เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของคุณแม่ท่านหนึ่งที่พยายามอย่างมากที่จะมีลูก ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมาย และภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยแต่ใจของคุณแม่คนนี้พร้อมมาก ต่อสู้มาตลอด จนวันนี้พร้อมที่จะนำความภาคภูมิใจเล็กๆของตนมาแชร์บนโลกโซเซียล ไม่ได้อยากปฏิบัติตนเป็นต้นแบบ หรือเรียกร้องสิทธิใดๆ เพียงอยากแชร์เรื่องราวความสำเร็จของคนๆหนึ่ง ให้คนทั่วไปได้ทราบว่า ความเป็นแม่ เพศไหนก็เป็นได้ อย่าตัดสินด้วยหัวข้อเรื่องนะคะ ลองอ่านเรื่องราวด้านล่าง แล้วคุณจะเข้าใจเรา
ตอนที่1 ทำไมถึงอยากมีลูก??
ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า นิวไม่ใช่ไบร์นะคะ และไม่ใช่ผู้หญิงที่มีสามี แต่ภาพลักษณ์จากคนไม่รู้จักมักมองแบบนั้น จริงๆแล้วนิวเป็นเลสเบี้ยน แต่เคยเป็นดี้ เป็นเลสควีน เลสคิงมากก่อน เอาเป็นว่าขอข้ามเรื่องความรัก สถานะทางเพศ และชีวิตคู่ไปเลย เพราะปกติจะไม่ค่อยเปิดเผยสถานะถ้าไม่ใช้เพื่อนสนิท ญาติพี่น้อง คนที่เราสนใจ หรือเลสเหมือนกัน. นิวมีมุมมองว่า คนเรามีความฝันและจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ต่างกัน ผู้หญิงบางคนอยากแต่งงาน บางคนอยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น แต่นิวฝันตลอดตั้งแต่จำความได้ว่า ชีวิตนี้ฝันสูงสุดคือการได้เป็นแม่คน การได้เป็นผู้ให้ชีวิตคนๆหนึ่งมันยิ่งใหญ่มาก พอโตเป็นใหญ่ขึ้นก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองต้องการแบบนั้นจริงๆ "ลูก" คือคนที่จะอยู่กับเราด้วยรักบริสุทธิ์ ไม่ใช่รักเพราะหน้าที่ ผูกพันธ์แบบคนรัก หรือสงสารเพราะเห็นใจ คนที่จะไม่ทิ้งเราไปไหน คอยดูแลกัน อยู่เป็นครอบครัว เราจะได้ความรักแบบนี้ที่ไหน ?? คำตอบคือ จากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนไง ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คนอื่น เขาจะเป็นคนที่ดูแลเราวันที่เราต้องการใคร และอยู่กับเราจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะจากไป สุดท้ายก็ตั้งปฏิญานไว้ว่า วันหนึ่ง ถ้าพร้อม เราต้องทำให้ได้ .. ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
แล้วแต่มุมมองนะคะ ทุกคนมีเหตุผล มีความจำเป็นต่างกัน นิวพร้อมและต้องการเขามาตลอดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่เหตุผลที่ว่ามีมาเพื่ออยู่ด้วยกัน แต่อยากเป็นผู้ให้กำเนิด และมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างความสุขให้แก่คนๆหนึ่ง และตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดค่ะ ชีวิตก็เล่นตลกนะคะ ไม่ใช่อยากทำแล้วจะทำง่ายๆ ดั่งใจ จริงๆแล้วนิวผ่านอะไรๆมามาก จะเล่าตั้งแต่แรกเริ่มเลยนะ หลังจากที่คิดว่าจะเดินหน้าต่อเรื่องการมีลูก ภาพลักษณ์ภายนอกที่คนทั่วๆไปจะมองนิวคือ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือ single mom มันก็ตอบกระแสสังคมยากอยู่แล้ว คำถามตามมาคือ พ่อเด็กล่ะ! แล้วจะบอกลูกยังไง? เลี้ยงไหวหรอ?
โอ๊ย... เราก็มีคำตอบบ้าๆของเราแบบคนเข้าข้างตัวเองแหล่ะนะ พ่อมันตายบ้าง อะไรบ้าง! แต่สุดท้ายแล้วเชื่อมั๊ย สัญชาตญานความเป็นผู้ให้กำเนิดจะสอนเราเองว่าเราจะปกป้องลูกเราจากคำถามทางสังคมยังไง บ้านเมืองเราไม่ได้เปิดกว้างและเสรีเรื่องนี้ ไหนจะศาสนา วัฒนธรรมชาวพุทธ กฎหมาย ปัญหา 108 ที่จะทำให้หลายคนท้อและหมดหวังไปเอง เชื่อซิคะ ถ้าคุณผ่านด่านนี้ไปไม่ได้ก็ไม่ควรไปต่อ นิวทำอย่างไรนะหรอ นิวก็เริ่มหาข้อมูลต่างๆ ว่า เฮ้ย! เขาทำยังไง ? ต่างประเทศบริจาคเชื้อยังไง ? บ้านเมืองเราทำได้แค่ไหน ขอบเขตของสังคม แล้วเราต้องเตรียมความพร้อมยังไง? จะหาเชื้อจากที่ไหน? ปัญหาครอบครัว? สังคม? เอ๋... นิวผ่านอะไรๆมามาก แม้แต่แม่ตัวเองก็ยังไม่เห็นด้วยเลยนะคะ แล้วนิวทำยังไงหรอถึงได้น้องแฝดสองคนนี้มา
นิวเริ่มจากการบอกคนรอบข้างว่า ฉันต้องการอะไร? จะทำยังไง? ส่วนมากไม่เห็นด้วย แต่ก็ค่อยๆแทรกซึมความเข้าใจเข้าไป ค่อยๆเป่าหู ค่อยๆทำให้โอนเอน ใจอ่อน คล้อยตาม จนเวลาผ่านไปทุกคนคงชินมั้งคะ 555 เลยไม่ว่าอะไรอีกต่อไป ไม่เห็นด้วยแต่ไม่ได้ห้าม ประมาณว่า จะทำอะไรก็ทำ ช่างแก!! แล้วทุกอย่างก็เอง
เล่ามาตั้งนานขอแนะนำตัวหน่อยนะคะ ชื่อนิว อายุหรอ? โอ๊ยย ไม่อยากพูดถึงเลย เอาเป็นว่า20ปลายๆ เอ้ย 30 ต้นๆ แล้วกันนะคะ ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้ ตอนเด็กๆแอบชอบเพื่อนสนิท ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นอะไร คิดแต่ว่าถ้าเราเป็นผู้ชายนะ เราจะขอผู้หญิงคนนี้แต่งงาน มีความครัว มีลูกน่ารักๆ เป็นคนชอบผู้หญิงเก่ง ฉลาด ชอบไปคุกคลีกับเขา มีความสุขที่สุด พอโตขึ้นหน่อย ม.2 ก็เข้าโรงเรียนสตรี ตอนนั้นก็รู้จักแค่เห็นอาจารย์คู่หนึ่ง เป็นผู้หญิงผมยาวทั้งคู่ น่ารักมาก แต่ทำไมเค้าสนิทกันจัง จู๋จี๋กัน เพื่อนบอกว่านางเป็นเลสเบี้ยน เราก็ไม่เข้าใจ สุดท้ายนิวก็ศึกษาอย่างจริงจัง ซื้อหนังสือมาอ่าน จำได้ว่าชื่อหนังสือ 108sex lesbian หนังสือเล่มแรกเลยนะที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง สมัยนั้นยังไม่มีเฟสบุ๊คนะคะ อินเตอร์เน็ตเป็นศาสตรทที่เข้าถึงยากมาก หนังสือนั้นบอกประเภท และวิธีการสังเกตตัวเอง แล้วนิวก็เริ่มสงสัยว่า เราเป็นแบบไหน ทอม? ดี้? หรือเลส? จนได้คำตอบว่าตนเป็นอะไร ค้นพบตัวเองตั้งแต่อายุ 14 จนมาถึงปัจจุบัน จริงๆนิวไม่คบผู้ชายนะคะ แต่มีประสบการณ์ไม่ดีกับผู้ชายเยอะ เคยโดนผู้ชายลวนลาม ไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟังนะคะ
เข้าเรื่องกันดีกว่า ทำไมถึงอยากมีลูก? เหตุผลบอกไปแล้วจากตอนเดิมว่าเพราะอยากมีใครที่รักเรา แล้วไม่ทิ้งกันไปไหน สายใยรักนี้จะอยู่จนกว่าเราจะตายจากกัน คุณแม่นิวต่อต้านแนวคิดนี้มาก แต่พ่อและญาติไม่แสดงความคิดเห็น แต่นิวพอจะดูออกว่าเขาไม่พอใจ แต่พูดอะไรไม่ได้ เพราะนิวทำงานเป็นเสาหลักครอบครัว หาเงินเอง เรียนเอง (บ้าเรียนมากทุกวันนี้ก็ยังไม่หยุดเรียน) ช่วยเหลือญาติพี่น้อง ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน พอนิวมีบ้านมีรถที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง มีการงานมั่นคง ก็เลยเริ่มพูดว่าจะทำอะไร บอกตามตรงตอนที่เป่าประกาศไปทั่วทั้งๆที่ยังไม่รู้จะทำวิธีไหนเลย แต่ก็อยากให้คนรอบข้างรับรู้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เพื่อทำใจรับได้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน ผู้หญิงไม่มีสามีแต่ท้องโตขึ้นมา ครอบครัวต้องแบกรับคำถามจากสังคมแวดล้อมเป็นอย่างมาก เลยให้เวลาให้เขาเกิดความเคยชินกับเรื่องนี้ นิวเริ่มทำตามแผนตั้งแต่ปี 2556 ขณะเดียวกันก็เริ่มอ่านหาข้อมูล คำถามมากมายในสมองว่า เชื้อเอามาจากไหน? ทำยังไง? แล้ว ใครจะท้อง? คำถามใครท้องว่ายากแล้วนะ ไม่ยากเท่ากับเอาเชื้อมาจากไหน?
1.ญาติแฟน(คนที่คบในขณะนั้น)
2.เชื้อผู้บริจาคชาวต่างชาติ (sperm donor)
3. เชื้อบริจาค นศ แพทย์ที่ธนาคารอสุจิ ซึ่งจริงๆ
แล้วจะทำวิธีไหนล่ะ?? (จากการศึกษา)
1.ฉีดเชื้อผู้บริจาคเข้าไปเอง (ต่างประเทศเรียก AI)
2.นอนกับผู้บริจาคด้วยวิธีธรรมชาติ คือมีอะไรกัน (ต่างประเทศเรียก NI)
3.ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ IUI,IVF
จริงๆทำได้ทุกทางเพราะนิวโชคดีมากที่ตอนนั้นไม่มี พรบ.อุ้มบุญ เลยมีเสรีภาพในการเลือกทำ ซึ่งนิวตั้งครรภ์ก่อนประกาศใช้กฎหมาย พรบ.อุ้มบุญนี้ทำให้หลายๆคู่ที่คิดจะทำวิธีแบบนิว รวมถึงคู่สามีภรรยาทั่วไปที่ไม่จดทะเบียนสมรส เข้าไม่ถึงกระบวนการการรักษาผู้มีบุตรยาก แนวคิดในขณะนั้นนะ ไม่คิดจะเปิดเผยตัวพ่อเด็กด้วย จากปี 56 ถึงปี 58 เวลากว่า 2 ปี กว่าจะประสบณ์ความสำเร็จพบกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนั้นตกลงกันแล้วว่านิวจะทำ แต่อุปสรรคแรกที่เกิดคือ เอาเชื้อใคร?? 555 ปัญหาโลกแตก บอกตรงๆตอนนั้นไม่คิดจะด้วยวิธีทางการแพทย์ เพราะคิดว่าเราคงจะใช้วิธีแรกได้ ใครๆที่ทำก็ทำกันสำเร็จ เลยอยากลองทำ AI ก่อน เริ่มจากการหา ผู้บริจาคต่างชาติ เพราะอยากได้เด็กลูกครึ่งน่ารักๆ แล้วนี่คือเป็นครั้งแรกกับการง้อผู้ชาย แล้วทำให้รู้ว่าผู้ชาย
บ้าๆก็เยอะ ทำไมธรรมชาติไม่สร้างให้ผู้หญิงเราท้องกันเองได้เนอะ สร้างให้เรารักกันและหาทางปลดปล่อยความรักด้วยการสัมผัสได้ แต่ไม่สร้างให้เรามีทายาทกันได้ ไม่ยุติธรรม
ชีวิตจริงของคุณแม่เลสเบี้ยน
ตอนที่1 ทำไมถึงอยากมีลูก??
ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า นิวไม่ใช่ไบร์นะคะ และไม่ใช่ผู้หญิงที่มีสามี แต่ภาพลักษณ์จากคนไม่รู้จักมักมองแบบนั้น จริงๆแล้วนิวเป็นเลสเบี้ยน แต่เคยเป็นดี้ เป็นเลสควีน เลสคิงมากก่อน เอาเป็นว่าขอข้ามเรื่องความรัก สถานะทางเพศ และชีวิตคู่ไปเลย เพราะปกติจะไม่ค่อยเปิดเผยสถานะถ้าไม่ใช้เพื่อนสนิท ญาติพี่น้อง คนที่เราสนใจ หรือเลสเหมือนกัน. นิวมีมุมมองว่า คนเรามีความฝันและจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ต่างกัน ผู้หญิงบางคนอยากแต่งงาน บางคนอยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น แต่นิวฝันตลอดตั้งแต่จำความได้ว่า ชีวิตนี้ฝันสูงสุดคือการได้เป็นแม่คน การได้เป็นผู้ให้ชีวิตคนๆหนึ่งมันยิ่งใหญ่มาก พอโตเป็นใหญ่ขึ้นก็ยิ่งมั่นใจว่าตัวเองต้องการแบบนั้นจริงๆ "ลูก" คือคนที่จะอยู่กับเราด้วยรักบริสุทธิ์ ไม่ใช่รักเพราะหน้าที่ ผูกพันธ์แบบคนรัก หรือสงสารเพราะเห็นใจ คนที่จะไม่ทิ้งเราไปไหน คอยดูแลกัน อยู่เป็นครอบครัว เราจะได้ความรักแบบนี้ที่ไหน ?? คำตอบคือ จากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนไง ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่คนอื่น เขาจะเป็นคนที่ดูแลเราวันที่เราต้องการใคร และอยู่กับเราจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะจากไป สุดท้ายก็ตั้งปฏิญานไว้ว่า วันหนึ่ง ถ้าพร้อม เราต้องทำให้ได้ .. ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
แล้วแต่มุมมองนะคะ ทุกคนมีเหตุผล มีความจำเป็นต่างกัน นิวพร้อมและต้องการเขามาตลอดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่เหตุผลที่ว่ามีมาเพื่ออยู่ด้วยกัน แต่อยากเป็นผู้ให้กำเนิด และมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างความสุขให้แก่คนๆหนึ่ง และตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดค่ะ ชีวิตก็เล่นตลกนะคะ ไม่ใช่อยากทำแล้วจะทำง่ายๆ ดั่งใจ จริงๆแล้วนิวผ่านอะไรๆมามาก จะเล่าตั้งแต่แรกเริ่มเลยนะ หลังจากที่คิดว่าจะเดินหน้าต่อเรื่องการมีลูก ภาพลักษณ์ภายนอกที่คนทั่วๆไปจะมองนิวคือ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือ single mom มันก็ตอบกระแสสังคมยากอยู่แล้ว คำถามตามมาคือ พ่อเด็กล่ะ! แล้วจะบอกลูกยังไง? เลี้ยงไหวหรอ?
โอ๊ย... เราก็มีคำตอบบ้าๆของเราแบบคนเข้าข้างตัวเองแหล่ะนะ พ่อมันตายบ้าง อะไรบ้าง! แต่สุดท้ายแล้วเชื่อมั๊ย สัญชาตญานความเป็นผู้ให้กำเนิดจะสอนเราเองว่าเราจะปกป้องลูกเราจากคำถามทางสังคมยังไง บ้านเมืองเราไม่ได้เปิดกว้างและเสรีเรื่องนี้ ไหนจะศาสนา วัฒนธรรมชาวพุทธ กฎหมาย ปัญหา 108 ที่จะทำให้หลายคนท้อและหมดหวังไปเอง เชื่อซิคะ ถ้าคุณผ่านด่านนี้ไปไม่ได้ก็ไม่ควรไปต่อ นิวทำอย่างไรนะหรอ นิวก็เริ่มหาข้อมูลต่างๆ ว่า เฮ้ย! เขาทำยังไง ? ต่างประเทศบริจาคเชื้อยังไง ? บ้านเมืองเราทำได้แค่ไหน ขอบเขตของสังคม แล้วเราต้องเตรียมความพร้อมยังไง? จะหาเชื้อจากที่ไหน? ปัญหาครอบครัว? สังคม? เอ๋... นิวผ่านอะไรๆมามาก แม้แต่แม่ตัวเองก็ยังไม่เห็นด้วยเลยนะคะ แล้วนิวทำยังไงหรอถึงได้น้องแฝดสองคนนี้มา
นิวเริ่มจากการบอกคนรอบข้างว่า ฉันต้องการอะไร? จะทำยังไง? ส่วนมากไม่เห็นด้วย แต่ก็ค่อยๆแทรกซึมความเข้าใจเข้าไป ค่อยๆเป่าหู ค่อยๆทำให้โอนเอน ใจอ่อน คล้อยตาม จนเวลาผ่านไปทุกคนคงชินมั้งคะ 555 เลยไม่ว่าอะไรอีกต่อไป ไม่เห็นด้วยแต่ไม่ได้ห้าม ประมาณว่า จะทำอะไรก็ทำ ช่างแก!! แล้วทุกอย่างก็เอง
เล่ามาตั้งนานขอแนะนำตัวหน่อยนะคะ ชื่อนิว อายุหรอ? โอ๊ยย ไม่อยากพูดถึงเลย เอาเป็นว่า20ปลายๆ เอ้ย 30 ต้นๆ แล้วกันนะคะ ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้ ตอนเด็กๆแอบชอบเพื่อนสนิท ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นอะไร คิดแต่ว่าถ้าเราเป็นผู้ชายนะ เราจะขอผู้หญิงคนนี้แต่งงาน มีความครัว มีลูกน่ารักๆ เป็นคนชอบผู้หญิงเก่ง ฉลาด ชอบไปคุกคลีกับเขา มีความสุขที่สุด พอโตขึ้นหน่อย ม.2 ก็เข้าโรงเรียนสตรี ตอนนั้นก็รู้จักแค่เห็นอาจารย์คู่หนึ่ง เป็นผู้หญิงผมยาวทั้งคู่ น่ารักมาก แต่ทำไมเค้าสนิทกันจัง จู๋จี๋กัน เพื่อนบอกว่านางเป็นเลสเบี้ยน เราก็ไม่เข้าใจ สุดท้ายนิวก็ศึกษาอย่างจริงจัง ซื้อหนังสือมาอ่าน จำได้ว่าชื่อหนังสือ 108sex lesbian หนังสือเล่มแรกเลยนะที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง สมัยนั้นยังไม่มีเฟสบุ๊คนะคะ อินเตอร์เน็ตเป็นศาสตรทที่เข้าถึงยากมาก หนังสือนั้นบอกประเภท และวิธีการสังเกตตัวเอง แล้วนิวก็เริ่มสงสัยว่า เราเป็นแบบไหน ทอม? ดี้? หรือเลส? จนได้คำตอบว่าตนเป็นอะไร ค้นพบตัวเองตั้งแต่อายุ 14 จนมาถึงปัจจุบัน จริงๆนิวไม่คบผู้ชายนะคะ แต่มีประสบการณ์ไม่ดีกับผู้ชายเยอะ เคยโดนผู้ชายลวนลาม ไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟังนะคะ
เข้าเรื่องกันดีกว่า ทำไมถึงอยากมีลูก? เหตุผลบอกไปแล้วจากตอนเดิมว่าเพราะอยากมีใครที่รักเรา แล้วไม่ทิ้งกันไปไหน สายใยรักนี้จะอยู่จนกว่าเราจะตายจากกัน คุณแม่นิวต่อต้านแนวคิดนี้มาก แต่พ่อและญาติไม่แสดงความคิดเห็น แต่นิวพอจะดูออกว่าเขาไม่พอใจ แต่พูดอะไรไม่ได้ เพราะนิวทำงานเป็นเสาหลักครอบครัว หาเงินเอง เรียนเอง (บ้าเรียนมากทุกวันนี้ก็ยังไม่หยุดเรียน) ช่วยเหลือญาติพี่น้อง ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน พอนิวมีบ้านมีรถที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง มีการงานมั่นคง ก็เลยเริ่มพูดว่าจะทำอะไร บอกตามตรงตอนที่เป่าประกาศไปทั่วทั้งๆที่ยังไม่รู้จะทำวิธีไหนเลย แต่ก็อยากให้คนรอบข้างรับรู้ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เพื่อทำใจรับได้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน ผู้หญิงไม่มีสามีแต่ท้องโตขึ้นมา ครอบครัวต้องแบกรับคำถามจากสังคมแวดล้อมเป็นอย่างมาก เลยให้เวลาให้เขาเกิดความเคยชินกับเรื่องนี้ นิวเริ่มทำตามแผนตั้งแต่ปี 2556 ขณะเดียวกันก็เริ่มอ่านหาข้อมูล คำถามมากมายในสมองว่า เชื้อเอามาจากไหน? ทำยังไง? แล้ว ใครจะท้อง? คำถามใครท้องว่ายากแล้วนะ ไม่ยากเท่ากับเอาเชื้อมาจากไหน?
1.ญาติแฟน(คนที่คบในขณะนั้น)
2.เชื้อผู้บริจาคชาวต่างชาติ (sperm donor)
3. เชื้อบริจาค นศ แพทย์ที่ธนาคารอสุจิ ซึ่งจริงๆ
แล้วจะทำวิธีไหนล่ะ?? (จากการศึกษา)
1.ฉีดเชื้อผู้บริจาคเข้าไปเอง (ต่างประเทศเรียก AI)
2.นอนกับผู้บริจาคด้วยวิธีธรรมชาติ คือมีอะไรกัน (ต่างประเทศเรียก NI)
3.ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ IUI,IVF
จริงๆทำได้ทุกทางเพราะนิวโชคดีมากที่ตอนนั้นไม่มี พรบ.อุ้มบุญ เลยมีเสรีภาพในการเลือกทำ ซึ่งนิวตั้งครรภ์ก่อนประกาศใช้กฎหมาย พรบ.อุ้มบุญนี้ทำให้หลายๆคู่ที่คิดจะทำวิธีแบบนิว รวมถึงคู่สามีภรรยาทั่วไปที่ไม่จดทะเบียนสมรส เข้าไม่ถึงกระบวนการการรักษาผู้มีบุตรยาก แนวคิดในขณะนั้นนะ ไม่คิดจะเปิดเผยตัวพ่อเด็กด้วย จากปี 56 ถึงปี 58 เวลากว่า 2 ปี กว่าจะประสบณ์ความสำเร็จพบกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนั้นตกลงกันแล้วว่านิวจะทำ แต่อุปสรรคแรกที่เกิดคือ เอาเชื้อใคร?? 555 ปัญหาโลกแตก บอกตรงๆตอนนั้นไม่คิดจะด้วยวิธีทางการแพทย์ เพราะคิดว่าเราคงจะใช้วิธีแรกได้ ใครๆที่ทำก็ทำกันสำเร็จ เลยอยากลองทำ AI ก่อน เริ่มจากการหา ผู้บริจาคต่างชาติ เพราะอยากได้เด็กลูกครึ่งน่ารักๆ แล้วนี่คือเป็นครั้งแรกกับการง้อผู้ชาย แล้วทำให้รู้ว่าผู้ชายบ้าๆก็เยอะ ทำไมธรรมชาติไม่สร้างให้ผู้หญิงเราท้องกันเองได้เนอะ สร้างให้เรารักกันและหาทางปลดปล่อยความรักด้วยการสัมผัสได้ แต่ไม่สร้างให้เรามีทายาทกันได้ ไม่ยุติธรรม