สวัสดีค่ะ ออกตัวก่อนว่าไม่ถนัดเขียนรีวิวนะคะ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยล่วงหน้า เนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้ SR จขกท.เล่นเกมส์ของรายการเรื่องเล่าเช้านี้พาไปเล่นสกีที่คิโรโระ ผู้โชคดีจะมาจากการเล่นเกมส์และส่งSMS ค่ะ จขกท.เป็นกลุ่มผู้ไม่มีดวงค่ะจึงเล่นเกมส์เอาเพราะ add line และ facebook เรื่องเล่าเช้านี้ไว้อ่านข่าวจึงเห็นโฆษณา จากนั้นรายการจะเรียสัมภาษณ์ เลือก 10 เอา 4 ในทริปสกีนี้ ตอนแรกก็ งง มีสัมภาษณ์ด้วย แต่พอได้ไปแล้วจึงรู้ประโยชน์ของการคัดคนจากสัมภาษณ์ เพราะมันเป็นทริปที่เราต้องไปแจมกัน มีผู้โชคดี ทีมงานรายการ ทีมของสปอนต์เซอร์ประหนึ่งสวัสดิการบริษัท อันนี้ก็ไม่ได้ถามเพราะรักษามารยาทนิดนึง แต่บอกเลยว่ารางวัล 1 ที่นั่ง ที่ดูจะเปล่าเปลี่ยวเอกา พอไปรวมกับสมาชิกทั้งทริป 20 คนหน่อยๆ กลับสนุกและประทับใจมาก สกิลการปรับตัวต้องมา
สำหรับคนที่ไปสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่านอย่าน้อยใจทางรายการเลยนะคะ รอบหน้าแก้มือใหม่ได้ เพราะสมาชิกทริปก็จะเปลี่ยนกลุ่มไปอีก เคมีคุณอาจจะไปตรงกับรอบไหนซักรอบ...สู้ต่อไปทาเคชิ
เราเริ่มเดินทางช่วงวันที่ 23-28 มีนาคม ที่มารีวิวช่วงนี้เพราะดองไว้ เอ้ย..เพราะช่วงนี้หลายท่านเริ่มมองหาตั๋วล่วงหน้าสำหรับทริปหิมะกันแล้ว
ทางรายการรอบนี้ใช้บริษัททัวร์ outbound travel แต่จะเป็นแนวกรุ๊ปส่วนตัวเพราะมีสปอนเซอร์
***เครดิตรูปภาพในกระทู้นี้ บางส่วนเป็นของช่างภาพ BEC ขอบคุณน้อง ice ไว้ ณ.ที่นี้นะคะ
เราเดินทางกันด้วยสายการบิน JAL ต่อเครื่องที่ฮาเนดะ พอข้ามเกาะใกล้ถึงถึงฮอกไกโดก็เห็นหิมะขาวโพลนมาแต่ไกล มโนความเยือกขึ้นมาถึงในเครื่องบินก่อนแลนดิ้ง
ถึงสนามบิน New Chitose เกือบ 9 โมงเช้า รถบัสมารับ แวะเที่ยวอุ่นเครื่องที่
หุบเขานรกจิโกกุดานิ
จากนั้นก็ถึงมื้อเที่ยง ที่ร้าน Mingei Goten เป็นบุฟเฟ่ต์หอยเชลล์(ยักษ์) ทางร้านมีฟาร์มเลี้ยงหอยเอง เพราะฉะนั้นสบายใจได้ค่ะกินเยอะก็ไม่ทำลายระบบนิเวศ
ก้อนสีดำๆที่หอยเราไม่กินนะคะ วิธีคือย่างในกะทะเนยให้สุกก่อนแล้วค่อยเขี่ยมันออกค่ะ เขี่ยตอนสุกจะง่าย ความสดของหอยย่างแล้วเนื้อไม่เหนียว กินร้อนๆ ฟิน...เวอร์
นาเบะหม้อนี้อร่อยสุโกย น้ำซุปเคี่ยวจากสาหร่ายวากาแมะและปลาแห้ง มีแค่ 2 เมนู แต่อิ่มแทบคลาน
จากนั้นเดินย่อยอาหารที่ริมทะเลสาปโทยะ
มีล่องเรือในทะเลสาปโทยะด้วย แต่เวลาจำกัดบวกกับหนาว แค่ยืนริมทะเลสาปลมแรงๆ ก็สดชื่นพอแล้ว
มีโรงแรมริมทะเลสาป ไกด์พาแวะเข้าไปชมวิวที่ล๊อบบี้โรงแรม
ระหว่างทางไปรีสอร์ท
ถึงแล้วค่ะ The Kiroro A Tribute Portfolio Hotel Hokkaido เรียกย่อๆ ว่า ..Kiroro Tribute..ค่ะ เป็นรีสอร์ทที่คนไทยเป็นเจ้าของ โดย Property Perfect ใครที่โหยหาหิมะระดับ Powder Snow ที่ตกใหม่(ตกตอนกลางคืนทุกวัน) เช้ามาจะมีหิมะฟู นุ่ม ที่สำคัญคือแห้ง ให้ได้สัมผัสไม่ใกล้ไม่ไกล ฮอกไกโด สวรรค์ของคนเล่นสกี สโนว์บอร์ด แอบเห็นตอนต่อเครื่องที่ฮาเนดะ นักท่องเที่ยวโหลดอุปกรณ์สกีส่วนตัวกันเยอะเชียว เพราะเค้าไม่เก็บค่าลานสกี คือถ้ามีอุปกรณ์มาเอง ก็ไม่ต้องเช่า พักที่ไหน ก็ใช้ลานสกีที่นั่น
หน้าโรงแรมชัดๆ ยืมรูปเพื่อนมา ค่ะ ห่างไปแค่ 10 วันหิมะเริ่มละลายไปหน่อย
มองออกจากประตูโรงแรม นุ่มน่าทิ้งตัว...
คู่นี้ข้าวใหม่ปลามัน เป็นผู้โชคดีจาก Sompo ประกันภัยค่ะ มีคู่เดียว คนอื่นมาเดี่ยวแต่น่ารักมาก ไม่สร้างโลกส่วนตัวเลย ขอให้ครองรักกันไปนานๆ นะคะ ฝ่ายชายรับใช้ชาติก็ขอให้แคล้วคราดจากภยันตรายใดๆ ทั้งปวง
ภายในโรงแรม ที่นี่มี..ออนเซน..ที่ชั้น 8 จะฟรี สำหรับแขกที่มาพักค่ะ ส่วนกรุ๊ปเราได้คูปองใช้ออนเซนชั้นล่าง จำราคาไม่ได้ แต่ไม่แพงมากค่ะ บรรยากาศแช่อ่างออนเซนในถังไม้ ริมหิมะ ไม่มีภาพประกอบนะคะ (ตามกฎของออนเซนรวมญี่ปุ่นห้ามผู้ที่สักเข้าใช้บริการ) แต่ชดเชยความผ่อนคลายด้วย..เก้าอี้นวด..แทนได้ สำหรับคนที่ไม่ลงออนเซน
ผ่าม...เปิดห้องเข้ามาเจอ welcome น่ารักๆ กับวิวสวยๆ ดีต่อใจอะไรเช่นนี้
มื้อเย็นวันแรกค่ะ เป็นบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารโรงแรม (ห้องนี้ใช้ทานมื้อเช้าด้วย) โรงแรมมีห้องอาหาร 2 ห้อง คือห้องอาหารญี่ปุ่นและอาหารฝรั่ง ที่ตึกของเชอราตั้นก็มีร้านอาหารอีกหลายร้าน
กินเสร็จเดินเล่นย่อยอาหารนิดนึง ที่โบสถ์แฟนเดย์
แนะนำให้ใช้รองเท้าหิมะ หรือถ้าเป็นผ้าใบให้ซื้อ snow grip สวมนะคะ พื้นแฉะๆ ที่คนย่ำเยอะๆ มันลื่น เจ็บตัว อดสนุก
เช้าวันที่ 2 วันนี้จะลุยสกีกันแล้วค่ะ "ตื่นเต้น"
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าโรงแรม 7 โมง คนเต็มเลย เพิ่งรู้ว่าคนที่จะมาเล่นสกีต้องออกเช้าๆ มิน่าเห็นรีบกิน รีบไปกัน // ชอบถาดหลุม 9 ช่องมาก
ทีมงาน BEC เข้างานแต่เช้าเลยค่ะวันนี้
มีครูสอนชุดสีน้ำเงิน เป็นต่างชาตินะคะ พอดีไปตรงกับคุณเต๋อ มิว คุณโอเว่นครูไทยเลยแยกไปอีกกรุ๊ป
เริ่มจากถอด-ใส่ สกี. แล้วไถทีละขา
ลืมความหนาว 5 องศาไปชั่วขณะ เพราะหัดสกี เหงื่อตกทุกคน แคมป์ข้างหลังเป็นโรงเรียนสกีเด็กและสถานีกอนโดล่า(กระเช้า)ขึ้นบนเขาค่ะ
เริ่มเป็นแล้วยิ่งสนุก
ทานมื้อเที่ยงที่ลานสกีเสร็จ ก็ขึ้นกอนโดล่าไปยอดเขาอาซาริ ที่มีระฆัง
บนยอดนี้ คือถ้าคนที่เล่นสกีเก่งๆ จะเป็นจุด Start ลงเขาค่ะ(ซื้อตั๋วกอนโดล่าขาเดียว) แต่ขึ้นมาชมวิวก็ได้ไม่ว่ากัน ซื้อตั๋วกอนโดล่าแบบไป-กลับ มีร้านกาแฟให้นั่งพักเหนื่อยด้วย
Powder Snow เข้าใจถึงคำว่า "ปุยหิมะ" เป็นแบบนี้นี่เอง
ระดับหิมะของปลายเดือนมีนาคม น่าจะเป็นช่วงที่สูงสุด เพราะถ้าเข้าเมษา อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น ถ้าใครจะจองทริปพาเด็กๆ ไปเที่ยว แนะนำเลยค่ะ ปิดเทอมไทยประมาณกลางเดือนมีนาคม ให้รีบดิ่งไปโลด
ถึงแล้วระฆังอธิฐานความรัก ที่ Kororo นี่ก็เล่นใหญ่มาก แต่ดั้นด้นไปอธิฐานทั้งที...เอาที่สบายใจเลย (ขอความรักหรือ 6 ตัวตรงก็ไม่รู้ ไม่ยอมบอก)
แต่ถ้าหากไม่มั่นใจที่จะเล่นสกี ทางรีสอร์ทก็มีกิจกรรมอื่นอีกนะคะ พอดีเพื่อนตามไปช่วงต้นเมษา หิมะเริ่มละลาย ขอยืมรูปมาลงให้ดู กล้องมือถือ
เช็คกิจกรรมที่ให้บริการได้ที่เว็บไซด์ Kiroro ค่ะ มีราคาบอกด้วยทุกสิ่งอย่าง ชัดเจน.
มาถึงมื้อค่ำของวันที่ 2 เป็นอาหาร Set ที่ Sheraton Hokkaido Kiroro Resort อยู่ใกล้ๆ กัน มีบัสของโรงแรมวนส่งฟรีค่ะ
มาถึงโต๊ะที่จัดไว้ มีแค่ชุดนี้วางอยู่ สมาชิกมองหน้ากัน เนื่องจากไถสกีมาเหนื่อยโฮก เลยรีบหยิบเมนูมาดู OK. มีรายการต่ออีกประมาณ 10 จาน เสริฟมาแบบน่ารักๆ ให้ได้ชิมหลายๆ อย่าง ดูดี มีคลาสไปอีก
เมนูปลาฮอกเกะย่างถ่านสำหรับคนไม่ทานเนื้อ
สำหรับคนชอบทานเนื้อ ถ้ามาฮอกไกโด ก็ไม่ควรพลาด ไม่คาว ไม่เหม็น และไม่เหนียว เลยค่ะ
ถ่ายมาไม่หมดทุกจานนะคะ เพราะไม่ได้ตั้งใจไปถ่ายรีวิว เพียงแค่ไปเที่ยวมาแล้วประทับใจ เลยอยากแชร์ บนโต๊ะอาหาร คุยกับเพื่อนใหม่ๆ ครื้นเครงมาก มีแต่เสียงหัวเราะ โม้กันใหญ่ว่าหัดสกีกลุ่มใครเป็นยังไงกันบ้าง
ตบท้ายด้วยของหวาน ทุกจานจัดมาเป็นศิลปะจริงๆ ดูสีตัดกันน่าทาน ส้มหวานมากค่ะ กลับมาซื้อที่ไทย ยังไม่เจอหวานฉ่ำแบบนั้นซักที
[SR] เรื่องเล่าเช้านี้ พาเล่นสกีที่ Kiroro
สำหรับคนที่ไปสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่านอย่าน้อยใจทางรายการเลยนะคะ รอบหน้าแก้มือใหม่ได้ เพราะสมาชิกทริปก็จะเปลี่ยนกลุ่มไปอีก เคมีคุณอาจจะไปตรงกับรอบไหนซักรอบ...สู้ต่อไปทาเคชิ
เราเริ่มเดินทางช่วงวันที่ 23-28 มีนาคม ที่มารีวิวช่วงนี้เพราะดองไว้ เอ้ย..เพราะช่วงนี้หลายท่านเริ่มมองหาตั๋วล่วงหน้าสำหรับทริปหิมะกันแล้ว
ทางรายการรอบนี้ใช้บริษัททัวร์ outbound travel แต่จะเป็นแนวกรุ๊ปส่วนตัวเพราะมีสปอนเซอร์
***เครดิตรูปภาพในกระทู้นี้ บางส่วนเป็นของช่างภาพ BEC ขอบคุณน้อง ice ไว้ ณ.ที่นี้นะคะ
เราเดินทางกันด้วยสายการบิน JAL ต่อเครื่องที่ฮาเนดะ พอข้ามเกาะใกล้ถึงถึงฮอกไกโดก็เห็นหิมะขาวโพลนมาแต่ไกล มโนความเยือกขึ้นมาถึงในเครื่องบินก่อนแลนดิ้ง
ถึงสนามบิน New Chitose เกือบ 9 โมงเช้า รถบัสมารับ แวะเที่ยวอุ่นเครื่องที่
หุบเขานรกจิโกกุดานิ
จากนั้นก็ถึงมื้อเที่ยง ที่ร้าน Mingei Goten เป็นบุฟเฟ่ต์หอยเชลล์(ยักษ์) ทางร้านมีฟาร์มเลี้ยงหอยเอง เพราะฉะนั้นสบายใจได้ค่ะกินเยอะก็ไม่ทำลายระบบนิเวศ
ก้อนสีดำๆที่หอยเราไม่กินนะคะ วิธีคือย่างในกะทะเนยให้สุกก่อนแล้วค่อยเขี่ยมันออกค่ะ เขี่ยตอนสุกจะง่าย ความสดของหอยย่างแล้วเนื้อไม่เหนียว กินร้อนๆ ฟิน...เวอร์
นาเบะหม้อนี้อร่อยสุโกย น้ำซุปเคี่ยวจากสาหร่ายวากาแมะและปลาแห้ง มีแค่ 2 เมนู แต่อิ่มแทบคลาน
จากนั้นเดินย่อยอาหารที่ริมทะเลสาปโทยะ
มีล่องเรือในทะเลสาปโทยะด้วย แต่เวลาจำกัดบวกกับหนาว แค่ยืนริมทะเลสาปลมแรงๆ ก็สดชื่นพอแล้ว
มีโรงแรมริมทะเลสาป ไกด์พาแวะเข้าไปชมวิวที่ล๊อบบี้โรงแรม
ระหว่างทางไปรีสอร์ท
ถึงแล้วค่ะ The Kiroro A Tribute Portfolio Hotel Hokkaido เรียกย่อๆ ว่า ..Kiroro Tribute..ค่ะ เป็นรีสอร์ทที่คนไทยเป็นเจ้าของ โดย Property Perfect ใครที่โหยหาหิมะระดับ Powder Snow ที่ตกใหม่(ตกตอนกลางคืนทุกวัน) เช้ามาจะมีหิมะฟู นุ่ม ที่สำคัญคือแห้ง ให้ได้สัมผัสไม่ใกล้ไม่ไกล ฮอกไกโด สวรรค์ของคนเล่นสกี สโนว์บอร์ด แอบเห็นตอนต่อเครื่องที่ฮาเนดะ นักท่องเที่ยวโหลดอุปกรณ์สกีส่วนตัวกันเยอะเชียว เพราะเค้าไม่เก็บค่าลานสกี คือถ้ามีอุปกรณ์มาเอง ก็ไม่ต้องเช่า พักที่ไหน ก็ใช้ลานสกีที่นั่น
หน้าโรงแรมชัดๆ ยืมรูปเพื่อนมา ค่ะ ห่างไปแค่ 10 วันหิมะเริ่มละลายไปหน่อย
มองออกจากประตูโรงแรม นุ่มน่าทิ้งตัว...
คู่นี้ข้าวใหม่ปลามัน เป็นผู้โชคดีจาก Sompo ประกันภัยค่ะ มีคู่เดียว คนอื่นมาเดี่ยวแต่น่ารักมาก ไม่สร้างโลกส่วนตัวเลย ขอให้ครองรักกันไปนานๆ นะคะ ฝ่ายชายรับใช้ชาติก็ขอให้แคล้วคราดจากภยันตรายใดๆ ทั้งปวง
ภายในโรงแรม ที่นี่มี..ออนเซน..ที่ชั้น 8 จะฟรี สำหรับแขกที่มาพักค่ะ ส่วนกรุ๊ปเราได้คูปองใช้ออนเซนชั้นล่าง จำราคาไม่ได้ แต่ไม่แพงมากค่ะ บรรยากาศแช่อ่างออนเซนในถังไม้ ริมหิมะ ไม่มีภาพประกอบนะคะ (ตามกฎของออนเซนรวมญี่ปุ่นห้ามผู้ที่สักเข้าใช้บริการ) แต่ชดเชยความผ่อนคลายด้วย..เก้าอี้นวด..แทนได้ สำหรับคนที่ไม่ลงออนเซน
ผ่าม...เปิดห้องเข้ามาเจอ welcome น่ารักๆ กับวิวสวยๆ ดีต่อใจอะไรเช่นนี้
มื้อเย็นวันแรกค่ะ เป็นบุฟเฟต์ที่ห้องอาหารโรงแรม (ห้องนี้ใช้ทานมื้อเช้าด้วย) โรงแรมมีห้องอาหาร 2 ห้อง คือห้องอาหารญี่ปุ่นและอาหารฝรั่ง ที่ตึกของเชอราตั้นก็มีร้านอาหารอีกหลายร้าน
กินเสร็จเดินเล่นย่อยอาหารนิดนึง ที่โบสถ์แฟนเดย์
แนะนำให้ใช้รองเท้าหิมะ หรือถ้าเป็นผ้าใบให้ซื้อ snow grip สวมนะคะ พื้นแฉะๆ ที่คนย่ำเยอะๆ มันลื่น เจ็บตัว อดสนุก
เช้าวันที่ 2 วันนี้จะลุยสกีกันแล้วค่ะ "ตื่นเต้น"
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าโรงแรม 7 โมง คนเต็มเลย เพิ่งรู้ว่าคนที่จะมาเล่นสกีต้องออกเช้าๆ มิน่าเห็นรีบกิน รีบไปกัน // ชอบถาดหลุม 9 ช่องมาก
ทีมงาน BEC เข้างานแต่เช้าเลยค่ะวันนี้
มีครูสอนชุดสีน้ำเงิน เป็นต่างชาตินะคะ พอดีไปตรงกับคุณเต๋อ มิว คุณโอเว่นครูไทยเลยแยกไปอีกกรุ๊ป
เริ่มจากถอด-ใส่ สกี. แล้วไถทีละขา
ลืมความหนาว 5 องศาไปชั่วขณะ เพราะหัดสกี เหงื่อตกทุกคน แคมป์ข้างหลังเป็นโรงเรียนสกีเด็กและสถานีกอนโดล่า(กระเช้า)ขึ้นบนเขาค่ะ
เริ่มเป็นแล้วยิ่งสนุก
ทานมื้อเที่ยงที่ลานสกีเสร็จ ก็ขึ้นกอนโดล่าไปยอดเขาอาซาริ ที่มีระฆัง
บนยอดนี้ คือถ้าคนที่เล่นสกีเก่งๆ จะเป็นจุด Start ลงเขาค่ะ(ซื้อตั๋วกอนโดล่าขาเดียว) แต่ขึ้นมาชมวิวก็ได้ไม่ว่ากัน ซื้อตั๋วกอนโดล่าแบบไป-กลับ มีร้านกาแฟให้นั่งพักเหนื่อยด้วย
Powder Snow เข้าใจถึงคำว่า "ปุยหิมะ" เป็นแบบนี้นี่เอง
ระดับหิมะของปลายเดือนมีนาคม น่าจะเป็นช่วงที่สูงสุด เพราะถ้าเข้าเมษา อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น ถ้าใครจะจองทริปพาเด็กๆ ไปเที่ยว แนะนำเลยค่ะ ปิดเทอมไทยประมาณกลางเดือนมีนาคม ให้รีบดิ่งไปโลด
ถึงแล้วระฆังอธิฐานความรัก ที่ Kororo นี่ก็เล่นใหญ่มาก แต่ดั้นด้นไปอธิฐานทั้งที...เอาที่สบายใจเลย (ขอความรักหรือ 6 ตัวตรงก็ไม่รู้ ไม่ยอมบอก)
แต่ถ้าหากไม่มั่นใจที่จะเล่นสกี ทางรีสอร์ทก็มีกิจกรรมอื่นอีกนะคะ พอดีเพื่อนตามไปช่วงต้นเมษา หิมะเริ่มละลาย ขอยืมรูปมาลงให้ดู กล้องมือถือ
เช็คกิจกรรมที่ให้บริการได้ที่เว็บไซด์ Kiroro ค่ะ มีราคาบอกด้วยทุกสิ่งอย่าง ชัดเจน.
มาถึงมื้อค่ำของวันที่ 2 เป็นอาหาร Set ที่ Sheraton Hokkaido Kiroro Resort อยู่ใกล้ๆ กัน มีบัสของโรงแรมวนส่งฟรีค่ะ
มาถึงโต๊ะที่จัดไว้ มีแค่ชุดนี้วางอยู่ สมาชิกมองหน้ากัน เนื่องจากไถสกีมาเหนื่อยโฮก เลยรีบหยิบเมนูมาดู OK. มีรายการต่ออีกประมาณ 10 จาน เสริฟมาแบบน่ารักๆ ให้ได้ชิมหลายๆ อย่าง ดูดี มีคลาสไปอีก
เมนูปลาฮอกเกะย่างถ่านสำหรับคนไม่ทานเนื้อ
สำหรับคนชอบทานเนื้อ ถ้ามาฮอกไกโด ก็ไม่ควรพลาด ไม่คาว ไม่เหม็น และไม่เหนียว เลยค่ะ
ถ่ายมาไม่หมดทุกจานนะคะ เพราะไม่ได้ตั้งใจไปถ่ายรีวิว เพียงแค่ไปเที่ยวมาแล้วประทับใจ เลยอยากแชร์ บนโต๊ะอาหาร คุยกับเพื่อนใหม่ๆ ครื้นเครงมาก มีแต่เสียงหัวเราะ โม้กันใหญ่ว่าหัดสกีกลุ่มใครเป็นยังไงกันบ้าง
ตบท้ายด้วยของหวาน ทุกจานจัดมาเป็นศิลปะจริงๆ ดูสีตัดกันน่าทาน ส้มหวานมากค่ะ กลับมาซื้อที่ไทย ยังไม่เจอหวานฉ่ำแบบนั้นซักที
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น