จากการที่ตกหลุมของผู้กองภูริชที่ขุดไว้ดักติ่งซะลึกมาก ณ ตอนนี้ก็ยังหาทางออกไม่เจอ ย้อนดูวนไป รอบที่เท่าไหร่ก็ไม่กล้านับ (นี่คือไม่นับบางช็อต บางซีนที่กดย้อนดูซ้ำๆ) ตอนนี้ขยายผลไปถึงต้องเข้าไปหาข้อมูลเบื้องลึกในอากู๋เพิ่มเติมเพื่อ อรรถรสในการย้อนกลับมาดูใหม่ 555 เนื่องมาจากแรงบันดาลใจจากกระทู้เหล่านี้...
https://ppantip.com/topic/36606613
https://ppantip.com/topic/36696055
https://ppantip.com/topic/36688095/comment19
เลยอยากรู้ลึกต่อไปอีก ทำให้รู้ว่าอันที่จริงแล้วนายทหารเก่งๆแบบนี้นั้นมันมีอยุ่จริงแท้แน่นอน ไม่ใช่ว่าเป็นพระเอกเลยเก่ง รับมือเหล่าร้ายได้อย่างกับไม่ใช่คนนะคระ เพราะจริงๆเค้าเหล่านั้นล้วนถูกฝึกมาให้มีความเหนือคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรบค่ะ
มาเข้าเรื่องที่ผู้กองสุดหล่อต่อ คือที่ย้อนดูเลยมาเก็บรายละเอียดความเก่งกาจ ที่ผู้กองภูริชมีให้เห็นคือ
1.ยิงปืนแม่น ระดับที่เรียกว่า พลแม่นปืน พลซุ่มยิง (sniper) ในฉากวันแรกที่ต้องช่วย รมต.จาก ผู้ก่อการร้าย ผู้กองของเราซุ่มยิงระยะไกล ปังเดียวเจาะหัวผู้ก่อการร้าย ร่วงใน 1 นัด คือแม่นคอดๆ เพื่อนๆในทีมคงนึกว่า แหม่ ...ปล่อยให้ตรูเหนื่อยซะตั้งนาน( โดยเฉพาะ กรันย์ที่ต้องเหนื่อยพันตูกะคนร้ายอยู่ตอนนั้น)
สะพายปืน ซิ่งมาอย่างเท่
นอนเล็ง ก็ยังเท่
ประทับมัจจุราช

ภารกิจเสร็จสิ้น สมบูรณ์
2.นักกระโดดร่ม ชั้นสูงสุด ในชุดลายพรางที่ผู้กองใส่จะมีปีก “พรานเวหา” ติดที่แขนซ้าย ซึ่งในหน่วยกระทิง จะมีอีกคนที่ผ่านการฝึกหลักสูตรนี้ก็คือ จ่าจอนนั่นเอง เพราะมีติดเช่นกัน
เห็นว่าเป็นหลักสูตรของหน่วยรบพิเศษที่ต้องเข้าฝึกต่างหาก เพื่อเป็นการติดเขี้ยวเล็บให้กับตนเอง และผู้กองก็ได้โชว์ skill โดดร่มตอนกลางคืน(ซึ่งน่าจะยากกว่ากลางวันแน่ๆ คือแปลว่าเก่งไง555)ตอนที่จะไปปลอมเป็นมองเท เพื่อช่วยหมอจากชยิน
ถึงที่หมาย เตรียมดิ่งพสุธา


[img]
3.เป็นนายทหาร ระดับชั้นรบพิเศษ (ทหารตำรวจจะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือระดับชั้นธรรมดา กับระดับชั้นรบพิเศษ)
...ข้อมูลจาก
http://www.mayahol.com/8-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-4-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97/
เพราะว่าผ่านการฝึกหลักสูตร 2 ใน 8 ของหลักสูตร รบพิเศษที่โหดที่สุดของประเทศไทยอันได้แก่ หลักสูตร ทหารเสือราชินี และหลักสูตรการรบแบบจู่โจม(แรงเยอร์) หรือเสือคาบดาบ ซึ่งการันตีความเก่งกาจ ความอึด คนเหนือคนได้เป็นอย่างดี ไร้ข้อกังขา สมกับเป็นเขี้ยวเล็บของกองทัพบก ซึ่งก็เข้าไปดูในยูทูปมาแล้วก็บอกเลยว่า การฝึกมันโหดมาก จะผ่านได้ต้องแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้ง 2 หลักสูตรเป็นของทหารบก แต่ว่าในการฝึกคือเรียกได้ว่า มีทั้งภาคพื้นดินในเมือง ในป่า ภาคอากาศ ภาคทะเลต้องครบ เรียกว่าสะเทิ้นมาหมดค่า ซึ่งนอกจากฝึกเรื่องการใช้อาวุธ และฝึกการรบแล้วในการฝึก มีการฝึกแบกซุง เดิน วิ่ง ฝึกแบกสัมภาระ+ปืน แล้วเดิน+วิ่ง รวม น้ำหนักราวๆ 30 กก. ระยะทาง เป็นสิบๆ กม.จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้กองถึงบอกว่า หมอเบา เหมือนตุ๊กตา ไงล่ะ
มีต้องฝึกการเอาตัวไปแช่ในถังน้ำแข็งเพื่อให้สามารถทนได้กับทุกสภาพอากาศ ดังนั้น...ตอนอยู่ในป่าที่ฝนตก หมอหนาวมาก แต่ผู้กองยังชิลล์ แถมแปลงร่างเป็น heater ให้หมอเช่าอีกต่างหาก ^.^
นอกจากนี้แล้วมีอีกฉากนึงที่ผู้กองภูริชถูกยิงเฉียดหัวใจ วันนั้นผู้กองภูริช สนธิกำลังกันกับผู้กองคณินทร์ ไปจับพวกยาเสพติด เป็นตอนที่ผู้กองคณินทร์ส่งซิก ให้ผู้กองภูริชชักปืนที่เอวของผู้กองคณินทร์(เพื่อนรักแค่มองหางตากันก็เข้าใจ) แทนที่จะหยิบปืนที่ถูกบังคับให้วางลงบนพื้น เพราะมันจะช้ากว่า(ขนาดว่าเร็วยังพลาดถูกยิงเลย แหะ..) ตอนนี้แหละที่ดูตอนแรกเคยแอบสงสัยว่าเอ๊ะ..ทำไม ผู้กองถึงใช้มือซ้ายยิงปืน มาดูอีกทีก็ถึงบางอ้อ เหตุผลก็คือ ปืนที่เอวของผู้กองคณินทร์ขณะนั้นจะอยู่ตำแหน่งซ้ายมือของผู้กองภูริชพอดีเพราะยืนอยู่ด้านซ้าย เพื่อความรวดเร็วจึงต้องใช้มือซ้ายชักปืนแทน
ประเด็นก็คือจะบอกว่าผู้กองภูริชมีความเก่งกาจ สามารถใช้ถนัดทั้งสองมือในการยิงปืนแบบแม่นๆนั่นเอง 555 อวยกันเว่อร์ๆยังงี้นี่แหละ
ต่อมาสุดท้ายก็คือโดนระเบิดระยะประชิดขนาดนั้น แต่รอดมาได้ นอกเหนือจากดวงยังไม่ถึงที่ตายแล้ว เหตุผลก็คงมาจากการฝึกฝน จนร่างกายมีความแข็งแกร่ง ฟื้นตัวได้เร็ว หนังเหนียวเกิ๊นนน
.....เวิ่นเว้อมาก็พอประมาณ ....จึงขอจบความเวิ่นเว้อ ประจำวันไว้ด้วยประการฉะนี้.....
ปล.เดี๋ยวจะรีบไปศึกษาความเก่งกาจของผู้กองคณินทร์ต่อ ใกล้วันศุกร์ละ เดี๋ยวไม่ทัน

ควันหลง..ภารกิจรัก/เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน....ว่าด้วยเรื่อง ความเก่งกาจของผู้กองภูริช แห่งกองทัพไทย
https://ppantip.com/topic/36606613
https://ppantip.com/topic/36696055
https://ppantip.com/topic/36688095/comment19
เลยอยากรู้ลึกต่อไปอีก ทำให้รู้ว่าอันที่จริงแล้วนายทหารเก่งๆแบบนี้นั้นมันมีอยุ่จริงแท้แน่นอน ไม่ใช่ว่าเป็นพระเอกเลยเก่ง รับมือเหล่าร้ายได้อย่างกับไม่ใช่คนนะคระ เพราะจริงๆเค้าเหล่านั้นล้วนถูกฝึกมาให้มีความเหนือคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการรบค่ะ
มาเข้าเรื่องที่ผู้กองสุดหล่อต่อ คือที่ย้อนดูเลยมาเก็บรายละเอียดความเก่งกาจ ที่ผู้กองภูริชมีให้เห็นคือ
1.ยิงปืนแม่น ระดับที่เรียกว่า พลแม่นปืน พลซุ่มยิง (sniper) ในฉากวันแรกที่ต้องช่วย รมต.จาก ผู้ก่อการร้าย ผู้กองของเราซุ่มยิงระยะไกล ปังเดียวเจาะหัวผู้ก่อการร้าย ร่วงใน 1 นัด คือแม่นคอดๆ เพื่อนๆในทีมคงนึกว่า แหม่ ...ปล่อยให้ตรูเหนื่อยซะตั้งนาน( โดยเฉพาะ กรันย์ที่ต้องเหนื่อยพันตูกะคนร้ายอยู่ตอนนั้น)
2.นักกระโดดร่ม ชั้นสูงสุด ในชุดลายพรางที่ผู้กองใส่จะมีปีก “พรานเวหา” ติดที่แขนซ้าย ซึ่งในหน่วยกระทิง จะมีอีกคนที่ผ่านการฝึกหลักสูตรนี้ก็คือ จ่าจอนนั่นเอง เพราะมีติดเช่นกัน
เห็นว่าเป็นหลักสูตรของหน่วยรบพิเศษที่ต้องเข้าฝึกต่างหาก เพื่อเป็นการติดเขี้ยวเล็บให้กับตนเอง และผู้กองก็ได้โชว์ skill โดดร่มตอนกลางคืน(ซึ่งน่าจะยากกว่ากลางวันแน่ๆ คือแปลว่าเก่งไง555)ตอนที่จะไปปลอมเป็นมองเท เพื่อช่วยหมอจากชยิน
3.เป็นนายทหาร ระดับชั้นรบพิเศษ (ทหารตำรวจจะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือระดับชั้นธรรมดา กับระดับชั้นรบพิเศษ)
...ข้อมูลจาก http://www.mayahol.com/8-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-4-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97/
เพราะว่าผ่านการฝึกหลักสูตร 2 ใน 8 ของหลักสูตร รบพิเศษที่โหดที่สุดของประเทศไทยอันได้แก่ หลักสูตร ทหารเสือราชินี และหลักสูตรการรบแบบจู่โจม(แรงเยอร์) หรือเสือคาบดาบ ซึ่งการันตีความเก่งกาจ ความอึด คนเหนือคนได้เป็นอย่างดี ไร้ข้อกังขา สมกับเป็นเขี้ยวเล็บของกองทัพบก ซึ่งก็เข้าไปดูในยูทูปมาแล้วก็บอกเลยว่า การฝึกมันโหดมาก จะผ่านได้ต้องแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้ง 2 หลักสูตรเป็นของทหารบก แต่ว่าในการฝึกคือเรียกได้ว่า มีทั้งภาคพื้นดินในเมือง ในป่า ภาคอากาศ ภาคทะเลต้องครบ เรียกว่าสะเทิ้นมาหมดค่า ซึ่งนอกจากฝึกเรื่องการใช้อาวุธ และฝึกการรบแล้วในการฝึก มีการฝึกแบกซุง เดิน วิ่ง ฝึกแบกสัมภาระ+ปืน แล้วเดิน+วิ่ง รวม น้ำหนักราวๆ 30 กก. ระยะทาง เป็นสิบๆ กม.จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมผู้กองถึงบอกว่า หมอเบา เหมือนตุ๊กตา ไงล่ะ
มีต้องฝึกการเอาตัวไปแช่ในถังน้ำแข็งเพื่อให้สามารถทนได้กับทุกสภาพอากาศ ดังนั้น...ตอนอยู่ในป่าที่ฝนตก หมอหนาวมาก แต่ผู้กองยังชิลล์ แถมแปลงร่างเป็น heater ให้หมอเช่าอีกต่างหาก ^.^
นอกจากนี้แล้วมีอีกฉากนึงที่ผู้กองภูริชถูกยิงเฉียดหัวใจ วันนั้นผู้กองภูริช สนธิกำลังกันกับผู้กองคณินทร์ ไปจับพวกยาเสพติด เป็นตอนที่ผู้กองคณินทร์ส่งซิก ให้ผู้กองภูริชชักปืนที่เอวของผู้กองคณินทร์(เพื่อนรักแค่มองหางตากันก็เข้าใจ) แทนที่จะหยิบปืนที่ถูกบังคับให้วางลงบนพื้น เพราะมันจะช้ากว่า(ขนาดว่าเร็วยังพลาดถูกยิงเลย แหะ..) ตอนนี้แหละที่ดูตอนแรกเคยแอบสงสัยว่าเอ๊ะ..ทำไม ผู้กองถึงใช้มือซ้ายยิงปืน มาดูอีกทีก็ถึงบางอ้อ เหตุผลก็คือ ปืนที่เอวของผู้กองคณินทร์ขณะนั้นจะอยู่ตำแหน่งซ้ายมือของผู้กองภูริชพอดีเพราะยืนอยู่ด้านซ้าย เพื่อความรวดเร็วจึงต้องใช้มือซ้ายชักปืนแทน
ประเด็นก็คือจะบอกว่าผู้กองภูริชมีความเก่งกาจ สามารถใช้ถนัดทั้งสองมือในการยิงปืนแบบแม่นๆนั่นเอง 555 อวยกันเว่อร์ๆยังงี้นี่แหละ
ต่อมาสุดท้ายก็คือโดนระเบิดระยะประชิดขนาดนั้น แต่รอดมาได้ นอกเหนือจากดวงยังไม่ถึงที่ตายแล้ว เหตุผลก็คงมาจากการฝึกฝน จนร่างกายมีความแข็งแกร่ง ฟื้นตัวได้เร็ว หนังเหนียวเกิ๊นนน
.....เวิ่นเว้อมาก็พอประมาณ ....จึงขอจบความเวิ่นเว้อ ประจำวันไว้ด้วยประการฉะนี้.....
ปล.เดี๋ยวจะรีบไปศึกษาความเก่งกาจของผู้กองคณินทร์ต่อ ใกล้วันศุกร์ละ เดี๋ยวไม่ทัน