ปัจจุบันนี้ เรามักจะได้ยินอยู่เรื่อยๆ นะครับว่า โลกกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างมาก
คนที่จะอยู่รอด จึงไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง แต่เป็นคนที่พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้น
แต่ความท้าทายมันอยู่ตรงนี้ครับ...
เป็นที่ทราบกันว่า ในยุคปัจจุบัน งานหลายอย่างได้ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์แล้ว
เอาง่ายๆ ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ก็เช่นการใช้หุ่นยนต์เครื่องจักรต่าง ๆ แทนคนในโรงงาน แต่มันไม่ได้หยุดแค่นั้น...
ต่อไปเราจะเริ่มเห็นหุ่นยนต์ในสถานบริการต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ และที่เรียกว่าหุ่นยนต์นั้น ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเป็นตัวหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนคนเท่านั้นนะครับ แต่ยังหมายความรวมถึงระบบอัตโนมัติต่างๆ ด้วย
ไม่ต้องไปไกลหรอกครับ แค่เวลาเราไป shopping ซื้อของใน supermarket ในต่างประเทศหลายๆ แห่ง เดี๋ยวนี้เขาก็มีระบบ self-service กันแล้ว
แปลว่าอะไรครับ ก็แปลว่าคนที่ทำหน้าที่ cashier ก็จะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป...
แล้วอย่าดูถูกนะครับ เพราะระบบ “อัจฉริยะ” เหล่านี้ มันอัจฉริยะของจริงนะครับ มันเก่งกว่าคนในหลายๆ ด้านซะด้วย
ไม่เชื่อลองดูผลการแข่งขันหมากรุก หมากล้อม หรือจะหมากอะไรก็ได้ คนเราแพ้หุ้นยนต์หมดทั้งสิ้น
ว่ากันว่า แม้กระทั่งการเขียนหนังสือ เชื่อไหมครับว่าในอนาคตมันมีโอกาสที่จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์! เพราะระบบ algorithm พวกนี้ มันสามารถสืบหา pattern ได้จากการดูหนังสือเป็นล้านๆ เล่มครับ ว่าคนเราชอบอ่านอะไรกัน เสร็จแล้วมันก็จะสามารถแต่งหนังสือประเภทที่คนอยากอ่านได้สบายๆ
เป็นไงครับ น่ากลัวไหมล่ะครับ
วันก่อนได้ไปดูสถิติอันหนึ่งจาก Business Insider ที่เขาเอาค่าสถิติมาจากนิตยสาร The Economist อีกที เขาคำนวณค่าความน่าจะเป็นที่อาชีพเหล่านี้จะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์ภายใน 20 ปี
อันที่มีความน่าจะเป็นที่จะถูกแทนที่สูงสุดได้แก่ telemarketers หรือนักการตลาดประเภทที่ต้องโทรศัพท์ไปหาลูกค้า ขอให้ลูกค้าซื้อของหรือซื้อประกันอะไรแบบนั้น ต่อไปอาชีพนี้คงสามารถใช้หุ่นยนต์ทำแทนได้ง่ายๆ รองลงมาที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่นักบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีครับ อันนี้ดูน่ากลัวทีเดียว เพราะผมเชื่อว่านักบัญชีบ้านเรามีไม่น้อย
เนื่องจากบัญชีมันมีกฎระเบียบค่อนข้างชัดเจน จึงสามารถเขียน algorithm ทดแทนได้ง่าย ถึงแม้ว่าอาจจะมีนักบัญชีหลายคนนึกแย้งในใจว่า แต่บางอย่างมันก็ต้องใช้ judgement ของมนุษย์นะ แต่อย่าลืมนะครับว่า หมากรุก หมากล้อม ซึ่งมันก็ต้องใช้ judgement เยอะแยะมากมาย คอมพิวเตอร์มันยังมี algorithm ที่ชนะคนได้เลย
อีกอาชีพหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงคือพนักงานขายครับ เพราะโลกต่อไปในอนาคต ข้อมูลต่างๆ จะมีพร้อมหมด เรียกว่าเราไม่ต้องไปถามข้อมูลจากพนักงานขายอีกต่อไป และพวกการรับจ่ายเงินมันก็จะกลายเป็น electronics กันหมดแล้ว
แล้วถามว่าอาชีพอะไรที่จะเหลือที่ยืนให้กับมนุษย์บ้าง จากสถิติที่แสดงมา ก็จะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะของมนุษย์สูง เช่น นักบำบัดโรคต่างๆ หรือแม้กระทั่งหมอฟัน
คือจริงๆ ผมว่าพวกนี้ หุ่นยนต์มันก็สามารถทำหน้าที่แทนได้นะครับ เพียงแต่คนเราเองนี่แหละที่อาจจะยังไม่ค่อยเชื่อใจ ลองนึกภาพว่า ถ้าเราต้องไปทำฟันกับหุ่นยนต์ เราจะสบายใจกันแค่ไหนครับ เจ็บแล้วร้อง หุ่นยนต์มันไม่หยุดให้หรอกนะครับ
ถึงแม้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะยังเป็นเพียงการคาดเดา และอาจจะผิดก็ได้ แต่อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นแหละครับ ผู้ที่จะอยู่รอดคือผู้ที่เตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด
อ่านดูแล้ว ลองมานั่งคิดกันดูครับว่า อาชีพเราจะถูกทดแทนได้อย่างไร และเราจะทำอะไรกันต่อไป อย่างน้อยเตรียมไว้ก่อนก็ไม่มีอะไรเสียหาย จริงไหมครับ
http://www.workpointtv.com/news/42497
สาขาบัญชี อีกหน่อยจะไม่มีงานทำ
คนที่จะอยู่รอด จึงไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ง แต่เป็นคนที่พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้น
แต่ความท้าทายมันอยู่ตรงนี้ครับ...
เป็นที่ทราบกันว่า ในยุคปัจจุบัน งานหลายอย่างได้ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์แล้ว
เอาง่ายๆ ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ก็เช่นการใช้หุ่นยนต์เครื่องจักรต่าง ๆ แทนคนในโรงงาน แต่มันไม่ได้หยุดแค่นั้น...
ต่อไปเราจะเริ่มเห็นหุ่นยนต์ในสถานบริการต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ และที่เรียกว่าหุ่นยนต์นั้น ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเป็นตัวหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนคนเท่านั้นนะครับ แต่ยังหมายความรวมถึงระบบอัตโนมัติต่างๆ ด้วย
ไม่ต้องไปไกลหรอกครับ แค่เวลาเราไป shopping ซื้อของใน supermarket ในต่างประเทศหลายๆ แห่ง เดี๋ยวนี้เขาก็มีระบบ self-service กันแล้ว
แปลว่าอะไรครับ ก็แปลว่าคนที่ทำหน้าที่ cashier ก็จะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป...
แล้วอย่าดูถูกนะครับ เพราะระบบ “อัจฉริยะ” เหล่านี้ มันอัจฉริยะของจริงนะครับ มันเก่งกว่าคนในหลายๆ ด้านซะด้วย
ไม่เชื่อลองดูผลการแข่งขันหมากรุก หมากล้อม หรือจะหมากอะไรก็ได้ คนเราแพ้หุ้นยนต์หมดทั้งสิ้น
ว่ากันว่า แม้กระทั่งการเขียนหนังสือ เชื่อไหมครับว่าในอนาคตมันมีโอกาสที่จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์! เพราะระบบ algorithm พวกนี้ มันสามารถสืบหา pattern ได้จากการดูหนังสือเป็นล้านๆ เล่มครับ ว่าคนเราชอบอ่านอะไรกัน เสร็จแล้วมันก็จะสามารถแต่งหนังสือประเภทที่คนอยากอ่านได้สบายๆ
เป็นไงครับ น่ากลัวไหมล่ะครับ
วันก่อนได้ไปดูสถิติอันหนึ่งจาก Business Insider ที่เขาเอาค่าสถิติมาจากนิตยสาร The Economist อีกที เขาคำนวณค่าความน่าจะเป็นที่อาชีพเหล่านี้จะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์ภายใน 20 ปี
อันที่มีความน่าจะเป็นที่จะถูกแทนที่สูงสุดได้แก่ telemarketers หรือนักการตลาดประเภทที่ต้องโทรศัพท์ไปหาลูกค้า ขอให้ลูกค้าซื้อของหรือซื้อประกันอะไรแบบนั้น ต่อไปอาชีพนี้คงสามารถใช้หุ่นยนต์ทำแทนได้ง่ายๆ รองลงมาที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่นักบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีครับ อันนี้ดูน่ากลัวทีเดียว เพราะผมเชื่อว่านักบัญชีบ้านเรามีไม่น้อย
เนื่องจากบัญชีมันมีกฎระเบียบค่อนข้างชัดเจน จึงสามารถเขียน algorithm ทดแทนได้ง่าย ถึงแม้ว่าอาจจะมีนักบัญชีหลายคนนึกแย้งในใจว่า แต่บางอย่างมันก็ต้องใช้ judgement ของมนุษย์นะ แต่อย่าลืมนะครับว่า หมากรุก หมากล้อม ซึ่งมันก็ต้องใช้ judgement เยอะแยะมากมาย คอมพิวเตอร์มันยังมี algorithm ที่ชนะคนได้เลย
อีกอาชีพหนึ่งที่มีความเสี่ยงสูงคือพนักงานขายครับ เพราะโลกต่อไปในอนาคต ข้อมูลต่างๆ จะมีพร้อมหมด เรียกว่าเราไม่ต้องไปถามข้อมูลจากพนักงานขายอีกต่อไป และพวกการรับจ่ายเงินมันก็จะกลายเป็น electronics กันหมดแล้ว
แล้วถามว่าอาชีพอะไรที่จะเหลือที่ยืนให้กับมนุษย์บ้าง จากสถิติที่แสดงมา ก็จะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะของมนุษย์สูง เช่น นักบำบัดโรคต่างๆ หรือแม้กระทั่งหมอฟัน
คือจริงๆ ผมว่าพวกนี้ หุ่นยนต์มันก็สามารถทำหน้าที่แทนได้นะครับ เพียงแต่คนเราเองนี่แหละที่อาจจะยังไม่ค่อยเชื่อใจ ลองนึกภาพว่า ถ้าเราต้องไปทำฟันกับหุ่นยนต์ เราจะสบายใจกันแค่ไหนครับ เจ็บแล้วร้อง หุ่นยนต์มันไม่หยุดให้หรอกนะครับ
ถึงแม้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะยังเป็นเพียงการคาดเดา และอาจจะผิดก็ได้ แต่อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นแหละครับ ผู้ที่จะอยู่รอดคือผู้ที่เตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด
อ่านดูแล้ว ลองมานั่งคิดกันดูครับว่า อาชีพเราจะถูกทดแทนได้อย่างไร และเราจะทำอะไรกันต่อไป อย่างน้อยเตรียมไว้ก่อนก็ไม่มีอะไรเสียหาย จริงไหมครับ
http://www.workpointtv.com/news/42497