พ่อผมแยกกันอยู่กับแม่ จึงอาศัยอยู่คนเดียว พ่อมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบเมื่อคืนวันศุกร์ล้มลงปากเบี้ยวและขยับร่างกายไม่ได้ จนเวลาผ่านมาซักพักพ่อผมเริ่มขยับตัวได้ จึงได้โทรหาเพื่อนสนิทพ่อให้มารับไปโรงพยาบาล รวมเป็นเวลาประมาน 13 ชัวโมงหลังจากล้มลง
พ่อผมอาศัยอยู่แถววังหิน หลังจากเพื่อนพ่อพามาถึงโรงพยาบาลเอกชนแถวเกษตร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ไกล้ที่สุด ได้เข้ารับการรักษาในห้อง ICU ได้ทัน ทางหมอได้บอกว่า ถ้ามาช้ากว่านี้เส้นเลือดในสมองแตก ก้ไม่ต้องรักษากันแล้ว เพราะควรจะมาภายใน 4 ชั่วโมง แต่พ่อผมไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้ และหมอบอกว่า คนไข้อาจจะเป็นอัมพฤก
ซึ่งในตอนที่พ่อผมอยู่ในห้อง ICU ทางเพื่อนได้ติดต่อกับพยาบาลเรื่องสิท UCEP และทางพยาบาลได้ติดต่อทำเรื่องให้
หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าได้ติดต่อเรียบร้อยและใช้สิท UCEP ได้ 72 ชั่วโมง
และได้ประสานเรื่องเตียง ไปยังโรงพยาบาลบางบัวทองที่พ่อผมมีสิท30บาทอยู่ แต่ทางโรงพยาบาลเตียงเต็มจึงต้องรอต่อ และทางโรงพยาบาลได้บอกว่าสามารถอยู่รอเตียงได้ภายใต้สิทธิ UCEP
ผมได้อยู่เฝ้าพ่อมาจนถึงวันจันทร์ ตอนเช้าเพื่อนพ่อได้มาติดต่อถามอาการจากหมอว่า สามารถกลับบ้านได้มั้ย เพราะสิทที่จะใช้ในระยะเวลา72ชั่วโมงจะหมดแล้ว
ทางคุณอากับผมได้ไปที่การเงินของโรงพยาบาล และติดต่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายในวันจันทร์และอังคาร เพราะคุณหมอบอกว่าความดันยังสูงไม่เหมาะที่จะกลับบ้าน แต่ ทางโรงพยาบาลกลับแจ้งว่า เคสของพ่อผมไม่เข้ากรณี UCEP และมีค่าใช้จ่าย 47,981 บาท ของ 3 วันที่ผ่านมา
หลังจากพูดคุยกับการเงินของโรงพยายาลซักพัก ทาง รพ ได้สอบสวนฝ่ายฉุกเฉิน และได้แจ้งผมว่าได้แจ้งกับคนไข้แล้วว่าไม่เข้าข่าย UCEP คุณอาจึงถามว่าใครเป็นคนตัดสินว่าเข้าข่ายมั้ย โรงพยาบาลจึงบอกว่าทาง สพฉ เป็นคนตัดสินว่าคนไข้เข้าข่ายมั้ย คุณอาจึงได้โทรไปทาง สพฉ และทาง สพฉ ได้บอกว่า คุณหมอของทางโรงพยาบาลได้วินิจฉัยว่า ไม่เข้าเกณฑ์ UCEP
ซึ่งคุณอาผมได้ถามกับทางโรงพยาบาลว่าทำไมไม่แจ้งตั้งแต่วันแรกที่ไม่ผ่าน ไม่งั้นจะย้ายไปยัง รพ ที่ใช้สิทได้ แต่กลับไม่แจ้งมาจนถึง วันจันทร์
คำถามของผมคือ พ่อผมเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ และมีอาการชาครึ่งซีกปากเบี้ยวและพูดไม่ชัด แต่ไม่เข้าข่าย UCEP ????
ปรึกษากรณีฉุกเฉิน UCEP กับ โรงพยาบาล
พ่อผมอาศัยอยู่แถววังหิน หลังจากเพื่อนพ่อพามาถึงโรงพยาบาลเอกชนแถวเกษตร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ไกล้ที่สุด ได้เข้ารับการรักษาในห้อง ICU ได้ทัน ทางหมอได้บอกว่า ถ้ามาช้ากว่านี้เส้นเลือดในสมองแตก ก้ไม่ต้องรักษากันแล้ว เพราะควรจะมาภายใน 4 ชั่วโมง แต่พ่อผมไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้ และหมอบอกว่า คนไข้อาจจะเป็นอัมพฤก
ซึ่งในตอนที่พ่อผมอยู่ในห้อง ICU ทางเพื่อนได้ติดต่อกับพยาบาลเรื่องสิท UCEP และทางพยาบาลได้ติดต่อทำเรื่องให้
หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าได้ติดต่อเรียบร้อยและใช้สิท UCEP ได้ 72 ชั่วโมง
และได้ประสานเรื่องเตียง ไปยังโรงพยาบาลบางบัวทองที่พ่อผมมีสิท30บาทอยู่ แต่ทางโรงพยาบาลเตียงเต็มจึงต้องรอต่อ และทางโรงพยาบาลได้บอกว่าสามารถอยู่รอเตียงได้ภายใต้สิทธิ UCEP
ผมได้อยู่เฝ้าพ่อมาจนถึงวันจันทร์ ตอนเช้าเพื่อนพ่อได้มาติดต่อถามอาการจากหมอว่า สามารถกลับบ้านได้มั้ย เพราะสิทที่จะใช้ในระยะเวลา72ชั่วโมงจะหมดแล้ว
ทางคุณอากับผมได้ไปที่การเงินของโรงพยาบาล และติดต่อสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายในวันจันทร์และอังคาร เพราะคุณหมอบอกว่าความดันยังสูงไม่เหมาะที่จะกลับบ้าน แต่ ทางโรงพยาบาลกลับแจ้งว่า เคสของพ่อผมไม่เข้ากรณี UCEP และมีค่าใช้จ่าย 47,981 บาท ของ 3 วันที่ผ่านมา
หลังจากพูดคุยกับการเงินของโรงพยายาลซักพัก ทาง รพ ได้สอบสวนฝ่ายฉุกเฉิน และได้แจ้งผมว่าได้แจ้งกับคนไข้แล้วว่าไม่เข้าข่าย UCEP คุณอาจึงถามว่าใครเป็นคนตัดสินว่าเข้าข่ายมั้ย โรงพยาบาลจึงบอกว่าทาง สพฉ เป็นคนตัดสินว่าคนไข้เข้าข่ายมั้ย คุณอาจึงได้โทรไปทาง สพฉ และทาง สพฉ ได้บอกว่า คุณหมอของทางโรงพยาบาลได้วินิจฉัยว่า ไม่เข้าเกณฑ์ UCEP
ซึ่งคุณอาผมได้ถามกับทางโรงพยาบาลว่าทำไมไม่แจ้งตั้งแต่วันแรกที่ไม่ผ่าน ไม่งั้นจะย้ายไปยัง รพ ที่ใช้สิทได้ แต่กลับไม่แจ้งมาจนถึง วันจันทร์
คำถามของผมคือ พ่อผมเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ และมีอาการชาครึ่งซีกปากเบี้ยวและพูดไม่ชัด แต่ไม่เข้าข่าย UCEP ????