วันนี้ เราออกสำรวจพร้อมพี่ๆน้องๆทหารพราน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพราะพื้นที่ที่ต้องเก็บข้อมูลติดชายแดนและอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
พอไปถึง เราไปรับเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ คือเราเอารถขับเคลื่อนสี่ล้อของสำนักงานมา แต่ไม่ได้ขับเองนะคะมีคนขับให้ พอไปถึง คือ เจ้าหน้าที่ถือปืนกันทุกคน เราก็นะ อะไรจะขนาดนี้ และก็ได้ยินแว่วๆว่า ไม่รู้จะเจอเขมรเข้ามาขโมยไม้พยุงรึเปล่า
ห๊ะ อะไรนะคะ เข้ามาใกล้ชุมชนไทยขนาดนี้เลยเหรอ คือ พี่เขาก็หัวเราะ บอกไม่เข้าไปขโมยเสาบ้านก็ดีแล้ว
เอาล่ะซิ ดูท่างานนี้มีความเสี่ยง เราเอารถไปจอดแอบไว้ข้างทางก็ถึงเวลาต้องเดินเข้าไปในป่า คือป่าหน้าฝน ถึงจะดิบแล้ง แต่ก็หญ้าขึ้นรก แถมต้องเดินข้ามลำน้ำด้วย อันนี้ไม่มีใครบอก เราก็ถอดรองเท้าเดินข้ามไป พอไปถึงเป้าหมาย เก็บข้อมูลเรียบร้อย ระหว่างทางขากลับนั้น
เสียงปืนดังขึ้น เราหยุด และหันหน้าเหรอหรา เกิดอะไรขึ้น พี่ทหารพรานบอกสงสัยไล่คนเขมร และน้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้สามคนที่เดินหลังเราวิ่งนำหน้า "อาจารย์ ขอพวกผมนำหน้า"
เหตุการณ์ไม่ปกติ ตอนนี้ไม่มีคนนำทาง จะมีเฉพาะคนที่รู้ทางบ้าง ไม่รู้บ้าง คือเดินหลงไปมาพักนึงจนหารอยเท้าเดิมเจอ และเจอคุณทหารพรานและน้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้รออยู่
ของกลางที่เก็บได้ คือ ท่อนไม้พยุง และเตาแก๊สแบบไม่มีควัน เห็นว่ามากันมากกว่าสองคน ดีนะที่ชาวเขมรเลือกจะหนี ไม่งั้น เราคงได้ประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ ถ้าเกิดการปะทะขึ้นจริงๆ
คนเขมรแอบเข้ามาขโมยไม้พยุงทุกวัน เจอเจ้าหน้าที่ถูกจับก็ไม่กลัว เขาว่าคุกประเทศไทยดี จากมาผอมๆอยู่คุกห้าหกเดือน อ้วนกลับไป ฟังแล้วแบบว่าจะขำก็สงสาร พี่ๆเจ้าหน้าที่ ไม่จับก็ไม่ได้ แต่คนเขมรไม่เคยกลัวการถูกจับเลยอ่ะ
เอามาเล่าให้ฟังค่ะ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีแบบนี้ สมมุติว่า ชาวเขมรไม่กลัวการจำคุกและถูกจับของเจ้าหน้าที่ไทย เข้ามาทุกวันแบบนี้ เราจะหาวิธีการแก้ไขปัญหายังไง ผลักดันกลับก็กลับมาใหม่อยู่ดี จับติดคุก ถึงจะไม่มีอิสระ แต่มีข้าวกิน ไม่เดือดร้อนอะไรเลย
ได้ยินแล้ว มึนแทนพี่ๆน้องๆเจ้าหน้าที่มากเลยค่ะ
ของกลางที่ทิ้งไว้
ชาวเขมรกับการลักลอบ ขโมย ตัด ไม้พยุง
พอไปถึง เราไปรับเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ คือเราเอารถขับเคลื่อนสี่ล้อของสำนักงานมา แต่ไม่ได้ขับเองนะคะมีคนขับให้ พอไปถึง คือ เจ้าหน้าที่ถือปืนกันทุกคน เราก็นะ อะไรจะขนาดนี้ และก็ได้ยินแว่วๆว่า ไม่รู้จะเจอเขมรเข้ามาขโมยไม้พยุงรึเปล่า
ห๊ะ อะไรนะคะ เข้ามาใกล้ชุมชนไทยขนาดนี้เลยเหรอ คือ พี่เขาก็หัวเราะ บอกไม่เข้าไปขโมยเสาบ้านก็ดีแล้ว
เอาล่ะซิ ดูท่างานนี้มีความเสี่ยง เราเอารถไปจอดแอบไว้ข้างทางก็ถึงเวลาต้องเดินเข้าไปในป่า คือป่าหน้าฝน ถึงจะดิบแล้ง แต่ก็หญ้าขึ้นรก แถมต้องเดินข้ามลำน้ำด้วย อันนี้ไม่มีใครบอก เราก็ถอดรองเท้าเดินข้ามไป พอไปถึงเป้าหมาย เก็บข้อมูลเรียบร้อย ระหว่างทางขากลับนั้น
เสียงปืนดังขึ้น เราหยุด และหันหน้าเหรอหรา เกิดอะไรขึ้น พี่ทหารพรานบอกสงสัยไล่คนเขมร และน้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้สามคนที่เดินหลังเราวิ่งนำหน้า "อาจารย์ ขอพวกผมนำหน้า"
เหตุการณ์ไม่ปกติ ตอนนี้ไม่มีคนนำทาง จะมีเฉพาะคนที่รู้ทางบ้าง ไม่รู้บ้าง คือเดินหลงไปมาพักนึงจนหารอยเท้าเดิมเจอ และเจอคุณทหารพรานและน้องเจ้าหน้าที่ป่าไม้รออยู่
ของกลางที่เก็บได้ คือ ท่อนไม้พยุง และเตาแก๊สแบบไม่มีควัน เห็นว่ามากันมากกว่าสองคน ดีนะที่ชาวเขมรเลือกจะหนี ไม่งั้น เราคงได้ประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ ถ้าเกิดการปะทะขึ้นจริงๆ
คนเขมรแอบเข้ามาขโมยไม้พยุงทุกวัน เจอเจ้าหน้าที่ถูกจับก็ไม่กลัว เขาว่าคุกประเทศไทยดี จากมาผอมๆอยู่คุกห้าหกเดือน อ้วนกลับไป ฟังแล้วแบบว่าจะขำก็สงสาร พี่ๆเจ้าหน้าที่ ไม่จับก็ไม่ได้ แต่คนเขมรไม่เคยกลัวการถูกจับเลยอ่ะ
เอามาเล่าให้ฟังค่ะ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีแบบนี้ สมมุติว่า ชาวเขมรไม่กลัวการจำคุกและถูกจับของเจ้าหน้าที่ไทย เข้ามาทุกวันแบบนี้ เราจะหาวิธีการแก้ไขปัญหายังไง ผลักดันกลับก็กลับมาใหม่อยู่ดี จับติดคุก ถึงจะไม่มีอิสระ แต่มีข้าวกิน ไม่เดือดร้อนอะไรเลย
ได้ยินแล้ว มึนแทนพี่ๆน้องๆเจ้าหน้าที่มากเลยค่ะ
ของกลางที่ทิ้งไว้