+ + + [กระทู้วันหยุด] Rambutan School Sweet ๆ Coming แปลว่า เงาะโรงเรียนหวานๆมาแล้วจ้า (อิอิ) + + +



ลงใต้เดือนนี้ นู๋นิดมีความสุขกับการได้รับประทานผลไม้ที่ชอบมากมายเลยนะคะ  โอ้โห้ ไม่ยักรู้มาก่อนว่าทุเรียนชุมพรนี่อร่อยมากๆ โดยเฉพาะทุเรียนพะโต๊ะนี่ สุดยอดเลย เพราะอำเภอพะโต๊ะอยู่ในหุบเขารึเปล่า ดินที่ปลูกผลไม้จึงเป็นดินดี อุดมสมบูรณ์มากๆ ทั้งทุเรียนทั้งมังคุด รสชาติดีจริงๆ

นู๋นิดขับรถจากระนองมาทางพะโต๊ะ เห็นชาวบ้านขนทุเรียนขนมังคุดออกมากอง รอพ่อค้ามารับซื้อกันตลอดสองข้างทาง สลับกับต้องคอยขับรถระวังรถบรรทุกผลไม้ของชาวสวนเอง ที่ต้องขับรถช้าๆขึ้นเขาลงเขา เพราะบรรทุกผลไม้หนักเต็มคันรถ เพื่อนำมาส่งที่ตลาดหลังสวน เห็นแบบนี้แล้วก็ดีใจ เพราะนั่นหมายถึงว่าเศรษฐกิจของชาวบ้านต้องดีมากแน่ๆ



จากเมืองชุมพรจะเข้าสุราษฎร์ฯ ด่านแรกเลยต้องผ่านอำเภอสวี  ซึ่งที่นี่ก็มีตลาดผลไม้อยู่ ที่เห็นขายกันมากสุดเลยคือ สละและระกำ  โอย ....อันนี้ก็ไม่อยากจะพูดเลยค่ะ  สละและระกำหวานเจี๊ยบเลย อร่อยมาก นู๋นิดไม่ถนัดแกะเพราะมีหนามแหลมทิ่มมือ นู๋นิดก็ซื้ออันที่เค้าแกะใส่ถุงขาย ถุงหนึ่งร้อยบาท ก็ประมาณกิโลหนึ่งได้มั๊งคะ แต่ทานแล้วต้องอยากกลับไปซื้ออีก เพราะหวานมาก เนื้อเยอะเม็ดเล็ก ส่วนใครที่ไม่ชอบสละ อาจเป็นเพราะไม่ชอบกลิ่นหรืออะไรก็แล้วแต่  ...ผ่านเลยค่ะ



ผ่านไปที่หลังสวน ที่นี่เป็นตลาดขายส่งทุเรียนขึ้นชื่อ จะเห็นชาวสวน และ พ่อค้า มาซื้อขายทุเรียนกันอย่างคึกคัก นู๋นิดก็ไม่รอช้าหรอก จอดรถได้ก็เสร่อเข้าไปมุงเลย ตื่นเต้นค่ะ เห็นเค้าต่อรองราคากัน จ่ายเงินกัน และขนทุเรียนขึ้นลงจากรถปิ๊กอัพ แล้วก็สนุกดี พอเค้าหันมาถามว่า น้องมาทำอะไรครับ  ... นู๋นิดตอบว่า นู๋มาดูทุเรียนค่ะ

อ้าว แล้วบ้านเอ็งไม่มีเรอะ
ฮึ่ ไม่มีอะ

นู๋นิดแก้เก้อที่ไปมุงเกะกะการทำงานของเค้า ก็เลยเฉไฉไปซื้อก้านยาวกับแม่ค้า ที่ตั้งร้านขายปลีกอยู่ติดๆกันเอาเสียดื้อๆ และก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ก้านยาวลูกกำลังดีประมาณ 2 กก. แม่ค้าขายปลีกขาย กก.ละ 80 บาท แกะให้นู๋นิดกินตรงนั้นเลย  ... อื้อหือ  เนื้อเนียนนุ่ม รสหวานกำลังดีแต่เนื้อมันมาก  อร่อยสุดๆ  .... โอยกินจนจุก เอ้าไปต่อกัน ...



พอขับรถมาใกล้จะเข้าในตัวเมืองสุราษฎร์ฯ เอาอีกละ  ร้านขายผลไม้สีเหลืองนวลอร่าม เรียงรายอยู่ข้างทาง ปรื๊ดเลยค่ะ นู๋นิดเหลือบมองกระจกหลังแว่บ แล้วก็หักพวงมาลัยรถวั่บ จากเลนขวาสุด ตัดหน้ารถพ่วง เข้ามาซ้ายสุดแล้วก็จอดสนิทอยู่ที่ร้านผลไม้ร้านนั้น ด้วยความสงสัยว่ามันคือลูกอะไร

เพื่อนๆคะ มันคือกระท้อนห่อค่ะ ลูกเบ้อเริ่มเลย ลูกละเกือบกิโลเชียว อา...แต่ว่านู๋นิดกินกระท้อนไม่เป็นอะ เอาไงดี  เอางี้ งั้นขอซื้อซัก 2 กก. จะเอาไปฝากลูกค้าดีกว่า แต่ที่สำคัญคือ ขอถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆแล้วกันนะคะ เพื่อนๆดูรูปแล้วก็คงพอจะเดาออกนะคะว่า มันจะอร่อยแค่ไหน เนอะ ...



ยังค่ะ ยังไม่สิ้นสุดสำหรับทัวร์สัญจรผลไม้ของนู๋นิด จากสุราษฎร์จะไปนครศรีฯ ทีนี้ล่ะ ไฮไลท์เลย เงาะบ้านนาสารค่ะ มันอลังการงานสร้างมากๆ ที่อำเภอบ้านนาสาร เค้ามีจัดงานประจำปีผลไม้ระหว่างวันที่ 22 ก.ค. – 2 ส.ค. นี้ค่ะ อีก 2 – 3 วันนี้ ใครผ่านไปอย่าลืมแวะเที่ยวชมและชิม ที่สำคัญคือ อย่าชิมฟรีนะคะ ต้องซื้อด้วย ไม่แพงเลยนะคะ สำหรับเงาะโรงเรียนแท้อร่อยบ้านนาสาร กิโลละ 40 สามโลร้อย (แต่แพงกว่ายางพาราเด้อ)

เงาะโรงเรียนของบ้านนาสารสุราษฎร์ฯ นั้นขึ้นชื่อมาก อร่อยมากค่ะ เนื้อจะหวานกรอบ เมล็ดล่อน น้ำน้อย โดยเฉพาะลูกเขียวๆ สดๆนี่ ใครอย่าได้คิดว่ามันคือเงาะดิบแล้วจะเปรี้ยวนะคะ  เพราะนั่นมันคือ ที่สุดของความอร่อยของเงาะโรงเรียนบ้านนาสารเลยล่ะค่ะ วันนั้นนู๋นิดซื้อมาแค่ 5 โลเอง เพราะพื้นที่พุงน้อยๆของนู๋นิดบรรจุได้นิดเดียว ต้องกินถึง 2 วันแน่ะ



ยัง ยังไม่หมด จากนครศรีฯ ลงใต้ล่างถึงพัทลุง .... ใครรู้บ้างเอ่ยว่าที่พัทลุง เค้ามีผลไม้อะไรขึ้นชื่อ ?  ใครตอบได้จะเป็นสับปะรดมากเลย

สับปะรดค่ะ สับปะรดปัตตาเวียแก้ว หวานฉ่ำยิ่งกว่าความรักของหนุ่มสาวเมื่อคราวรักกันใหม่ๆด้วยซ้ำ (โห มันเปรียบเทียบซะ) เค้าขายปลีกกิโลละ 20 เองค่ะ คุณป้าแม่ค้าใจดี ปอกให้ด้วย ทำเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ แถมพริกเกลือให้อีกต่างหาก ... อันนี้จะมีนัยยะว่าให้เอาไปเผาแช่งใครรึป่าวหว่า เพราะราคาผลไม้มันถูกเหลือเกิน  ชักสงสัย (ฮา)



ทีนี้เรามาจบกันที่ภูเก็ต

วันนั้นนู๋นิดจะไปทานข้าวมันไก่ที่ร้านประจำ เป็นจังหวะที่หน้าร้านนั้นมีรถขายมังคุดผ่านมาพอดี คือ ขายเฉพาะมังคุดนั่นแหละค่ะ เต็มรถเลย เค้าเปิดลำโพงประกาศว่า
“มังคุดครับมังคุด มังคุดหวานกรอบ สี่โลร้อยครับ เชิญมาเลือกซื้อเลือกหาไปรับประทานครับ มังคุดครับมังคุด”

ด้วยความที่นู๋นิดเป็นโรคช่างซื้อลงตับ ก่อนเข้าไปนั่งที่ร้านข้าวมันไก่ มันก็แวะไปดูมังคุดก่อน แล้วก็อดไม่ได้อยากจะซื้อแต่ขอเลือกได้ไหม  ไม่ได้ค่ะ เค้าไม่ให้เลือก โอเคก็ไม่เป็นไร ถ้างั้นก็ซื้อซัก 2 กิโลแล้วกัน (จากตอนแรกว่าจะซื้อสี่โล เพราะเค้าบอกว่าสี่โลร้อย) พอแม่ค้าโกยมังคุดให้ได้ 2 โลมั๊ง (เค้าไม่ให้ดูหน้าปัดกิโลนะ) นู๋นิดก็จ่ายเงิน 50 บาท

“ 60 บาท” แม่ค้าพูดเสียงห้วน หน้าตาดุมาก
“อ้าว ไม่ใช่ 50 เหรอคะ มีไหนบอก 4 โลร้อยไงล่ะ” หน้าตานู๋นิดดูซื่อหนักกว่าที่เป็นอยู่เดิม
“มันกิโลละ 30 ถ้าซื้อถึง 4 กิโลนู่นถึงจะได้ร้อยหนึ่ง”  แม่ค้าสอนคำนวณเลขให้นู๋นิดเสร็จสรรพ ทำเอาตาสว่าง เล่นเอาลูกค้าผู้ชายอีกคนที่กำลังรอซื้อต่อจากนู๋นิดหันหลังกลับไปเลย

อะเครค่ะ คราวหลังถ้าจะกรุณาต่อผู้ซื้อแสนซื่ออย่างนู๋นิด ก็โปรดติดป้ายบอกให้ชัดเจนหน่อยนะคะคุณป้า !  

กราบลาล่ะค่ะ จะไปออกไปซื้อทุเรียนค่ะ คริ คริ



ปล. ช่วงนี้มรสุมเข้าบ้านเรา โปรดระมัดระวังและดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วยนะคะ ทุกๆท่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่