมืองดาลัท ด้วยความที่เมื่อยและเหนียวตัวเป็นอย่างมาก และในวันนั้นภูมิแพ้เราก็เกิดอาการผื่นขึ้นอย่างรุนแรง เพื่อนเลยหาโรงแรมเพื่ออาบน้ำกันก่อนจะขึ้นรถ ขอข้ามรายละเอียดไปเมืองดาลัทเลยนะคะ เราออกจากโฮจิมินห์ตอนประมาณ ห้าทุ่มโดยนั่งรถชัตเตอร์บัส ซึ่งเป็นแบบนอน ระหว่างทางคดเคี้ยวและขึ้นเขา แต่เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกหลับตลอดทาง ถึงดาลัทประมาณตี 4 กว่า เราจองโรงแรมชื่อว่า ทิวลิป โดยเพื่อนทำการจองก่อนที่จะมาแล้ว ราคา ประมาณ 900 บาท ห้องกว้าง สะอาดและดีมาก เรียกว่าโรงแรมนี้คนไทยมาพักกันเยอะมากๆ
ซินจ่าว ดาลัท วันที่ 2
ข้าวเช้ามื้อแรก ณ เมืองดาลัท ปล. เฝอที่นี่อร่อยกว่าที่โฮจิมินห์ ร้านนี้อยู่ตรงข้ามโรงแรมที่เราพัก
หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็ได้นัดไกด์ทัวร์ที่เราซื้อวันเดย์ทริปไว้ พาไปเที่ยวตั้งแต่ 8.00 น- 17.00 น. เลยทีเดียว เราซื้อวันเดย์ทริปประมาณ 28 USD รวมอาหารกลางวันซึ่งไกด์พาไปกินที่ร้านอาหารอร่อยมากและผงชูรสเยอะมาก
ภาพจากgoogle
นั่ง carble car ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองดาลัด
น้ำตกน้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัทไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เรานั่งรถราง(Roller Coaster) ที่ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับการเคลื่อนทีไปตามรางจากด้านบนสู่น้ำตกเบื้องล่าง แทนการเดินลงมาชมน้ำตก ตั๋วไป-กลับ ราคา 45,000 ดอง (68บาท)
พระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได๋ จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งเวียดนาม
ดื่มน้ำเต้าหู้ตอนกลางคืนที่ตลาดดาลัด บรรยากาศดีมาก อากาศจะเย็นๆ เจอคนไทยเยอะมาก ทั้งคนเวียดนามก็พูดภาษาไทยเราได้นะคะ เดินๆ ไปเค้าก็พูด ไก่ย่าง น้ำฟักทอง ไหมครับ เรายังแอบหัวเราะเลย สงสัยเป็นถิ่นคนไทยไปสะแล้วเมืองนี้
ที่ตลาดดาลัดตอนกลางคืนมีถนนคนเดินด้วยนะคะ คล้ายๆถนนคนเดินบ้านเรา อากาศที่เมืองนี้จะหนาวๆ เย็นๆ กว่าเมืองอื่นๆ (เวลาที่ประเทศเวียดนามกับประเทศเราตรงกันเลยนะคะ)
พอตอนเช้าเราก็ออกมาเดินตลาดตอนเช้าที่เมืองดาลัทกันก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่มุยเน่เมืองแห่งประมงและทะเลทราย
เราเดินทางจากเมืองดาลัดตอนประมาณ 8.00 น. มาถึงมุยเน่ก็เกือบจะบ่ายแล้วเพราะระหว่างทางที่มามีขึ้นเขาด้วยเราจำไม่ได้เพราะเราหลับ ฮ่าๆ เราเลยซื้อวันเดย์ทริปอีกตามเคย ในที่นี้เราไปเจอพี่คนไทยด้วยกัน เราเลยตกลงไปเที่ยวกับพี่ๆ เค้า โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ที่มุยเน่เราพักเป็นโฮลเต็ลไม่ได้จองไว้ด้วย แต่พี่ๆกลุ่มนั้นเค้าจองไว้เลยตกลงพักที่เดียวกัน ในราคาตกคนละ ไม่ถึง 300 บาท
ซินจ่าว มุยเน่ วันที่ 3
ไปทะเลทรายขาว เราจะต้องขึ้นรถจิ๊บขึ้นไป เราจำราคาไม่ได้แต่รู้ว่าราคาแพงพอได้ ถ้าคิดเป็นเงินไทยน่าจะตกคนละเกือบ 200 บาท แต่ทำไงได้ก็ต้องขึ้นเพราะเราไม่สามารถเดินขึ้นเองได้ พอขึ้นไปถึงความรู้สึกแบบว่าคุ้มมากที่ได้มา ท้องฟ้า ทะเลทรายขาว กับลมพัดเย็นๆ
ทะเลทรายแดง จะอยู่ก่อนถึงทะเลทรายขาว เอ้าาา กระโดด !
หลังจากวันเดย์ทริปจบลงไกด์ทัวร์แนะนำเราไปทานอาหารทะเลเพราะที่นี่อาหารทะเลถูกมาก กินกันแบบอิ่มหนำสำราญ หมดไปไม่ถึง 4000 บาทไทย หารกัน 7 คน แล้วก็เป็นมื้ออาหารที่ทานกับพี่ที่รู้จักกันใหม่ๆแต่อาหารมื้อนั้นเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเลย
เช้าวันถัดมาเราก็นั่งรถนอนจากมุยเน่กลับมาที่โฮจิมินห์นั่งรถเมล์สีเขียว 152 ไปสนามบินเหมือนเดิม เพื่อเดินทางกลับบ้าน
การไปเที่ยวต่างประเทศของเราในครั้งนี้ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทางทั้ง 2 คน ไปลำบากด้วยกันในต่างถิ่นที่ทานอาหารกันไม่ได้เลยแต่นั้นแหละคือมิตรภาพที่หาจากที่ไหนไม่ได้
[CR] โฮจิมินห์/ดาลัท/มุยเน่ : เวียดนามใต้ 4 วัน 3 คืน แบงค์พันห้าใบก็ไปถึงนะ !!
ได้เวลาแบกกระเป๋าขึ้นหลังแล้วลุยกันเลย !
เราใช้เวลาเดินทางจากดอนเมืองถึงโฮจิมินห์โดยใช้เวลาชั่วโมงนิดๆหลับมาแป๊บเดียวตื่นขึ้นมาก็ถึงแล้ว
ภาพจากgoogle
ดื่มน้ำเต้าหู้ตอนกลางคืนที่ตลาดดาลัด บรรยากาศดีมาก อากาศจะเย็นๆ เจอคนไทยเยอะมาก ทั้งคนเวียดนามก็พูดภาษาไทยเราได้นะคะ เดินๆ ไปเค้าก็พูด ไก่ย่าง น้ำฟักทอง ไหมครับ เรายังแอบหัวเราะเลย สงสัยเป็นถิ่นคนไทยไปสะแล้วเมืองนี้
ที่ตลาดดาลัดตอนกลางคืนมีถนนคนเดินด้วยนะคะ คล้ายๆถนนคนเดินบ้านเรา อากาศที่เมืองนี้จะหนาวๆ เย็นๆ กว่าเมืองอื่นๆ (เวลาที่ประเทศเวียดนามกับประเทศเราตรงกันเลยนะคะ)
พอตอนเช้าเราก็ออกมาเดินตลาดตอนเช้าที่เมืองดาลัทกันก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่มุยเน่เมืองแห่งประมงและทะเลทราย
หลังจากวันเดย์ทริปจบลงไกด์ทัวร์แนะนำเราไปทานอาหารทะเลเพราะที่นี่อาหารทะเลถูกมาก กินกันแบบอิ่มหนำสำราญ หมดไปไม่ถึง 4000 บาทไทย หารกัน 7 คน แล้วก็เป็นมื้ออาหารที่ทานกับพี่ที่รู้จักกันใหม่ๆแต่อาหารมื้อนั้นเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเลย
เช้าวันถัดมาเราก็นั่งรถนอนจากมุยเน่กลับมาที่โฮจิมินห์นั่งรถเมล์สีเขียว 152 ไปสนามบินเหมือนเดิม เพื่อเดินทางกลับบ้าน
การไปเที่ยวต่างประเทศของเราในครั้งนี้ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทางทั้ง 2 คน ไปลำบากด้วยกันในต่างถิ่นที่ทานอาหารกันไม่ได้เลยแต่นั้นแหละคือมิตรภาพที่หาจากที่ไหนไม่ได้