ทริปลุยเดี่ยวปักกิ่งสายเนิร์ด ไม่ง้อทัวร์ ไม่ง้อเพื่อนร่วมทาง

สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่2ที่ผมเขียน หลังจากกระทู้แรกเขียนเรื่องการท่องเที่ยวในมองโกเลียใน ประเทศจีน กระทู้นี้จะมาเล่าเรื่องปักกิ่งบ้างครับ จริงๆแล้วไทม์ไลน์ของทริปปักกิ่งเกิดขึ้นก่อนทริปมองโกเลียใน ผมเที่ยวในปักกิ่ง5วันจากนั้นค่อยไปมองโกเลียใน แต่ดันมาเขียนเรื่องปักกิ่งที่หลังซะนี่
คอนเซ็ปต์ของผมในการไปรอบนี้อาจจะดูแปลกๆ คลั่งๆหน่อย เพราะไม่ได้ไปช็อปปิ้ง หรือ ถ่ายรูปสวยๆ แต่ไปเพราะความคลั่งล้วนๆ ผมเป็นเนิร์ดที่คลั่งไคล้ในประวัติศาสตร์จีนยุคใกล้ คือยุคหลังราชวงศ์ชิงล่มสลาย ทริปนี้ก็คือการไปตามรอยประวัติศาสตร์ล้วนๆ

วันแรก จขกทออกจากหอที่เซี่ยงไฮ้ประมาณ 6โมง เพื่อไปรอไฟล์ทประมาณ 9.30 แต่ไฟลท์ดีเลย์ เนื่องจากช่วงนี้อากาศในจีนแปรปรวนมากครับ แถมเรื่องหมอกพิษก็มีแทบทุกวัน อันนี้ผมก็ไม่มีความรู้ด้านการบินแต่เห็นพนักงานบอกว่า “ไฟลท์บินลงใต้ไม่เป็นไร แต่ไฟลท์ขึ้นเหนือ กับตะวันตก ต้องรอหน่อยนะ” สรุปดีเลย์ไปชั่วโมงกว่า ครับ ผมขึ้น China Eastern Airline แต่ทั้งนี้ก็โทษสายการบินไม่ได้ เพราะเป็นกันทุกสายการบินจริง เรื่องดีเลย์เนี่ย การขึ้นเครื่องบินในจีน พูดตรงๆถ้าขึ้นแบบ Economy ก็อย่าไปคาดหวังอะไรมากครับ ถือซะว่า เราไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยก็พอ ถ้าเอามาตรฐานแบบไทยๆมาวัด เราก็จะเสียความรู้สึกซะเอง ไม่สนุกเปล่าๆ บนเครื่องเสิร์ฟขนมปังกรอบ กับผักดอง ผมก็กินๆไปรองท้องไว้ ผักดองกินไม่ไหวจริงๆ เลยทิ้งไป 5555 ผมอยู่จีนมาเกือบปี เรื่องพวกนี้ทนได้ก็ทนๆไป มองเป็นเรื่องตลกไปดีกว่า  
ถึงปักกิ่งประมาณบ่ายกว่าครับ ผมนั่งรถไฟฟ้ามาจากสนามบินมาลงที่สถานี Qianmen อากาศร้อนมาก ร้อนแบบแสบจริงๆ ผมเคยคิดว่าพวกประเทศที่อยู่เหนือๆ อากาศร้อนคงไม่หนักเท่าไทย แต่มาเจอจริงๆ ร้อนกว่าครับ อีกอย่าง คนจีนเวลาเปิดแอร์จะชอบเปิดแบบเบาๆ ตั้งอุณหภูมิประมาณ 28 ซึ่งมันไปเย็นเจี๊ยบแบบแอร์ตามห้าง ตามรถไฟฟ้าในไทย เหมือนเค้าเปิดให้อากาศถ่ายเทเท่านั้นเอง ผมเดินลากกระเป๋าไปโฮสเทลที่พัก เพราะไม่ถึงกับไกลมาก เดินประมาณ15นาทีก็ถึง พร้อมกับเหงื่อซก 5555
นี่ครับรูปของโฮสเทลที่พัก

ตรงกลางจะเป็นเหมือนลานโถง (แบบในหนังจีนครับ) เรียกว่า ย่วนจึ 院子

โฮสเทลชื่อ Leo Hostel หรือ 阿来客栈 เป็นที่พักแบบห้องเดียว 4 เตียง ราคาคืนละ 80 หยวน ตามคอนเซปต์ถูกไว้ก่อนครับ เข้าห้องไปก็ถือว่าดีเลยทีเดียว แต่อย่าไปเทียบกับโฮสเทล หรือ โรงแรมแคปซูลที่ญี่ปุ่นนะครับ มันก็พออยู่ได้ในระดับนึง ผมได้ที่นอนชั้นบน วางของเสร็จก็เตรียมออกไปเที่ยว
หลังจากที่กินขนมปังกรอบบนเครื่องไป ตอนนี้บ่าย2แล้ว หิวมาก เลยไปกินจ๋าเจี้ยงเมี่ยน ถ้าใครเคยกิน จาจางมยอน ของเกาหลี เทียบคำกับสองภาษานี้ มันคือคำเดียวกันเลยครับ แต่รสชาติ ขอบอกว่า ต้องให้ชาวฮั่นไปศึกษาการทำอาหารจากชาวโชซอนใหม่เถอะ จานนี้เอามาคลุกเอง น้ำราดเหมือนซีอิ๊ว โดนไป18หยวน ถือว่าแพงครับ แต่ตอนนั้นหิวมาก เลยกินไปก่อน55555


คลุกเสร็จออกมาเป็นแบบนี้ครับ

วันแรกก็จัดเลย ที่แรกที่อยากมา จัตุรัสเทียนอันเหมิน แต่เสียดาย สุสานประธานเหมาปิดปรับปรุงมาครึ่งปีเลยไม่ได้เข้าไป ได้แต่ถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ข้างหน้าครับ

ผมอยู่เซี่ยงไฮ้มาเกือบปี ขณะที่เซี่ยงไฮ้มีความเป็นเมืองท่าที่สำคัญของจีน มีความทันสมัย และความเป็นตะวันตก พอได้มาปักกิ่งแล้ว ให้ความรู้สึกอีกแบบ ย้ำเตือนว่า ประเทศจีนยังคงอุดมการณ์คอมมิวนิสต์อันเหนียวแน่น เดินอยู่ในเทียนอันเหมินยังมีความรู้สึกแว่บๆว่า เฮ้ย เราอยู่ในเกาหลีเหนือรึเปล่านี่ ก่อนจะเข้าจัตุรัสเทียนอันเหมินได้ ต้องเดินเข้าไปเท่านั้นครับ จะผ่านด่านการตรวจ 2 รอบ รอบแรกแค่กั้นทางเล็กๆให้คนค่อยๆเดินเข้าไป แล้วมีทหารยืนดู (และกรองเบื้องต้นด้วย) เข้าถึงด่านที่2 ต่อแถว เอากระเป๋าเข้าเครื่องสแกนดูของภายใน มีเครื่องสแกน2เครื่อง เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องสแกนเครื่องละ 4-5 คน หากนำน้ำดื่มเข้ามาด้วย เจ้าหน้าที่จะบอกให้ กินให้เค้าดูสักอึกนึง เพื่อพิสูจน์ว่า น้ำที่เราเอามาไม่ใช่น้ำมัน หรือ ยาพิษ ไม่ก็เปิดฝาให้เจ้าหน้าที่ดมเอาครับ ผมไม่โดนตรวจอะไรมากเท่าไร แต่ก็กินน้ำโชว์ไปอึกนึง แต่คุณลุงคนจีนที่ต่อแถวข้างหน้า ดูท่าทางแกจะมาจากต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่ล้วงกระเป๋าเสื้อ คลี่ดูกระดาษที่แกเหน็บมาให้กระเป๋า ตรวจเข้มมาก
นี่คือรูปที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน มาแล้วทำให้รู้เลยว่า จีนยังคงเป็นคอมมิวนิสต์ที่เหนียวแน่นมาก


แม้แต่ของที่ระลึกก็ด้วย


มื้อเย็นติดต่อเพื่อนคนจีน ไปกินเป็ดปักกิ่งด้วยกัน รสชาติอร่อยดีครับ แต่ให้พูดตรงๆก็ไม่ถึงกับอร่อยเหาะขนาดนั้น และแอบดูราคามา (หลังจากยื้อแย่งกันจ่ายตังกับเพื่อนคนจีน แต่ไม่สำเร็จ ต้องให้เค้าเลี้ยง) ราคาไม่ธรรมดาเลย

วันที่2
ตอนแรกผมนึกว่าจะไปกำแพงเมืองจีนกับทัวร์ที่โฮสเทลจัด แต่ตอนนั้นผมไม่มีเงินสด (เนื่องจากตอนอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ผมใช้ Alipay หรือ Internet Banking ในเค้าสแกนQR Code แล้วตัดจากบัตรเดบิตเอา) กลายเป็นว่าต้องจ่ายเงินสดเป็นค่าทัวร์ประมาณ 280 หยวน (แพงอยู่นะ) ตอนนั้นดึกแล้วผมไม่อยากเดินหาตู้เอทีเอ็ม ผมเลยถามร้านตัดผมแถวนั้นว่า ขอแลกเงินได้มั้ยครับ เดี๋ยวผมโอนผ่าน Alipay ไปให้ เพราะตู้เอทีเอ็ม ไกลมาก แต่เจ้าของร้านส่ายหัว ผมเลยเสียเซลฟ์เล็กๆ ไม่อยากไปถามร้านอื่นละ เลยคิดว่า เอาวะ พรุ่งนี้กุไปเองยิ้ม ไม่ง้อทัวร์
ปล. ด้วยความเป็นเมืองใหญ่ ผมเข้าใจว่า คนเค้าอาจจะไม่ไว้ใจนักท่องเที่ยวขนาดนั้น ยิ่งผมหน้าเหมือนคนจีนด้วย เค้าอาจจะกลัวโดนหลอก วันแรกยอมรับว่าหัวเสียเลย เพราะอยู่เซี่ยงไฮ้มาไม่เคยเจอแบบนี้ แล้ววันนี้เหนื่อยอีก
วันที่2ผมเลยตื่นเช้ามา ขึ้นรถบัส สาย 1 ไป ปาต๋าหลิ่งฉางเฉิง หรือ Badaling Great Wall ค่าโดยสาร20หยวน ไปกับคนจีนทั้งคันเลย สู้! พอไปถึงต้องมีค่าขึ้นกระเช้าอีกประมาณ 130 หยวนมั้งครับ ผมคิดว่าแล้วว่า เดินขึ้นเองไม่ไหวแน่ เลยขึ้นกระเช้าไป
ข้างบนคนเยอะมากๆ มีถึงขนาดอากงอาม่า นั่งปิกนิกกันบนกำแพงเมืองจีน



แต่โดยรวมยิ่งใหญ่มากครับ แต่เสียดายตรงที่มีคนมือบอนเขียนชื่อตัวเองลงบนโบราณสถานอายุหลายพันปีเยอะมาก

Temple of Heaven หรือ เทียนถันกงหยวน 天坛公园

พระราชวังต้องห้ามเป็นอีกที่ที่พลาดไม่ได้เลย ด้วยความที่เป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องมา คนจึงเยอะมากแบบนี้ พอมารวมกับความร้อนอบอ้าวและฝน มันก็วุ่นวายแบบนี้แหละครับ

ค่าตั๋ว 60 หยวน ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับความยิ่งใหญ่ของพระราชวังต้องห้าม


ด้วยความที่ผมเป็นแฟนคลับของหนังเรื่อง The Last Emperor อยู่แล้ว ต้องบอกเลยครับว่าอินมาก
แม้ว่าจะไม่มีความรู้เรื่องตำหนักต่างๆโดยละเอียด แต่ก็มาตามรอยแต่ละฉากของหนัง
หนังที่ปูยีวิ่งไล่ตามแม่นม ฉากที่ปูยีจะออกไปหาแม่ที่เพิ่งจะเสีย แต่ออกไปไม่ใช่เลยปาหนูใส่ประตู
ฉากที่ทหารก๊กมินตั๋งเข้ามาตอนที่ปูยีกำลังตีเทนนิสและให้เวลา1ชั่วโมงในการเก็บของ



ถ้าเคยดูหนังเรื่อง The Last Emperor มาบ้างอาจจะพอคุ้นสถานที่เหล่านี้นะครับ

ก่อนจากกัน ผมมาคนเดียวเลยถ่ายได้แต่เซลฟี่ เลยถามคนจีนแถวนั้นให้ช่วยถ่ายให้หน่อย
ผลที่ได้คือแบบนี้ครับ



เอียง และ ติดนิ้ว

แล้วก็พึมพำว่า หว่อจะถ่ายยังไงดีนะให้มันเห็นตัวหนังสือและรูปเหมาทั้งหมด
สำหรับผมการที่ตัวหนังสือครบ มันไม่สำคัญเท่าภาพตรงและไม่ติดนิ้วนะครับ


ของที่ระลึกราคา5หยวน เค้าเอาไว้ห้อยหน้ารถ เหมือนพระเครื่องเมืองไทยเลยครับ5555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่