เรื่องมีอยู่ว่า ผมต้องการโอนเงิน จำนวน 200 บาท ไปยังบัญชีของธนาคารกสิกร พอดีมีเงินเหรียญอยู่เยอะผมเลยนับเงินเหรียญไป หยอด ยอด200ค่าบริการ30 รวมเป็น230 พอถึงตู้ก็ทำรายการ ด้วยเงินเหรียญบาท 2 บาทและ5 บาท เหรียญ10 อีกจำนวนนึงพอหยอดไปได้ซัก 200 กว่าบาทปรากฏว่า มีตัวหนังสือกระพริบมาที่หน้าจอฝั่งซ้ายล่างประมาณว่าไม่สามารถหยอดเงินเหรียญมากกว่า200 บาทได้ ปรากฏว่าตู้ตัดยอดเงินที่ผมหยอดไปเป็น0 บาทแล้วเริ่มนับยอดใหม่ ผมก็งงเลยหยอดเหรียญ10 ใส่ต่ออีก2 เหรียญมันก็ขึ้นว่าให้ผมหยอดเงินไปอีก 200 กว่าบาทที่เหลือ สรุปตู้ตัดเงินผมไป แต่ไม่ได้เอาไปเป็นดครดิตให้ ตัดหายไปเฉยๆ ผมงงเลบวินาทีนั้นผมเลยโทรไปคอลเซ๊นเตอร์ 3 -4 รอบเพื่อแจ้งก็คู่สายเต็มยังเงินโทศัพท์หมดก็ยังติดต่อไม่ได้ ผมเลยทักไปแจ้งเรื่องในเพจของตู้เติมนี้ ก็ได้รับการติดต่อสอบถามข้อมูล พอบอกข้อมูลไป ก็บอกให้รอ ครึ่งชม.ผ่านไป 1 ชม.ครึ่งผมทักไปตามเรื่องก็ติดต่อกลับมาบอกให้รอครึ่งชม. รอการประสานงาน พอทักไปตามก็โทรมาบอกให้รอ15 นาที หลังจากนั้นก็โทรกลับมาสอบถามผมอีกรอบ ปรากฏว่าให้ผมรอเจ้าของตู้มาเปิดตู้เช้ค1 อาทิตย์ แล้วให้ผมบอกจำนวนเงินที่หยอดเข้าไปพร้อมเหรียญ ว่ามีเหรียญอะไรบ้างผมก็บอกว่จำนวนผมจำได้ แต่มีเหรียญอะไรบ้างผมก็บอกว่าจำไม่ได้หรอก เงินเหรียญเยอะขนาดนั้น ผมเลยถามไปว่า ทำไมตอนหยอดเกินไปแล้วทำไมไม่ตัดมาเป็นเครดิต ทำไมตัดยอดเงินหายไป เฉยๆ แล้วที่บอกว่าห้ามหยอดเงินเหรียญเกิน200 เนี้ย ทำไม่ติดรายละเอียดไว้ที่ตู้เลยล่ะครับใครมาใช้จะได้รู้ แล้วการที่มาตัดเงินของลูกค้าหายไปเฉยๆแบบนี้ หมายความว่าระบบของคุณยังไม่มีประสิทธิาพพอที่ลูกค้าจะใช้รึเปล่าครับ แล้วถ้าคนที่เค้าไม่รู้มาใช้บริการแบบนี้โดนมั้งเงินมันอาจจะน้อยแต่สำหรับบางคนแต่มันเยอะสำหรับบางคนนะครับ ขอให้ปรับปรุงหน่อยนะครับไม่งั้นลูกค้าจะหาย เพราะผมคนนึงเจอเร่องแบบนี้ไปก็บายกับตู้เติมนี้แล้วครับเสียความรู้สึก เสียเวลาโดยใช้เหตุ ความผิดเราก็ไม่ใช่
[CR][SR] ใครใช้บริการตู้เติมเงินสีส้มระวังนะครับโดนมากับตัว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว