สวัสดีค่ะ
เจอกันอีกครั้งกับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแฮร์รี่พอตเตอร์ หลังจากห่างหายไปราวๆ 3 ปี
จากคราวที่แล้ว ที่เคยรีวิวตรอกไดแอกอนที่ออลันโดตั้งแต่วันแรกๆ ที่เปิดให้บริการ
วันนี้มีสถานที่(ไม่)ลับเท่าไหร่ แต่ไม่ค่อยเห็นบนพันทิป มาแนะนำกันค่ะ
หวังว่าจะประทับใจ อย่างที่เราประทับใจมากกกกก (กอไก่ล้านตัว)

House of MinaLima ตั้งอยู่กลางกรุงลอนดอน
บนถนนด้านหลังโรงละครที่มีการแสดง Harry Potter and the Cursed Child
เป็นเหมือนสถานที่จัดแสดงเล็กๆ ของคุณ Mina (มินะ) และคุณ Lima (ลิมะ)

ทั้งสองท่านนี้เป็นคนออกแบบทุกๆ อย่างในภาพยนตร์ เท่าที่คุณจะนึกออกเลยล่ะ
(แน่นอนว่าต้องมีที่เกินคาดอีกมากมายที่เค้าออกแบบ)
ตั้งแต่หน้าหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตไปจนถึงฉลากบนขวดยาของศาสตราจารย์ซลักฮอร์น
ที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นร้านขายของ ส่วนสถานที่จัดแสดงจะอยู่สามชั้นบน ซึ่งให้ขึ้นไปชมได้ฟรีค่ะ
ชิ้นงานที่จัดแสดงมี 2 แบบ คือของจริงที่ใช้ถ่ายทำในภาพยนตร์ จะอยู่ในตู้กระจก ดูแลรักษาเป็นอย่างดี กับชิ้นงานออกแบบต้นฉบับ (original) จากคุณมินะและคุณลิมะ แต่ละรูปทำขึ้นมาเพียง 250 ใบเท่านั้นบนโลกนี้ จัดจำหน่ายในราคาหลายร้อยปอนด์แล้วแต่รูป *กลืนน้ำลายดังเอื้อก* แต่ว่าเค้าก็มีชิ้นงานลอกเลียน (copy) ที่ทำขึ้นมา 1000 รูป ในราคาที่ย่อมเยาลงมาหน่อย ความสวยงามจะไม่เท่าแบบต้นฉบับ แต่ราคาก็ยังคงแรงมากอยู่ดี (หลักสิบปอนด์ถึงร้อยปอนด์) ส่วนที่จัดแสดงในกรอบรูปทั้งหมดเป็นแบบต้นฉบับค่ะ สังเกตได้ว่าจะมีลายเซ็นจริงๆ ของทั้งสองท่าน บริเวณตราประทับนูนที่มุมด้านขวาล่าง

อันนี้คือแบบต้นฉบับ
สังเกตได้ว่าตรงสีทอง จะเป็นสีทองจริงๆ
แต่แบบลอกเลียน ตรงสีทองจะเป็นสีเหลือง
เราไปที่นี่มา 2 วัน วันละนิดวันละหน่อย (จริงๆ ไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้ก็ได้ แค่ชั่วโมงเดียวก็เกินพอแล้ว ที่นี่ค่อนข้างเล็กมาก)
วันแรกที่ไปมีพนักงานพาเยี่ยมชมงาน ให้เข้าชมเป็นรอบๆ รอบละครึ่งชั่วโมง มีการบรรยายความเป็นมาต่างๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เคยสังเกตเห็นเลยตลอดสิบกว่าปีที่ดูหนังเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งดีตรงที่ได้เนื้อหาเยอะมาก แต่ว่ามีเวลาพินิจแต่ละชิ้นงานน้อยไปหน่อย ส่วนวันที่สอง เค้าให้ขึ้นไปเดินดูเอง ก็มีเวลาค่อยๆ เสพย์แต่ละชิ้นงาน ระลึกว่าแต่ละอันอยู่ตอนไหนของหนัง ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและตอบคำถามที่สงสัยอยู่ ก็ดีเหมือนกัน
แต่ไม่ทราบว่าวันไหนจะเป็นแบบไหนนะคะ ไม่ได้ถามมาค่ะ แหะๆ
เกริ่นมาซะนาน เริ่มเลยแล้วกันนะคะ
ด้านหน้า house of MinaLima มีจัดโชว์ผลงานเล็กๆ เราไปมาสองวัน ก็เจอสองแบบ จริงๆ ก็ต่างกันแค่ decorations นิดหน่อยอะนะ




พอเข้าไปด้านในก็จะเจอประกาศจับแฮร์รี่พอตเตอร์
ตรงเคาท์เตอร์มีหนังสือพิมพ์อยู่ฉบับนึง ซึ่งมีพนักงานคนนึงบอกว่าเป็นของจริง แต่อีกคนบอกไม่รู้เหมือนกัน แป่ว ..
ของที่ขายที่นี่ มีหลายอย่างที่ไม่มีขายที่สถานีคิงครอสและ studio tour นะคะ
ทุกอย่างที่ขายเป็นผลงานที่คุณมินะและคุณลิมะออกแบบ ส่วนมากเป็นแฮร์รี่พอตเตอร์ แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ แซมบ้างนิดหน่อย



TROLL IN THE DUNGEON *เสียงกรีดร้องของศาสตราจารย์ควีเรลล์*

ไปต่อชั้นบนกันค่ะ

ชั้นนี้จะเป็นหนังสือพิมพ์ ทั้ง THE DAILY PROPHET และหนังสือพิมพ์อื่นๆ ที่ปรากฏใน Fantastic Beasts ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่โผล่มาแปปเดียว แบบตอนเปิดเรื่อง Fantastic Beasts ก็ต้องผ่านการออกแบบอย่างหนักหน่วงค่ะ


สำหรับ DAILY PROPHET ที่ปรากฏในแฮร์รี่พอตเตอร์นั้น จะมีหัวกระดาษ 3 แบบด้วยกัน
แบบแรกจะลวดลายเยอะๆ หน่อย ตัวหนังสือจะออกแนวgothic สำหรับภาคแรกๆ (1-3) ที่ยังไม่มีหนังสือพิมพ์มากมายหลายฉบับและเป็นสมัยที่เดลี่พรอเฟ็ตยังเป็นตัวของตัวเอง
แบบที่ 2 ประมาณภาค 4 เริ่มมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ลวดลายลดลง เริ่มมีการโฆษณาบนหัวหนังสือพิมพ์ และมีพยากรณ์ต่างๆ อยู่บนหัวหนังสือพิมพ์ด้วย เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

และแบบสุดท้าย สมัยที่กระทรวงเวทย์มนต์ควบคุมเดลี่พรอเฟ็ตไว้ จะไม่ค่อยมีลวดลาย ดูเรียบๆ น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น 5555555555 เค้าบอกว่าเพราะจะได้ผลิตง่ายๆ และทำได้หลายๆ ฉบับ (ในแง่ของสำนักพิมพ์จริงๆ!) และดูเป็นสากลแต่แข็งกระด้างแบบกระทรวงเวทย์มนต์
และสำหรับเดลี่พรอเฟ็ตใน Fantastic Beasts ก็ได้คิดไปถึง วิธีการทำสิ่งพิมพ์จำนวนมากโดยไม่ใช้เทคโนโลยี อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลไม่สามารถใช้ได้ในโลกเวทย์มนต์ (และจริงๆ ตอนนั้นก็ไม่มีเทคโนโลยีแบบตอนนี้) เลยมาเป็นเจ้าเครื่องนี้

คือสิ่งที่เค้าคิดกันว่าใช้ในการทำสิ่งพิมพ์โดยพ่อมดแม่มดในยุคสมัยก่อน และแปลว่าชิ้นงานจะต้องไม่เรียบเนียนเป๊ะ

สังเกตเห็นอะไรมั้ยคะ

บริเวณที่ต้องถมดำ ก็ไม่ได้ถมดำสนิทเพราะขีดจำกัดความสามารถของสมัยก่อน (ความประณีตนี้มันช่าง .. /น้ำตาจะไหล)
แล้วคือจริงๆ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้โผล่มาแปปเดียวจริงๆ T_T ประทับใจมาก

ข้าขอสาบานว่า ข้านั้นหาความดีไม่ได้ ..


ชั้นนี้จะเป็นเกมส์กลวิเศษวีสลีย์ กับจิปาถะนิดๆ หน่อยๆ ผสมๆ กันไป




สินค้าทุกชิ้นของแฝดวีสลีย์ สีสันสดใสแสบทรวงที่ตัดกันแบบไม่ลงตัวเท่าไหร่ สื่อให้เห็นตัวตนของแฝดคู่นี้ ความสดใส บ้าบอ และไม่คิดอะไรมากของสองหนุ่ม เป็นเพราะถ้าเป็นเฟร็ดกับจอร์จจริงๆ ก็คงไม่ใส่ใจหรอกว่าสีมันจะประหลาดอะไร คงจะทำให้โดดเด่นเจ๋งสุดๆ ไปเลย!


กฤษฎีกากระทรวงเวทย์มนต์ฉบับที่ ... *หน้าเชิดๆของโดโลเรส อัมบริดจ์ลอยมา*
ที่สำคัญชั้นนี้ก็มีชิ้นงานที่เราประทับใจมากๆ อยู่ค่ะ!
มีใครจำได้มั้ยว่าอันนี้คืออะไร

นี่คือฉลากขวดยาของศาสตราจารย์ซลักฮอร์น ความวิจิตรชื่อย่อ HS ไขว้กัน (Horace Slughorn) ความโก้และสีทองแสดงให้เห็นถึงความต้องการเป็นคนโดดเด่นและสำคัญ ต้องการเป็นที่สนใจ ซึ่งตรงข้ามกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ผู้โด่งดังและได้รับความสนใจมากอยู่แล้ว ฉลากขวดความทรงจำเพนซิฟเรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรมาก ไม่พิเศษอะไร เป็นแค่ลายมือหวัดๆ ของตัวเองเท่านั้น

ตอนยืนฟังคือทึ่งมากๆ เจ๋งมากๆ เราไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ อะ ..
หนังสือเรียนที่ใช้ถ่ายทำหนังจริงๆ ด้วยความสงสัยว่า “ของจริง” ที่นี่กับที่ Warner Bros studio tour มันต่างกันยังไงเลยถามมา เค้าบอกว่า จริงทั้งสองที่ แต่ของจริงมีหลายชิ้น ซึ่งที่ขายกันบนอีเบย์แล้วบอกว่า “ของจริง” มันไม่จริงนะ ไม่เคยปล่อยไปที่ไหนเลย นอกจากว่าเค้าจะขโมยมา ซึ่งก็อย่าไปสนับสนุนเลยเด้อ

คุณมินะและคุณลิมะ ได้ซ่อนตัวเองไว้ในส่วนต่างๆ ของหนังด้วย (เรานึกไม่ออก identity card มาจากไหน ._.)

ชั้นสุดท้ายจะเป็นหนังสือเรียนต่างๆ กับโซน Fantastic Beasts

ถ้าจำกันได้ในภาค 6 ตอนที่เข้ามาเรียนวิชาปรุงยาคาบแรก แฮร์รี่และรอนไม่ได้เตรียมตัวมาเพราะคิดว่าคะแนนวพรส.ตัวเองไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเรียนได้ เลยต้องยืมหนังสืออาจารย์มาใช้ก่อน ซึ่งหนังสือมีสองเล่ม เล่มนึงเก่า เล่มนึงใหม่ และสองคนนี้ก็แย่งกันทันทีที่เห็น (มองปราดเดียว)
คุณมินะกับคุณลิมะก็คิดว่าจะต้องออกแบบหนังสือให้รู้ว่า เป็นหนังสือเดียวกัน สองเวอร์ชั่น ต้องทำให้เห็นแล้วรู้เลย จนออกมาเป็นแบบนี้

แบบใหม่จะดูเรียบๆ กว่า มีความ minimal สะอาดสะอ้าน สบายตา

ส่วนแบบเก่าจะดูเลอะๆ เยอะๆ กว่า
เห็นแล้วก็รู้เลยจริงๆ แหละว่าอันไหนเวอร์ชั่นเก่า
ของจริงก็จะหน้าตาประมาณนี้

ในหนังสือของเจ้าชายเลือดผสม จะมีลายมือของเจ้าชายเต็มไปหมด คุณมินะต้องหัดเขียนลายมือแบบเจ้าชายแล้วเขียนลงหนังสือจริงๆ ลายมือของเจ้าชาย – ลายมือของสเนปก็เละๆ ตวัดๆ หน่อยตามนิสัยที่ไม่ค่อยแคร์อะไรโลก (ขนาดกางเกงในยังไม่ซักอะนะ .. 5555555555555555)

นอกจากนี้ก็ยังมี Fantastic Beasts อีกนิดหน่อย เนื้อเรื่องเพิ่งไปแต่ภาคเดียว ยังไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ



ขอบคุณที่ติดตามรับชมค่ะ ^____^
[CR] แกะรอยแฮร์รี่พอตเตอร์ในลอนดอน - HOUSE OF MINALIMA
เจอกันอีกครั้งกับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแฮร์รี่พอตเตอร์ หลังจากห่างหายไปราวๆ 3 ปี
จากคราวที่แล้ว ที่เคยรีวิวตรอกไดแอกอนที่ออลันโดตั้งแต่วันแรกๆ ที่เปิดให้บริการ
วันนี้มีสถานที่(ไม่)ลับเท่าไหร่ แต่ไม่ค่อยเห็นบนพันทิป มาแนะนำกันค่ะ
หวังว่าจะประทับใจ อย่างที่เราประทับใจมากกกกก (กอไก่ล้านตัว)
House of MinaLima ตั้งอยู่กลางกรุงลอนดอน
บนถนนด้านหลังโรงละครที่มีการแสดง Harry Potter and the Cursed Child
เป็นเหมือนสถานที่จัดแสดงเล็กๆ ของคุณ Mina (มินะ) และคุณ Lima (ลิมะ)
ทั้งสองท่านนี้เป็นคนออกแบบทุกๆ อย่างในภาพยนตร์ เท่าที่คุณจะนึกออกเลยล่ะ
(แน่นอนว่าต้องมีที่เกินคาดอีกมากมายที่เค้าออกแบบ)
ตั้งแต่หน้าหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตไปจนถึงฉลากบนขวดยาของศาสตราจารย์ซลักฮอร์น
ที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นร้านขายของ ส่วนสถานที่จัดแสดงจะอยู่สามชั้นบน ซึ่งให้ขึ้นไปชมได้ฟรีค่ะ
ชิ้นงานที่จัดแสดงมี 2 แบบ คือของจริงที่ใช้ถ่ายทำในภาพยนตร์ จะอยู่ในตู้กระจก ดูแลรักษาเป็นอย่างดี กับชิ้นงานออกแบบต้นฉบับ (original) จากคุณมินะและคุณลิมะ แต่ละรูปทำขึ้นมาเพียง 250 ใบเท่านั้นบนโลกนี้ จัดจำหน่ายในราคาหลายร้อยปอนด์แล้วแต่รูป *กลืนน้ำลายดังเอื้อก* แต่ว่าเค้าก็มีชิ้นงานลอกเลียน (copy) ที่ทำขึ้นมา 1000 รูป ในราคาที่ย่อมเยาลงมาหน่อย ความสวยงามจะไม่เท่าแบบต้นฉบับ แต่ราคาก็ยังคงแรงมากอยู่ดี (หลักสิบปอนด์ถึงร้อยปอนด์) ส่วนที่จัดแสดงในกรอบรูปทั้งหมดเป็นแบบต้นฉบับค่ะ สังเกตได้ว่าจะมีลายเซ็นจริงๆ ของทั้งสองท่าน บริเวณตราประทับนูนที่มุมด้านขวาล่าง
อันนี้คือแบบต้นฉบับ
สังเกตได้ว่าตรงสีทอง จะเป็นสีทองจริงๆ
แต่แบบลอกเลียน ตรงสีทองจะเป็นสีเหลือง
เราไปที่นี่มา 2 วัน วันละนิดวันละหน่อย (จริงๆ ไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้ก็ได้ แค่ชั่วโมงเดียวก็เกินพอแล้ว ที่นี่ค่อนข้างเล็กมาก)
วันแรกที่ไปมีพนักงานพาเยี่ยมชมงาน ให้เข้าชมเป็นรอบๆ รอบละครึ่งชั่วโมง มีการบรรยายความเป็นมาต่างๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เคยสังเกตเห็นเลยตลอดสิบกว่าปีที่ดูหนังเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งดีตรงที่ได้เนื้อหาเยอะมาก แต่ว่ามีเวลาพินิจแต่ละชิ้นงานน้อยไปหน่อย ส่วนวันที่สอง เค้าให้ขึ้นไปเดินดูเอง ก็มีเวลาค่อยๆ เสพย์แต่ละชิ้นงาน ระลึกว่าแต่ละอันอยู่ตอนไหนของหนัง ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและตอบคำถามที่สงสัยอยู่ ก็ดีเหมือนกัน
แต่ไม่ทราบว่าวันไหนจะเป็นแบบไหนนะคะ ไม่ได้ถามมาค่ะ แหะๆ
เกริ่นมาซะนาน เริ่มเลยแล้วกันนะคะ
ด้านหน้า house of MinaLima มีจัดโชว์ผลงานเล็กๆ เราไปมาสองวัน ก็เจอสองแบบ จริงๆ ก็ต่างกันแค่ decorations นิดหน่อยอะนะ
พอเข้าไปด้านในก็จะเจอประกาศจับแฮร์รี่พอตเตอร์
ตรงเคาท์เตอร์มีหนังสือพิมพ์อยู่ฉบับนึง ซึ่งมีพนักงานคนนึงบอกว่าเป็นของจริง แต่อีกคนบอกไม่รู้เหมือนกัน แป่ว ..
ของที่ขายที่นี่ มีหลายอย่างที่ไม่มีขายที่สถานีคิงครอสและ studio tour นะคะ
ทุกอย่างที่ขายเป็นผลงานที่คุณมินะและคุณลิมะออกแบบ ส่วนมากเป็นแฮร์รี่พอตเตอร์ แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ แซมบ้างนิดหน่อย
TROLL IN THE DUNGEON *เสียงกรีดร้องของศาสตราจารย์ควีเรลล์*
ไปต่อชั้นบนกันค่ะ
ชั้นนี้จะเป็นหนังสือพิมพ์ ทั้ง THE DAILY PROPHET และหนังสือพิมพ์อื่นๆ ที่ปรากฏใน Fantastic Beasts ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่โผล่มาแปปเดียว แบบตอนเปิดเรื่อง Fantastic Beasts ก็ต้องผ่านการออกแบบอย่างหนักหน่วงค่ะ
สำหรับ DAILY PROPHET ที่ปรากฏในแฮร์รี่พอตเตอร์นั้น จะมีหัวกระดาษ 3 แบบด้วยกัน
แบบแรกจะลวดลายเยอะๆ หน่อย ตัวหนังสือจะออกแนวgothic สำหรับภาคแรกๆ (1-3) ที่ยังไม่มีหนังสือพิมพ์มากมายหลายฉบับและเป็นสมัยที่เดลี่พรอเฟ็ตยังเป็นตัวของตัวเอง
แบบที่ 2 ประมาณภาค 4 เริ่มมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ลวดลายลดลง เริ่มมีการโฆษณาบนหัวหนังสือพิมพ์ และมีพยากรณ์ต่างๆ อยู่บนหัวหนังสือพิมพ์ด้วย เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
และแบบสุดท้าย สมัยที่กระทรวงเวทย์มนต์ควบคุมเดลี่พรอเฟ็ตไว้ จะไม่ค่อยมีลวดลาย ดูเรียบๆ น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น 5555555555 เค้าบอกว่าเพราะจะได้ผลิตง่ายๆ และทำได้หลายๆ ฉบับ (ในแง่ของสำนักพิมพ์จริงๆ!) และดูเป็นสากลแต่แข็งกระด้างแบบกระทรวงเวทย์มนต์
และสำหรับเดลี่พรอเฟ็ตใน Fantastic Beasts ก็ได้คิดไปถึง วิธีการทำสิ่งพิมพ์จำนวนมากโดยไม่ใช้เทคโนโลยี อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลไม่สามารถใช้ได้ในโลกเวทย์มนต์ (และจริงๆ ตอนนั้นก็ไม่มีเทคโนโลยีแบบตอนนี้) เลยมาเป็นเจ้าเครื่องนี้
คือสิ่งที่เค้าคิดกันว่าใช้ในการทำสิ่งพิมพ์โดยพ่อมดแม่มดในยุคสมัยก่อน และแปลว่าชิ้นงานจะต้องไม่เรียบเนียนเป๊ะ
สังเกตเห็นอะไรมั้ยคะ
บริเวณที่ต้องถมดำ ก็ไม่ได้ถมดำสนิทเพราะขีดจำกัดความสามารถของสมัยก่อน (ความประณีตนี้มันช่าง .. /น้ำตาจะไหล)
แล้วคือจริงๆ หนังสือพิมพ์ฉบับนี้โผล่มาแปปเดียวจริงๆ T_T ประทับใจมาก
ข้าขอสาบานว่า ข้านั้นหาความดีไม่ได้ ..
ชั้นนี้จะเป็นเกมส์กลวิเศษวีสลีย์ กับจิปาถะนิดๆ หน่อยๆ ผสมๆ กันไป
สินค้าทุกชิ้นของแฝดวีสลีย์ สีสันสดใสแสบทรวงที่ตัดกันแบบไม่ลงตัวเท่าไหร่ สื่อให้เห็นตัวตนของแฝดคู่นี้ ความสดใส บ้าบอ และไม่คิดอะไรมากของสองหนุ่ม เป็นเพราะถ้าเป็นเฟร็ดกับจอร์จจริงๆ ก็คงไม่ใส่ใจหรอกว่าสีมันจะประหลาดอะไร คงจะทำให้โดดเด่นเจ๋งสุดๆ ไปเลย!
กฤษฎีกากระทรวงเวทย์มนต์ฉบับที่ ... *หน้าเชิดๆของโดโลเรส อัมบริดจ์ลอยมา*
ที่สำคัญชั้นนี้ก็มีชิ้นงานที่เราประทับใจมากๆ อยู่ค่ะ!
มีใครจำได้มั้ยว่าอันนี้คืออะไร
นี่คือฉลากขวดยาของศาสตราจารย์ซลักฮอร์น ความวิจิตรชื่อย่อ HS ไขว้กัน (Horace Slughorn) ความโก้และสีทองแสดงให้เห็นถึงความต้องการเป็นคนโดดเด่นและสำคัญ ต้องการเป็นที่สนใจ ซึ่งตรงข้ามกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ผู้โด่งดังและได้รับความสนใจมากอยู่แล้ว ฉลากขวดความทรงจำเพนซิฟเรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรมาก ไม่พิเศษอะไร เป็นแค่ลายมือหวัดๆ ของตัวเองเท่านั้น
ตอนยืนฟังคือทึ่งมากๆ เจ๋งมากๆ เราไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ อะ ..
หนังสือเรียนที่ใช้ถ่ายทำหนังจริงๆ ด้วยความสงสัยว่า “ของจริง” ที่นี่กับที่ Warner Bros studio tour มันต่างกันยังไงเลยถามมา เค้าบอกว่า จริงทั้งสองที่ แต่ของจริงมีหลายชิ้น ซึ่งที่ขายกันบนอีเบย์แล้วบอกว่า “ของจริง” มันไม่จริงนะ ไม่เคยปล่อยไปที่ไหนเลย นอกจากว่าเค้าจะขโมยมา ซึ่งก็อย่าไปสนับสนุนเลยเด้อ
คุณมินะและคุณลิมะ ได้ซ่อนตัวเองไว้ในส่วนต่างๆ ของหนังด้วย (เรานึกไม่ออก identity card มาจากไหน ._.)
ชั้นสุดท้ายจะเป็นหนังสือเรียนต่างๆ กับโซน Fantastic Beasts
ถ้าจำกันได้ในภาค 6 ตอนที่เข้ามาเรียนวิชาปรุงยาคาบแรก แฮร์รี่และรอนไม่ได้เตรียมตัวมาเพราะคิดว่าคะแนนวพรส.ตัวเองไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเรียนได้ เลยต้องยืมหนังสืออาจารย์มาใช้ก่อน ซึ่งหนังสือมีสองเล่ม เล่มนึงเก่า เล่มนึงใหม่ และสองคนนี้ก็แย่งกันทันทีที่เห็น (มองปราดเดียว)
คุณมินะกับคุณลิมะก็คิดว่าจะต้องออกแบบหนังสือให้รู้ว่า เป็นหนังสือเดียวกัน สองเวอร์ชั่น ต้องทำให้เห็นแล้วรู้เลย จนออกมาเป็นแบบนี้
แบบใหม่จะดูเรียบๆ กว่า มีความ minimal สะอาดสะอ้าน สบายตา
ส่วนแบบเก่าจะดูเลอะๆ เยอะๆ กว่า
เห็นแล้วก็รู้เลยจริงๆ แหละว่าอันไหนเวอร์ชั่นเก่า
ของจริงก็จะหน้าตาประมาณนี้
ในหนังสือของเจ้าชายเลือดผสม จะมีลายมือของเจ้าชายเต็มไปหมด คุณมินะต้องหัดเขียนลายมือแบบเจ้าชายแล้วเขียนลงหนังสือจริงๆ ลายมือของเจ้าชาย – ลายมือของสเนปก็เละๆ ตวัดๆ หน่อยตามนิสัยที่ไม่ค่อยแคร์อะไรโลก (ขนาดกางเกงในยังไม่ซักอะนะ .. 5555555555555555)
นอกจากนี้ก็ยังมี Fantastic Beasts อีกนิดหน่อย เนื้อเรื่องเพิ่งไปแต่ภาคเดียว ยังไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมค่ะ ^____^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น