สวัสดีค่ะ “พี่หยอดวัดยาง” กลับมาอีกครั้ง...คราวนี้จะพาไปตะลุยลอนดอนกันบ้าง
จริงๆทริปของ “พี่หยอด” ที่ไปประเทศอังกฤษมาคราวนี้ไปทั้งหมด 8 คืน 9 วันค่ะ แต่ว่าส่วนใหญ่จะขับรถตะลอนเที่ยวอยู่เมืองอื่นๆซะมากกว่า ... (เดี๋ยวจะมารีวิวให้อ่านในอีกกระทู้นะคะ) มีเวลาเหลือให้ “ลอนดอน” แค่วันเดียวสั้นๆ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบความวุ่นวายในเมืองใหญ่เท่าไหร่นัก...
แต่มาอังกฤษทั้งทีจะไม่เที่ยวลอนดอนเลยก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง... ต้องขอไปเก็บภาพเป็นที่ระลึกกับ Landmark ซะหน่อย เลยขอจัดเวลา 1 เต็มๆ เที่ยวรัวรัวให้ทั่วลอนดอนเลยค่ะ...
ปล. ไปช่วงซัมเมอร์นี่ดีอย่างคือ กว่าพระอาทิตย์จะตกดินก็ปาเข้าไปเกือบ 4 ทุ่มค่ะ ทำให้เรามีเวลาเที่ยวได้ยาวขึ้นเยอะเลย
ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage
“เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่
www.travelruarua.com
ออกตัวก่อนว่าแต่ละที่ที่ “พี่หยอด” ไปทั้งหมดนั้นเป็นที่ที่อยากไปเป็นการส่วนตัวนะคะ อาจจะไม่ได้ครบทุกที่ ทุก Landmark ของลอนดอน
แต่น่าจะพอเป็นไอเดียให้เพื่อนๆได้ค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์นะ
และจะยินดีมากๆๆๆๆ ถ้าเพื่อนๆมาช่วยกันเม้นเพิ่มเติมว่ามีที่ไหนเด็ดๆใน London ที่น่าไปโดนอีกนะคะ
เอาล่ะ...พร้อมแล้วมาตะลุยลอนดอนไปด้วยกันเลยดีกว่า...
London เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และ สหราชอาณาจักร เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักมหานครแห่งนี้ ที่ที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็น Dream Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย
สถาปัตยกรรมที่สวยงาน อาหารการกิน และความหลากหลายของผู้คนนี่แหละค่ะที่เป็นสเสน่ห์ดึงดูดให้ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาเยือนกรุงลอนดอน
และของคู่กันกับประเทศอังกฤษก็คือ ความแปรปรวนของสภาพอากาศนั่นเอง ถึงแม้ว่าเราจะมาเที่ยวในช่วงหน้าร้อน... แต่บางทีก็จะครึ้ม บางทีก็จะฝน บางทีแดดเปรี้ยง เดี๋ยวจะเห็นได้จากรูปนะคะ ใน 1 วันที่ตะลุยลอนดอนนี่มีทุกสภาพอากาศให้สัมผัส !! บางรูปฟ้าใสแจ๋ว พอถัดมาอีกรูปเมฆนี่ครึ่มมาเลยก็มี... ก็เป็นสีสันกันไป...
การเดินทางที่สะดวกที่สุดในลอนดอนก็คงหนีไม่พ้นรถไฟใต้ดิน
LONDON UNDERGROUND หรือเรียกกันสั้นๆว่า
TUBE เป็นรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดให้บริการการตั้งแต่ปี 1863 โดยในปัจจุบันให้บริการ 11 สาย 270 สถานี เรียกได้ว่าคลอบคลุมแถบจะทั่วพื้นที่ลอนดอนกันเลยทีเดียว เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากค่ะ
เอาภาพแผนที่ Tube ในลอนดอนมาให้ดูค่ะว่าเยอะแยะแค่ไหน...
ขอบคุณภาพจาก www.transportoflondon.gov.uk
แต่สำหรับการท่องเที่ยวในหนึ่งวันครั้งนี้... สถานที่แต่ละจุดที่เราจะไปกันนั้น ค่อนข้างจะอยู่ในโซนเดียวกันค่ะ จะมีที่กระเด็นออกมาจากกลุ่มก้อนแค่เล็กน้อย ลองดูจากในภาพข้างล่างนี้ "พี่หยอด" ปักหมุดสถานนีที่ได้ใช้ไว้ให้ดู อยู่ใกล้ๆกันทั้งนั้น ซึ่งบางทีถ้าไหว เดินเอาก็ได้เช่นกันค่ะ
และตอนที่ “พี่หยอด” ไปคราวนี้ได้โหลด application นึงไว้เพื่อดูเส้นทางในการใช้ tube ค่ะ ชื่อว่า
Tube Map – London Underground Routes เป็น app ฟรีที่จะช่วยบอกเส้นทาง รายละเอียดการเปลี่ยนสายรถไฟ และคำนวณเวลาที่จะใช้ได้เป็นอย่างดี โหลดติดเครื่องไว้อุ่นใจรัวรัว เวลาเปลี่ยนสายการเดินทางไรงี้ก็ไม่งงค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นของคู่กันกับ London Underground ก็คงจะเป็นเจ้าบัตร
Oyster Card นี่แหละคะ
ง่ายๆเลย มันคือบัตรเติมเงินที่เราใช้เวลาโดยสารรถสาธารณะในลอนดอน (รถเมล์ก็ใช้ได้นะ) บัตร Oyster นี้จะมีส่วนลดให้เวลาเราใช้เดินทางค่ะ ถูกกว่าเราซื้อตั๋วแยกเป็นเที่ยวๆไป สามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถใต้ดินทั่วไป มีค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์ สามารถ refund ได้ตอนเราคืนบัตร
สำหรับ 1 วันในลอนดอน “พี่หยอด” ไปเที่ยวไหนบ้างนั้น...ตามมาโลดค่ะ
ที่แรกที่เราไปก็คือบริเวณ
City of Westminster ในเขต Central London ค่ะ
นั่ง Tube มาขึ้นที่สถานี Westminster ถึงเลย เมื่อโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินเราจะเจอกับ
Westminster Bridge สะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ ใจกลางกรุงลอนดอน
ที่นี่คือแหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศจริงๆค่ะ คนเยอะมากกกกกกก
ตรงนี้มี Landmark ให้เราได้เก็บภาพเพียบเลยค่ะ
Big Ben และ
House of Parliament หอนาฬิกาประจำรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร (แต่ก่อนคือพระราชวัง Westminster) ตั้งอยู่เชิงสะพาน Westminster Bridge หอนาฬิกามีความสูง 96.3 เมตร ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมสไตล์ Victorian Gothic ด้านบนหอนาฬิกามีระฆังขนาดใหญ่ชื่อว่า The Great Bell ทุกๆชั่วโมงจะมีเสียงของ Big Ben ตามจำนวนของเข็มสั้นที่ชี้อยู่
London Eye ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (135 เมตร) ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน ระหว่าง Westminster Bridge และ Hungerford Bridge ค่ะ (ใกล้กับ Jubilee Gardens) เป็นอีกหนึ่ง landmark ที่เห็นเด่นเป็นสง่าชัดเจน ด้วยความสูง 135 เมตร และมีจำนวนแคปซูล 32 แคปซูล ตามจำนวนเมืองของประเทศอังกฤษ โดยใช้เวลาในการหมุนครบรอบนานถึง 30 นาที
(สำหรับใครที่จะมาที่นี่จะนั่ง Tube มาขึ้นที่สถานี Waterloo ก็ได้นะคะ เดิน 5 นาทีถึงเลย)
อ่อ...ใกล้ๆกันจะมี Sealife London Aquarium และ The London Dungeon ด้วยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่
https://www.londoneye.com/
จากโซน Westminster เราเดินต่อมาที่ถนน
Whitehall Street ค่ะ ถนนนี้จะพาเราไปยังหลาย Landmark เลย ไม่ว่าจะเป็น
10th Downing Street ที่ตั้งของบ้านนายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ
Household Cavalry Museum พิพิธภัณฑ์ทหารม้าของประเทศอังกฤษ โดยที่ทางเข้าฝั่ง Whitehall Street จะมี Horse Guards ยืนประจำอยู่ที่ประตู 2 จุด ซึ่งก็เป็นที่สนใจในหมู่นักท่องเที่ยว ต้องเข้าไปยื่นถ่ายรูปใกล้ๆ แต่ระวังนะคะ ไม่รับประกันความปลอดภัย มีป้ายเตือนชัดเจนว่าระวังม้าเตะเอาได้ !! เดินเข้ามาด้านในจะเป็น Horse Guards Parade เหมือนลานสวนสนามของทหารม้าค่ะ
ระหว่างทางที่เดินบนถนน Whitehall ก็จะมีตึกอาคารที่สวยงามตลอดทางค่ะ และที่บริเวณเกาะกลางถนนจะมีอนุสาวรีย์อยู่หลายจุดอาทิ
อนุสาวรีย์
Women of World War II Monument
เดินมาจนสุดถนน Whitehall จะเจอกับ
Trafalgar Square ค่ะ
ที่นี่คือจัตุรัสใจกลางกรุงลอนดอน เป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองต่างๆมากมาย อาคารที่อยู่ติดกันทางด้านเหนือของจตุรัสแห่งนี้ก็คือ
National Gallery และที่เราสามารถมองเห็นแต่ไกลก็คือ
Nelsom’s Column ที่ยอดสุดของเสาเป็นรูปกสลักของพลเรือเอก Horatio Nelson ผู้ที่บัญชาการนำในการรบที่สมรภูมิทราฟัลการ์ และที่บริเวณฐานเสามีสิงโตตัวใหญ่ทั้ง 4 ด้าน และรอบๆ ยังมีน้ำพุสวยงาม เชื่อกันว่าหาดเราได้มาโยนเหรียญลงในบ่อน้ำพุแห่งนี้ เราจะได้มีโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง
วันที่ "พี่หยอด" ไปมานี่เหมือนว่ากำลังจะกันพื้นที่เพื่อจัดงาน Event ค่ะ เลยมีรั้วมากั้นรอบ Trafalgar Square เลย... อดเข้าไปโยนเหรียญและปีนขึ้นไปบนสิงโต 555 แต่มองอีกมุมก็ถือว่าโชคดีได้เห็นที่นี่ในแบบโล่งๆ ไม่ม่ผู้คนเยอะๆเหมือนที่ผ่านมาค่ะ
(สำหรับคนที่อยากนั่ง Tube ตรงมาที่ Trafalgar Square สถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น
Charing Cross ค่ะ)
จาก Trafalgar Square เดินไปเที่ยวต่อกันที่
Buckingham Palace กันบ้างค่ะ
โดยเดินผ่าน
Admiralty Arch ซุ้มประตูขนาดใหญ่เข้ามาที่ถนน The Mall ซึ่งเป็นถนนที่มุ่งหน้าไปยัง Buckingham Palace นั่นเอง
ตลอดเส้นทางบนถนน The Mall จะผ่านสวนสาธารณะคือ
St.James’s Park จะเห็นผู้คนมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจจำนวนมาก
มีเก้าอี้เปลให้เช่านั่งชิวๆด้วยนะ (เหมือนเก้าอี้ชายหาดบ้านเรานี่แหละค่ะ)
และเมื่อเดินยาวๆไปจนสุดถนน The Mall ก็จะเจอกับ อนุสาวรีย์
Queen Victoria Memorial ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า
Buckingham Palace และขนาบข้างด้วย
Memorial Gardens ซึ่งตอนนี้ดอกไม้ในสวนเป็นสีแดงสะพรั่งสวยงามมากๆค่ะ
ในช่วงซัมเมอร์ จะมีพิธีสับเปลี่ยนทหารราชองครักษ์
Changing of the Guards เวลา 11.00 น.ทุกวันค่ะ
นักท่องเที่ยวจะมารอชมเป็นจำนวนมหาศาล จับจองที่นั่งที่ยืนกันที่ด้านหน้าพระราชวัง Buckingham
บอกเลยว่าถ้ามาช้าจะมองแถบไม่เห็น ยังไงก็เผื่อเวลากันนิดนึงนะ เพราะจะมีการปิดถนนบางส่วนด้วย
โดยในช่วงของพิธี Changing of the Guards จะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
(สำหรับใครที่จะเดินทางตรงมาที่ Buckingham Palace เลยก็นั่ง Tube มาขึ้นที่สถานี
Victoria ได้เลยนะคะ จากนั้นเดินตามถนน Buckingham Gate มาประมาณ 10 นาทีก็จะถึงค่ะ)
[CR] เที่ยวรัวรัว : London Day เวลามีน้อย ใช้สอยประหยัด
จริงๆทริปของ “พี่หยอด” ที่ไปประเทศอังกฤษมาคราวนี้ไปทั้งหมด 8 คืน 9 วันค่ะ แต่ว่าส่วนใหญ่จะขับรถตะลอนเที่ยวอยู่เมืองอื่นๆซะมากกว่า ... (เดี๋ยวจะมารีวิวให้อ่านในอีกกระทู้นะคะ) มีเวลาเหลือให้ “ลอนดอน” แค่วันเดียวสั้นๆ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบความวุ่นวายในเมืองใหญ่เท่าไหร่นัก...
แต่มาอังกฤษทั้งทีจะไม่เที่ยวลอนดอนเลยก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง... ต้องขอไปเก็บภาพเป็นที่ระลึกกับ Landmark ซะหน่อย เลยขอจัดเวลา 1 เต็มๆ เที่ยวรัวรัวให้ทั่วลอนดอนเลยค่ะ...
ปล. ไปช่วงซัมเมอร์นี่ดีอย่างคือ กว่าพระอาทิตย์จะตกดินก็ปาเข้าไปเกือบ 4 ทุ่มค่ะ ทำให้เรามีเวลาเที่ยวได้ยาวขึ้นเยอะเลย
ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่ www.travelruarua.com
ออกตัวก่อนว่าแต่ละที่ที่ “พี่หยอด” ไปทั้งหมดนั้นเป็นที่ที่อยากไปเป็นการส่วนตัวนะคะ อาจจะไม่ได้ครบทุกที่ ทุก Landmark ของลอนดอน
แต่น่าจะพอเป็นไอเดียให้เพื่อนๆได้ค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์นะ
และจะยินดีมากๆๆๆๆ ถ้าเพื่อนๆมาช่วยกันเม้นเพิ่มเติมว่ามีที่ไหนเด็ดๆใน London ที่น่าไปโดนอีกนะคะ
เอาล่ะ...พร้อมแล้วมาตะลุยลอนดอนไปด้วยกันเลยดีกว่า...
London เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และ สหราชอาณาจักร เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักมหานครแห่งนี้ ที่ที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็น Dream Destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย
สถาปัตยกรรมที่สวยงาน อาหารการกิน และความหลากหลายของผู้คนนี่แหละค่ะที่เป็นสเสน่ห์ดึงดูดให้ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาเยือนกรุงลอนดอน
และของคู่กันกับประเทศอังกฤษก็คือ ความแปรปรวนของสภาพอากาศนั่นเอง ถึงแม้ว่าเราจะมาเที่ยวในช่วงหน้าร้อน... แต่บางทีก็จะครึ้ม บางทีก็จะฝน บางทีแดดเปรี้ยง เดี๋ยวจะเห็นได้จากรูปนะคะ ใน 1 วันที่ตะลุยลอนดอนนี่มีทุกสภาพอากาศให้สัมผัส !! บางรูปฟ้าใสแจ๋ว พอถัดมาอีกรูปเมฆนี่ครึ่มมาเลยก็มี... ก็เป็นสีสันกันไป...
การเดินทางที่สะดวกที่สุดในลอนดอนก็คงหนีไม่พ้นรถไฟใต้ดิน LONDON UNDERGROUND หรือเรียกกันสั้นๆว่า TUBE เป็นรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดให้บริการการตั้งแต่ปี 1863 โดยในปัจจุบันให้บริการ 11 สาย 270 สถานี เรียกได้ว่าคลอบคลุมแถบจะทั่วพื้นที่ลอนดอนกันเลยทีเดียว เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากค่ะ
เอาภาพแผนที่ Tube ในลอนดอนมาให้ดูค่ะว่าเยอะแยะแค่ไหน...
ขอบคุณภาพจาก www.transportoflondon.gov.uk
แต่สำหรับการท่องเที่ยวในหนึ่งวันครั้งนี้... สถานที่แต่ละจุดที่เราจะไปกันนั้น ค่อนข้างจะอยู่ในโซนเดียวกันค่ะ จะมีที่กระเด็นออกมาจากกลุ่มก้อนแค่เล็กน้อย ลองดูจากในภาพข้างล่างนี้ "พี่หยอด" ปักหมุดสถานนีที่ได้ใช้ไว้ให้ดู อยู่ใกล้ๆกันทั้งนั้น ซึ่งบางทีถ้าไหว เดินเอาก็ได้เช่นกันค่ะ
และตอนที่ “พี่หยอด” ไปคราวนี้ได้โหลด application นึงไว้เพื่อดูเส้นทางในการใช้ tube ค่ะ ชื่อว่า Tube Map – London Underground Routes เป็น app ฟรีที่จะช่วยบอกเส้นทาง รายละเอียดการเปลี่ยนสายรถไฟ และคำนวณเวลาที่จะใช้ได้เป็นอย่างดี โหลดติดเครื่องไว้อุ่นใจรัวรัว เวลาเปลี่ยนสายการเดินทางไรงี้ก็ไม่งงค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นของคู่กันกับ London Underground ก็คงจะเป็นเจ้าบัตร Oyster Card นี่แหละคะ
ง่ายๆเลย มันคือบัตรเติมเงินที่เราใช้เวลาโดยสารรถสาธารณะในลอนดอน (รถเมล์ก็ใช้ได้นะ) บัตร Oyster นี้จะมีส่วนลดให้เวลาเราใช้เดินทางค่ะ ถูกกว่าเราซื้อตั๋วแยกเป็นเที่ยวๆไป สามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถใต้ดินทั่วไป มีค่ามัดจำบัตร 5 ปอนด์ สามารถ refund ได้ตอนเราคืนบัตร
สำหรับ 1 วันในลอนดอน “พี่หยอด” ไปเที่ยวไหนบ้างนั้น...ตามมาโลดค่ะ
ที่แรกที่เราไปก็คือบริเวณ City of Westminster ในเขต Central London ค่ะ
นั่ง Tube มาขึ้นที่สถานี Westminster ถึงเลย เมื่อโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินเราจะเจอกับ Westminster Bridge สะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ ใจกลางกรุงลอนดอน
ที่นี่คือแหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศจริงๆค่ะ คนเยอะมากกกกกกก
ตรงนี้มี Landmark ให้เราได้เก็บภาพเพียบเลยค่ะ
Big Ben และ House of Parliament หอนาฬิกาประจำรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร (แต่ก่อนคือพระราชวัง Westminster) ตั้งอยู่เชิงสะพาน Westminster Bridge หอนาฬิกามีความสูง 96.3 เมตร ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมสไตล์ Victorian Gothic ด้านบนหอนาฬิกามีระฆังขนาดใหญ่ชื่อว่า The Great Bell ทุกๆชั่วโมงจะมีเสียงของ Big Ben ตามจำนวนของเข็มสั้นที่ชี้อยู่
London Eye ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (135 เมตร) ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน ระหว่าง Westminster Bridge และ Hungerford Bridge ค่ะ (ใกล้กับ Jubilee Gardens) เป็นอีกหนึ่ง landmark ที่เห็นเด่นเป็นสง่าชัดเจน ด้วยความสูง 135 เมตร และมีจำนวนแคปซูล 32 แคปซูล ตามจำนวนเมืองของประเทศอังกฤษ โดยใช้เวลาในการหมุนครบรอบนานถึง 30 นาที
(สำหรับใครที่จะมาที่นี่จะนั่ง Tube มาขึ้นที่สถานี Waterloo ก็ได้นะคะ เดิน 5 นาทีถึงเลย)
อ่อ...ใกล้ๆกันจะมี Sealife London Aquarium และ The London Dungeon ด้วยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่ https://www.londoneye.com/
จากโซน Westminster เราเดินต่อมาที่ถนน Whitehall Street ค่ะ ถนนนี้จะพาเราไปยังหลาย Landmark เลย ไม่ว่าจะเป็น
10th Downing Street ที่ตั้งของบ้านนายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ
Household Cavalry Museum พิพิธภัณฑ์ทหารม้าของประเทศอังกฤษ โดยที่ทางเข้าฝั่ง Whitehall Street จะมี Horse Guards ยืนประจำอยู่ที่ประตู 2 จุด ซึ่งก็เป็นที่สนใจในหมู่นักท่องเที่ยว ต้องเข้าไปยื่นถ่ายรูปใกล้ๆ แต่ระวังนะคะ ไม่รับประกันความปลอดภัย มีป้ายเตือนชัดเจนว่าระวังม้าเตะเอาได้ !! เดินเข้ามาด้านในจะเป็น Horse Guards Parade เหมือนลานสวนสนามของทหารม้าค่ะ
ระหว่างทางที่เดินบนถนน Whitehall ก็จะมีตึกอาคารที่สวยงามตลอดทางค่ะ และที่บริเวณเกาะกลางถนนจะมีอนุสาวรีย์อยู่หลายจุดอาทิ
อนุสาวรีย์ Women of World War II Monument
เดินมาจนสุดถนน Whitehall จะเจอกับ Trafalgar Square ค่ะ
ที่นี่คือจัตุรัสใจกลางกรุงลอนดอน เป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองต่างๆมากมาย อาคารที่อยู่ติดกันทางด้านเหนือของจตุรัสแห่งนี้ก็คือ National Gallery และที่เราสามารถมองเห็นแต่ไกลก็คือ Nelsom’s Column ที่ยอดสุดของเสาเป็นรูปกสลักของพลเรือเอก Horatio Nelson ผู้ที่บัญชาการนำในการรบที่สมรภูมิทราฟัลการ์ และที่บริเวณฐานเสามีสิงโตตัวใหญ่ทั้ง 4 ด้าน และรอบๆ ยังมีน้ำพุสวยงาม เชื่อกันว่าหาดเราได้มาโยนเหรียญลงในบ่อน้ำพุแห่งนี้ เราจะได้มีโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง
วันที่ "พี่หยอด" ไปมานี่เหมือนว่ากำลังจะกันพื้นที่เพื่อจัดงาน Event ค่ะ เลยมีรั้วมากั้นรอบ Trafalgar Square เลย... อดเข้าไปโยนเหรียญและปีนขึ้นไปบนสิงโต 555 แต่มองอีกมุมก็ถือว่าโชคดีได้เห็นที่นี่ในแบบโล่งๆ ไม่ม่ผู้คนเยอะๆเหมือนที่ผ่านมาค่ะ
(สำหรับคนที่อยากนั่ง Tube ตรงมาที่ Trafalgar Square สถานีที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Charing Cross ค่ะ)
จาก Trafalgar Square เดินไปเที่ยวต่อกันที่ Buckingham Palace กันบ้างค่ะ
โดยเดินผ่าน Admiralty Arch ซุ้มประตูขนาดใหญ่เข้ามาที่ถนน The Mall ซึ่งเป็นถนนที่มุ่งหน้าไปยัง Buckingham Palace นั่นเอง
ตลอดเส้นทางบนถนน The Mall จะผ่านสวนสาธารณะคือ St.James’s Park จะเห็นผู้คนมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจจำนวนมาก
มีเก้าอี้เปลให้เช่านั่งชิวๆด้วยนะ (เหมือนเก้าอี้ชายหาดบ้านเรานี่แหละค่ะ)
และเมื่อเดินยาวๆไปจนสุดถนน The Mall ก็จะเจอกับ อนุสาวรีย์ Queen Victoria Memorial ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า Buckingham Palace และขนาบข้างด้วย Memorial Gardens ซึ่งตอนนี้ดอกไม้ในสวนเป็นสีแดงสะพรั่งสวยงามมากๆค่ะ
ในช่วงซัมเมอร์ จะมีพิธีสับเปลี่ยนทหารราชองครักษ์ Changing of the Guards เวลา 11.00 น.ทุกวันค่ะ
นักท่องเที่ยวจะมารอชมเป็นจำนวนมหาศาล จับจองที่นั่งที่ยืนกันที่ด้านหน้าพระราชวัง Buckingham
บอกเลยว่าถ้ามาช้าจะมองแถบไม่เห็น ยังไงก็เผื่อเวลากันนิดนึงนะ เพราะจะมีการปิดถนนบางส่วนด้วย
โดยในช่วงของพิธี Changing of the Guards จะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
(สำหรับใครที่จะเดินทางตรงมาที่ Buckingham Palace เลยก็นั่ง Tube มาขึ้นที่สถานี Victoria ได้เลยนะคะ จากนั้นเดินตามถนน Buckingham Gate มาประมาณ 10 นาทีก็จะถึงค่ะ)