สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆ ผมเพิ่งกลับมาจากอเมริกาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ละครับ จะมารีวิวเรื่องการท่องเที่ยวประจนภัยด้วยตนเองครั้งแรกกับครอบครัว เป็นระยะเวลาประมาณ 10 วันครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าทุกท่านยังจำกันได้นะครับ ผมได้ทำการรีวิววิธีการกรอกวีซ่า DS-160 ในกระทู้ที่ผ่านมา ถ้าท่านไหนยังไม่ได้ทำวีซ่าอเมริกา หรือไม่ทราบว่าจขั้นตอนแต่ละขั้นตอนให้กรอกอะไรลงไปบ้าง ผมได้ทำการรีวิววิธีการกรอกวีซ่าให้อย่างละเอียดใน Link ที่ผ่านมานะครับ
https://ppantip.com/topic/36233147 สามารถเข้าไป ศึกษาได่นะครับ
ระยะเวลาเดินทางเริ่มจาก 30 June - 9th July 2017
Day 1: Bangkok to Los Angeles (Universal Studio)
Day 2: Griffith Park Observaatory - Hollywood Boulevard - Chinese Theatre - ทานอาหารจีนร้านที่แพงที่สุดใน Los Angeles
Day 3: Los Angeles - Barstow Outlet (Shopping Sales) - Las Vegas
Day 4: Grand Canyon (South Rim Tour) - Hoover Dam - Route 66 - Grand Canyon South Rim - Las Vegas
Day 5: Las Vegas - แวะพักที่เมือง Bakersfield ทานข้าวเที่ยง - พักข้างคืนที่ Oakshurst
Day 6: Oakhurst - Yosemite National Park - South Lake Tahoe
Day 7: South Lake Tahoe - Napa Valley
Day 8: Napa Valley - San Francisco
Day 9: San Francisco
Day 10: San Francisco - Bangkok
เเละเเล้วเวลาแห่งการรอคอยของพวกเราที่จะต้องไปพจญภัยได้มาถึงแล้วครับ วันนั้นผมเริ่มออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Korean Air เที่ยวบินที่ KE 658 ระหว่างเดินทาง สายการบินนี้มีพนักงานบริการดีมากๆเลยครับเมื่อเทียบกับสายการบินอื่น พนักงานน่ารักมากเลยครับ หลังจากที่เค้าเสริฟอาหารเสร็จก็ เข้าไปคุยแนะนำโน้นนี่นั้นเเลกนามบัตรอย่างเป็นทางการ ถามสารทุกสุกดิบว่ากว่าจะมาเป็นพนักงานต้อนรับ ลำบากไหมผ่านอะรไรมาเยอะไหม อุปสรรคในการทำงานเจออะไรบ้าง แล้วทำงานที่นี่เพื่อนร่วมงานดีไหม ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนตลอดการเดินทางเลยก็ว่าได้ เป็น Flight เที่ยวบินที่หาไม่ได้อีกแล้ว
พนักงานต้อนรับคนนี้แหละครับที่ผมบอกน่ารักมากครับ
พอเดินทางไปถึงสนามบิน Incheon ก่อนที่จะไปเปลี่ยนเครื่องต้องมีการ Check Secutiy อีกรอบนะครับเพื่อความปลอดภัยครับ หลังจากผ่าน Security Check In เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว หลังจากนั้นได้เวลาสนุกสนานให้ Shopping กันอีกเลยทีเดียว บังเอิญโชคดีมากครับ เวลารอเปลี่ยนเครื่องประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นผมรออะไรอะครับ ก็ไป อาบน้ำก่อนเลยหลังจากเดินทางมานาน เพื่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก ที่สนามบินนี้ มีบริการให้อาบน้ำฟรีด้วยครับ ที่อาบน้ำนี้สำหรับคนที่ มา Transit เท่านั้น
จากภาพที่เห็นหันไปด้านหลังเข้าทางที่เขียนว่า Priority Pass เเต่ไม่ต้องเข้าห้อง Priority Pass นะครับ เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะพบกับ Free Shower
พนักงานบอกว่า Please show only boarding pass. No Passport ครับ หลังจากนั้นรู้สึกสะดวกสะบายมากเลยครับ
*** เดินทางไกลอีกแล้วครับ ประมาณ 10ชั่วโมง 20 นาที เครื่องบินก็เหมือนเดิมครับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่คงไม่ได้เจอพนักงานน่ารักท่านนั้นอีกแล้ว รู้สึกเสียใจนิดๆๆ
บรรยากาศภายในเครื่องครับ
หลังจากนั้นผมก็ได้เดินทางไปถึงสนามบิน ลอสแอนเจลลิศ ไปถึงที่นั้นก็เป็นเวลา หกโมงเช้าของที่นั้น ผมก็ไม่รู้สึกเหนื่อยมากเพราะได้หลับเยอะแล้วครับในระหว่างการเดินทาง ปล หนังมีให้ดูน้อยมากเลยเมื่อเทียบกับบิน Emirates หรือ Qatar ครับ
หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเเล้ว ต้องไปที่ตรวจ Passport พนักงานถามคำถามแค่คำเดียวครับ ถามว่า " How long will you be staying here " ผมก็เลยบอกไปว่า ประมาณ 10 วันครับ ส่วนเจ้าหน้าที่บอกผมกลับมาว่า Have fun and Enjoying your holiday. บังเอิญโชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่ใจดีมากๆ หลังจากผ่านมาเเล้วผมก็ ลงมารับสัมภาระกระเป๋าครับ และ เดินไปถามเจ้าหน้าที่ต่อเลยครับว่าจะไป Hotel ยังไง บังเอิญผมได้ทำการจอง โรงแรมใกล้ Airport ครับเพื่อสะดวกต่อการหิ้วกระเป๋าครับ จะได้ไม่พลุงมาก เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า พอออกจากที่รับกระเป๋าเเล้วก็ให้ออกจากสนามบินไป เเล้วเลี้ยวซ้ายจะมีรถของแต่ละโรงแรมมารับไปที่โรงแรม ครับ ตอนนั้นผมจอง Crowne Plaza Los Angeles International Airport ซึ่งสะดวกมากๆเลยครับ
รูปตัวอย่างรถโรงแรมของแต่ละบริษัทนะครับ พอดีผมถ่ายรูปรถโรงแรมที่พักไม่ทันมัวเเต่ยุ่งหิ้วกระเป๋าขึ้นไปให้กันก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
หันเงยหน้าขึ้นไปก็จะเป็น ป้ายสีเเดงบอกว่าเป็น Hotel Shuttle Bus
ถ้าเจอพนักงานขับรถดี แล้วเขามาช่วยยกกระเป๋าก็ต้องให้ทิปไปด้วยนะครับ ตอนนั้นให้ไปประมาณ $5 ยิ้มเลย 55555
หลังจากไปที่ โรงแรมเรียบร้อยแล้วก็ ไปติดต่อ Counter Check-In ที่เราไดทำการ Booking ไปเรียบร้อยแล้วครับ เเต่ยังไม่สามารถ Check In เข้าห้องพักได้นะครับ ตามกฎของโรวงแรมทุกที่คือ Check In Time: 3:00 pm - Check Out Time: 12:00 pm ครับ
https://www.booking.com/ อีก เว็ปนึงก็มี
https://www.expedia.co.th/?rfrr=Redirect.From.www.expedia.com%2F
ผมกับที่บ้านก็รอพี่อีกท่านนึงกำลัง Check Inn ที่พักของโรงแรมก็เดินไปถามที่ Concierge ว่า มีวิธีไหนไหมครับที่สามารถเดินทางไปยัง Universal Studio ใกล้ที่สุด พนักงานก็บอกผมมาว่า ให้จองรถ Uber เลยครับ เพราะรวดเร็วและประหยัดเวลาการเดินทางด้วย เพราะจาก Airport จะเดินทางไปยัง Universal Studio ลำบากมากๆเลยครับ
ก็เลยพวกเราตัดสินใจนั่งรถ Uber เพื่อไปเที่ยว Universal Studio ครับ
http://www.universalstudioshollywood.com/
เราสามารถ จองออนไลน์ได้ หรือซื้อตั๋วที่โน้นได้เลย แต่บอกไว้ก่อนนะครับ ซื้อออนไลน์จากที่บ้านมาจะีว่านะครับ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิวรอ
อันนี้เป็น Link ที่สามารถเข้าไปโหลดดูแผนที่ได้นะครับ จะได้ประหยัดเวลาในการหาครับ
https://www.universalstudioshollywood.com/site-content/uploads/2017/06/USH_Park_Map_June-Aug_2017_English.pdf
ซึ่งเครื่องเล่นก็มีต่างๆนานามากมาย เเต่ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงที่หยุดยาวของวันชาติที่อเมริกาครับ พ่อแม่ก็เลยพาลูกๆหลานๆมาเที่ยวกัน เครื่องเล่นก็มีหลากหลายเช่น Walk of the dead, Jurassic Park, Mummy, Transformer แบบ 3D, Minnion, Harry Potter ส่วนที่ผมอยากเเนะนำเลยนะครับว่า ให้ไปเล่น Harry Potter ก่อนเป็นอันดับเเรกนะครับเพราะว่า คนจะรอเข้าคิวเยอะมากครับ
เสียดายมากไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพข้างในเลยครับ
หลังจากนั้นกระผมก็รอทุกท่านช้อบปปิ้ง ส่วนตัวผมเเล้วชอบไปนั่งทานกาแฟ สตาบัครชิวๆที่ Universal Studio ครับ เเละ ไปทานอาหารเย็นในละเเวกนั้น ระหว่างรอรถ Uber มารับกลับไปที่โรงแรมครับ
Day2: Griffith Park Observatory - Hollywood Boulevard - Chinese Theatre -
เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราก็จองรถ Uber อีกครับ รถ Uber ก็มารับที่โรงแรมเช่นเคย พาพวกเราไปถ่ายรูปที่ บริเวณป้าย Hollywood เเต่เห็นได้ไม่ชัดเพราะไปถ่ายที่บริเวณ Griffith Park ครับ
พอหลังจากนั้นได้เดินทางมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เเรกครับ ได้จัดวิวสวยเลยครับ
ถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกกันครับ บริเวณด้านหลังที่เห็นก็เป็นป้าย Hollywood นั่นเองครับ
บริเวณ Griffith Park ครับ สวยงามมากอะไรเช่นนี้ โชคดีมากที่แดดออกครับเลยถ่ายได้เยอะครับ
หลังจากนั้น รถ Uber ก็ไปส่งเราที่ บริเวณ Chinese Theatre ครับ ผมก็ลงจากรถไปเพื่อไปเดินถ่ายรูปในย่านนั้น
บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ผมได้ซื้อซิมโทรศัพท์หลังจากหามาเป็นเวลานานเกือบหลายชั่วโมง
[img]https://f.ptcdn.info/618/052/000/oti1asbl5U5Dq0Pd8ap-
o.jpg[/img]
หลังจากช้อปปิ้งเรียบร้อยพวกเราก็ไปหาข้าวเที่ยงทานกันที่ บริเวณ Chinese Theatre ซื้อ Pizza มาทานกันอร่อยมากมายๆ
ทายสิครับว่าผมได้พบกับใคร ???
วิธีการซื้อตั๋วไม่ได้ยุ่งยากครับ เหมือนคล้ายๆกันกับซื้อตั๋วที่บ้านเราเลยครับ แต่รถไฟดูสกปรกมากแต่สะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็ท่องเที่ยวต่อไปยัง สถานี Pershing Square เพื่อไปดูตลาดเก่าในวันนั้น พร้อมกับกินอาหารเย็นมื้อแพงที่สุดเลยก็ว่าได้ ต้องขอขอบพระคุณอาโกอย่างมากที่มาเลี้ยงต้อนรับพวกเรา
ร้านกาแฟกับเค้กที่ดังที่สุดในย่าน Pershing Square ชื่อร้าน Bottega Louie
ตอนเย็นพวกเราก็ไปทานร้านอาหารจีนกันที่ร้านอาหารชื่อ Newport Seafood มื้อนี้สั่งมา 8 อย่างน่าจะตกราคาราวๆประมาณ $1,000 ด้วยนะครับ
ปล ขอจบการรีวิวทริปสองวันเเรกที่ Los Angeles นะครับเดี่ยวจะกลับมาเขียนต่อนะครับ จขกทเหนื่อยเเล้วครับ ขอขอบพระคุณที่กด Review, Like and Share นะครับ ทุกๆๆ Comment ทุกๆๆ Share จะทำให้กระผม อยากจะสู้ที่จะเขียนต่อให้จบทริปนะครับ สามารถ Follow ได้ทางเฟสบุกนะครับ
George Nadthapong O Charoenkul ทิ้ง ข้อความไว้ได้เลยนะครับหากทุกท่านมีข้อสงสัยประการใด ผมยินดีให้คำตอบครับ
Los Angeles (Part1) Universal Studio - Griffith Park Observatory - Chinese Theatre - Hollywood
https://ppantip.com/topic/36233147 สามารถเข้าไป ศึกษาได่นะครับ
ระยะเวลาเดินทางเริ่มจาก 30 June - 9th July 2017
Day 1: Bangkok to Los Angeles (Universal Studio)
Day 2: Griffith Park Observaatory - Hollywood Boulevard - Chinese Theatre - ทานอาหารจีนร้านที่แพงที่สุดใน Los Angeles
Day 3: Los Angeles - Barstow Outlet (Shopping Sales) - Las Vegas
Day 4: Grand Canyon (South Rim Tour) - Hoover Dam - Route 66 - Grand Canyon South Rim - Las Vegas
Day 5: Las Vegas - แวะพักที่เมือง Bakersfield ทานข้าวเที่ยง - พักข้างคืนที่ Oakshurst
Day 6: Oakhurst - Yosemite National Park - South Lake Tahoe
Day 7: South Lake Tahoe - Napa Valley
Day 8: Napa Valley - San Francisco
Day 9: San Francisco
Day 10: San Francisco - Bangkok
เเละเเล้วเวลาแห่งการรอคอยของพวกเราที่จะต้องไปพจญภัยได้มาถึงแล้วครับ วันนั้นผมเริ่มออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Korean Air เที่ยวบินที่ KE 658 ระหว่างเดินทาง สายการบินนี้มีพนักงานบริการดีมากๆเลยครับเมื่อเทียบกับสายการบินอื่น พนักงานน่ารักมากเลยครับ หลังจากที่เค้าเสริฟอาหารเสร็จก็ เข้าไปคุยแนะนำโน้นนี่นั้นเเลกนามบัตรอย่างเป็นทางการ ถามสารทุกสุกดิบว่ากว่าจะมาเป็นพนักงานต้อนรับ ลำบากไหมผ่านอะรไรมาเยอะไหม อุปสรรคในการทำงานเจออะไรบ้าง แล้วทำงานที่นี่เพื่อนร่วมงานดีไหม ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนตลอดการเดินทางเลยก็ว่าได้ เป็น Flight เที่ยวบินที่หาไม่ได้อีกแล้ว
พนักงานต้อนรับคนนี้แหละครับที่ผมบอกน่ารักมากครับ
พอเดินทางไปถึงสนามบิน Incheon ก่อนที่จะไปเปลี่ยนเครื่องต้องมีการ Check Secutiy อีกรอบนะครับเพื่อความปลอดภัยครับ หลังจากผ่าน Security Check In เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว หลังจากนั้นได้เวลาสนุกสนานให้ Shopping กันอีกเลยทีเดียว บังเอิญโชคดีมากครับ เวลารอเปลี่ยนเครื่องประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นผมรออะไรอะครับ ก็ไป อาบน้ำก่อนเลยหลังจากเดินทางมานาน เพื่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก ที่สนามบินนี้ มีบริการให้อาบน้ำฟรีด้วยครับ ที่อาบน้ำนี้สำหรับคนที่ มา Transit เท่านั้น
จากภาพที่เห็นหันไปด้านหลังเข้าทางที่เขียนว่า Priority Pass เเต่ไม่ต้องเข้าห้อง Priority Pass นะครับ เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะพบกับ Free Shower
พนักงานบอกว่า Please show only boarding pass. No Passport ครับ หลังจากนั้นรู้สึกสะดวกสะบายมากเลยครับ
*** เดินทางไกลอีกแล้วครับ ประมาณ 10ชั่วโมง 20 นาที เครื่องบินก็เหมือนเดิมครับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่คงไม่ได้เจอพนักงานน่ารักท่านนั้นอีกแล้ว รู้สึกเสียใจนิดๆๆ
บรรยากาศภายในเครื่องครับ
หลังจากนั้นผมก็ได้เดินทางไปถึงสนามบิน ลอสแอนเจลลิศ ไปถึงที่นั้นก็เป็นเวลา หกโมงเช้าของที่นั้น ผมก็ไม่รู้สึกเหนื่อยมากเพราะได้หลับเยอะแล้วครับในระหว่างการเดินทาง ปล หนังมีให้ดูน้อยมากเลยเมื่อเทียบกับบิน Emirates หรือ Qatar ครับ
หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเเล้ว ต้องไปที่ตรวจ Passport พนักงานถามคำถามแค่คำเดียวครับ ถามว่า " How long will you be staying here " ผมก็เลยบอกไปว่า ประมาณ 10 วันครับ ส่วนเจ้าหน้าที่บอกผมกลับมาว่า Have fun and Enjoying your holiday. บังเอิญโชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่ใจดีมากๆ หลังจากผ่านมาเเล้วผมก็ ลงมารับสัมภาระกระเป๋าครับ และ เดินไปถามเจ้าหน้าที่ต่อเลยครับว่าจะไป Hotel ยังไง บังเอิญผมได้ทำการจอง โรงแรมใกล้ Airport ครับเพื่อสะดวกต่อการหิ้วกระเป๋าครับ จะได้ไม่พลุงมาก เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า พอออกจากที่รับกระเป๋าเเล้วก็ให้ออกจากสนามบินไป เเล้วเลี้ยวซ้ายจะมีรถของแต่ละโรงแรมมารับไปที่โรงแรม ครับ ตอนนั้นผมจอง Crowne Plaza Los Angeles International Airport ซึ่งสะดวกมากๆเลยครับ
รูปตัวอย่างรถโรงแรมของแต่ละบริษัทนะครับ พอดีผมถ่ายรูปรถโรงแรมที่พักไม่ทันมัวเเต่ยุ่งหิ้วกระเป๋าขึ้นไปให้กันก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
หันเงยหน้าขึ้นไปก็จะเป็น ป้ายสีเเดงบอกว่าเป็น Hotel Shuttle Bus
ถ้าเจอพนักงานขับรถดี แล้วเขามาช่วยยกกระเป๋าก็ต้องให้ทิปไปด้วยนะครับ ตอนนั้นให้ไปประมาณ $5 ยิ้มเลย 55555
หลังจากไปที่ โรงแรมเรียบร้อยแล้วก็ ไปติดต่อ Counter Check-In ที่เราไดทำการ Booking ไปเรียบร้อยแล้วครับ เเต่ยังไม่สามารถ Check In เข้าห้องพักได้นะครับ ตามกฎของโรวงแรมทุกที่คือ Check In Time: 3:00 pm - Check Out Time: 12:00 pm ครับ
https://www.booking.com/ อีก เว็ปนึงก็มี https://www.expedia.co.th/?rfrr=Redirect.From.www.expedia.com%2F
ผมกับที่บ้านก็รอพี่อีกท่านนึงกำลัง Check Inn ที่พักของโรงแรมก็เดินไปถามที่ Concierge ว่า มีวิธีไหนไหมครับที่สามารถเดินทางไปยัง Universal Studio ใกล้ที่สุด พนักงานก็บอกผมมาว่า ให้จองรถ Uber เลยครับ เพราะรวดเร็วและประหยัดเวลาการเดินทางด้วย เพราะจาก Airport จะเดินทางไปยัง Universal Studio ลำบากมากๆเลยครับ
ก็เลยพวกเราตัดสินใจนั่งรถ Uber เพื่อไปเที่ยว Universal Studio ครับ
http://www.universalstudioshollywood.com/
เราสามารถ จองออนไลน์ได้ หรือซื้อตั๋วที่โน้นได้เลย แต่บอกไว้ก่อนนะครับ ซื้อออนไลน์จากที่บ้านมาจะีว่านะครับ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิวรอ
อันนี้เป็น Link ที่สามารถเข้าไปโหลดดูแผนที่ได้นะครับ จะได้ประหยัดเวลาในการหาครับ
https://www.universalstudioshollywood.com/site-content/uploads/2017/06/USH_Park_Map_June-Aug_2017_English.pdf
ซึ่งเครื่องเล่นก็มีต่างๆนานามากมาย เเต่ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงที่หยุดยาวของวันชาติที่อเมริกาครับ พ่อแม่ก็เลยพาลูกๆหลานๆมาเที่ยวกัน เครื่องเล่นก็มีหลากหลายเช่น Walk of the dead, Jurassic Park, Mummy, Transformer แบบ 3D, Minnion, Harry Potter ส่วนที่ผมอยากเเนะนำเลยนะครับว่า ให้ไปเล่น Harry Potter ก่อนเป็นอันดับเเรกนะครับเพราะว่า คนจะรอเข้าคิวเยอะมากครับ
เสียดายมากไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพข้างในเลยครับ
หลังจากนั้นกระผมก็รอทุกท่านช้อบปปิ้ง ส่วนตัวผมเเล้วชอบไปนั่งทานกาแฟ สตาบัครชิวๆที่ Universal Studio ครับ เเละ ไปทานอาหารเย็นในละเเวกนั้น ระหว่างรอรถ Uber มารับกลับไปที่โรงแรมครับ
Day2: Griffith Park Observatory - Hollywood Boulevard - Chinese Theatre -
เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราก็จองรถ Uber อีกครับ รถ Uber ก็มารับที่โรงแรมเช่นเคย พาพวกเราไปถ่ายรูปที่ บริเวณป้าย Hollywood เเต่เห็นได้ไม่ชัดเพราะไปถ่ายที่บริเวณ Griffith Park ครับ
พอหลังจากนั้นได้เดินทางมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เเรกครับ ได้จัดวิวสวยเลยครับ
ถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกกันครับ บริเวณด้านหลังที่เห็นก็เป็นป้าย Hollywood นั่นเองครับ
บริเวณ Griffith Park ครับ สวยงามมากอะไรเช่นนี้ โชคดีมากที่แดดออกครับเลยถ่ายได้เยอะครับ
หลังจากนั้น รถ Uber ก็ไปส่งเราที่ บริเวณ Chinese Theatre ครับ ผมก็ลงจากรถไปเพื่อไปเดินถ่ายรูปในย่านนั้น
บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ผมได้ซื้อซิมโทรศัพท์หลังจากหามาเป็นเวลานานเกือบหลายชั่วโมง
[img]https://f.ptcdn.info/618/052/000/oti1asbl5U5Dq0Pd8ap- o.jpg[/img]
หลังจากช้อปปิ้งเรียบร้อยพวกเราก็ไปหาข้าวเที่ยงทานกันที่ บริเวณ Chinese Theatre ซื้อ Pizza มาทานกันอร่อยมากมายๆ
ทายสิครับว่าผมได้พบกับใคร ???
วิธีการซื้อตั๋วไม่ได้ยุ่งยากครับ เหมือนคล้ายๆกันกับซื้อตั๋วที่บ้านเราเลยครับ แต่รถไฟดูสกปรกมากแต่สะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางครับ
หลังจากนั้นพวกเราก็ท่องเที่ยวต่อไปยัง สถานี Pershing Square เพื่อไปดูตลาดเก่าในวันนั้น พร้อมกับกินอาหารเย็นมื้อแพงที่สุดเลยก็ว่าได้ ต้องขอขอบพระคุณอาโกอย่างมากที่มาเลี้ยงต้อนรับพวกเรา
ร้านกาแฟกับเค้กที่ดังที่สุดในย่าน Pershing Square ชื่อร้าน Bottega Louie
ตอนเย็นพวกเราก็ไปทานร้านอาหารจีนกันที่ร้านอาหารชื่อ Newport Seafood มื้อนี้สั่งมา 8 อย่างน่าจะตกราคาราวๆประมาณ $1,000 ด้วยนะครับ
ปล ขอจบการรีวิวทริปสองวันเเรกที่ Los Angeles นะครับเดี่ยวจะกลับมาเขียนต่อนะครับ จขกทเหนื่อยเเล้วครับ ขอขอบพระคุณที่กด Review, Like and Share นะครับ ทุกๆๆ Comment ทุกๆๆ Share จะทำให้กระผม อยากจะสู้ที่จะเขียนต่อให้จบทริปนะครับ สามารถ Follow ได้ทางเฟสบุกนะครับ
George Nadthapong O Charoenkul ทิ้ง ข้อความไว้ได้เลยนะครับหากทุกท่านมีข้อสงสัยประการใด ผมยินดีให้คำตอบครับ