ภาพคมชัด เห็นบรรยากาศตอนชาเล้นจ์มาชาเล้นจ์กลับของอิตาลีกับไทย รวมทั้งบรรยากาศในซุ้มที่นั่งของสต๊าฟโค้ชและนักกีฬาสำรองที่ยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ได้เห็นโค้ชดนัยกวักมือเรียกบะหมี่ให้เตรียมพร้อมออกมาเปลี่ยนตัวกับบีมในแต้มสุดท้ายช่วงท้ายเซตที่ 3 ที่ไทยได้ match point จากอิตาลี ด้วย ดูแล้วได้บรรยากาศได้อารมณ์คนดูในสนามมากเลยครับ



            ส่วนคนที่สงสัยว่าโค้ชดนัยขอชาเล้นจ์กลับ เพราะเห็นผู้เล่นอิตาลีฟาวล์เน็ตจากภาพช้าตอนที่อิตาลีขอชาเล้นจ์แล้วไทยจึงขอชาเล้นจ์กลับ หรือว่าเห็นเองอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว

            คำตอบมีอยู่ในคลิปนี้ชัดเจนว่าภาพชาเล้นจ์ของอิตาลีไม่ได้ถ่ายให้เห็นจังหวะนิ้วของผู้เล่นอิตาลีโดนเน็ตเลย แสดงว่าโค้ชดนัยเห็นเองตอนยืนอยู่ข้างสนามแข่ง แต่ที่ไม่ได้ฟ้องกรรมการเพราะทีแรกกรรมการตัดสินให้ไทยได้แต้ม แล้วอิตาลีก็ขอชาเล้นจ์ว่าผู้เล่นอิตาลีไม่ได้บล็อกทัช โค้ชดนัยจึงรอให้กรรมการประกาศผลการชาเล้นจ์ก่อนว่า จะตัดสินยืนให้ไทยได้แต้มตามเดิมหรือเปลี่ยนคำตัดสินให้อิตาลีได้แต้ม พอกรรมการเปลี่ยนคำตัดสินให้อิตาลีได้แต้ม ไทยก็ขอชาเล้นจ์ว่าอิตาลีฟาวล์เน็ตต่อทันที แล้วภาพวิดีโอชาเล้นจ์ของไทยก็เป็นอีกมุมหนึ่ง (ซึ่งเป็นคนละมุมกับภาพชาเล้นจ์ของอิตาลี) ที่เห็นได้ชัดว่านิ้วของผู้เล่นอิตาลีเกี่ยวโดนขอบเน็ตตอนลงจริง ๆ

            เพิ่งสังเกตเห็นว่า เที่ยวนี้โค้ชดนัยไม่ได้เปลี่ยนบะหมี่ลงไปเสิร์ฟแทนบีมทันที แต่รอให้บีมเสิร์ฟจนเสร็จแล้ว ฝ่ายอิตาลีได้เสิร์ฟจึงค่อยเปลี่ยนบะหมี่ลงไปเสริมเกมรับในแดนหลังของไทย แต่พอดีลูกสุดท้ายอิตาลีเสิร์ฟมาทางแป้น แป้นเลยเป็นคนรับบอลแรกเปิดให้นุศลูกเกือบจะล้น แต่นุศอาศัยประสบการณ์เกี่ยวบอลด้วยมือเดียวเซตให้หน่องตบบอลเร็วลงไปเป็นแต้มแม็ทช์พอยน์ให้ไทยชนะอิตาลีไป 3-0 เซต