หลานดิฉันกำลังจะไปสมัครสัมพาษงานในบริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งกราฟฟิคดีไซน์ค่ะ  เรียนจบมาปีหนึ่งแล้วแต่พึ่งกลับมาหางานทำ ประวัติเขาไม่ค่อยดีตรงที่ ตอนปี3 เขาประสบอุบัติเหตุ เลยต้องดรอปไปเทอมหนึ่งเพื่อรักษาตัวค่ะ อาการตอนนั้นแย่มาก เหมือนมีอาการทางสมองด้วย พอฟื้นก็กลายเป็นคนอารมรุนแรงไปเลย พอกลับมาเรียนก็เหมือนยังมีปัญหาเรื่องอารมอยู่ ไม่สามารถทำงานส่งอาจารย์และเข้ากับคนอื่นได้ สรุปเลยต้องดรอปเพิ่มอีกเทอมแล้วพาไปปรึกษาจิตแพทย์ หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่หายขาด ยังคงมีอารมรุนแรงอยู่และไม่สามารถทำงานภายใต้การกดดันมากๆได้ เขาบอกว่าเหมือนสติจะแตก แต่ที่ดีขึ้นคือเข้ากับคนอื่นได้และสามารถส่งงานได้ตามกำหนด ญาติก็เข็นกันมาจนเรียนจบ เกรดหลังดรอปก็ไม่ดีเท่าเดิม แต่ก็ไม่แย่มาก ตอนแรกเขาจะไปทำงานกับเพื่อนตั้งแต่เรียนจบ แต่พอส่งใบสมัครไป ตอนนั้นหลานเขียนลงไปด้วยว่ามีการเข้ารับการรักษาตัว และเห็นดรอปไปปีนึงบวกกับเกรดไม่สวยเขาเลยไม่รับ เขาเลยเฟลไปพักใหญ่เลย พอเขากลับมาฮึดได้ก็ได้ยื่นใบสมัครไปเยอะมาก รอบนี้ไม่ได้ใส่เรื่องการรักษาตัวเข้าไป เรียกกลับมาที่เดียว สัมพาษพุธหน้าค่ะ เลยอยากรู้ว่าควรบอกมั้ยว่ามีการบำบัดทางจิตเพราะคิดว่ายังไงเขาน่าจะต้องถามอยู่แล้วเรื่องดรอป หลานไม่อยากบอก กลัวไม่ได้งานอีก แต่ญาติอยากให้บอกเพราะหลานยังมีอารมรุนแรงอยู่ กลัวว่าถ้าไม่บอกไปตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าเผลอไปแสดงอาการตอนทำงานอาจถูกไล่ออกได้ ( ประมาณว่าถ้าบริษัทรู้และรับได้น่าจะโอเคกว่ามารู้ทีหลัง )