สวัสดีค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งที่พ่อแม่มีหนี้สิน ตอนนี้เรียนจบแล้ว ปัจจุบันทำงานมาได้ประมาณ 2 ปีค่ะ
ที่เรามาเขียนในวันนี้ เพราะเรารู้ว่ามีหลายคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันหรือคล้ายๆกัน
เลยอยากกจะมาแชร์วิธีการเก็บเงิน ยื่นกู้ธนาคาร เพื่อมาปิดหนี้ให้พ่อแม่ค่ะ
เราเข้าใจว่าช่วงแรกๆ มันมืดแปดด้าน พ่อแม่มีหนี้สินมากมาย ไม่รู้จะทำยังไง
หวังว่าวิธีการของเรา อาจจะช่วยเหลือหรือพอเป็นแนวทาง ให้พอหยิบไปใช้ได้บ้างในบางส่วนนะคะ
ถ้ามีข้อเสนอแนะ หรือแนะนำ สามารถแนะนำได้เลยนะคะ ยินดีค่ะ
ขอเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของครอบครัวเราก่อน
- สถานะหนี้สิน : มีหนี้บัตรเครดิต เงินที่กู้จากบัตรกดเงินสด บัตรดอกเบี้ยแพง โดยรวมประมาณครึ่งล้าน ไม่รวมบ้าน
- พ่อเราขับรถแท็กซี่ และรถแท็กซี่กำลังจะหมดอายุแท็กซี่ (ตอนนั้นต้องคิด หาเงินซื้อแท็กซี่ให้พ่อ หรือไม่ก็ต้องหาอาชีพใหม่ให้พ่อที่ได้รายได้เท่าๆเดิม หรือมากกว่า)
- แม่เปิดร้านขายของชำที่บ้าน เป็นร้านเล็กๆ
- เราเรียนจบ ทำงานในบริษัทเอกชนมา 2 ปี มีหนี้ กยศ
สิ่งที่เราทำ
- ช่วงแรกที่ทำงาน เราแบ่งเงินเป็น 2 กองหลักๆแบบง่ายๆ
1. ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่ากิน ค่าเดินทาง
2. ที่เหลือจากก้อนแรกทั้งหมดเก็บเพื่อไว้ใช้หนี้พ่อแม่ แยกเงินส่วนนี้ออกมาจำนวนเท่ากันทุกเดือน เช่น 10k ทุกเดือน
ซึ่งส่วนที่ 2 พอเราเก็บได้ประมาณ 5 หมื่น สามารถปิดหนี้บัตรของพ่อได้ 1 ใบ เราใช้เงินก้อนนี้ไปปิดบัตรใบแรก
แต่เราจะยังให้พ่อจ่ายเงินค่าบัตรอยู่ แต่จ่ายที่เราแทน เช่น แต่เดิมพ่อต้องจ่ายค่าบัตร A = 3800 ทุกเดือน ก็เอาเงินก้อนนี้มาจ่ายให้เราแทน
สาเหตุเนื่องจากว่า เราเอาเงินเก็บของเราไปปิดบัตรหมด เราไม่มีเงินสำรองเลย พ่อแม่ก็ไม่มีเงินเก็บ ถ้าเกิดมีเหตุฉุกเฉิน หรืออะไรก็ตาม เราจะใช้เงินนี้เป็นเงินสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัว
- หลังจากที่ปิดใบแรกได้ อายุงานเราสามารถยื่นกู้ได้แล้ว เราค้นข้อมูลมาหลายธนาคาร มี 2 ธนาคาร ที่ดอกเบี้ยถูก
1. ธนาคารออมสิน ตอนแรกตั้งใจจะกู้ เนื่องจากดอกเบี้ยถูก แต่ปัญหาคือต้องมีคนค้ำ หรือไม่ก็ต้องหลักทรัพย์ค้ำประกัน และพอดีที่ว่าคนที่เราตั้งใจจะให้ช่วยค้ำ เค้าแนะนำให้ลองยื่นกู้สินเชื่อธนาคารที่ 2 เลยไม่ได้ยื่นกู้กับธนาคารออมสิน
2. ธนาคาร CIMB ดอกเบี้ยถูก แต่ถ้าจะให้ถูกต้องเลือกอายุสัญญา 12 เดือน ไม่ต้องใช้คนค้ำ เราเลยลองยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารนี้ และผลคือผ่านการอนุมัติ แต่อนุมัติไม่เต็มตามวงเงินที่เราขอไป
เงินก้อนนี้ที่ได้ เราเอาไปซื้อรถแท็กซี่มือสองให้พ่อ และให้พ่อขายรถคันเดิม(ใกล้จะหมดอายุแท็กซี่) แต่เงินจะขาดอยู่จำนวนหนึ่ง โชคดีที่มีญาติยื่นมือเข้ามาช่วย ให้ยืมเงินในส่วนที่ไม่พอซื้อรถและให้เราส่งคืนทุกเดือน เราขอส่งคืนตามกำลังที่เราส่งไหว เพราะเราต้องส่งสินเชื่อที่กู้มา แต่ก็จะพอมีเงินที่หักจากค่าใช้จ่ายส่งคืนญาติอยู่ก้อนหนึ่งทุกเดือน
- หลังจากที่จ่ายค่างวดสินเชื่อไปประมาณ 7 งวด เราต้องหาธนาคารที่ปล่อยสินเชื่ออีกครั้ง เนื่องจากแม่เรามีหนี้ คือ ป้ากู้เงินมาก้อนหนึ่งแม่เราก็เอาเงินมาส่วนหนึ่ง 3 ใน 10 ซึ่งดอกเบี้ยแพง และต้องส่งไปอีก 5 ปี ช่วงที่ป้าไม่มีเงินส่ง แม่เราก็ต้องหาเงินไปส่งในส่วนของป้าให้ บางครั้งก็ไปยืมเงินคนอื่นมาส่งให้ป้าอีก และช่วงนึงป้าได้เงินจากการขายบ้าน เราเลยเห็นโอกาสปิดหนี้ก้อนนี้ ให้ป้าเอาเงินที่ได้มาปิดหนี้ แต่เงินไม่พอที่จะปิด เราเลยตัดสินใจกู้เงินอีกก้อนหนึ่ง เพื่อให้สามารถปิดหนี้ก้อนนั้นได้ โดยคนที่ส่งเงินก้อนนี้มีป้าและแม่เรา แต่ระยะเวลาจะสั้นลง จาก 5 ปี เหลือ 1 ปี ดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม และยอดที่ส่งในแต่ละงวดน้อยลง
เราหากู้หลายธนาคารมาก แต่ไม่ผ่านสักที่ สุดท้ายเลยลองติดต่อไปที่ CIMB อีกครั้งว่าสามารถกู้ได้อีกหรือไม่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าส่งเกิน 6 งวด สามารถยื่นกู้อีกครั้งได้ เรายื่นกู้และก็ผ่านการอนุมัติ
- ปัจจุบัน พ่อและแม่ ยังมีหนี้อยู่ เราวางแผนไว้ว่า ถ้าส่งสินเชื่อเก่าหมดก็จะกู้อีกเพื่อมาปิดหนี้ จะทำวนไปแบบนี้ทุก 6 เดือนจนกว่าหนี้จะหมด น่าจะ 2 ปี หนี้ก็จะหมด
- เราก็มีหนี้ส่วนตัว คือ กยศ ที่กู้มาเรียน เราแนะนำถ้าใครเป็นหนี้ กยศ ต้องใช้หนี้คืนธนาคารนะคะ ปีนึงไม่ได้เยอะเลย เรากู้มาตั้งแต่ ม.ปลาย จนจบมหาลัย ปีแรกที่เรียนจบไม่ต้องส่ง ปีที่สองยอดส่งแค่ 4 พันกว่าบาท แต่คนส่วนมากไม่มีจ่ายเนื่องจาก กยศ จ่ายเป็นรายปี และก็ไม่ได้วางแผนเก็บเงินจ่าย พอถึงเวลาจ่าย ก็ไม่พอ ดังนั้นควรจะเก็บเรื่อยๆไปทุกเดือน เช่น เดือนละ 500 ปีนึงก็ 6k แล้ว ปีถัดไปยอดส่งสูงขึ้นก็เก็บมากขึ้นในแต่ละเดือน แต่ต้องมีวินัย กันเงินส่วนนี้ออกมาชัดเจน ส่งคืนเพื่อให้คนรุ่นหลังมีโอกาสเอาเงินนี้ไปเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่นะคะ
สรุป เมื่อมีหนี้แล้วตั้งใจจะใช้หนี้ต้องทำอะไรบ้าง
1. คำนวณรายรับ/รายจ่ายของทุกคนในบ้าน สามารถลดรายจ่ายส่วนไหนได้บ้าง หรือสามารถหาเพิ่มได้บ้าง ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรยังมีทางออก
2. เอาหนี้ทุกอย่างมากางดูว่า ใครมีหนี้สินอะไรบ้าง และอีกนานแค่ไหนถึงจะใช้หนี้หมด ก้อนไหนดอกเบี้ยแพงที่สุด ถูกที่สุด และทุกคนต้องบอกความจริง อย่าปิดบังกัน ถ้าจะให้ช่วยเหลือกันต้องห้ามปิดบังเรื่องหนี้
3. เมื่อเรารู้หนี้ทั้งหมดของทุกคนในบ้าน เราก็จะเริ่มมองออกว่าเรามีกำลังทรัพย์ที่จะปิดก้อนไหนได้ก่อน ใครสามารถช่วยใครได้บ้าง
หลักของเราคือ ปิดก้อนที่เงินเราสามารถปิดได้ก่อน เช่น มีเงิน 50k หนี้บัตร 50k ก็ปิดใบ 50k ก่อน ถ้ายังปิดไม่ได้ก็อดทนเก็บเงินเพื่อไปปิดหนี้ ถ้ามีหนี้หลายที่ จำนวนเงินพอๆกัน ให้ดูที่ดอกเบี้ย อันไหนดอกแพงก็ปิดก่อน
4. สำหรับใครที่จบใหม่ ช่วงแรกที่เริ่มทำงานจะยังยื่นกู้ไม่ได้ ให้เก็บเงินให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ต้องเก็บแบบอดๆยากๆ จะทำให้เครียด ให้พอมีเงินกินใช้บ้าง แต่ไม่ฟุ่มเฟือย พอเก็บสะสมได้ที่พอจะปิดหนี้ได้ก็เอาไปปิด
5. อายุงานสามารถยื่นกู้ได้ หาธนาคารที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด ยื่นกู้ไป ถ้าไม่ผ่านก็ยื่นกู้ไปเรื่อยๆ อย่าพึ่งท้อ แต่คำนวณให้ดีอย่ากู้กับธนาคารที่ดอกเบี้ยแพงกว่าที่ปัจจุบันส่งอยู่ แนะนำสองธนาคารที่เราคิดว่าดอกเบี้ยถูกที่สุดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 1. ธนาคารออมสิน สินเชื่อส่วนบุคคล มีหลายแบบมาก อ่านเงื่อนไขต่างๆ ดูว่าเหมาะกับเราที่สุด ดอกเบี้ยถูก
https://www.gsb.or.th/personal/products/loan/person/domestic.aspx
2. ธนาคาร CIMB ถ้าเป็นไปได้ควรเลือก 12 เดือน ดอกเบี้ย 9% ต่อปี จะถูกมาก เช่น กู้ 50k ดอกเบี้ย 2,500 บาท
คือเราดีใจมากตอนที่กู้ผ่าน ขอบคุณธนาคารมากๆที่ให้โอกาสเราได้เอาเงินนี้มาปลดหนี้ และดอกเบี้ยก็ถูก
https://www.cimbthai.com/th/personal/products/loans/personal-loan/personal-cash.html
3. ไม่ใช่ธนาคารปล่อยกู้ แต่เป็นเว็บที่ช่วยเปรียบเทียบสินเชื่อ ว่ามีตัวไหนเหมาะกับเงื่อนไขที่เรากรอกลงไป
และมีบอกจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน อัตราดอกเบี้ย เป็นตัวช่วยที่ดีค่ะ
https://www.gobear.com/th/
6. ถ้าเป็นหนี้ของพ่อแม่ เราเอาเงินเก็บไปปิดหนี้ให้พ่อแม่ แล้วถ้าพ่อแม่ยังพอหาเงินได้อยู่ ให้เค้าส่งเงินนั้นให้กับเรา แล้วเก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือเพื่อไปปิดหนี้ก้อนถัดไป เช่น เดิมพ่อแม่ส่งบัตร 3k ต่อเดือน เราปิดบัตรใบนั้นหมด ให้พ่อแม่ส่ง 3k ต่อเดือนให้เราแทน หรือให้ส่งน้อยกว่าเดิม เราจะเก็บเงินก้อนนั้นเป็นเงินเก็บให้พ่อแม่ก็ได้ ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ฯ
7. ระหว่างดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ จะมีเรื่องฉุกเฉินอย่างเช่น เครื่องซักผ้าพัง ตู้เย็นพัง ทีวีพัง อะไรแบบนั้น
แนะนำให้สมัครบัตรเครดิตเอาไว้ ให้หาบัตรที่มีโปรผ่อน 0 % 10 เดือน จะช่วยเราได้ในช่วงนี้ แต่ต้องมีสติ ใช้ให้เป็น ห้ามใช้บัตรกดเงินสดเด็ดขาด และให้ใช้ผ่อนแค่ที่เป็นโปร 0 % เท่านั้น ห้ามนำไปใช้ฟุ่มเฟือย
8. สำคัญคือ ให้กำลังใจกันและกันในครอบครัว มีอะไรก็คุยกัน อย่าปิดบังกัน มีหนี้สินที่ไหนต้องพูดออกมาให้หมดถ้าอยากหมดหนี้ และต้องช่วยเหลือกัน ถ้าใครหาเงินได้มาก ก็ช่วยเหลือคนที่หาเงินได้น้อย และอย่าสร้างหนี้เพิ่ม มีเงินพอเหลือเก็บก็ไปพักผ่อนบ้าง อย่าเก็บเงินจนกดดันเกินไป ชีวิตมันจะเครียดมาก ใช้เงินบ้างแต่อย่าใช้มาก ไปเที่ยวแบบบ้านๆ ราคาถูก ไปเช้าเย็นกลับ พักผ่อนรับอากาศดีๆ จะได้มีพลังหาเงินใช้หนี้ต่อไป
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีหนี้ ขอให้หมดหนี้กันไวๆนะคะ
ถ้ามีคำถามอะไรสามารถพิมพ์มาได้ค่ะ ถ้าเราตอบได้จะตอบให้นะคะ
โชคดีไม่มีหนี้จ้า
แชร์ประสบการณ์ & เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีหนี้
เราเป็นคนหนึ่งที่พ่อแม่มีหนี้สิน ตอนนี้เรียนจบแล้ว ปัจจุบันทำงานมาได้ประมาณ 2 ปีค่ะ
ที่เรามาเขียนในวันนี้ เพราะเรารู้ว่ามีหลายคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันหรือคล้ายๆกัน
เลยอยากกจะมาแชร์วิธีการเก็บเงิน ยื่นกู้ธนาคาร เพื่อมาปิดหนี้ให้พ่อแม่ค่ะ
เราเข้าใจว่าช่วงแรกๆ มันมืดแปดด้าน พ่อแม่มีหนี้สินมากมาย ไม่รู้จะทำยังไง
หวังว่าวิธีการของเรา อาจจะช่วยเหลือหรือพอเป็นแนวทาง ให้พอหยิบไปใช้ได้บ้างในบางส่วนนะคะ
ถ้ามีข้อเสนอแนะ หรือแนะนำ สามารถแนะนำได้เลยนะคะ ยินดีค่ะ
ขอเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของครอบครัวเราก่อน
- สถานะหนี้สิน : มีหนี้บัตรเครดิต เงินที่กู้จากบัตรกดเงินสด บัตรดอกเบี้ยแพง โดยรวมประมาณครึ่งล้าน ไม่รวมบ้าน
- พ่อเราขับรถแท็กซี่ และรถแท็กซี่กำลังจะหมดอายุแท็กซี่ (ตอนนั้นต้องคิด หาเงินซื้อแท็กซี่ให้พ่อ หรือไม่ก็ต้องหาอาชีพใหม่ให้พ่อที่ได้รายได้เท่าๆเดิม หรือมากกว่า)
- แม่เปิดร้านขายของชำที่บ้าน เป็นร้านเล็กๆ
- เราเรียนจบ ทำงานในบริษัทเอกชนมา 2 ปี มีหนี้ กยศ
สิ่งที่เราทำ
- ช่วงแรกที่ทำงาน เราแบ่งเงินเป็น 2 กองหลักๆแบบง่ายๆ
1. ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่ากิน ค่าเดินทาง
2. ที่เหลือจากก้อนแรกทั้งหมดเก็บเพื่อไว้ใช้หนี้พ่อแม่ แยกเงินส่วนนี้ออกมาจำนวนเท่ากันทุกเดือน เช่น 10k ทุกเดือน
ซึ่งส่วนที่ 2 พอเราเก็บได้ประมาณ 5 หมื่น สามารถปิดหนี้บัตรของพ่อได้ 1 ใบ เราใช้เงินก้อนนี้ไปปิดบัตรใบแรก
แต่เราจะยังให้พ่อจ่ายเงินค่าบัตรอยู่ แต่จ่ายที่เราแทน เช่น แต่เดิมพ่อต้องจ่ายค่าบัตร A = 3800 ทุกเดือน ก็เอาเงินก้อนนี้มาจ่ายให้เราแทน
สาเหตุเนื่องจากว่า เราเอาเงินเก็บของเราไปปิดบัตรหมด เราไม่มีเงินสำรองเลย พ่อแม่ก็ไม่มีเงินเก็บ ถ้าเกิดมีเหตุฉุกเฉิน หรืออะไรก็ตาม เราจะใช้เงินนี้เป็นเงินสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัว
- หลังจากที่ปิดใบแรกได้ อายุงานเราสามารถยื่นกู้ได้แล้ว เราค้นข้อมูลมาหลายธนาคาร มี 2 ธนาคาร ที่ดอกเบี้ยถูก
1. ธนาคารออมสิน ตอนแรกตั้งใจจะกู้ เนื่องจากดอกเบี้ยถูก แต่ปัญหาคือต้องมีคนค้ำ หรือไม่ก็ต้องหลักทรัพย์ค้ำประกัน และพอดีที่ว่าคนที่เราตั้งใจจะให้ช่วยค้ำ เค้าแนะนำให้ลองยื่นกู้สินเชื่อธนาคารที่ 2 เลยไม่ได้ยื่นกู้กับธนาคารออมสิน
2. ธนาคาร CIMB ดอกเบี้ยถูก แต่ถ้าจะให้ถูกต้องเลือกอายุสัญญา 12 เดือน ไม่ต้องใช้คนค้ำ เราเลยลองยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารนี้ และผลคือผ่านการอนุมัติ แต่อนุมัติไม่เต็มตามวงเงินที่เราขอไป
เงินก้อนนี้ที่ได้ เราเอาไปซื้อรถแท็กซี่มือสองให้พ่อ และให้พ่อขายรถคันเดิม(ใกล้จะหมดอายุแท็กซี่) แต่เงินจะขาดอยู่จำนวนหนึ่ง โชคดีที่มีญาติยื่นมือเข้ามาช่วย ให้ยืมเงินในส่วนที่ไม่พอซื้อรถและให้เราส่งคืนทุกเดือน เราขอส่งคืนตามกำลังที่เราส่งไหว เพราะเราต้องส่งสินเชื่อที่กู้มา แต่ก็จะพอมีเงินที่หักจากค่าใช้จ่ายส่งคืนญาติอยู่ก้อนหนึ่งทุกเดือน
- หลังจากที่จ่ายค่างวดสินเชื่อไปประมาณ 7 งวด เราต้องหาธนาคารที่ปล่อยสินเชื่ออีกครั้ง เนื่องจากแม่เรามีหนี้ คือ ป้ากู้เงินมาก้อนหนึ่งแม่เราก็เอาเงินมาส่วนหนึ่ง 3 ใน 10 ซึ่งดอกเบี้ยแพง และต้องส่งไปอีก 5 ปี ช่วงที่ป้าไม่มีเงินส่ง แม่เราก็ต้องหาเงินไปส่งในส่วนของป้าให้ บางครั้งก็ไปยืมเงินคนอื่นมาส่งให้ป้าอีก และช่วงนึงป้าได้เงินจากการขายบ้าน เราเลยเห็นโอกาสปิดหนี้ก้อนนี้ ให้ป้าเอาเงินที่ได้มาปิดหนี้ แต่เงินไม่พอที่จะปิด เราเลยตัดสินใจกู้เงินอีกก้อนหนึ่ง เพื่อให้สามารถปิดหนี้ก้อนนั้นได้ โดยคนที่ส่งเงินก้อนนี้มีป้าและแม่เรา แต่ระยะเวลาจะสั้นลง จาก 5 ปี เหลือ 1 ปี ดอกเบี้ยถูกกว่าเดิม และยอดที่ส่งในแต่ละงวดน้อยลง
เราหากู้หลายธนาคารมาก แต่ไม่ผ่านสักที่ สุดท้ายเลยลองติดต่อไปที่ CIMB อีกครั้งว่าสามารถกู้ได้อีกหรือไม่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าส่งเกิน 6 งวด สามารถยื่นกู้อีกครั้งได้ เรายื่นกู้และก็ผ่านการอนุมัติ
- ปัจจุบัน พ่อและแม่ ยังมีหนี้อยู่ เราวางแผนไว้ว่า ถ้าส่งสินเชื่อเก่าหมดก็จะกู้อีกเพื่อมาปิดหนี้ จะทำวนไปแบบนี้ทุก 6 เดือนจนกว่าหนี้จะหมด น่าจะ 2 ปี หนี้ก็จะหมด
- เราก็มีหนี้ส่วนตัว คือ กยศ ที่กู้มาเรียน เราแนะนำถ้าใครเป็นหนี้ กยศ ต้องใช้หนี้คืนธนาคารนะคะ ปีนึงไม่ได้เยอะเลย เรากู้มาตั้งแต่ ม.ปลาย จนจบมหาลัย ปีแรกที่เรียนจบไม่ต้องส่ง ปีที่สองยอดส่งแค่ 4 พันกว่าบาท แต่คนส่วนมากไม่มีจ่ายเนื่องจาก กยศ จ่ายเป็นรายปี และก็ไม่ได้วางแผนเก็บเงินจ่าย พอถึงเวลาจ่าย ก็ไม่พอ ดังนั้นควรจะเก็บเรื่อยๆไปทุกเดือน เช่น เดือนละ 500 ปีนึงก็ 6k แล้ว ปีถัดไปยอดส่งสูงขึ้นก็เก็บมากขึ้นในแต่ละเดือน แต่ต้องมีวินัย กันเงินส่วนนี้ออกมาชัดเจน ส่งคืนเพื่อให้คนรุ่นหลังมีโอกาสเอาเงินนี้ไปเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่นะคะ
สรุป เมื่อมีหนี้แล้วตั้งใจจะใช้หนี้ต้องทำอะไรบ้าง
1. คำนวณรายรับ/รายจ่ายของทุกคนในบ้าน สามารถลดรายจ่ายส่วนไหนได้บ้าง หรือสามารถหาเพิ่มได้บ้าง ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรยังมีทางออก
2. เอาหนี้ทุกอย่างมากางดูว่า ใครมีหนี้สินอะไรบ้าง และอีกนานแค่ไหนถึงจะใช้หนี้หมด ก้อนไหนดอกเบี้ยแพงที่สุด ถูกที่สุด และทุกคนต้องบอกความจริง อย่าปิดบังกัน ถ้าจะให้ช่วยเหลือกันต้องห้ามปิดบังเรื่องหนี้
3. เมื่อเรารู้หนี้ทั้งหมดของทุกคนในบ้าน เราก็จะเริ่มมองออกว่าเรามีกำลังทรัพย์ที่จะปิดก้อนไหนได้ก่อน ใครสามารถช่วยใครได้บ้าง
หลักของเราคือ ปิดก้อนที่เงินเราสามารถปิดได้ก่อน เช่น มีเงิน 50k หนี้บัตร 50k ก็ปิดใบ 50k ก่อน ถ้ายังปิดไม่ได้ก็อดทนเก็บเงินเพื่อไปปิดหนี้ ถ้ามีหนี้หลายที่ จำนวนเงินพอๆกัน ให้ดูที่ดอกเบี้ย อันไหนดอกแพงก็ปิดก่อน
4. สำหรับใครที่จบใหม่ ช่วงแรกที่เริ่มทำงานจะยังยื่นกู้ไม่ได้ ให้เก็บเงินให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ต้องเก็บแบบอดๆยากๆ จะทำให้เครียด ให้พอมีเงินกินใช้บ้าง แต่ไม่ฟุ่มเฟือย พอเก็บสะสมได้ที่พอจะปิดหนี้ได้ก็เอาไปปิด
5. อายุงานสามารถยื่นกู้ได้ หาธนาคารที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด ยื่นกู้ไป ถ้าไม่ผ่านก็ยื่นกู้ไปเรื่อยๆ อย่าพึ่งท้อ แต่คำนวณให้ดีอย่ากู้กับธนาคารที่ดอกเบี้ยแพงกว่าที่ปัจจุบันส่งอยู่ แนะนำสองธนาคารที่เราคิดว่าดอกเบี้ยถูกที่สุดค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. ถ้าเป็นหนี้ของพ่อแม่ เราเอาเงินเก็บไปปิดหนี้ให้พ่อแม่ แล้วถ้าพ่อแม่ยังพอหาเงินได้อยู่ ให้เค้าส่งเงินนั้นให้กับเรา แล้วเก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือเพื่อไปปิดหนี้ก้อนถัดไป เช่น เดิมพ่อแม่ส่งบัตร 3k ต่อเดือน เราปิดบัตรใบนั้นหมด ให้พ่อแม่ส่ง 3k ต่อเดือนให้เราแทน หรือให้ส่งน้อยกว่าเดิม เราจะเก็บเงินก้อนนั้นเป็นเงินเก็บให้พ่อแม่ก็ได้ ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ฯ
7. ระหว่างดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ จะมีเรื่องฉุกเฉินอย่างเช่น เครื่องซักผ้าพัง ตู้เย็นพัง ทีวีพัง อะไรแบบนั้น
แนะนำให้สมัครบัตรเครดิตเอาไว้ ให้หาบัตรที่มีโปรผ่อน 0 % 10 เดือน จะช่วยเราได้ในช่วงนี้ แต่ต้องมีสติ ใช้ให้เป็น ห้ามใช้บัตรกดเงินสดเด็ดขาด และให้ใช้ผ่อนแค่ที่เป็นโปร 0 % เท่านั้น ห้ามนำไปใช้ฟุ่มเฟือย
8. สำคัญคือ ให้กำลังใจกันและกันในครอบครัว มีอะไรก็คุยกัน อย่าปิดบังกัน มีหนี้สินที่ไหนต้องพูดออกมาให้หมดถ้าอยากหมดหนี้ และต้องช่วยเหลือกัน ถ้าใครหาเงินได้มาก ก็ช่วยเหลือคนที่หาเงินได้น้อย และอย่าสร้างหนี้เพิ่ม มีเงินพอเหลือเก็บก็ไปพักผ่อนบ้าง อย่าเก็บเงินจนกดดันเกินไป ชีวิตมันจะเครียดมาก ใช้เงินบ้างแต่อย่าใช้มาก ไปเที่ยวแบบบ้านๆ ราคาถูก ไปเช้าเย็นกลับ พักผ่อนรับอากาศดีๆ จะได้มีพลังหาเงินใช้หนี้ต่อไป
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีหนี้ ขอให้หมดหนี้กันไวๆนะคะ
ถ้ามีคำถามอะไรสามารถพิมพ์มาได้ค่ะ ถ้าเราตอบได้จะตอบให้นะคะ
โชคดีไม่มีหนี้จ้า