วันนี้ผมก็จะมาเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องของ “พระราหู” ให้ทุกท่านได้อ่านและทราบเรื่องราวโดยคราวๆรวมไปถึงวิธีการไหว้บูชา “พระราหู” กันในบทความนี้นะครับ
4 สิงหาคม เป็นวันที่ดาวสำคัญดวงหนึ่งที่กำลังยกย้ายราศี สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาทางด้านโหราศาสตร์คงจะทราบดีแล้วว่า ดาวราหู โคจรอยู่ในแต่ละราศีโดยประมาณ 1 ปีครึ่ง ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่า ดาวราหู ย้ายราศีจะมีการทำพิธีบวงสรวงไหว้ เทพพระราหู ในแต่ละสถานที่ ที่มีการจัดพิธีนั้นก็จะมีคนเข้ามาร่วมพิธีมากมาย การบวงสรวงดาวนพเคราะห์ดวงอื่นจะเห็นได้ว่าผู้คนนั้นตื่นตัวในการไหว้พระราหูมากกว่า นั้นแสดงให้เห็นว่าเทพพระราหูในทางโหราศาสตร์นั้นท่านเป็นผู้มีฤทธิ์ บารมี
เทพพระราหูทรงครุฑตามหลักเทวะโหราศาสตร์ของไทยนั้น ท่านเป็นเทพและที่ทรงครุฑได้ก็เพราะว่าท่านเป็นเทพแล้ว หากจะกล่าวถึงบริบทถึงที่มาที่ไปในการได้ “ครุฑ”มาเป็นพาหนะนี้มา ก็ต้องเท้าความไปถึงตำนาน การกวนเกษียรสมุทรซึ่งท่านผู้ที่ต้องการอ่านหรือผู้ที่สนใจไคร่รู้ สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งในที่นี้ผมขอไม่กล่าวถึงแต่จะขอกล่าวถึงในทางบริบทของ เทพพระราหูทรงครุฑ ในทางโหราศาสตร์ที่ท่านเป็นเทพแล้วเท่านั้น
หลายปีที่ผ่านมาผู้คนยังคงเข้าใจผิด คิดว่าพระราหู คือ อสุรินทร์(ยักษ์) หลายท่านอาจจะนึกถึง พระราหูอมจันทร์ที่วัดศรีษะทอง ซึ่งเป็นยักษ์มีครึ่งองค์ ซึ่งยังไม่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ของไทย และ หลายท่านก็ทำพิธีไหว้บูชาพระราหูเองที่บ้านด้วยซ้ำ และ หลังจากการไหว้ก็ยังนำเครื่องเซ่นไหว้มารับประทานด้วย นั้นเป็นการเข้าใจผิดอย่างมากเพราะในทางหลักโหราศาสตร์ไทย พระราหู เป็นตัวแทนฝ่ายบาปเคราะห์ แปลว่าสิ่งไม่ดี ถ้าเราทำพิธีไหว้ที่บ้านแล้วนำเครื่องเซ่นไหว้นั้นมารับประทานก็เท่ากับเป็นการนำสิ่งไม่ดีเข้าบ้านเข้าตัว เพราะตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้องแล้วจะต้องผ่านพิธีเทวานพเคราะห์และเครื่องเซ่นไหว้นั้นจะต้องผ่านการพลีก่อน จึงจะนำมารับประทานได้ ในพิธีกรรมนั้นจะต้องทำโดยโหรผู้รู้ ผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์จะต้องเข้าใจว่าการเรียนโหราศาสตร์นั้นมีหลายสเต็ป เหมือนกับการเรียน ป.ตรี ,ป.โท , ป.เอก ในทางโหราศาสตร์ก็จะแบ่งเป็นภาคคำนวณ ภาคพยากรณ์ และ สูงสุดคือภาคพิธีกรรม ดังนั้นการบวงสรวงเทวดานพเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ไทย จึงเป็นพิธีกรรมทางโหรชั้นสูง ซึ่งบุคคลทั่วไปไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้อง เพราะองค์ประกอบในการทำพิธีนั้นมีมายมากหลายอย่างหลายประการ สำหรับบุคคลทั่วไปถ้าอยากไหว้บูชาพระราหูและไม่สะดวกในการเข้าร่วมพิธีก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการไปไหว้พระนอนปรางโปรดอสุรินทราหู(นอนลืมตาถ้านอนหลับตามเป็นปรางปรินิพาน ) หรือ ไปไหว้พระปรางป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นพระประจำวันพุธกลางคืน ในวาระที่พระราหูจะยกย้ายราศีครั้งนี้ ทางวัดเจ้าอามก็มีได้จัดพิธีใหญ่ในการบวงสรวงรับส่งพระราหู ก็ขอเชิญทุกท่านที่สะดวกในการไปเข้าพิธีจะเป็นสิริมงคล บารมีแก่ตัวเอง “กลับร้ายกลายดี” ในช่วงที่พระราหูยกย้ายในครั้งนี้ครับ
*คาถาบูชาเทพพระราหูทรงครุฑ ( ตั้งนะโม ๓ จบ )
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ๓ จบ )
อิติปิโส ภะคะวา พระราหูจะมัสมิง จะพุทธคุณนัง จะธัมมะคุณัง จะสังฆะคุณัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วิวัชชะเย สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
*หากสวดตามกำลังท่าน 12 จบ จะเป็นการดีมากครับ
By โหรเจมส์ พยากรณ์
พระราหูทรงครุฑในทางโหราศาสตร์ไทย By โหรเจมส์ พยากรณ์
วันนี้ผมก็จะมาเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องของ “พระราหู” ให้ทุกท่านได้อ่านและทราบเรื่องราวโดยคราวๆรวมไปถึงวิธีการไหว้บูชา “พระราหู” กันในบทความนี้นะครับ
4 สิงหาคม เป็นวันที่ดาวสำคัญดวงหนึ่งที่กำลังยกย้ายราศี สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาทางด้านโหราศาสตร์คงจะทราบดีแล้วว่า ดาวราหู โคจรอยู่ในแต่ละราศีโดยประมาณ 1 ปีครึ่ง ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่า ดาวราหู ย้ายราศีจะมีการทำพิธีบวงสรวงไหว้ เทพพระราหู ในแต่ละสถานที่ ที่มีการจัดพิธีนั้นก็จะมีคนเข้ามาร่วมพิธีมากมาย การบวงสรวงดาวนพเคราะห์ดวงอื่นจะเห็นได้ว่าผู้คนนั้นตื่นตัวในการไหว้พระราหูมากกว่า นั้นแสดงให้เห็นว่าเทพพระราหูในทางโหราศาสตร์นั้นท่านเป็นผู้มีฤทธิ์ บารมี
เทพพระราหูทรงครุฑตามหลักเทวะโหราศาสตร์ของไทยนั้น ท่านเป็นเทพและที่ทรงครุฑได้ก็เพราะว่าท่านเป็นเทพแล้ว หากจะกล่าวถึงบริบทถึงที่มาที่ไปในการได้ “ครุฑ”มาเป็นพาหนะนี้มา ก็ต้องเท้าความไปถึงตำนาน การกวนเกษียรสมุทรซึ่งท่านผู้ที่ต้องการอ่านหรือผู้ที่สนใจไคร่รู้ สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งในที่นี้ผมขอไม่กล่าวถึงแต่จะขอกล่าวถึงในทางบริบทของ เทพพระราหูทรงครุฑ ในทางโหราศาสตร์ที่ท่านเป็นเทพแล้วเท่านั้น
หลายปีที่ผ่านมาผู้คนยังคงเข้าใจผิด คิดว่าพระราหู คือ อสุรินทร์(ยักษ์) หลายท่านอาจจะนึกถึง พระราหูอมจันทร์ที่วัดศรีษะทอง ซึ่งเป็นยักษ์มีครึ่งองค์ ซึ่งยังไม่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์ของไทย และ หลายท่านก็ทำพิธีไหว้บูชาพระราหูเองที่บ้านด้วยซ้ำ และ หลังจากการไหว้ก็ยังนำเครื่องเซ่นไหว้มารับประทานด้วย นั้นเป็นการเข้าใจผิดอย่างมากเพราะในทางหลักโหราศาสตร์ไทย พระราหู เป็นตัวแทนฝ่ายบาปเคราะห์ แปลว่าสิ่งไม่ดี ถ้าเราทำพิธีไหว้ที่บ้านแล้วนำเครื่องเซ่นไหว้นั้นมารับประทานก็เท่ากับเป็นการนำสิ่งไม่ดีเข้าบ้านเข้าตัว เพราะตามหลักโหราศาสตร์ที่ถูกต้องแล้วจะต้องผ่านพิธีเทวานพเคราะห์และเครื่องเซ่นไหว้นั้นจะต้องผ่านการพลีก่อน จึงจะนำมารับประทานได้ ในพิธีกรรมนั้นจะต้องทำโดยโหรผู้รู้ ผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์จะต้องเข้าใจว่าการเรียนโหราศาสตร์นั้นมีหลายสเต็ป เหมือนกับการเรียน ป.ตรี ,ป.โท , ป.เอก ในทางโหราศาสตร์ก็จะแบ่งเป็นภาคคำนวณ ภาคพยากรณ์ และ สูงสุดคือภาคพิธีกรรม ดังนั้นการบวงสรวงเทวดานพเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ไทย จึงเป็นพิธีกรรมทางโหรชั้นสูง ซึ่งบุคคลทั่วไปไม่สามารถทำได้อย่างถูกต้อง เพราะองค์ประกอบในการทำพิธีนั้นมีมายมากหลายอย่างหลายประการ สำหรับบุคคลทั่วไปถ้าอยากไหว้บูชาพระราหูและไม่สะดวกในการเข้าร่วมพิธีก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการไปไหว้พระนอนปรางโปรดอสุรินทราหู(นอนลืมตาถ้านอนหลับตามเป็นปรางปรินิพาน ) หรือ ไปไหว้พระปรางป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นพระประจำวันพุธกลางคืน ในวาระที่พระราหูจะยกย้ายราศีครั้งนี้ ทางวัดเจ้าอามก็มีได้จัดพิธีใหญ่ในการบวงสรวงรับส่งพระราหู ก็ขอเชิญทุกท่านที่สะดวกในการไปเข้าพิธีจะเป็นสิริมงคล บารมีแก่ตัวเอง “กลับร้ายกลายดี” ในช่วงที่พระราหูยกย้ายในครั้งนี้ครับ
*คาถาบูชาเทพพระราหูทรงครุฑ ( ตั้งนะโม ๓ จบ )
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ๓ จบ )
อิติปิโส ภะคะวา พระราหูจะมัสมิง จะพุทธคุณนัง จะธัมมะคุณัง จะสังฆะคุณัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วิวัชชะเย สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
*หากสวดตามกำลังท่าน 12 จบ จะเป็นการดีมากครับ
By โหรเจมส์ พยากรณ์