**Update ข้อมูล สิงหาคม 2561**
1. การบินไทย (เที่ยวบิน TGxxx 3 หลัก) ยินดีต้อนรับสุนัขและแมว โหลดใต้ท้องเครื่องบิน (AVIH) โดยต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทางอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเพื่อส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา
หากแจ้งกระชั้นชิดน้อยกว่า 48 ชั่วโมงจะไม่รับเรื่องใดๆ จะต้องดำเนินการส่งแบบคาร์โก้ ติดต่อได้ที่ Cargo การบินไทย ภายในประเทศ โดยปกติจะปิดรับสินค้าราว 100 นาที (1.40 ชั่วโมง) ก่อนเวลาออกเดินทาง ไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่ต้องไปส่งก่อนเวลาปิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะชั่งน้ำหนัก วัดขนาดกว้างxยาวxสูง ของbox สำหรับ ชิวาว่า น้ำหนักรวม box ราว 5.4 กิโลกรัม บิน สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ โดนไป 327 บาท เมื่อถึงเชียงใหม่ต้องไปรับที่ Cargo
***สรุปคือ ถ้าจองล่วงหน้า แจ้งก่อน 48 ชั่วโมง ยังไงก็สบายที่สุดครับ ส่งที่เคาน์เตอร์เช็คอิน รับที่สายพาน** (ไทยสมายล์ ไม่รับสิ่งมีชีวิตโหลดใต้ท้องเครื่อง)
2. บางกอกแอร์เวย์ส ผู้เดินทางจะต้องโทรศัพท์สอบถามกับ 1771 ก่อนทำการจอง ว่าเที่ยวบินไหนที่สามารถโหลดสุนัขเดินทางได้บ้าง แล้วถึงค่อยทำการจอง
**กรณีจองไปเองก่อนแล้วโดยไม่ตรวจสอบก่อน หากเที่ยวบินที่จองนั้นไม่สามารถโหลดสุนัขได้ จะต้องเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ไปเที่ยวบินที่โหลดได้ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม** เมื่อทำการจองเสร็จโทรกลับมาแจ้งกับ 1771 เพื่อยืนยันว่าจะโหลดสุนัข โดยปกติเจ้าหน้าที่อาจเสนอออฟชั่น เพิ่มน้ำหนักสัมภาระพิเศษ ก็สามารถชำระไปได้เลยครับ
ในกรณีที่ใกล้วันเดินทางมีเหตุ Aircraft Change เปลี่ยนเครื่องบินเป็นแบบที่โหลดสุนัขไม่ได้
เข้าใจว่าปกติ สายการบินจะต้องเป็นคนรับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงเทีย่วบินให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะเราได้แจ้งล่วงหน้าไปแล้วภายหลังจากที่ตรวจสอบว่าเที่ยวบินที่จะทำจอง รับสุนัขได้ และแจ้งกับ 1771 หลังจองทันทีแล้ว เพียงแต่ว่าจะเสียเวลาเรามาก แพลนทริปอาจต้องเปลี่ยนแปลง อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนครับ ตัวอย่างเช่น เที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ บินวันละหลายเที่ยว แต่อาจมีแค่ 1-2 เที่ยวบินที่รับสุนัขได้ เป็นต้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในกระทู้นี้ ผมขอชมทั้งสองสายการบินเลยครับ กับ
บางกอกแอร์เวย์ส ที่แสดงความรับผิดชอบได้ดีมาก พยายามจัดการปัญหาให้สมูทที่สุด (เท่าที่เขาจะทำได้ละ) และการบริการที่ดีเสมอต้นเสมอปลายของ
การบินไทย ที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องเสมอครับ
ปัจจุบัน ในประเทศไทย มี 3 สายการบิน ที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องบิน และสามารถเดินทางไปพร้อมกันกับผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกันได้
นั่นก็คือ
การบินไทย (TG) และ
บางกอกแอร์เวย์ส (PG) ที่สุวรรณภูมิ
กับ
นกแอร์ (DD) ที่ดอนเมือง
(ส่วนสายการบินอื่นไม่รับสิ่งมีชีวิตโหลดใต้ท้องเครื่องบิน)
แต่เดิมที การบินไทยเคยอนุญาตให้สุนัขที่มีน้ำหนักรวมกรง ไม่เกิน 10 กิโลกรัม สามารถขึ้นบนเคบินได้
(โค๊ด PETC จ่ายเงินค่าระวางแล้วหิ้วกระเป๋าสุนัขขึ้นเครื่องได้ ---- ที่เอาขึ้นนี่ไม่ได้แปลว่าขึ้นฟรีๆ นะครับ เสียเงินเอาขึ้นเหมือนกัน)
แต่นับจากมีมนุษย์สายอวด เอาเจ้าสัตว์หน้าขน ออกมาโชว์ตัวบนถาดที่นั่งหรือตัก กลัวผู้โดยสารคนอื่นไม่เห็นว่ามีหมามาด้วย
การบินไทยจึงถูกผู้โดยสารคนอื่นร้องเรียน (เหตุจากผู้โดยสารแพ้ขนสัตว์ เป็นเรื่องใหญ่เลย)
และในที่สุด ตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา สุนัขทุกตัวก็ต้องไปอยู่ใต้ท้องเครื่องบินเหมือนกันหมดนั่นเองครับ
ขึ้นไทม์เมชชีนไปเผือกกันได้ที่กระทู้นี้ ร้อนแรงสุดๆ
https://ppantip.com/topic/30912560
ตัวผมเองก็ค่อนข้างลำบากใจ เพราะคนข้างๆ ตัวผม นางเริ่มวิตกว่า ชิวาว่าวัย 8 ปีจะยังบินไหวไหมหนอ เพราะต้องโหลดใต้ท้องเครื่องสถานเดียว ในช่วงหลังๆ ผมจึงเลือกเดินทางโดยรถยนต์ ยอมขับรถยนต์ ยิงยาว เชียงใหม่-กรุงเทพ ขาละ 8.30 ชั่วโมง เพราะด้วยมีสุนัขไปด้วย ระหว่างนั้นก็ใช้เวลาค่อยๆกล่อมไปครับ 555
จริงๆ ผมก็ไว้ใจการบริการของการบินไทยครับ ช่วงหน้าร้อนเคยเห็นโพสต์หนึ่ง พี่ๆ ภาคพื้นก็พยายามช่วยดูแลบรรดาหมาๆ เป็นอย่างดี
และการบินไทยเองก็มีประสบการณ์ด้านนี้สูง ขนาดแพนด้ายังขนได้ หมาๆ แมวๆ ถ้าสัตว์เลี้ยงสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์พร้อม ไม่ใช่สายพันธุ์ต้องห้ามก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
(ทั้งนี้มีสุนัข 25 สายพันธุ์ การบินไทยไม่รับครับ ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เพราะมีความเสี่ยงสูง
โอกาสจะ heat stroke มีสูง และผมก็เคยรับเคสเองกับมือครับ สมัยปี 2551 พ่อพันธุ์บูลด๊อก เสียบปรอททะลุ หมอหมาเอาไม่อยู่จริงครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้25 สายพันธุ์ ที่ทาง THAI Airways ไม่รับขนส่ง
American Bulldog
American Staffordshire Terrier
American Pit Bull Terrier
Boston Terrier
Boxer
Brussels Griffin
Bulldog
Chinese Pug
Chow Chow
Dutch Pug
English Bulldog
English Toy Spaniel
English Toy Spaniel
French Bulldog
Lhasa Apso
Japanese Boxer
Japanese Pug
Japanese Spaniel (Chin)
Mastiff (All Breeds)
Pekinese
Pit Bull
Pug
Shar Pei
Shih Tzu
Staffordshire Bull Terrier
Tibetan Spaniel
กรณีโหลดใต้ท้องเครื่องแบบคาร์โก้ (ผู้โดยสารไม่ได้เดินทางไปพร้อมสุนัข)
สามารถเตรียมตัวสุนัขตามคลิ๊ปนี้ได้เลยครับ
(สามารถ รับ-ส่งสุนัขที่อาคารคาร์โก้ สุวรรณภูมิ / เชียงใหม่ / ภูเก็ต)
เฉพาะเที่ยวบินของการบินไทย (TG) เท่านั้นที่ต้อนรับสุนัข
ส่วนเที่ยวบิน
ไทยสมายล์ (WE) ไม่รับสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องครับ
และด้วยเหตุจำเป็น ในการเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกบินกับ บางกอกแอร์เวย์ส โปรโมชั่น 790 บาท Happy Hours นั่นหล่ะครับ
เหตุผลเพราะเรื่องราคา และจริงๆ เจ้าชิวาว่าตัวนี้ ก็เคยบินกับบางกอกแอร์เวย์สไปสมุยมาแล้ว ถึง 2 รอบ (เมื่อสมัยยังเด็กๆ ปี 2553)
และได้รับการบริการที่ดีจากบางกอกแอร์เวย์ส แม้ค่าโหลดในสมัยนั้นคิดกิโลกรัมละ 55 บาท/ขา และปัจจุบันขึ้นมาเป็น 90 บาทก็ตาม
น้ำหนักสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องบิน (AVIH)
ไม่รวมในน้ำหนักสัมภาระปกติ ต้องจ่ายเงินเพิ่มเองครับ
เรื่องสำคัญ ... ถ้าคิดจะพาสุนัขขึ้นเครื่องบางกอกแอร์เวย์ส
http://www.bangkokair.com/tha/pages/view/animals-on-board
1. บางกอกแอร์เวย์ส มีข้อจำกัดในการรับสุนัข
สูงสุด 2 ตัวต่อเที่ยวบิน เฉพาะเส้นทาง สุวรรณภูมิ สู่/จาก เชียงใหม่ ภูเก็ต และ เกาะสมุย
รวมถึงเส้นทางที่ใช้เครื่องบิน ATR72 (สุโขทัย / ตราด / ลำปาง / ภูเก็ต-หาดใหญ่ / ภูเก็ต-อู่ตะเภา / เกาะสมุย-อู่ตะเภา / เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เป็นต้น)
2. กรณีจะนำสุนัขขึ้นเครื่อง ต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ 1771 (หรือ 02-2706699) หรือสำนักงานบางกอกแอร์เวย์ส อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ง่ายๆ คือ ถ้าก่อนจอง หรือทำจองเสร็จแล้ว รีบโทรถามเขาหรือแจ้งเขาไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ เลยครับ
กรณีจะโทร หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ แนะนำให้โทรในช่วงเวลาทำการคือ 10.00-16.00 น. จันทร์-ศุกร์
เพราะเจ้าหน้าที่ Call Center จะสามารถโอนสายไปหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ได้ครับ
ถ้าโทรนอกเวลาทำการ แม้ Call Center จะเปิด 24 ชั่วโมงก็ตาม จนท.จะไม่มีข้อมูลใดๆ เสียเวลารอสายฟรีๆ ครับ เหอๆ
3. ด้วยเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่า ตั้งแต่ผ่านยุคข้าวยากหมากแพงมา (ปี 2552 ยุคอาหารถุง เป็นต้นมา)
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นสายการบินแทบจะหนึ่งเดียวในไทย ที่นิยมซื้อเครื่องบินมือสอง และมือสามมาใช้งานต่อเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เครื่องบินลำที่จะสามารถโหลดสุนัขใต้ท้องเครื่องบินได้ ก็จะมีแต่พวกรุ่นป้ายแดง ที่สั่งซื้อ-รับมอบช่วงปี 2547-2551 (แบบมือ 1 จากตูลูส)
อาทิเช่น แอร์บัส A320 ทะเบียน HS-PGU (กุ้ยหลิน) PGV (กระบี่) PGW (ปลาวาฬสมุย)
แอร์บัส A319 กลุ่มที่มี Business Class คือ HS-PGX PGY PGZ PGN และ A319 แบบ All Economy ป้ายแดงในยุคนั้นคือ HS-PGT กับ HS-PPA ซึ่งตั้งแต่ HS-PPB เป็นต้นไปไปจะเป็นเครื่องมือสอง มือสาม ส่วนใหญ่ไม่ได้พร้อมกับการต้อนรับสุนัขใต้ท้องเครื่องบิน นั่นเองครับ
และเครื่องบิน A319/A320 ทุกลำก็ใช้วนๆ เวียนๆ กันในทุกเส้นทาง จึงค่อนข้างกะเกณฑ์ยากว่า เที่ยวบินไหนจะรับสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ได้
สำหรับเที่ยวบินที่บินด้วย ATR72 ของบางกอกแอร์เวย์ส ทุกเส้นทาง สามารถโหลดสุนัขได้ครับ
(สมัยเรียน ผมเคยโหลดนังแตงกวาบิน ดอนเมือง-สุโขทัย-เชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2548 ตอนนี้ลงหลุมกลับบ้านเก่าไปเกิดเป็นตัวอะไรแล้วก็ไม่รู้)
ตรงกันข้ามกับของนกแอร์ ที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงเฉพาะเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 เท่านั้น (เที่ยวบิน ATR72 กับ Q400 ไม่รับสัตว์เลี้ยง)
4. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า ...
เที่ยวบินไหน สามารถรับสุนัขได้บ้าง? ก็จะสามารถทำจองเที่ยวบินนั้นๆ ได้ครับ
แต่ !! ก็ไม่ได้การันตีว่า จะมี Aircraft change ก่อนบิน อะไรก็เกิดขึ้นได้กับสายการบินครับ เปลี่ยนแปลงแบบเครื่องบินกระทันหัน เราก็ทำใจไป
5. เจ้าหน้าที่ จะแนะนำให้ซื้อ
น้ำหนักสัมภาระล่วงหน้า 5 กิโลกรัม ราคา 300 บาท รอไว้ก่อน
ซึ่งเจ้าน้ำหนักนี้ สามารถใช้กับน้ำหนักสุนัขได้ครับ น้ำหนักส่วนเกิน ตั้งแต่ 5 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถไปชำระหน้างานตอนเช็คอินได้เลย
สำหรับ
อัตราค่าบริการโหลดสัตว์เลี้ยงใต้ท้องเครื่อง (AVIH) คิดน้ำหนักสุนัขรวมกรง ชั่งพร้อมกัน
บางกอกแอร์เวย์ เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ไป หรือ กลับ คิด
90 บาท/กิโลกรัม
(เพิ่งปรับขึ้นราคาจาก 80 บาทเมื่อ 1 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา)
การบินไทย เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ไป หรือ กลับ คิด
60 บาท/กิโลกรัม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เคสของผมคือ ...
ผมทำจองในวันที่ 28 มิถุนายน 2560 ซึ่งในวันนั้น Happy Hour 790 บาท เป็นเวลา 18.00-24.00 น.
ผมก็โทรไปเช็คกับ 1771 รอสายอยู่เกือบ 20 นาที (เข้าใจว่าเป็นช่วงโปรโมชั่นหล่ะครับ)
จริงๆ จะไปเช็คแค่ว่าราคาค่าโหลดเท่าไหร่ แต่ จนท. ให้ข้อมูลอะไรไม่ได้เลย
ได้แต่แจ้งว่า ให้โทรกลับมาใหม่เวลาทำการ 9.00 น.
ผมก็เลย อ๊ะ วัดดวงจองไปก่อนแล้วกัน ก็เลยซัดไปเรียบร้อยดังนี้ครับ บิน 2 คน เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ จ่ายไป 1580 บาท
ในเช้าวันรุ่งขึ้น 29 มิถุนายน 2560 เวลา 9 โมงเป๊งงง ตามนัด ผมก็โทรไป 1771 ทันที
จนท. เหมือนจะยังไม่เข้างานครับ รอสายนานมากกกก ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าถ้ายังไม่มา นัดลูกค้าซัก 10 โมงก็ได้นะ
พอเจ้าหน้าที่สาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับสาย นางก็บอกว่า ต้องขอเวลาเช็คก่อนนะ แล้วจะโทรกลับ
(ตัวผมก็ถามต่อเลยว่าถ้าเกิดรับไม่ได้จะทำอย่างไรต่อ ให้นางเตรียมคำตอบให้พร้อมนะ เพราะพยายามโทรเช็คล๊ะเมื่อคืน แต่ Call Center ตอบไม่ได้) ผ่านไป 10 นาทีนางโทรกลับมาว่า เที่ยวบินที่จองไว้ สามารถรับสุนัขได้ นางใส่ request ลงไปในบุ๊กกิ้งให้เรียบร้อยดีครับ
ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร เตรียมตัวรอบินกันไป ....
[CR] พาสุนัขขึ้นเครื่องบิน : จองตั๋ว บางกอกแอร์เวย์ส ได้ย้ายไปบิน การบินไทย แอร์บัส A350 !! (เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ)
**Update ข้อมูล สิงหาคม 2561**
1. การบินไทย (เที่ยวบิน TGxxx 3 หลัก) ยินดีต้อนรับสุนัขและแมว โหลดใต้ท้องเครื่องบิน (AVIH) โดยต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทางอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเพื่อส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา หากแจ้งกระชั้นชิดน้อยกว่า 48 ชั่วโมงจะไม่รับเรื่องใดๆ จะต้องดำเนินการส่งแบบคาร์โก้ ติดต่อได้ที่ Cargo การบินไทย ภายในประเทศ โดยปกติจะปิดรับสินค้าราว 100 นาที (1.40 ชั่วโมง) ก่อนเวลาออกเดินทาง ไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่ต้องไปส่งก่อนเวลาปิด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะชั่งน้ำหนัก วัดขนาดกว้างxยาวxสูง ของbox สำหรับ ชิวาว่า น้ำหนักรวม box ราว 5.4 กิโลกรัม บิน สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ โดนไป 327 บาท เมื่อถึงเชียงใหม่ต้องไปรับที่ Cargo ***สรุปคือ ถ้าจองล่วงหน้า แจ้งก่อน 48 ชั่วโมง ยังไงก็สบายที่สุดครับ ส่งที่เคาน์เตอร์เช็คอิน รับที่สายพาน** (ไทยสมายล์ ไม่รับสิ่งมีชีวิตโหลดใต้ท้องเครื่อง)
2. บางกอกแอร์เวย์ส ผู้เดินทางจะต้องโทรศัพท์สอบถามกับ 1771 ก่อนทำการจอง ว่าเที่ยวบินไหนที่สามารถโหลดสุนัขเดินทางได้บ้าง แล้วถึงค่อยทำการจอง **กรณีจองไปเองก่อนแล้วโดยไม่ตรวจสอบก่อน หากเที่ยวบินที่จองนั้นไม่สามารถโหลดสุนัขได้ จะต้องเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ไปเที่ยวบินที่โหลดได้ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม** เมื่อทำการจองเสร็จโทรกลับมาแจ้งกับ 1771 เพื่อยืนยันว่าจะโหลดสุนัข โดยปกติเจ้าหน้าที่อาจเสนอออฟชั่น เพิ่มน้ำหนักสัมภาระพิเศษ ก็สามารถชำระไปได้เลยครับ
ในกรณีที่ใกล้วันเดินทางมีเหตุ Aircraft Change เปลี่ยนเครื่องบินเป็นแบบที่โหลดสุนัขไม่ได้
เข้าใจว่าปกติ สายการบินจะต้องเป็นคนรับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงเทีย่วบินให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะเราได้แจ้งล่วงหน้าไปแล้วภายหลังจากที่ตรวจสอบว่าเที่ยวบินที่จะทำจอง รับสุนัขได้ และแจ้งกับ 1771 หลังจองทันทีแล้ว เพียงแต่ว่าจะเสียเวลาเรามาก แพลนทริปอาจต้องเปลี่ยนแปลง อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนครับ ตัวอย่างเช่น เที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ บินวันละหลายเที่ยว แต่อาจมีแค่ 1-2 เที่ยวบินที่รับสุนัขได้ เป็นต้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในกระทู้นี้ ผมขอชมทั้งสองสายการบินเลยครับ กับ บางกอกแอร์เวย์ส ที่แสดงความรับผิดชอบได้ดีมาก พยายามจัดการปัญหาให้สมูทที่สุด (เท่าที่เขาจะทำได้ละ) และการบริการที่ดีเสมอต้นเสมอปลายของ การบินไทย ที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องเสมอครับ
ปัจจุบัน ในประเทศไทย มี 3 สายการบิน ที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องบิน และสามารถเดินทางไปพร้อมกันกับผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกันได้
นั่นก็คือ การบินไทย (TG) และ บางกอกแอร์เวย์ส (PG) ที่สุวรรณภูมิ
กับ นกแอร์ (DD) ที่ดอนเมือง (ส่วนสายการบินอื่นไม่รับสิ่งมีชีวิตโหลดใต้ท้องเครื่องบิน)
แต่เดิมที การบินไทยเคยอนุญาตให้สุนัขที่มีน้ำหนักรวมกรง ไม่เกิน 10 กิโลกรัม สามารถขึ้นบนเคบินได้
(โค๊ด PETC จ่ายเงินค่าระวางแล้วหิ้วกระเป๋าสุนัขขึ้นเครื่องได้ ---- ที่เอาขึ้นนี่ไม่ได้แปลว่าขึ้นฟรีๆ นะครับ เสียเงินเอาขึ้นเหมือนกัน)
แต่นับจากมีมนุษย์สายอวด เอาเจ้าสัตว์หน้าขน ออกมาโชว์ตัวบนถาดที่นั่งหรือตัก กลัวผู้โดยสารคนอื่นไม่เห็นว่ามีหมามาด้วย
การบินไทยจึงถูกผู้โดยสารคนอื่นร้องเรียน (เหตุจากผู้โดยสารแพ้ขนสัตว์ เป็นเรื่องใหญ่เลย)
และในที่สุด ตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา สุนัขทุกตัวก็ต้องไปอยู่ใต้ท้องเครื่องบินเหมือนกันหมดนั่นเองครับ
ขึ้นไทม์เมชชีนไปเผือกกันได้ที่กระทู้นี้ ร้อนแรงสุดๆ https://ppantip.com/topic/30912560
ตัวผมเองก็ค่อนข้างลำบากใจ เพราะคนข้างๆ ตัวผม นางเริ่มวิตกว่า ชิวาว่าวัย 8 ปีจะยังบินไหวไหมหนอ เพราะต้องโหลดใต้ท้องเครื่องสถานเดียว ในช่วงหลังๆ ผมจึงเลือกเดินทางโดยรถยนต์ ยอมขับรถยนต์ ยิงยาว เชียงใหม่-กรุงเทพ ขาละ 8.30 ชั่วโมง เพราะด้วยมีสุนัขไปด้วย ระหว่างนั้นก็ใช้เวลาค่อยๆกล่อมไปครับ 555
จริงๆ ผมก็ไว้ใจการบริการของการบินไทยครับ ช่วงหน้าร้อนเคยเห็นโพสต์หนึ่ง พี่ๆ ภาคพื้นก็พยายามช่วยดูแลบรรดาหมาๆ เป็นอย่างดี
และการบินไทยเองก็มีประสบการณ์ด้านนี้สูง ขนาดแพนด้ายังขนได้ หมาๆ แมวๆ ถ้าสัตว์เลี้ยงสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์พร้อม ไม่ใช่สายพันธุ์ต้องห้ามก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ (ทั้งนี้มีสุนัข 25 สายพันธุ์ การบินไทยไม่รับครับ ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เพราะมีความเสี่ยงสูง
โอกาสจะ heat stroke มีสูง และผมก็เคยรับเคสเองกับมือครับ สมัยปี 2551 พ่อพันธุ์บูลด๊อก เสียบปรอททะลุ หมอหมาเอาไม่อยู่จริงครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กรณีโหลดใต้ท้องเครื่องแบบคาร์โก้ (ผู้โดยสารไม่ได้เดินทางไปพร้อมสุนัข)
สามารถเตรียมตัวสุนัขตามคลิ๊ปนี้ได้เลยครับ (สามารถ รับ-ส่งสุนัขที่อาคารคาร์โก้ สุวรรณภูมิ / เชียงใหม่ / ภูเก็ต)
เฉพาะเที่ยวบินของการบินไทย (TG) เท่านั้นที่ต้อนรับสุนัข
ส่วนเที่ยวบิน ไทยสมายล์ (WE) ไม่รับสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องครับ
และด้วยเหตุจำเป็น ในการเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกบินกับ บางกอกแอร์เวย์ส โปรโมชั่น 790 บาท Happy Hours นั่นหล่ะครับ
เหตุผลเพราะเรื่องราคา และจริงๆ เจ้าชิวาว่าตัวนี้ ก็เคยบินกับบางกอกแอร์เวย์สไปสมุยมาแล้ว ถึง 2 รอบ (เมื่อสมัยยังเด็กๆ ปี 2553)
และได้รับการบริการที่ดีจากบางกอกแอร์เวย์ส แม้ค่าโหลดในสมัยนั้นคิดกิโลกรัมละ 55 บาท/ขา และปัจจุบันขึ้นมาเป็น 90 บาทก็ตาม
น้ำหนักสัตว์เลี้ยงโหลดใต้ท้องเครื่องบิน (AVIH) ไม่รวมในน้ำหนักสัมภาระปกติ ต้องจ่ายเงินเพิ่มเองครับ
เรื่องสำคัญ ... ถ้าคิดจะพาสุนัขขึ้นเครื่องบางกอกแอร์เวย์ส
http://www.bangkokair.com/tha/pages/view/animals-on-board
1. บางกอกแอร์เวย์ส มีข้อจำกัดในการรับสุนัข สูงสุด 2 ตัวต่อเที่ยวบิน เฉพาะเส้นทาง สุวรรณภูมิ สู่/จาก เชียงใหม่ ภูเก็ต และ เกาะสมุย
รวมถึงเส้นทางที่ใช้เครื่องบิน ATR72 (สุโขทัย / ตราด / ลำปาง / ภูเก็ต-หาดใหญ่ / ภูเก็ต-อู่ตะเภา / เกาะสมุย-อู่ตะเภา / เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เป็นต้น)
2. กรณีจะนำสุนัขขึ้นเครื่อง ต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ 1771 (หรือ 02-2706699) หรือสำนักงานบางกอกแอร์เวย์ส อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ง่ายๆ คือ ถ้าก่อนจอง หรือทำจองเสร็จแล้ว รีบโทรถามเขาหรือแจ้งเขาไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ เลยครับ
กรณีจะโทร หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ แนะนำให้โทรในช่วงเวลาทำการคือ 10.00-16.00 น. จันทร์-ศุกร์
เพราะเจ้าหน้าที่ Call Center จะสามารถโอนสายไปหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ได้ครับ
ถ้าโทรนอกเวลาทำการ แม้ Call Center จะเปิด 24 ชั่วโมงก็ตาม จนท.จะไม่มีข้อมูลใดๆ เสียเวลารอสายฟรีๆ ครับ เหอๆ
3. ด้วยเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่า ตั้งแต่ผ่านยุคข้าวยากหมากแพงมา (ปี 2552 ยุคอาหารถุง เป็นต้นมา)
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นสายการบินแทบจะหนึ่งเดียวในไทย ที่นิยมซื้อเครื่องบินมือสอง และมือสามมาใช้งานต่อเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เครื่องบินลำที่จะสามารถโหลดสุนัขใต้ท้องเครื่องบินได้ ก็จะมีแต่พวกรุ่นป้ายแดง ที่สั่งซื้อ-รับมอบช่วงปี 2547-2551 (แบบมือ 1 จากตูลูส)
อาทิเช่น แอร์บัส A320 ทะเบียน HS-PGU (กุ้ยหลิน) PGV (กระบี่) PGW (ปลาวาฬสมุย)
แอร์บัส A319 กลุ่มที่มี Business Class คือ HS-PGX PGY PGZ PGN และ A319 แบบ All Economy ป้ายแดงในยุคนั้นคือ HS-PGT กับ HS-PPA ซึ่งตั้งแต่ HS-PPB เป็นต้นไปไปจะเป็นเครื่องมือสอง มือสาม ส่วนใหญ่ไม่ได้พร้อมกับการต้อนรับสุนัขใต้ท้องเครื่องบิน นั่นเองครับ
และเครื่องบิน A319/A320 ทุกลำก็ใช้วนๆ เวียนๆ กันในทุกเส้นทาง จึงค่อนข้างกะเกณฑ์ยากว่า เที่ยวบินไหนจะรับสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ได้
สำหรับเที่ยวบินที่บินด้วย ATR72 ของบางกอกแอร์เวย์ส ทุกเส้นทาง สามารถโหลดสุนัขได้ครับ
(สมัยเรียน ผมเคยโหลดนังแตงกวาบิน ดอนเมือง-สุโขทัย-เชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2548 ตอนนี้ลงหลุมกลับบ้านเก่าไปเกิดเป็นตัวอะไรแล้วก็ไม่รู้)
ตรงกันข้ามกับของนกแอร์ ที่ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงเฉพาะเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 เท่านั้น (เที่ยวบิน ATR72 กับ Q400 ไม่รับสัตว์เลี้ยง)
4. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า ... เที่ยวบินไหน สามารถรับสุนัขได้บ้าง? ก็จะสามารถทำจองเที่ยวบินนั้นๆ ได้ครับ
แต่ !! ก็ไม่ได้การันตีว่า จะมี Aircraft change ก่อนบิน อะไรก็เกิดขึ้นได้กับสายการบินครับ เปลี่ยนแปลงแบบเครื่องบินกระทันหัน เราก็ทำใจไป
5. เจ้าหน้าที่ จะแนะนำให้ซื้อน้ำหนักสัมภาระล่วงหน้า 5 กิโลกรัม ราคา 300 บาท รอไว้ก่อน
ซึ่งเจ้าน้ำหนักนี้ สามารถใช้กับน้ำหนักสุนัขได้ครับ น้ำหนักส่วนเกิน ตั้งแต่ 5 กิโลกรัมขึ้นไป สามารถไปชำระหน้างานตอนเช็คอินได้เลย
สำหรับ อัตราค่าบริการโหลดสัตว์เลี้ยงใต้ท้องเครื่อง (AVIH) คิดน้ำหนักสุนัขรวมกรง ชั่งพร้อมกัน
บางกอกแอร์เวย์ เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ไป หรือ กลับ คิด 90 บาท/กิโลกรัม
(เพิ่งปรับขึ้นราคาจาก 80 บาทเมื่อ 1 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา)
การบินไทย เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ไป หรือ กลับ คิด 60 บาท/กิโลกรัม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เคสของผมคือ ...
ผมทำจองในวันที่ 28 มิถุนายน 2560 ซึ่งในวันนั้น Happy Hour 790 บาท เป็นเวลา 18.00-24.00 น.
ผมก็โทรไปเช็คกับ 1771 รอสายอยู่เกือบ 20 นาที (เข้าใจว่าเป็นช่วงโปรโมชั่นหล่ะครับ)
จริงๆ จะไปเช็คแค่ว่าราคาค่าโหลดเท่าไหร่ แต่ จนท. ให้ข้อมูลอะไรไม่ได้เลย
ได้แต่แจ้งว่า ให้โทรกลับมาใหม่เวลาทำการ 9.00 น.
ผมก็เลย อ๊ะ วัดดวงจองไปก่อนแล้วกัน ก็เลยซัดไปเรียบร้อยดังนี้ครับ บิน 2 คน เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ จ่ายไป 1580 บาท
ในเช้าวันรุ่งขึ้น 29 มิถุนายน 2560 เวลา 9 โมงเป๊งงง ตามนัด ผมก็โทรไป 1771 ทันที
จนท. เหมือนจะยังไม่เข้างานครับ รอสายนานมากกกก ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าถ้ายังไม่มา นัดลูกค้าซัก 10 โมงก็ได้นะ
พอเจ้าหน้าที่สาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับสาย นางก็บอกว่า ต้องขอเวลาเช็คก่อนนะ แล้วจะโทรกลับ (ตัวผมก็ถามต่อเลยว่าถ้าเกิดรับไม่ได้จะทำอย่างไรต่อ ให้นางเตรียมคำตอบให้พร้อมนะ เพราะพยายามโทรเช็คล๊ะเมื่อคืน แต่ Call Center ตอบไม่ได้) ผ่านไป 10 นาทีนางโทรกลับมาว่า เที่ยวบินที่จองไว้ สามารถรับสุนัขได้ นางใส่ request ลงไปในบุ๊กกิ้งให้เรียบร้อยดีครับ
ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร เตรียมตัวรอบินกันไป ....